Rechercher dans ce blog

Thursday, September 30, 2021

iPhone13 เปิดจองแล้ว ซื้อเครื่องผูกเบอร์ค่ายไหนคุ้ม เช็ก - ประชาชาติธุรกิจ

ไอโฟน13

เปิดจอง iPhone13 แล้ว ซื้อเครื่องผูกเบอร์ค่ายไหนคุ้มสุด เอไอเอส ลูกค้าปัจจุบันเริ่มต้นที่ 7,900 บาท ไม่ต้องจ่ายค่าบริการล่วงหน้า ส่วนทรู เปิดราคาเริ่มต้น 7,900 บาท พร้อมให้ส่วนลดอุปกรณ์เสริม 60% ขณะที่ดีแทค ยังอุบไว้ก่อน เตรียมเปิดตัวแพ็คเกจเวลา 09.00น. วันนี้

วันที่ 1ตุลาคม  2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากแอปเปิลได้เปิดให้จอง iPhone13 ตั้งแต่เวลา 00.01น. ของวันที่ 1 ตุลาคมนี้ ที่ แอปเปิล(www.apple.com/th) โดยจะเปิดให้จองล่วงหน้าตั้งแต่ 1-7 ตุลาคมนี้ และวางจำหน่ายวันที่ 8 ตุลาคมนี้ 

โดยราคาเครื่องเปล่า ดังนี้

iPhone 13 mini

  • 128 GB เริ่มที่ 25,900 บาท
  • 256 GB เริ่มที่ 29,900 บาท
  • 512 GB เริ่มที่ 37,900 บาท

iPhone 13 

  • 128 GB เริ่มที่ 29,900 บาท
  • 256 GB เริ่มที่ 33,900 บาท
  • 512 GB เริ่มที่ 41,900 บาท

iPhone 13 Pro 

  • 128 GB เริ่มที่ 38,900 บาท
  • 256 GB เริ่มที่ 42,900 บาท
  • 512 GB เริ่มที่ 50,900 บาท
  • 1 TB เริ่มต้นที่ 58,900 บาท

iPhone13 Pro Max 

  • 128 GB เริ่มที่ 42,900 บาท
  • 256 GB เริ่มที่ 46,900 บาท
  • 512 GB เริ่มที่ 54,900 บาท
  • 1 TB เริ่มต้นที่ 62,900 บาท

ไอโฟน13

ขณะเดียวกันบรรดาค่ายมือถือต่างๆ ก็จัดโปรโมชั่นซื้อเครื่อง iPhone13 พร้อมผูกแพ็จเกจรายเดือนในราคาดี 

ล่าสุด”ประชาชาติธุรกิจ”ได้รวบรวมแพ็คเกจซื้อเครื่องผูกแพ็คเกจมาให้พิจารณากัน โดย เอไอเอสและทรู ได้เปิดให้จองผ่านเว็บไซด์ตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันนี้ ส่วนดีแทคได้ประกาศผ่านเฟซบุ๊ก DTAC เมื่อคืนว่า เตรียมจะเปิดให้สั่งจองได้ตั้งแต่เวลา 09.00น. วันนี้ (วันที่ 1 ตุลาคม 2564) ด้วยข้อเสนอที่ดีแทคการันตีว่า เป็นราคาที่ดีที่สุด

ดีแทค

สำหรับเอไอเอส ที่ขนสิทธิพิเศษมาเต็ม สำหรับiPhone 13  ทุกรุ่น ทั้งรับสิทธิ์ชมดิสนีย์พลัส นาน12 เดือน ผ่อนสบายAis Smart pay 0% พร้อมรับเครดิตเงินคืน36% ฟรีApple TV+นาน 3เดือน เป็นต้น 

โดยราคา iPhone 13 mini สำหรับลูกค้าปัจจุบันเริ่มต้นที่ 7,900 บาท ไม่ต้องจ่ายค่าบริการล่วงหน้า มีให้เลือกสัญญาผูกโปรโมชั่นทั้ง12 เดือนและ 24 เดือน 

เอไอเอสราคาเริ่ม 7,900 บาท 

โดยสัญญา 12 เดือน ความจุ128 GB เริ่มที่ ราคา 16,400 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,699 บาท ราคา 17,400 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,499บาท ราคา 18,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,199บาท  และ21,900บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 699บาท 

  • 256 GB เริ่มที่ราคา 20,400 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,699  บาทราคา  21,400 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,499 บาท ราคา 22,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,199 บาท และ ราคา 25,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 699 บาท 
  • 512 GB เริ่มที่28,400 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,699บาท ราคา 29,400 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,499บาท ราคา 30,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,199บาท และราคา 33,900บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 699บาท 

ส่วนสัญญา 24 เดือน ความจุ128 GB เริ่มที่ ราคา 7,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,699บาท ราคา 9,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,499บาท ราคา12,900  บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,199บาท และราคา 17,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 699บาท 

  • 256 GB เริ่มที่ราคา 11,900  บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,699  บาท ราคา  13,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,499 บาท ราคา 16,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,199 บาท  และราคา 21,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 699 บาท  
  • 512 GB เริ่มที่ ราคา 19,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,699บาท ราคา 21,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,499บาท  ราคา 24,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,199บาท และราคา 29,900บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 699บาท

ไอโฟน13

สำหรับ iPhone 13 โดยลูกค้าปัจจุบันไม่ต้องจ่ายค่าบริการล่วงหน้า มีให้เลือกสัญญาผูกโปรโมชั่นทั้ง12เดือนและ24เดือน 

