Rechercher dans ce blog

Monday, February 28, 2022

เปิดตัว Nokia C21 และ C21 Plus สมาร์ตโฟน Android Go Edition พร้อมขอบโลหะ และจอ 6.5 นิ้วในราคาประหยัด - mobileocta

หลังจากที่ HMD Global เปิดตัวสมาร์ตโฟน Nokia C Series เครื่องแรกในปี 2020 โดยมาพร้อมระบบปฎิบัติการ Android Go Edition ในราคาประหยัด ก็ได้รับการตอบรับจากผู้ใช้เป็นอย่างดี ซึ่งคิดเป็น 16% ของยอดขายสมาร์ตโฟนทั้งหมดของบริษัทในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ล่าสุดได้เปิดตัว Nokia C21 และ C21 Plus สองสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่

สเปก Nokia C21

Nokia C21

ตัวเครื่องเฟรมโลหะ ด้านหน้าคลุมด้วยกระจกด้วยขนาด 169.9 x 77.9 x 8.8 มม. และน้ำหนัก 195 กรัม หน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ความละเอียด HD+ 720 x 1600 พิกเซล ขนาด 6.52 นิ้ว โดยมีอัตราส่วน 20:9

ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 1.6GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Unisoc SC9863A (28nm) , RAM 2GB/3GB, หน่วยความจำภายใน 32GB/64GB เพิ่มได้ด้วย microSD Card สูงสุด 512GB และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 11 Go Edition รองรับการอัปเดตความปลอดภัยรายเดือน 3 ปีและอัปเดตระบบปฏิบัติการหลัก 2 ปี

ติดตั้งกล้องหลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED และรองรับ HDR ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED รวมทั้งรองรับ 4G LTE, Wi-Fi 802.11 b/g/n, hotspot, Bluetooth 4.2, GPS with A-GPS, ช่องหูฟัง 3.5 มม., วิทยุ FM, พอร์ต microUSB และแบตเตอรี่ความจุ 3,000mAh

ทั้งนี้ Nokia C21 มีให้เลือก 2 สีคือ Dark Blue และ Warm Gray โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 99 ยูโร หรือประมาณ 3,600 บาท และจะเริ่มวางจำหน่ายปลายเดือนมีนาคม 2565 เป็นต้นไป

สเปก Nokia C21 Plus

ตัวเครื่องมาพร้อมเฟรมเครื่องแบบโลหะ รองรับการกันน้ำมาตรฐาน IP52 และหน้าจอครอบทับด้วยกระจก ด้วยขนาด 164.8 x 75.9 x 8.6 มม. และน้ำหนัก 191 กรัม หน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ความละเอียด HD+ 720 x 1600 พิกเซล ขนาด 6.52 นิ้ว โดยมีอัตราส่วน 20:9

ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 1.6GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Unisoc SC9863A (28nm) , RAM 2GB/3GB/4GB, หน่วยความจำภายใน 32GB/64GB เพิ่มได้ด้วย microSD Card สูงสุด 512GB และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 11 Go Edition รองรับการอัปเดตความปลอดภัยรายเดือน 3 ปีและอัปเดตระบบปฏิบัติการหลัก 2 ปี

ติดตั้งกล้องหลังคู่ Dual Camera พร้อมไฟแฟลช LED ประกอบด้วยกล้องหลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมระบบ Auto Focus และกล้องรองเลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED

รวมทั้งรองรับ 4G LTE, Wi-Fi 802.11 b/g/n, hotspot, Bluetooth 4.2, GPS with A-GPS, ช่องหูฟัง 3.5 มม., วิทยุ FM, พอร์ต microUSB และแบตเตอรี่ความจุ 4000mAh/5050mAh (ขึ้นอยู่กับประเทศที่จำหน่าย)

ทั้งนี้ Nokia C21 Plus มีให้เลือก 2 สีคือ Dark Cyan และ Warm Gray โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 119 ยูโรหรือประมาณ 4,300 บาท และจะเริ่มวางจำหน่ายเดือนเมษายน 2565 เป็นต้นไป

ที่มา : NokiaPowerUser

Facebook Notice for EU! You need to login to view and post FB Comments!

Adblock test (Why?)


เปิดตัว Nokia C21 และ C21 Plus สมาร์ตโฟน Android Go Edition พร้อมขอบโลหะ และจอ 6.5 นิ้วในราคาประหยัด - mobileocta
Read More

สรุปจุดเด่นและสเปค Poco X4 Pro 5G และ Poco M4 Pro รุ่นใหม่ล่าสุด เข้าไทยแล้ว - Siamphone

Poco เปิดตัวสองสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ Poco X4 Pro 5G และ Poco M4 Pro โดยรุ่นแรกเป็นรุ่นสานต่อความสำเร็จจากรุ่นก่อน (สรุปจุดเด่นและสเปก POCO F3 และ POCO X3 Pro ทีเด็ดของคอเกม แตกต่างกันยังไง) ส่วน Poco M4 Pro เป็นรุ่นที่ไม่มีเครือข่าย 5G (สรุปจุดเด่นและสเปค POCO M4 Pro 5G หน้าจอ 90Hz-DCI-P3 มีลำโพงคู่ ชาร์จเร็ว 33 วัตต์) ซึ่งก็เข้าไทยเช่นกันทั้งสองรุ่นเลย ดังนั้นเรามาสรุปจุดเด่นและสเปคกันหน่อยว่ามีอะไรบ้าง

เริ่มกันที่ Poco X4 Pro 5G มีจุดเด่นอย่างไร

ดีไซน์มีความโดดเด่นทันสมัย สไตล์แฟชั่นมากยิ่งขึ้น เข้ากับ Look ต่างๆ ของคุณได้ในแต่ละวัน นอกจากนี้หน้าจอแสดงผลครอบทับกระจก Corning Gorilla Glass 5 แข็งแรงทนทานมากยิ่งขึ้น หน้าจอแสดงผลตอบโจทย์คอเกมมากยิ่งขึ้นด้วยอัตรารีเฟรชเรท 120Hz (เลือกปรับได้ 50Hz/60Hz/90Hz/120Hz) อัตราการทัชสกรีน 360Hz มาพร้อมแกนสั่น Z-axis ช่วยสั่นสะเทือนตัวเครื่องเวลาเล่นเกม หรือควบคุมการใช้งานต่างๆ ในตัวเครื่อง ที่สำคัญเลยความบันเทิงก็โดดเด่นด้วยลำโพงระบบสเตอริโอ มาตรฐานเสียง Hi-Res ด้านแบตเตอรี่มีเทคโนโลบีชาร์จเร็ว 67 วัตต์ เคลมว่าจาก 0%-90% ใช้ระยะเวลาประมาณ 30 นาที