โดยโปรโมชั่นผูกแพ็กเกจ 12 เดือน ความจุ 128 GB เริ่มที่  ราคา 20,400 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,699บาท ราคา 21,400 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,499บาท ราคา 22,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,199บาท และ ราคา25,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 699บาท 

  • 256 GB เริ่มที่ ราคา 24,400 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,699บาท ราคา 25,400 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,499บาทราคา 26,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,199บาท  และ ราคา 29,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 699บาท 
  • 512 GB เริ่มที่ ราคา 32,400 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,699บาท  ราคา 33,400 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,499บาท ราคา 34,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,199บาทและราคา 37,900บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 699บาท

โดยสัญญา 24 เดือน ความจุ128 GB เริ่มที่ราคา 11,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,699บาท ราคา 13,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,499บาท  ราคา 16,900  บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,199บาท และ ราคา 21,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 699บาท

  • 256 GB เริ่มที่ราคา 15,900  บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,699  บาท ราคา  17,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,499 บาทราคา 20,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,199 บาท และราคา 25,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 699 บาท
  • 512 GB เริ่มที่ราคา23,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,699บาท ราคา 25,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,499บาท ราคา 28,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,199บาท  และ ราคา  33,900บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 699บาท 

iPhone 13 Pro โดยลูกค้าปัจจุบันไม่ต้องจ่ายค่าบริการล่วงหน้า มีให้เลือกสัญญาผูกโปรโมชั่นทั้ง12เดือนและ24เดือน 

สำหรับโปรโมชั่นผูกแพ็กเกจ 12 เดือน ความจุ 128 GB เริ่มที่  ราคา 29,400 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,699บาท ราคา 30,400 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,499บาท ราคา 31,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,199บาท และ ราคา 34,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 699บาท 

  • 256 GB เริ่มที่ ราคา 33,400 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,699บาท ราคา 34,400 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,499บาทราคา 35,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,199บาท  และ ราคา 38,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 699บาท 
  • 512 GB เริ่มที่ ราคา 41,400 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,699บาท  ราคา 42,400 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,499บาท ราคา 43,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,199บาทและราคา 46,900บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 699บาท
  • 1 TB เริ่มต้นที่ ราคา 49,400 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,699บาท  ราคา 50,400 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,499บาท ราคา 51,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,199บาทและราคา 54,900บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 699 บาท

โดยสัญญา 24 เดือน ความจุ128 GB เริ่มที่ราคา 20,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,699บาท ราคา 22,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,499บาท  ราคา 25,900  บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,199บาท และ ราคา 30,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 699บาท

  • 256 GB เริ่มที่ราคา 24,900  บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,699  บาท ราคา  26,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,499 บาทราคา 29,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,199 บาท และราคา 34,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 699 บาท
  • 512 GB เริ่มที่ราคา32,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,699บาท ราคา 34,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,499บาท ราคา 37,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,199บาท  และ ราคา  42,900บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 699บาท 
  • 1 TB เริ่มต้นที่ ราคา 40,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,699บาท  ราคา 42,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,499บาท ราคา 45,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,199บาทและราคา 50,900บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 699 บาท

เอไอเอส

iPhone 13 Pro Max โดยลูกค้าปัจจุบันไม่ต้องจ่ายค่าบริการล่วงหน้า มีให้เลือกสัญญาผูกโปรโมชั่นทั้ง12เดือนและ24เดือน 

สำหรับโปรโมชั่นผูกแพ็กเกจ 12 เดือน ความจุ 128 GB เริ่มที่  ราคา 33,400 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,699บาท ราคา 34,400 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,499บาท ราคา 35,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,199บาท และ ราคา 38,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 699บาท 

  • 256 GB เริ่มที่ ราคา 37,400 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,699บาท ราคา 38,400 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,499บาทราคา 39,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,199บาท  และ ราคา 42,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 699บาท 
  • 512 GB เริ่มที่ ราคา 45,400 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,699บาท  ราคา 46,400 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,499บาท ราคา 47,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,199บาทและราคา 50,900บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 699บาท
  • 1 TB เริ่มต้นที่ ราคา 53,400 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,699บาท  ราคา 54,400 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,499บาท ราคา 55,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,199บาทและราคา 58,900บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 699 บาท

โดยสัญญา 24 เดือน ความจุ128 GB เริ่มที่ราคา 24,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,699บาท ราคา 26,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,499บาท  ราคา 29,900  บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,199บาท และ ราคา 34,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 699บาท

  • 256 GB เริ่มที่ราคา 28,900  บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,699  บาท ราคา  30,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,499 บาทราคา 33,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,199 บาท และราคา 38,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 699 บาท
  • 512 GB เริ่มที่ราคา36,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,699บาท ราคา 38,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,499บาท ราคา 41,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,199บาท  และ ราคา  46,900บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 699บาท 
  • 1 TB เริ่มต้นที่ ราคา 44,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,699บาท  ราคา 46,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,499บาท ราคา 49,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,199บาทและราคา 54,900บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 699 บาท

ทรูหั่นส่วนลดอุปกรณ์เสริมสูงสุด60%

ขณะที่  ทรู ก็มาพร้อมสิทธิพิเศษเพียบเช่นกัน ทั้งรับฟรีสิทธิประโยชน์ทรูการ์ดนาน 1 ปี รับชมพรีเมียมลีกอังกฤษตลอดฤดูกาล2021/2022 ผ่านแอปพลิเคชั่นทรูไอดี ดูฟรีทรูไอดี นาน 12 เดือน  รับสิทธิ์แลกซื้ออุปกรณ์เสริมลดสูงสุด 60%