การใช้งานแม้หนักแค่ไหนก็สบาย เครื่องไม่ร้อนมาก เพราะมีระบบระบายความร้อน LiquidCool 1.0 Plus ส่วนหน้าจอนอกจากแสดงผลคมชัดแล้ว มีโหมดอ่านหนังสือและโหมดใช้งานกลางแจ้ง พร้อมมาตรฐานป้องกันแสงสีฟ้า SGS Eye Care ช่วยปกป้องดวงตามากขึ้น ชิปเซ็ตประมวลผล Snapdragon 695 มีเทคโนโลยีพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน UFS 2.2 ใช้งานไหลลื่น

สเปคกล้องหลังและกล้องหน้าของ Poco X4 Pro 5G

  • กล้องหลัก : ความละเอียด 108 ล้านพิกเซล ขนาดเซนเซอร์ 1/1.52 นิ้ว รูรับแสง f/1.9
  • กล้องสอง : เลนส์มุมกว้าง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มุมมอง 118 องศา รูรับแสง f/2.2
  • กล้องสาม : เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
  • กล้องหลังรองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดระดับ FullHD ที่ 30 เฟรมต่อวินาที และสโลโมชั่น 120 เฟรมต่อวินาที
  • กล้องหน้า : ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4

สเปคเบื้องต้นของ Poco X4 Pro 5G

  • ระบบปฏิบัติการ : MIUI 13 บนพื้นฐานแอนดรอยด์ 11
  • ขนาดตัวเครื่อง : 165.3 x 76.8 x 9.4 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก : 215 กรัม
  • หน้าจอแสดงผล : AMOLED-DCI-P3 ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 2400x1080 พิกเซล มีอัตรารีเฟรชเรท ให้ความสว่างสูงสุด 1200nits มีโหมดกลางแจ้ง และโหมดอ่านหนังสือ
  • ชิปเซ็ต : Snapdragon 695
  • GPU : Adreno 619
  • RAM : 8GB LPDDR4X
  • พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน : 256GB UFS 2.2
  • MicroSD Card : ไม่รองรับ
  • ถาดซิมการ์ด : Hybrid-Slot
  • การเชื่อมต่อ : 5G, 4G, Wi-Fi 2.4GHz/5GHz, Bluetooth 5.1, GPS, Glonass, USB OTG, IR Blaster, NFC
  • พอร์ต USB Type-C
  • ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร (ระบบเสียง Hi-Res)
  • ระบบความปลอดภัย : สแกนนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง, สแกนใบหน้า
  • แบตเตอรี่ : 5000mAh รองรับชาร์จเร็ว 67 วัตต์

Poco X4 Pro 5G มีสามเฉดสีให้เลือก ได้แก่ Laser Black, Laser Blue และ Poco Yellow โดยมีราคาวางจำหน่าย 10,990 บาท พิเศษโปรโมชัน Early Bird ตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 - 3 มีนาคม 2565 ซื้อ POCO X4 Pro 5G ความจุ 8GB+256GB จากราคา 10,990 บาท เหลือเพียง 8,999 บาท พร้อมรับฟรี 1,000 JD Points

ต่อด้วยอีกหนึ่งรุ่น Poco M4 Pro โดยเป็นโมเดล 4G แต่ก็มีความแตกต่างจากโมเดล 5G อย่างมาก หน้าจอแสดงผลประเภท AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว มาตรฐาน DCI-P3 อัตราการรีเฟรชเรท 90Hz และอัตราการตอบสนองทัชสกรีน 180Hz นอกจากนี้มีโหมดใช้งานกลางแจ้ง ให้ความสว่างหน้าจอสูงสุด 1000nits อีกทั้งมีโหมดถนอมสายตาจากแสงสีฟ้า SGS EyeCare ด้านลำโพงเป็นระบบสเตอริโอ มีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ที่ให้เสียงได้ในระบบ Hi-Res

แบตเตอรี่มีความจุ 5000mAh มีฟังก์ชั่นชาร์จแบตเตอรี่เร็ว 33 วัตต์ เคลมว่าชาร์จเพียง 10 นาทีก็รับชมคอนเทนต์วิดีโอได้อีกประมาณ 2 ชั่วโมง ทั้งยังเพิ่มความสนุกในการใช้งานด้วยมอเตอร์แกน X ที่จะสั่นสะเทือนขณะใช้งานได้อย่างสมจริง การใช้งานแม้หนักแค่ไหนก็สบาย เครื่องไม่ร้อนมาก เพราะมีระบบระบายความร้อน LiquidCool 1.0 Plus

สเปคกล้องหลังและกล้องหน้าของ Poco M4 Pro

  • กล้องหลัก : ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8
  • กล้องสอง : เลนส์มุมกว้าง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มุมมอง 118 องศา รูรับแสง f/2.2
  • กล้องสาม : เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
  • กล้องหลังรองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดระดับ FullHD ที่ 30 เฟรมต่อวินาที และสโลโมชั่น 120 เฟรมต่อวินาที
  • กล้องหน้า : ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4

สเปคเบื้องต้นของ Poco M4 Pro

  • ระบบปฏิบัติการ : MIUI 13 บนพื้นฐาน Android 11
  • ขนาดตัวเครื่อง : 159.87 x 73.87 x 8.09 มม.
  • น้ำหนัก : 179.5 กรัม
  • หน้าจอ : AMOLED-DCI-P3 ขนาด 6.43 นิ้ว ความละเอียด 2400x1080 พิกเซล หน้าจออัตรารีเฟรชเรท 90Hz
  • ชิปเซ็ต : MediaTek Helio G96
  • GPU : Mali-G57 MC2
  • RAM : 8GB LPDDR4X
  • พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน : 256GB UFS 2.2
  • MicroSD Card : ไม่รองรับ
  • ถาดซิมการ์ด ประเภท Dual
  • การเชื่อมต่อ : 4G, 3G, Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac 2.4GHz+5GHz, Bluetooth 5.0, Wi-Fi Direct, GPS, GLONASS, IR Blaster
  • พอร์ต USB Type-C
  • มาตรฐานป้องกันน้ำป้องกันฝุ่น IP53
  • แบตเตอรี่ : 5000mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จไว 33 วัตต์

Poco M4 Pro มี 3 เฉดสีให้เลือก ได้แก่ Power Black, Cool Blue และ Poco Yellow โดยมีราคาวางจำหน่าย 7,999 บาท พิเศษวันที่ 3 มีนาคมศกนี้ เวลา 00.00 - 02.00 น. ช้อปราคาพิเศษพร้อมของแถมสุดคุ้ม เหลือเพียง 7,499 บาท (เมื่อใช้คูปองส่วนลด 500 บาท)

Adblock test (Why?)


สรุปจุดเด่นและสเปค Poco X4 Pro 5G และ Poco M4 Pro รุ่นใหม่ล่าสุด เข้าไทยแล้ว - Siamphone
Read More

Sunday, February 27, 2022

เปิดตัวแล็ปท็อป Nokia PureBook Pro 15.6 นิ้ว และ 17.3 นิ้ว มาพร้อมจอ FHD, ชิป Intel Core i3 และลำโพง 4 ตัว - mobileocta

OFF Global บริษัท Startup ในฝรั่งเศส ประกาศเข้าซื้อไลเซนส์ Nokia ทำให้ได้สิทธิในการใช้ชื่อแบรนด์สำหรับทำการตลาด ออกแบบ และจัดจำหน่ายแล็ปท็อปอย่างเป็นทางการในประเทศต่างๆ ทั่วโลก

ล่าสุดได้เปิดตัว Nokia PureBook Pro ที่มาในขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว และ 17.3 นิ้ว แล็ปท็อปรุ่นแรกของ Nokia ออกมาแล้ว

สเปก Nokia PureBook Pro

Nokia

Nokia PureBook Pro มาพร้อมตัวเครื่องขนาด 399x260x19.05 มม. (รุ่นหน้าจอ 15.6″) / 19.6 มม. (รุ่นหน้าจอ 17.3″) และน้ำหนัก 1.7 กก. (รุ่นหน้าจอ 15.6″) / 2.5 กก. (รุ่นหน้าจอ 17.3″) หน้าจอแสดงผลแบบ LED Backlit IPS Anti-glare ความละเอียด FHD 1920 x 1080 พิกเซล ขนาด 15.6″ และ 17.3″ และความสว่างสูงสุด 250nits

ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังชิปเซ็ท Intel Core i3 เจอเนอเรชันที่ 12 รหัส 1220P ความเร็ว 3.30GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิก 1.1GHz Intel UHD จับคู่กับ RAM 8GB และหน่วยความจำภายในแบบ SSD 512GB และรันบนระบบปฎิบัติการ Windows 11

ติดตั้งกล้อง Webcam ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล พร้อมไมโครโฟนในตัว, ติดตั้งเครื่องอ่านลายนิ้วมือ Windows Hello, รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 5 802.11ac (2.4GHz and 5GHz), Bluetooth 5.0, 2 x USB-C 3.2, 1 x USB-A 3.2, ช่องหูฟัง 3.5 มม. และช่องสำหรับเสียบ microSD card

ใช้แบตเตอรี่ขนาด 57Wh (รุ่นหน้าจอ 15.6″) / 63Wh (รุ่นหน้าจอ 17.3″) ใช้งานได้นานต่อเนื่องสูงสุด 10 ชั่วโมง และรองรับการชาร์จอย่างรวดเร็วผ่านพอร์ต USB-C โดยชาร์จ 0-60% ภายในเวลา 30 นาที

ทั้งนี้ Nokia PureBook Pro มีให้เลือก 4 สีคือ สีฟ้า สีเทาเข้ม สีแดง และสีเงิน โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 699 ยูโรหรือประมาณ บาท สำหรับรุ่นหน้าจอ 15.6″ และราคา 799 ยูโรหรือประมาณ บาท สำหรับรุ่นหน้าจอ 17.3″ โดยจะเปิดตัวในยุโรปตะวันตก แอฟริกาเหนือ ไทย และแคนาดา เร็วๆ นี้ และจะขยายไปถึง 22 ประเทศภายในสิ้นปี 2565

ที่มา : Fonearena

Facebook Notice for EU! You need to login to view and post FB Comments!

Adblock test (Why?)


เปิดตัวแล็ปท็อป Nokia PureBook Pro 15.6 นิ้ว และ 17.3 นิ้ว มาพร้อมจอ FHD, ชิป Intel Core i3 และลำโพง 4 ตัว - mobileocta
Read More

[ลือ] หลุดภาพแผนผังโครงหน้าจอ iPhone 14 ครั้งแรก เผยดีไซน์กล้องแบบแคปซูล แทนที่ติ่งบนจอ - MacThai

เป็นข่าวลือกันมานานกับ iPhone 14 ที่หลายฝ่ายคาดกันว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงดีไซน์ครั้งใหญ่ โดยเฉพาะส่วนของติ่งบนหน้าจอที่น่าจะหายไปในรุ่นนี้

ซึ่งล่าสุดก็ได้มีการเผยภาพหลุดแผนผังโครงหน้าจอของ iPhone 14 ออกมาทางสื่อในประเทศจีน โดยต่อมา John Prosser จอมแฉข่าวหลุดของแอปเปิลก็ออกมาคอนเฟิร์มว่า นี่คือขนาดของหน้าจอ iPhone 14 จริง