ทรู

 โดยราคา iPhone 13 mini สำหรับลูกค้าปัจจุบัน มีให้เลือกสัญญาผูกโปรโมชั่นทั้ง12 เดือนและ 24 เดือน 

เริ่มที่สัญญา 12 เดือน ความจุ128 GB เริ่มที่ ราคา 16,400 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,699 บาท ราคา 17,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,399บาท ราคา 18,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,199บาท  และ21,900บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 699บาท 

  • 256 GB เริ่มที่ราคา 20,400 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,699  บาทราคา  21,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,399 บาท ราคา 22,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,199 บาท และ ราคา 25,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 699 บาท 
  • 512 GB เริ่มที่28,400 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,699บาท ราคา 29,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,399บาท ราคา 30,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,199บาท และราคา 33,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 699 บาท 

ส่วนสัญญา 24 เดือน ความจุ128 GB เริ่มที่ ราคา 7,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,699 บาท ราคา 10,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,399บาท ราคา 12,900  บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,199บาท และราคา 17,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 699บาท 

  • 256 GB เริ่มที่ราคา 11,900  บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,699  บาท ราคา  14,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,399 บาท ราคา 16,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,199 บาท  และราคา 21,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 699 บาท  
  • 512 GB เริ่มที่ ราคา 19,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,699บาท ราคา 22,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,399บาท  ราคา 24,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,199บาท และราคา 29,900บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 699บาท

ส่วน  iPhone 13 โดยสัญญา 12 เดือน ความจุ128 GB เริ่มที่ ราคา 20,400 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,699 บาท ราคา 21,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,399บาท ราคา 22,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,199บาท  และ25,900บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 699บาท

  • 256 GB เริ่มที่ราคา 22,400 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,699  บาทราคา  25,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,399 บาท ราคา 26,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,199 บาท และ ราคา 29,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 699 บาท 
  • 512 GB เริ่มที่ 32,400 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,699บาท ราคา 33,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,399บาท ราคา 34,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,199บาท และราคา 37,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 699 บาท 

ส่วนสัญญา 24 เดือน ความจุ128 GB เริ่มที่ ราคา 11,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,699 บาท ราคา 14,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,399บาท ราคา 16,900  บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,199บาท และราคา 21,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 699บาท 

  • 256 GB เริ่มที่ราคา 15,900  บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,699  บาท ราคา  18,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,399 บาท ราคา 20,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,199 บาท  และราคา 25,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 699 บาท  
  • 512 GB เริ่มที่ ราคา 23,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,699บาท ราคา 26,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,399บาท  ราคา 28,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,199บาท และราคา 33,900บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 699บาท

ไอโฟน13

ส่วน  iPhone 13 Pro มีทั้งโปรโมชั่นซื้อเครื่องแรกในราคาปกติ ฟรีเครื่องที่ 2 เมื่อเปิดเบอร์ใหม่ย้ายค่าย พร้อมสมัครแพ็คเกจรายเดือน 1,199 บาทสัญญา 24 เดือน

สำหรับผู้ที่ซื้อเครื่องพร้อมแพ็คเกจโดยสัญญา 12 เดือน ความจุ128 GB เริ่มที่ ราคา 29,400 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,699 บาท ราคา 30,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,399บาท ราคา 31,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,199บาท  และ ราคา 34,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 699บาท 

  • 256 GB เริ่มที่ราคา 33,400 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,699  บาทราคา  34,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,399 บาท ราคา 35,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,199 บาท และ ราคา 38,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 699 บาท 
  • 512 GB เริ่มที่ 41,400 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,699บาท ราคา 42,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,399บาท ราคา 43,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,199บาท และราคา 46,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 699 บาท 
  • 1 TB เริ่มต้นที่ ราคา 49,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,699บาท  ราคา 50,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,399บาท ราคา 51,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,199บาทและราคา 54,900บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 699 บาท

ส่วนสัญญา 24 เดือน ความจุ128 GB เริ่มที่ ราคา 20,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,699 บาท ราคา 23,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,399บาท ราคา 25,900  บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,199บาท และราคา 30,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 699บาท 

  • 256 GB เริ่มที่ราคา 24,900  บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,699  บาท ราคา  27,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,399 บาท ราคา 29,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,199 บาท  และราคา 34,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 699 บาท  
  • 512 GB เริ่มที่ ราคา 32,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,699บาท ราคา 35,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,399บาท  ราคา 37,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,199บาท และราคา 42,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 699บาท
  • 1 TB เริ่มต้นที่ ราคา 40,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,699บาท  ราคา 43,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,399บาท ราคา 45,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,199บาทและราคา 50,900บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 699 บาท

ส่วน  iPhone 13 Pro MAX โดยสัญญา 12 เดือน ความจุ128 GB เริ่มที่ ราคา 33,400 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,699 บาท ราคา 34,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,399บาท ราคา 35,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,199บาท  และ ราคา 38,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 699บาท 

  • 256 GB เริ่มที่ราคา 37,400 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,699  บาทราคา  38,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,399 บาท ราคา 39,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,199 บาท และ ราคา 42,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 699 บาท 
  • 512 GB เริ่มที่ 45,400 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,699บาท ราคา 46,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,399บาท ราคา 47,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,199บาท และราคา 50,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 699 บาท 
  • 1 TB เริ่มต้นที่ ราคา 53,400 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,699บาท  ราคา 54,400 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,399บาท ราคา 55,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,199บาทและราคา 58,900บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 699 บาท

ส่วนสัญญา 24 เดือน ความจุ128 GB เริ่มที่ ราคา 24,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,699 บาท ราคา 27,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,399บาท ราคา 29,900  บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,199บาท และราคา 34,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 699บาท

  • 256 GB เริ่มที่ราคา 28,900  บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,699  บาท ราคา  31,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,399 บาท ราคา 33,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,199 บาท  และราคา 38,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 699 บาท  
  • 512 GB เริ่มที่ ราคา 36,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,699บาท ราคา 39,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,399บาท  ราคา 41,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,199บาท และราคา 46,900บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 699บาท
  • 1 TB เริ่มต้นที่ ราคา 44,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,699บาท  ราคา 47,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,399บาท ราคา 49,900 บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 1,199บาท และราคา 54,900บาท แพ็คเกจขั้นต่ำ 699 บาท

Adblock test (Why?)


iPhone13 เปิดจองแล้ว ซื้อเครื่องผูกเบอร์ค่ายไหนคุ้ม เช็ก - ประชาชาติธุรกิจ
Read More

Samsung ประกาศความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการออกแบบเพื่อไลฟ์สไตล์ กวาด 48 รางวัลจากเวที International Design Excellence Awards 2021 - mxphone

ซัมซุงกวาด 48 รางวัลจากเวที International Design Excellence Awards (IDEA) 2021

ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระดับโลก ตอกย้ำความเป็นเลิศด้านดีไซน์เพื่อยกระดับการใช้ชีวิต ด้วยการกวาดรางวัลจากงาน International Design Excellence Awards (IDEA) 2021 เวทีการประกวดงานออกแบบระดับโลกมากถึง 48 รางวัล ประกอบด้วย รางวัลระดับซิลเวอร์ 7 รางวัล รางวัลระดับบรอนซ์  3 รางวัล และอีก 38 รางวัลสำหรับผลงานที่เข้ารอบสุดท้าย โดยรางวัล IDEA 2021 สะท้อนให้เห็นถึงความเข้าใจไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานอย่างลึกซึ้ง นับตั้งแต่การออกแบบผลิตภัณฑ์ การออกแบบเพื่อการใช้งาน ไปจนถึงคอนเซ็ปต์การออกแบบขั้นสูง

งานประกาศรางวัล IDEA จัดขึ้นโดย Industrial Designers Society of America (IDSA) เป็นประจำทุกปี ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1980 และถือเป็นงานประกาศรางวัลด้านการออกแบบที่ทรงอิทธิพลที่สุดในทวีปอเมริกาเหนือ โดยเกณฑ์การเสนอรายชื่อผู้เข้าชิงและการมอบรางวัล ได้แก่ นวัตกรรมการออกแบบ ประโยชน์แก่ผู้ใช้งาน และคุณค่าต่อสังคม

ผลิตภัณฑ์จากซัมซุงที่ได้รับรางวัลระดับซิลเวอร์ สำหรับความล้ำหน้าทางด้านดีไซน์ ได้แก่

  • เทคโนโลยีทีวีระดับแฟลกชิพ Neo QLED (QN900A) ของซัมซุง มาในดีไซน์แบบ Infinity Screen เพิ่มพื้นที่สำหรับการรับชมด้วยการลดความหนาของกรอบทีวีจนแทบจะมองไม่เห็น
  • เครื่องฟอกอากาศซัมซุง Cube (AX9500N) ที่มอบอิสระให้ผู้ใช้ได้ร่วมออกแบบพาเนลของเครื่องให้เหมาะกับรสนิยมส่วนตัว
  • เครื่องดูดฝุ่น Bespoke Slim (VS6800AL) ที่ไม่เพียงมีดีไซน์ที่บางลงสามารถทำความสะอาดได้ทั่วถึง แต่ยังสามารถปรับเปลี่ยนสีสันให้ตรงกับความต้องการได้อีกด้วย
  • แพลตฟอร์ม SmartThings Cooking เป็นศูนย์รวมตัวช่วยสำหรับการทำอาหาร โดยใช้เทคโนโลยี Whisk’s Food AI มาช่วยยกระดับประสบการณ์การเข้าครัว
ซัมซุงกวาด 48 รางวัลจากเวที International Design Excellence Awards (IDEA) 2021
แพลตฟอร์ม SmartThings Cooking

และผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรางวัลระดับบรอนซ์ ได้แก่:

  • ไลฟ์สไตล์ทีวี The Frame ทีวีที่สามารถกลมกลืนเป็นส่วนหนึ่งของห้องได้อย่างลงตัว มาพร้อมกับ Art Mode ให้ผู้ใช้ได้สัมผัสงานศิลปะระดับโลกและเปลี่ยนบ้านเป็นแกลเลอรี่ส่วนตัว
  • ไลฟ์สไตล์โปรเจคเตอร์ The Premiere สำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสอรรถรสเสมือนอยู่ในโรงภาพยนตร์
  • ตู้เย็น Bespoke 4-Door Flex มาพร้อมกับความรูปลักษณ์ที่สามารถปรับเปลี่ยนให้เข้ากับไลฟ์สไตล์และความต้องการของผู้ใช้โดยเฉพาะ