จากภาพที่หลุดออกมาจะเห็นว่าโครงของหน้าจอตอนนี้จะไม่มีติ่งแล้ว แต่จะถูกแทนที่ด้วยรูกล้องในแบบแคปซูล ซึ่งตรงตามข่าวลือก่อนหน้านี้ โดยขนาดของแคปซูลอาจจะดูใหญ่กว่าที่หลายฝ่ายคาดเล็กน้อย

อย่างไรก็ดี Ross Young ผู้เชี่ยวชาญด้านจอภาพ ที่เคยเผยข่าหลุดของแอปเปิลอย่างแม่นยำสุดๆ เคยออกมาเผยภาพหน้าจอที่ต่างออกไปเล็กน้อย โดยเขาคาดว่ารูกล้องจะอยู่ฝั่งซ้าย แทนที่จะเป็นฝั่งขวาตามภาพล่าสุด ซึ่งก็อาจจะมีการเปลี่ยนดีไซน์ได้ตามช่วงเวลาการทดสอบ

คาดว่าแอปเปิลจะเริ่มเตรียมเดินสายการผลิต iPhone 14 ในไม่นานหลังจากนี้ ซึ่งจากรายงานล่าสุดคาดว่าดีไซน์ใหม่นี้ จะถูกใช้บน iPhone 14 ทั้งหมด 4 รุ่นเลย นั่นคือ iPhone 14, iPhone 14 Plus, iPhone 14 Pro, iPhone 14 Pro Max

ที่มา – MacRumors


Adblock test (Why?)


[ลือ] หลุดภาพแผนผังโครงหน้าจอ iPhone 14 ครั้งแรก เผยดีไซน์กล้องแบบแคปซูล แทนที่ติ่งบนจอ - MacThai
Read More

HUAWEI เปิดตัวคู่หูแล็ปท็อปใหม่ Matebook X Pro 2022 และ Matebook E - mxphone

Matebook X Pro 2022

HUAWEI ประกาศเปิดตัวสินค้าใหม่ในงาน MWC 2022 โดยเป็นแล็ปท็อปในระบบปฏิบัติการ Windows 11 ได้แก่ Matebook X Pro 2022 รุ่นระดับเรือธง และ Matebook E แล็ปท็อปแบบ 2-in-1 ที่แปลงเป็นแท็บเล็ตได้

เปิดตัว HUAWEI SMART GLASSES แว่นตาอัจฉริยะรุ่นใหม่ พร้อม MATEBOOK X PRO 2022

Matebook X Pro 2022 เป็นแท็บเล็ตระดับเรือธงมีจอสัมผัส IPS LCD ขนาด 14.2 นิ้ว ความละเอียด 3120×2080 พิกเซล อัตรารีเฟรชเรท 90Hz และมีอัตราส่วนการแสดงผล 3:2 ดันความสว่างจอได้ถึง 500nits และครอบคลุมการแสดงผลสี P3

ส่วนขอบจอด้านบนบางเฉียบเพียง 6มม. และมีการติดตั้งกล้องเว็บแคม HD ขณะที่โน้ตบุ๊กมีบอดี้เป็นโลหะและหนักเพียง 1.38กก. มีส่วนที่หนาสุดแค่ 15.5มม. และมีการติดตั้งลำโพงถึง 6 ตัว

ชิปเซตอุปกรณ์ใช้ Rocket Lake Gen 11 จากค่าย Intel ทำงานกับ GPU Iris Xe มี LPDDR4x RAM 16GB และมีความจำ M2 SSD 1TB พร้อมระบบระบายความร้อนประกอบด้วยช่องดูดอากาศสามช่องมีพัดลม Shark fin Fan คู่ และโมดูลระบายความร้อน VC I/O ตัวเครื่องมีพอร์ต USB-C จำนวน 4 พอร์ต โดยเป็น USB 3.2 จำนวน 2 ช่อง และช่องเสียงหูฟัง โดยเครื่องมาพร้อมอุปกรณ์ชาร์จ GaN USB-C 90W ซึ่งมีน้ำหนักเพียง 180 กรัม

สำหรับราคาขายของ Matebook X Pro 2022 อยู่ที่ 1,899 ยูโร หรือราว 69,448 บาท

ในส่วนของ Matebook E เป็นแล็บท็อปที่เน้นการพกพาโดยเป็นอุปกรณ์ 2-in-1 ทั้งแท็บเล็ตบนระบบปฏิบัติการ Windows 11 ที่แปลงเป็นแล็ปท็อปได้ผ่านเคสคีย์บอร์ดที่แถมมา

HUAWEI Matebook E มีจอ OLED ขนาด 12.6 นิ้ว ความละเอียด 2560 x 1600px มีกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล และกล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล ตัวเครื่องบางเพียง 7.9มม. และหนัก 709 กรัม เฟรมเครื่องเป็นแมกนีเซียมอัลลอยด์ และด้านหลังเป็นกระจกเป็นมีเท็กซ์เจอร์

ชิปเซตใช้ 11-gen core i5 และ i7 ของ Intel ใช้ GPU Iris XE จับคู่กับ LPDDR4x RAM 8/16GB กับความจำ PCIe NVMe SSD ขนาด 256/512GB ตัวเครื่องมีพอร์ต USB-C แค่ช่องเดียวรองรับ Thunderbolt 4 และช่องเสียบหูฟัง 3.5มม.

รุ่นนี้รองรับการเชื่อมต่อ WiFi 6 และ Bluetooth 5.1 นอกจากนี้ยังบรรจุแบตเตอรี่ 42Wh รองรับชาร์จไว 65W มีลำโพง 4 ตัว และไมโครโฟนอีก 4 ตัว รวมถึงรองรับการทำงานกับปากกา M-Pencil รุ่นที่ 2

Huawei Matebook E 2-in-1 รุ่น Intel i3 ความจำ 8/128GB ราคา 649 ยูโร หรือราว 23,730 บาท ส่วนรุ่น i5 มีความจำ 8/256GB ราคา 999 ยูโร หรือราว 36,530 บาท หากซื้อรุ่น 16/512GB จะได้ของแถมเป็น Smart Magnetic Keyboard รุ่น Intel i5 ราคา 1,199 ยูโร หรือราว 43,840 บาท และรุ่น i7 ราคา 1,399 ยูโร หรือราว 51,160 บาท

Adblock test (Why?)