“ในรอบปีที่ผ่านมาไลฟ์สไตล์ของคนทั่วโลกเปลี่ยนไปมาก ซังซุงจึงทุ่มเทใส่ใจเฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงเพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานผลิตภัณฑ์ที่ยิ่งขึ้นให้แก่ผู้ใช้” ดงเท ลี รองประธานบริหารและผู้อำนวยการศูนย์ออกแบบผลิตภัณฑ์ของซัมซุง กล่าว “ซัมซุงพัฒนาการออกแบบและประสบการณ์การใช้งานอยู่เสมอ เพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ ของผู้ใช้และให้สามารถสะท้อนตัวตนของผู้ออกมาได้อย่างชัดเจน”

งาน IDEA 2021 ถูกจัดขึ้นในรูปแบบออนไลน์ เมื่อวันที่ 21 กันยายน และงาน International Design Conference ได้ถูกจัดขึ้นในรูปแบบเดียวกันเป็นเวลา 2 วัน ระหว่างวันที่ 22 – 23 กันยายน โดย รองประธาน ดงเท ลี เป็นตัวแทนกล่าวสรุปภายในงานภายใต้หัวข้อ “Design for a Better Tomorrow”

โดยผลิตภัณฑ์ระดับรางวัลจากเวที IDEA 2021 ที่วางขายแล้วในประเทศไทยได้แก่สินค้าในกลุ่มทีวี ทั้งซัมซุงทีวี Neo QLED 8K (QN900A), ไลฟ์สไตล์ทีวี The Frame และไลฟ์สไตล์โปรเจคเตอร์ The Premiere ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.samsung.com/th/tvs/ และสามารถติดตามรายชื่อผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรางวัล International Design Excellence Awards 2021 ทั้งหมดได้ที่ https://www.idsa.org/IDEA  

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Adblock test (Why?)


Samsung ประกาศความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการออกแบบเพื่อไลฟ์สไตล์ กวาด 48 รางวัลจากเวที International Design Excellence Awards 2021 - mxphone
Read More

สรุปโปรโมชั่น iPhone 13 และ iPhone 13 Pro จาก TrueMove H ลดสูงสุด 20,000 บาท ผ่อน 60 เดือน !! - MacThai

เปิดจองอย่างเป็นทางการแล้วกับ iPhone 13 และ iPhone 13 Pro ในประเทศไทย ซึ่งถือว่าปีนี้มาเร็วกว่าทุกปีมากๆ โดย TrueMove H ได้จัดโปรโมชั่นในปีนี้มาน่าสนใจเอามากๆ เลยทีเดียว

โดยสรุปโปรโมชั่น iPhone 13 และ iPhone 13 Pro จาก TrueMove H มีดังนี้

– ลดสูงสุด 20,000 บาท !! อย่าง iPhone 13 mini เหลือแค่ 5,900 บาท (แน่นอนว่าแพ็ครายเดือน)
– True Card ฟรี 1 ปี
– ดูบอลอังกฤษฟรี 1 ปี
– True ID+ ดูฟรี 12 เดือน
– ฟรีกล่อง True ID ตลอดระยะสัญญา
– iCloud ฟรี 50GB นาน 3 เดือน
– แลกซื้ออุปกรณ์เสริม ลด 60%

สั่งซื้อ Pre Order กันได้แล้วที่ -> https://iphone13.truemoveh.com/prebooking

🛍 สั่งซื้อ iPhone 13 กับ Apple Online Store

iPhone 13 : https://bit.ly/iPhone13Thailand

iPhone 13 Pro : https://bit.ly/iPhone13ProThailand


Adblock test (Why?)


สรุปโปรโมชั่น iPhone 13 และ iPhone 13 Pro จาก TrueMove H ลดสูงสุด 20,000 บาท ผ่อน 60 เดือน !! - MacThai
Read More

Infinix เปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด HOT 11 Series สนับสนุน RoV E-sport - แอพดิสคัส (APPDISQUS)

อินฟินิกซ์ (Infinix) เปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด HOT 11 Series เร็วสุด สนุกเต็มสปีดสนับสนุน RoV E-sport พร้อมปล่อย Dance Challenge ลุ้นรับรางวัลใหญ่ Infinix HOT 11S พร้อมกับสโลแกน “Fast and Fun – เร็วสุด สนุกเต็มสปีด” อีกหนึ่งรุ่นที่จะมารุกตลาดสมาร์ตโฟนสายเกมราคาประหยัด โดยรอบนี้ยังคงเข้าร่วมเป็นผู้สนับสนุน RoV Proleague Winter 2021 เช่นเคย Infinix HOT 11 Series มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น HOT 11S RamRom 6+128 และ รุ่น  HOT 11 RamRom 4+64 เป็นอีกรุ่นในซีรีส์ HOT ที่มาพร้อมกับดีไซน์เรียบหรู ซึ่งการออกแบบของรุ่นนี้ ได้ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของผู้ใช้งานเป็นหลัก

โดยในรุ่นท็อป HOT 11S ใช้ชิปเช็ตคู่ที่ให้ประสิทธิภาพการใช้งานเหนือระดับอย่าง MediaTek Helio G88 ชิปเซ็ตสำหรับการเล่นเกมและความบันเทิงตัวจริง มาพร้อมหน้าจอใหญ่ขนาด 6.78 นิ้ว FHD+ และรองรับอัตราการแสดงผลหน้าจอ 90Hz ทำให้หน้าจอตอบสนองได้รวดเร็วและลื่นไหลได้อย่างสูงสุด ด้านแบตเตอรี่ให้มาถึง 5,000 mAh รองรับระบบชาร์จไว 18W พร้อมด้วยเทคโนโลยี Power Marathon ที่ประหยัดพลังงาน รวมถึงกล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียดสูงสุด 50 ล้านพิกเซล กับรูรับแสงกว้างพิเศษ F1.6 ทำให้ผู้ใช้งานสนุกกับการถ่ายภาพ ได้ภาพคมชัด สวยงาม โดย HOT 11S มีมาให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีดำ (Polar Black) สีเขียว (Green Wave) และ สีม่วง (7 Degree Purple)