HUAWEI เปิดตัวคู่หูแล็ปท็อปใหม่ Matebook X Pro 2022 และ Matebook E - mxphone
Read More

Saturday, February 26, 2022

เปิดตัว OPPO Find X5 Series เรือธงกล้อง Hasselblad ผสาน MariSilicon X อีกขั้นของการถ่ายภาพ ขุมพลัง Snapdragon 8 Gen1 มีชาร์จไว 80W และบอดี้กันน้ำ IP68 - thaimobilecenter

ล่าสุดก็เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับเรือธงประจำปี 2022 จากค่าย OPPO อย่าง OPPO Find X5 Series โดยมาพร้อมกัน 2 รุ่น ได้แก่ OPPO Find X5 และ Find X5 Pro ที่มีการดีไซน์พรีเมียม พร้อมฟีเจอร์ไฮเอนด์จัดเต็ม และชูโรงการถ่ายภาพ

OPPO Find X5 Series มาในดีไซน์จอไร้ขอบลงโค้งทั้งสองด้าน พร้อมเจาะรูกล้องหน้าที่มุมบนซ้าย ส่วนที่ด้านหลังมีกล้องนูนจากตัวเครื่องคล้ายกับ Find X3 Pro 5G รุ่นก่อน แต่มีการปรับเรียงกล้องแบบใหม่ พร้อมประทับโลโก้ MariSilicon ไว้อย่างชัดเจน ซึ่งรุ่น Find X5 จะมีแทบกล้องเป็นสีดำ ส่วน Find X5 Pro จะเป็นสีเดียวกับตัวเครื่อง

OPPO Find X5 Series ยังคงชูโรงจุดเด่นในด้านการถ่ายภาพ โดยอัปเกรดไปอีกขั้นด้วยการร่วมมือกับทาง Hasselblad แบรนด์กล้องชั้นนำระดับโลก (Co-developed) พร้อมกับ MariSilicon X ที่เป็น Imaging NPU (Neural Engine Processing Unit) ชิปประมวลผลภาพที่ทาง OPPO ออกแบบเอง ใช้เทคโนโลยีการผลิตระดับ 6 นาโนเมตร พร้อมสถาปัตยกรรมหน่วยความจำสูงแบบ Multi-tier เพื่อช่วยให้มีพลังการประมวลผลอยู่ในระดับสูง เพื่อตอบสนองต่อการถ่ายภาพ และประมวลผลภาพบนสมาร์ทโฟน OPPO โดยเฉพาะ ซึ่งทาง OPPO ระบุว่าจะช่วยให้สีของภาพมีความแม่นยำมากขึ้น พร้อมยกระดับการบันทึกวิดีโอ 4K ในเวลากลางคืนให้ดีกว่าเดิม

OPPO Find X5 Pro มากับตัวเครื่องเซรามิกสุดพรีเมียม พร้อมคุณสมบัติการป้องกันน้ำ-ฝุ่นมาตรฐาน IP68 มีหน้าจอไร้ขอบลงโค้งทั้งสองด้าน เทคโนโลยี LTPO AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว คมชัดระดับ QHD+ (3216x1440 พิกเซล : 525 PPI) รองรับอัตรารีเฟรชแบบ Dynamic Refresh Rate 120Hz พร้อมการผลสี 1.07 พันล้านสี (10-bit) ครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass Victus ซึ่งการันตีคุณภาพระดับ A+ จากทาง DisplayMate และมีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ รวมถึงจัดเต็มด้านการถ่ายภาพด้วยชุดกล้องหลัง 3 ตัว ได้แก่

- กล้องหลัก Wide 50MP เซนเซอร์ Sony IMX766 ขนาด 1/1.56" รูรับแสงขนาด f1.7 พร้อม SLR-level technology และรองรับระบบกันสั่นแบบ OIS แบบ 5 แกน (OIS 5-axis image stabilization) 
- กล้อง Ultra-Wide 50MP เซนเซอร์ Sony IMX766 ขนาด 1/1.56" แบบ Freeform Lens มีรูรับแสงขนาด f2.2 
- กล้อง Telephoto 13MP รูรับแสงขนาด f2.4 รองรับการซูม 5x Hybrid Zoom และ 20x Digital Zoom

โดยยกระดับทั้งการถ่ายภาพนิ่ง และวิดีโอให้ดีขึ้นไปอีกขั้น สามารถประมวลผลต่างๆ ได้แบบ realtime อย่าง AI Noise reduction จึงสามารถถ่ายวิดีโอ 4K ในที่แสงน้อย หรือเวลากลางคืนได้อย่างคมชัด อีกทั้งยังสามารถบันทึกวิดีโอ HDR สูงถึงระดับ 20-bit ที่มากกว่ารุ่นก่อนถึง 4 เท่า 

OPPO Find X5 Pro 5G ประมวลผลด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen1 รองรับระบบระบายความร้อน vapor chamber ขนาดใหญ่ขึ้น 75% จับคู่กับ RAM (LPDDR5) ขนาดสูงสุด 12GB + ROM มาตรฐาน UFS 3.1 ขนาดสูงสุด 512GB มีแบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 80W SuperVOOC พร้อมชาร์จไร้สาย 50W AirVOOC ซึ่งทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 12 ครอบทับด้วย ColorOS 12.1

สำหรับ OPPO Find X5 รุ่นมาตรฐาน มาพร้อมฝาหลังกระจกแบบด้าน (Matte Glass) ผสานจอไร้ขอบลงโค้งเช่นเดียวกัน เทคโนโลยี LTPS AMOLED ขนาด 6.55 นิ้ว คมชัดระดับ Full HD+ (2400x1080 พิกเซล : 402 PPI) รองรับค่า Refresh Rate ระดับ 120Hz พร้อมการแสดงผลสี 1.07 พันล้านสี (10-bit) ครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass Victus มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้จอ และชุดกล้องหลัง 3 ตัวที่โดยรวมคล้ายกับรุ่น Pro ดังนี้