ซึ่งรุ่นท็อปอย่าง HOT 11S โดดเด่นด้วยชิปเซ็ตคู่ทรงพลัง MediaTek Helio G88 ผสานกับหน้าจอขนาดใหญ่เต็มตา 6.78 นิ้ว FHD+ พร้อมรีเฟรชเรท 90Hz เพื่อตอบโจทย์การเล่นเกมที่ดีที่สุด มอบประสบการณ์การรับชมความบันเทิงรูปแบบต่างๆ ได้ครบครันที่สุด รวมถึงการถ่ายภาพที่ทำได้อย่างมืออาชีพ ด้วยความละเอียดกล้องสูงสุด 50MP ในราคาสุดคุ้ม 5,299 บาท กำหนดวางจำหน่ายแบบเอ็กซ์คลูซีฟบน Shopee เริ่มตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคมนี้ เป็นต้นไป


สำหรับรุ่นย่อยอีกรุ่นอย่าง HOT 11  ก็มาพร้อมชิปเซ็ตจาก MediaTek Helio G70 ช่วยให้การเล่นเกมลื่นไหลไม่แพ้กัน พร้อมหน้าจอขนาด 6.6 นิ้ว FHD+ ภาพสวยคมชัดและแบตเตอรี่ 5,200mAh ที่จะทำให้คุณได้เล่นเกมและรับชมความบันเทิงต่างๆ ได้นานยิ่งขึ้น

Infinix ยังได้ปล่อยเพลงประกอบการเปิดตัว HOT 11 Series พร้อมจัดกิจกรรม Fast and Fun Infinix HOT 11 Series Dance Party – Online Challenge บน TikTok ที่จะให้แฟนๆ ได้ร่วมสนุกเต้นไปกับเพลง สุดมันส์เพื่อร่วมลุ้นรับรางวัลใหญ่สมาร์ตโฟน Infinix HOT 11S รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถดูข้อมูลได้ที่ Infinix Official Account บน TikTok

คัดมาเพื่อคุณ

แฟนๆ Infinix หรือผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ตโฟนที่ตอบโจทย์ความบันเทิงได้อย่างครบครันในราคาประหยัด พลาดไม่ได้กับ Infinix HOT 11S และอีกหนึ่งรุ่นทางเลือก Infinix HOT 11 พร้อมเปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ โดยในรุ่น HOT 11 เปิดตัวในราคา 4,499 บาท สามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้ที่ร้านตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ และสำหรับรุ่น HOT 11S จะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป แบบเอ็กซ์คลูซีฟบน Shopee เท่านั้น ในราคา 5,299 บาท โดยในระหว่างวันที่ 5 – 10 ตุลาคม จะมีราคาพิเศษช่วงเปิดขายครั้งแรก เหลือเพียง 5,099 บาท และห้ามพลาดกับคูปองส่วนลดอีก 100 บาท สามารถเก็บได้ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึง 10 ตุลาคม ซึ่งราคาจะเหลือเพียง 4,999 บาท พร้อมแถมฟรี! ของรางวัลสุดพิเศษสำหรับ  ผู้ที่ซื้อ Infinix HOT 11S ในวันแรกเท่านั้น ผู้สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมและกดรับคูปองส่วนลดได้ที่ https://cutt.ly/3EUuJpA

Adblock test (Why?)


Infinix เปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด HOT 11 Series สนับสนุน RoV E-sport - แอพดิสคัส (APPDISQUS)
Read More

OPPO Find X3 Pro 5G สมาร์ทโฟน Flagship ที่แสดงผลได้ดีที่สุด - Siamphone

Advertorial : OPPO Find X3 Pro 5G การันตียืนหนึ่งความเป็นสมาร์ทโฟนเรือธง ด้วยการขนสเปคมาให้แบบจัดเต็ม และไฮไลท์เด่นสุดอยู่ในส่วนหน้าจอแสดงผล ที่ใส่นวัตกรรมที่ดีที่สุดมาให้แบบไม่กั๊ก พร้อมเปิดประสบการณ์สีสันสุดว้าวเมื่อใช้งานผ่านหน้าจอ โดย OPPO Find X3 Pro 5G ยังเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นแรกที่ใช้ระบบ 10-bit Full-path Colour Engine ไม่ว่าถ่ายภาพนิ่งหรือบันทึกวิดีโอมาแบบไหน หน้าจอแสดงผลก็สามารถโชว์ภาพแบบนั้นออกมาเป๊ะๆ ถือว่าเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับสมาร์ทโฟนระดับเรือธง

หน้าจอสีสวยคมชัด ยกระดับมาตรฐานใหม่ให้กับวงการ
หน้าจอแสดงผลของ OPPO Find X3 Pro 5G ถือว่าให้มาสุดจริงๆ โดยใช้พาแนล AMOLED ความกว้าง 6.7 นิ้ว ความละเอียด QHD+ (3216x1440 พิกเซล) ความหนาแน่นพิกเซล 525ppi อัตราคอนทราสต์สี 5,000,000:1 และปรับความสว่างได้สูงถึง 1,300nits ซึ่งสเปคที่ว่ามา เป็นสเปคที่สูงกว่าสมาร์ทโฟนระดับเรือธงทั่วไป ทั้งค่าความหนาแน่นพิกเซลปกติจะอยู่ราวๆ 300-400ppi และอัตราคอนทราสต์สีจะอยู่ประมาณ 2,000,000:1 เท่านั้น ต้องบอกเลยว่า OPPO Find X3 Pro 5G ได้เข้ามาสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการสมาร์ทโฟนไปแล้วอีก 1 ขั้น

จากทั้งหมดถือว่า OPPO Find X3 Pro 5G ได้เปิดประสบการณ์หน้าจอแสดงผลแบบสุดทางเหนือกว่าหน้าจอบนสมาร์ทโฟนที่เคยมีมา เพราะได้ทั้งสีดำที่ดำสนิทจากพาแนล AMOLED แสดงผลได้อย่างคมชัดกับสีที่สดชัดเจน จากความละเอียด QHD+, ความหนาแน่นพิกเซล 525ppi และอัตราคอนทราสต์ 5,000,000:1 อย่างไรก็ตามเรื่องของหน้าจอบน OPPO Find X3 Pro 5G ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น ความเป็นสุดยอดหน้าจอแสดงผลยังมีต่ออีกเพียบทางด้านล่าง

  • แสดงสีลึกระดับ 10-bit หรือ 1.07 พันล้านสี
    หน้าจอของ OPPO Find X3 Pro 5G เป็นพาแนล AMOLED และมีมาตรฐานสีทั้ง 100% DCI-P3 และ 100% sRGB ทำให้สีที่แสดงออกมามีความตรง และสดใสแบบสุดๆ แต่จริงๆ แล้วเบื้องหลังความสวยยังไม่หมดเพียงแค่นั้น เพราะยังมีความลึกของสีที่อยู่ในระดับ 10-bit หรือ 1.07 พันล้านสี เลยทีเดียว โดยตรงนี้จะช่วยให้หน้าจอของ OPPO Find X3 Pro 5G สามารถแสดงเฉดสีได้สวยกว่า สว่างกว่า หากเทียบกับ 8-bit ที่อยู่ในสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ

  • 120Hz Adaptive Refresh Rate
    หน้าจอของ OPPO Find X3 Pro 5G มีอัตรา Refresh Rate สูงถึง 120Hz ทำให้การเคลื่อนไหวในหน้าจอมีความลื่นเป็นพิเศษ ทั้งนี้ยังมาพร้อมระบบ Adaptive Refresh Rate ที่ค่อยเพิ่ม หรือลดอัตรา Refresh Rate ให้เหมาะกับการใช้งานในตอนนั้น อย่างเช่นการเล่นเกมจะต้องใช้อัตรา Refresh Rate สูงๆ เข้าไว้ และการใช้งานปกติจะไม่จำเป็นต้องใช้อัตรา Refresh Rate ไม่สูงมาก ซึ่งระบบ Adaptive Refresh Rate จะช่วยปรับอัตรา Refresh Rate ให้แบบอัตโนมัติ ตรงนี้จะช่วยในการปรับหยัดพลังงานได้อีกทาง

  • Natural Tone Display
    โหมด Natural Tone Display จะมีการปรับแสงหน้าจอให้เหมาะสมกับสภาพบรรยากาศรอบข้างแบบอัตโนมัติ ซึ่งช่วยให้ใช้งานผ่านหน้าจอได้แบบสบายตามากขึ้น

  • O1 Ultra Vision engine
    สายดูหนังดูซีรี่ย์ต้องชอบ OPPO Find X3 Pro 5G อย่างแน่นอน เพราะเหมือนยกเอาเทคโนโลยีจากสมาร์ททีวีมาไว้บนหน้าจอสมาร์ทโฟน เนื่องจากภายในมี Microchip ที่ชื่อว่า O1 Ultra Vision engine ช่วยให้การดูหนังมีความลื่น และภาพสวยมากขึ้น เช่น Video Motion Enhancement ซึ่งระบบมีการแทรกเฟรมเข้ามาในวิดีโอ ช่วยให้การดูวิดีโอได้ลื่นตามากขึ้น นอกจากนี้ยังเปลี่ยนภาพจาก SDR ให้เป็น HDR ด้วยเทคโนโลยี HDR Video Enhancement ซึ่งจะได้เฉดสีที่กว้างดูสวยงาม และเผยรายละเอียดได้มากขึ้น 

  • ColourVision Enhancement
    จากตรงนี้ถือว่า OPPO Find X3 Pro มีหน้าจอที่สีสันได้ครบครันระดับพันล้านสี แต่ทาง OPPO เองก็ยังมีเทคโนโลยีที่ชื่อว่า Color Vision Enhancement เป็นระบบปรับแต่งการแสดงสีในหน้าจอ โดยวัดจากการมองเห็นของผูัใช้งาน ซึ่งการปรับแต่งที่ได้มาจะช่วยให้หน้าจอแสดงสีสันได้อย่างถูกต้อง และไม่ดูเวอร์จนเกินไป