- กล้องหลัก Wide 50MP เซนเซอร์ Sony IMX766 ขนาด 1/1.56" รูรับแสงขนาด f1.7 รองรับ All-Pixel Omni-Directional PDAF และระบบกันสั่นแบบ OIS 
- กล้อง Ultra-Wide 50MP เซนเซอร์ Sony IMX766 ขนาด 1/1.56" แบบ Freeform Lens มีรูรับแสงขนาด f2.2 
- กล้อง Telephoto 13MP รูรับแสงขนาด f2.4 รองรับการซูม 5x Hybrid Zoom และ 20x Digital Zoom

OPPO Find X5 มากับชิปเซ็ต Snapdragon 888 จับคู่ RAM (LPDDR5) ขนาดสูงสุด 12GB + ROM มาตรฐาน UFS 3.1 ขนาดสูงสุด 256GB มีแบตเตอรี่ความจุ 4800 mAh รองรับเทคโนโลยี 80W SuperVOOC พร้อมชาร์จไร้สาย 30W AirVOOC ซึ่งทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 12 ครอบทับด้วย ColorOS 12.1

สรุปราคา และวันวางจำหน่าย

OPPO Find X5 Series จะเริ่มวางจำหน่ายที่ประเทศจีนในวันที่ 3 มีนาคมเป็นต้นไป

OPPO Find X5 มีตัวเลือก 3 สี ได้แก่ สีม่วง, สีขาว และสีดำ

- รุ่น 8GB+128GB : 3,999 หยวน (ประมาณ 20,600 บาท)
- รุ่น 8GB+256GB : 4,399 หยวน (ประมาณ 22,700 บาท)
- รุ่น 12GB+256GB : 4,799 หยวน (ประมาณ 24,700 บาท)

OPPO Find X5 Pro มีตัวเลือก 3 สี ได้แก่ สีขาว, สีดำ และสีฟ้า

- รุ่น 8GB+256GB : 5,999 หยวน (ประมาณ 30,900 บาท)
- รุ่น 12GB+256GB : 6,299 หยวน (ประมาณ 32,400 บาท)
- รุ่น 12GB+512GB : 6,799 หยวน (ประมาณ 35,000 บาท)

ที่มา : OPPO (1), (2)

วันที่ : 25/2/2565

Adblock test (Why?)


เปิดตัว OPPO Find X5 Series เรือธงกล้อง Hasselblad ผสาน MariSilicon X อีกขั้นของการถ่ายภาพ ขุมพลัง Snapdragon 8 Gen1 มีชาร์จไว 80W และบอดี้กันน้ำ IP68 - thaimobilecenter
Read More

ซื้อ 1 ฟรี 1 Samsung Galaxy S22 Ultra 5G 128 GB แถมฟรี Galaxy S22 5G 128 GB เฉพาะที่ ทรูมูฟ เอช เท่านั้น - WhatPhone

IKEA ผนึก ROG จัดแสดง พร้อมขาย คอลเลคชั่นเกมมิ่งใหม่ - TheReporterAsia

IKEA

อิเกีย จับมือ ROG ผลิตภัณฑ์เกมชื่อดังจากเอซุส ร่วมกันออกแบบเฟอร์นิเจอร์แต่งห้องสำหรับเกมเมอร์โดยเฉพาะ กับคอลเล็คชั่น IKEA Gaming ช่วยเนรมิตโต๊ะเล่นเกมเท่ๆ พร้อมอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ให้ได้ซื้อหาที่อิเกียทุกสาขาในราคาย่อมเยา

หลังจากเปิดตัว IKEA Gaming บุกห้องเกมเมอร์ทั่วโลกไปเมื่อปีที่ผ่านมา โดยได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ปีนี้อิเกีย และ ROG เดินเกมบุกต่อเนื่อง ส่งฮีโร่ไอเท็มดีไซน์สุดเท่ตอบรับกระแสจัดโต๊ะคอมเล่นเกม ทั้ง โต๊ะ – เก้าอี้เกมมิ่ง และแอคเซสเซอรี่ที่ออกแบบมาเพื่อห้องเกมเมอร์โดยเฉพาะ หรือจะจัดโต๊ะทำงานที่บ้านเล็กๆ แต่ครบทั้งฟังก์ชั่น ดีไซน์ เหมาะกับการใช้งานนานๆ ตามหลักเออร์โกโนมิก ที่สำคัญมีให้เลือกหลากหลาย รับประกันนาน 3 ปี จะงบมาก งบน้อยก็แวะมาช้อปไอเท็มเด็ด หาไอเดียแต่งห้องเล่นเกมเท่ๆ ได้ที่อิเกีย

นางสาวธนิตา โรจน์วานิช ผู้จัดการสินค้าแผนกห้องทำงาน อิเกีย ประเทศไทย กล่าวว่า “คอลเล็คชั่น IKEA Gaming ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะว่าเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ และดีไซน์สวยถูกใจเกมเมอร์และคนทำงานที่มองหาเฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบสำหรับจัดโต๊ะคอมเล่นเกมโดยเฉพาะ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาสินค้ากลุ่ม workspace มีการเติบโตเป็นอย่างสูง มียอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 85 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากการทำงานและเรียนที่บ้านมากขึ้น โต๊ะเกมเป็นหนึ่งในสินค้าขายดี ซึ่งการร่วมมือกับ ROG ช่วยให้อิเกียเข้าใจและออกแบบเฟอร์นิเจอร์สำหรับเกมเมอร์ที่มีความสวยงามและฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์โดนใจยิ่งขึ้น คาดว่าจะเพิ่มยอดขายในหมวด workspace 50% ในปีนี้”

นายเจริญ โล่ประคอง ผู้จัดการผลิตภัณฑ์และบริหารการตลาด เอซุส ประเทศไทย กล่าวว่า “ปัจจุบันตลาดเกมเมอร์เติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก จากการสำรวจปีที่แล้วมีจำนวนเกมเมอร์มากกว่า 30 ล้านคนในประเทศไทย ซึ่งเอซุสเองในฐานะผู้นำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ระดับโลก ได้ทำการรุกตลาดเกมมิ่งอย่างต่อเนื่องด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีเทคโนโลยีล่าสุดตลอดเวลา เพื่อรองรับสาวกเกมเมอร์ในประเทศไทยจากระดับเริ่มต้น ถึงระดับโปรทั้งในประเทศ และระดับนานาชาติ”