ถ่ายแบบไหนดูผ่านจอเป็นแบบนั้น ด้วยระบบ 10-bit Full-path Colour Engine
OPPO Find X3 Pro 5G เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่นำระบบ 10-bit Full-path Colour Engine มาใช้ โดยระบบจะช่วยให้กล้องถ่ายรูปสามารถถ่ายภาพนิ่ง หรือบันทึกวิดีโอด้วยความลึกของสีระดับ 10-bit หรือ 1.07 พันล้านสี ซึ่งข้อมูลภาพที่ถ่ายมาจะถูกเปลี่ยนเป็นรหัสข้อมูล แล้วส่งไปยัง Storage และรหัสข้อมูลในที่เก็บใน Storage จะถูกเปลี่ยนข้อมูลภาพ เพื่อไปแสดงบนหน้าจอแสดงผล แน่นอนว่าหน้าจอของ OPPO Find X3 Pro 5G ที่สามารถแสดงผลได้แบบ 10-bit ทำให้ถ่ายภาพมาแบบไหนมา ก็สามารถดูภาพได้แบบสวยสมจริงได้ทันที

สำหรับระบบ 10-bit Full-path Colour Engine จะช่วยให้ภาพที่ออกมาดูสวยสีสันสดใสตั้งแต่ต้นจนจบ ทำให้ไม่ต้องมาตกแต่งภาพให้ยุ่งยากในภายหลัง นอกจากนี้ไฟล์ภาพที่ได้มายังเป็นแบบ .HEIC (High-Efficiency Image Coding) ซึ่งเป็นมาตรฐานการบีบไฟล์แบบใหม่ แต่ใช้พื้นที่เก็บข้อมูลที่น้อยลง แต่ยังให้ความละเอียดของภาพระดับสูง ชนิดที่ว่า .JPEG มีอาย

กล้องเรือธงพิเศษกว่าที่ผ่านมา ด้วยกล้องหลักคู่ 50MP
กล้องถ่ายรูปก็ไม่ธรรมดาโดยเฉพาะกล้องหลัง เนื่องจากกล้องหลังเป็นแบบเลนส์หลักคู่ ถูกแบ่งเป็นเลนส์ Wide ความละเอียด 50MP + ระบบกันสั่น OIS และเลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 50MP ซึ่งทั้งคู่ใช้เซนเซอร์ระดับท็อปอย่าง Sony IMX766 แน่นอนว่าภาพที่ออกมาจะมีความคมชัด และความละเอียดที่สูง ทั้งมุมกว้างปกติ หรือมุมกว้างพิเศษ ไม่พอแค่นั้นทั้ง 2 เลนส์ยังมีการทำงานร่วมกับระบบ 10-bit Full-path Colour Engine ทำให้สีที่ออกมามีความสวยสดครบทุกสีระดับพันล้านสี และยังใช้งานได้ทั้งการถ่ายภาพนิ่ง หรือการบันทึกวิดีโอ

ความพิเศษของกล้องหลังยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะยังมีเลนส์ Micro ความละเอียด 3MP ที่มีความสามารถถ่ายภาพระยะใกล้ในระดับกล้องจุลทรรศน์ พร้อมกับไฟแฟลชแบบ Ring Flash อยู่บริเวณรอบตีวกล้อง ส่วนอีกเลนส์เป็น Telephoto ช่วยในการซูมแบบ Optical สูงสุด 2 เท่า ซึ่งทั้งหมดสามารถใช้งานร่วมกับโหมด 10-bit เพื่อให้ภาพออกมามีสีสันระดับพันล้านสี สวยงามไม่แพ้กล้องเลนส์หลัก

ราคา และพรีออเดอร์
OPPO Find X3 Pro 5G สมาร์ทโฟนเรือธงที่สุดแห่งพันล้านสี วางจำหน่ายในราคา 33,990 บาท และพิเศษเมื่อซื้อ OPPO Find X3 Pro 5G รับสิทธิ์ผ่อน 0% นานสูงสุด 24 เดือน สิ้นสุด 30 กันยายนนี้เท่านั้น! และเมื่อซื้อคู่กับอุปกรณ์ IoT ที่ร่วมรายการในโปร New Normal Festival ตั้งแต่วันนี้ถึง 17 ตุลาคมเท่านั้น รับส่วนลด 1,000 บาท ทันที! ดังนี้

  • เมื่อซื้อคู่กับ OPPO Enco X หูฟังไร้สายที่สร้างสรรค์ร่วมกันกับ Dynaudio พิเศษ 3,999 บาท จากปกติ 4,999 บาท
  • เมื่อซื้อคู่กับ OPPO Watch 41mm สมาร์ทวอร์ทรุ่นแรกจาก OPPO พร้อมเชื่อมต่อทุกไลฟ์สไตล์ที่เป็นคุณ พิเศษ 4,999 บาท จากปกติ 5,999 บาท
  • เมื่อซื้อคู่กับ OPPO Watch 46mm พิเศษ 6,999 บาท จากปกติ 7,999 บาท

พิเศษเมื่อซื้อ OPPO Find X3 Pro 5G รับสิทธิ์ผ่อน 0% นานสูงสุด 24 เดือน ที่ OPPO Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ ตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน - 17 ตุลาคมนี้เท่านั้น ดูข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3AFJBXx ติดตามข่าวสารและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://web.facebook.com/oppothai

*** บทความเพื่อการโฆษณา ***

Adblock test (Why?)


OPPO Find X3 Pro 5G สมาร์ทโฟน Flagship ที่แสดงผลได้ดีที่สุด - Siamphone
Read More

รีวิว Death Stranding Director's Cut เล่นบน iPad Pro M2 - iPhoneMod

ในที่สุดสาวก Apple อย่างเราก็ได้เล่นเกม Death Stranding เวอร์ชัน Director’s Cut บนอุปกรณ์ Apple กันแล้ว ใครอยากลองเล่นเข้าไปซื้อเกมใน App S...