IKEA Gaming

ฮีโร่ไอเท็มจากซีรี่ส์ UPPSPEL/อุปป์สเปีย การออกแบบร่วมกันของอิเกียและ ROG ที่จะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 24 กุมภาพันธ์นี้ ได้แก่

เซ็ตเกมเมอร์ ราคา 29,270 บาท เซ็ตเดียวแต่งห้องเกมเมอร์ได้ครบ ในงบไม่ถึงสามหมื่น

  1. โต๊ะเล่นเกม ขนาดใหญ่ 180 x 80 ซม. แข็งแรง ทนทาน สามารถปรับระดับความสูงได้ง่ายๆ เพียงกดปุ่ม เล่นเกมได้สบายไม่ว่าจะนั่งหรือยืน
  2. ตู้ลิ้นชักมีล้อเลื่อน เก็บอุปกรณ์เล่นเกมได้ครบ เคลื่อนย้ายสะดวก มีตะขอสำหรับแขวนหูฟัง หรือสายไฟ มีรูด้านบนและช่องพิเศษด้านหลังเพื่อจัดระเบียบสายไฟทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย
  3. เก้าอี้ พนักพิงปรับเอนได้หลายระดับ ล็อกค้างไว้ได้ พนักพิงศีรษะปรับความสูงได้ เบาะนั่งแบบ Synchronized ถ่ายเทน้ำหนักของร่างกายได้สมดุลในทุกอิริยาบถระหว่างเล่นเกม
  4. ตู้บานกระจก ขนาด 76 x 56 ซม. อวดไอเท็มสะสมในสไตล์ห้องเกมเมอร์ตัวจริง ราคา 2,490 บาท
  5. เพิ่มความเป็นระเบียบในการจัดเก็บด้วย แผ่นเส้นใยไม้อัด สีเทาเข้มแต่งลายกราฟิก ราคา 790 บาท
  6. ที่วาง CPU มีล้อเลื่อน สามารถปรับความกว้างได้ใช้ได้กับ CPU เกือบทุกรุ่น สีเทาเข้ม คุมโทนเท่ให้กับห้องเกมเมอร์ ราคา 499 บาท

IKEA

3 ไอเท็มขายดีจาก IKEA Gaming ประจำปี 2564

1. โต๊ะเล่นเกม รุ่น UTESPELARE/อูเตสเปียลาเร่ ปรับระดับความสูงได้ ขนาด 160 x 80 ซม. มีตะแกรงเหล็กด้านหลังของท็อปโต๊ะช่วยให้อากาศถ่ายเทและระบายความร้อนให้กับ PC มีให้เลือก 2 โทน สีดำ และเทาอ่อน ราคา 3,990 บาท

2. เก้าอี้สำหรับเล่นเกม รุ่น MATCHSPEL/มาต์ชสเปียล์ เก้าอี้ที่เกมเมอร์ต้องมี! รองรับสรีระร่างกายทุกส่วนและปรับระดับความสูงของเก้าอี้ได้ พร้อมพนักพิงศีรษะและที่วางแขน ราคา 4,990 บาท

3. โต๊ะเล่นเกม FREDDE/เฟรดเด ฟังก์ชั่นครบแบบจุกๆ สำหรับคนเล่นเกม งบน้อยก็มีโต๊ะเล่นเกมเท่ ดี มีคุณภาพได้ ราคา 7,490 บาท

พบกับฮีโร่ไอเท็ม สำหรับแต่งห้องเกมเมอร์ จาก IKEA x ROG พร้อมด้วยแอคเซสซอรี่ครบชุด ที่อัดแน่นด้วยฟังก์ชั่นอีกมากมาย ได้แล้ววันนี้ ที่อิเกีย บางนา อิเกีย บางใหญ่ อิเกีย ภูเก็ต และออนไลน์ ดูรายละเอียดสินค้าและไอเดียจัดโต๊ะคอมเล่นเกมได้ที่ IKEA.com/gaming

Adblock test (Why?)


IKEA ผนึก ROG จัดแสดง พร้อมขาย คอลเลคชั่นเกมมิ่งใหม่ - TheReporterAsia
Read More

Friday, February 25, 2022

โค้งสุดท้าย ซื้อ 1 ฟรี 1 Samsung Galaxy S22 Ultra 5G 128 GB แถมฟรี Samsung Galax - Flashfly

วันนี้ทรูมีโปรโมชั่นมือถือรุ่นฮิตบนเครือข่าย True 5G สุดปังมาบอกต่อ ซื้อ Samsung Galaxy S22 Ultra 5G 128 GB  1 เครื่อง แถมฟรี Samsung Galaxy S22 5G 128 GB 1 เครื่องสำหรับลูกค้าเปิดเบอร์ใหม่ ทรูมูฟ เอช แบบรายเดือน, ลูกค้าย้ายค่ายเบอร์เดิมจากต่างเครือข่าย สำเร็จตั้งแต่ 1 มกราคม 2565, ลูกค้าทรูมูฟ เอช แบบเติมเงิน ที่เปลี่ยนเป็นรายเดือน และลูกค้าปัจจุบันทรูมูฟ เอช แบบรายเดือน ที่มีอายุการใช้งานไม่ต่ำกว่า 90 วัน และไม่ติดสัญญาการใช้งาน หรือมีสัญญาการใช้งานเดิมคงเหลือน้อยกว่า 90 วัน

รายละเอียด

ซื้อสมาร์ทโฟน 5G Samsung Galaxy S22 Ultra 5G ความจุ 128 GB สีใดก็ได้ พร้อมสมัครใช้งานแพ็กเกจรายเดือน 5G Ultra Max Speed Plus เริ่มต้น 899 บาท รับฟรี สมาร์ทโฟน 5G Samsung Galaxy S22 5G ความจุ 128 GB สีใดก็ได้ พร้อมสมัครใช้งานแพ็กเกจรายเดือน 5G Ultra Max Speed Plus เริ่มต้น 899 บาท ระยะเวลาสัญญา 24 เดือน โดยจ่ายค่าบริการล่วงหน้าเครื่องละ 4,000 บาท ทั้ง 2 เครื่อง (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) และชำระเงินมัดจำเป็นจำนวนเงิน 2,140 บาท ผ่านบัตรเครดิตเท่านั้น โดยรับสิทธิได้ที่ https://galaxys22.truemoveh.com/prebooking หรือ ติดต่อทรูช้อปทุกสาขาทั่วประเทศ หรือซื้อผ่าน [email protected] (สิทธิ์มีจำนวนจำกัด กรุณาตรวจสอบสต็อค ณ จุดขาย) ตั้งแต่วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 – 3 มีนาคม 2565


เฉพาะลูกค้าทรู รับสิทธิพิเศษ ดังนี้

  • รับฟรี Leather case (เคสหนัง) ของแท้จาก Samsung
  • นำ Samsung Galaxy Note Series เครื่องเก่า (ตั้งแต่ Galaxy Note 8 ขึ้นไป) มาซื้อ Samsung Galaxy S22 Ultra 5G จะได้ส่วนลดเพิ่มสูงสุด 10,000 บาท โดย

– รับส่วนลดเพิ่ม 5,000 บาท เมื่อนำมือถือรุ่นที่กำหนดมาเทรด และทำการสั่งจอง Samsung Galaxy S22 5G

– รับส่วนลดเพิ่ม 6,000 บาท เมื่อนำมือถือรุ่นที่กำหนดมาเทรด และทำการสั่งจอง Samsung Galaxy S22+ 5G

– รับส่วนลดเพิ่ม 8,000 บาท เมื่อนำมือถือรุ่นที่กำหนดมาเทรด และทำการสั่งจอง Samsung Galaxy S22 Ultra 5G

– รับส่วนลดเพิ่ม 10,000 บาท เมื่อนำ Samsung Note Series หรือ iPhone รุ่นที่กำหนดมาเทรด และสั่งจอง Samsung Galaxy S22 Ultra 5G
ประเมินราคามือถือเครื่องเก่าได้ที่เว็บไซต์ https://easyswap-true.remobie.com/
หรือดูรายละเอียดที่ https://truemoveh.truecorp.co.th/news/detail/1629

  • ใช้ทรูพ้อยท์ 5,000 คะแนน แลกรับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 5,000 บาท (จำนวนจำกัด)
  • ย้ายค่ายเบอร์เดิม มาเป็นทรูมูฟ เอช รับส่วนลดเพิ่มอีก 5,000 บาท เมื่อใช้งานแพ็กเกจเริ่มต้น 5G Ultra Max Speed Plus 1699

เงื่อนไข

ซื้อสมาร์ทโฟน 5G Samsung Galaxy S22 Ultra 5G 128GB ราคา 39,900 บาท สีใดก็ได้พร้อมสมัครแพ็กเกจที่ร่วมรายการ แพ็กเกจเริ่มต้น 5G Ultra Max Speed Plus 899 สัญญาการใช้งาน 24 เดือน และจ่ายค่าบริการล่วงหน้า 4,280 บาท คืนยอดเงิน โดยนำไปลดค่าบริการรายเดือน เดือนละ 166.67 บาท เริ่มตั้งแต่รอบบิลที่ 2 เป็นต้นไป นาน 24 เดือน

แถมฟรี สมาร์ทโฟน 5G Samsung Galaxy S22 5G 128GB (เครื่องฟรี) สีใดก็ได้ พร้อมสมัครแพ็กเกจที่ร่วมรายการ แพ็กเกจเริ่มต้น 5G Ultra Max Speed Plus 899 สัญญาการใช้งาน 24 เดือน ชำระเพียงค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 1,956 บาท (ไม่ต้องชำระค่าเครื่อง) พร้อมจ่ายค่าบริการล่วงหน้า 4,280 บาท คืนยอดเงิน โดยนำไปลดค่าบริการรายเดือน เดือนละ 166.67 บาท เริ่มตั้งแต่รอบบิลที่ 2 เป็นต้นไป นาน 24 เดือน

หมายเหตุ จำกัดสิทธิ์ 1 บัตรประชาชน ต่อการซื้อ 2 เครื่อง ลูกค้าจะต้องชำระเงินผ่านบัตรเครดิตทั้ง 2 เครื่อง (สามารถผ่อนได้กรณีมียอดชำระมากกว่า 5,000 บาทขึ้นไป) ไม่จำเป็นต้องใช้บัตรชื่อเดียวกัน ดูรายละเอียดบัตรเครดิตที่ร่วมรายการได้ที่ https://galaxys22.truemoveh.com/prebooking/ ทั้งนี้ ในวันที่รับเครื่อง เจ้าของเครื่องทั้ง 2 เครื่อง ต้องมาดำเนินการพร้อมกัน

รายละเอียดแพ็กเกจ

แพ็กเกจ 5G Ultra Max Speed Plus เริ่มต้น 899 บาท ต่อเดือน ใช้งานเน็ต 3G/4G/5G จำนวน 80GB ต่อเดือน โทรฟรีในเครือข่ายทรูมูฟ เอช ตลอด 24 ชั่วโมง โทรทุกเครือข่ายฟรี 300 นาที Wi-Fi ไม่จำกัด ดูหนัง ฟังเพลงผ่าน TrueID ไม่เสียค่าเน็ต และดูฟรีทรูพรีเมียร์ลีก 2021/22 ครบทุกแม็ตซ์ (ราคาปกติ 299 บาท/เดือน) รับสิทธิกด *555*9# กดโทรออก และ ดูฟรี หนัง ซีรีส์ อนิเมชั่น คอนเทนต์ เอ็กซ์คลูซีฟ บนแพ็กเกจ True ID Plus (ราคาปกติ 59 บาท/เดือน) รับสิทธิ์กด *555*10# กดโทรออก ระยะเวลาในการรับสิทธิ์ 25 กุมภาพันธ์ 2565 –  31 มีนาคม 2565

ผู้ที่สนใจสามารถรับข้อเสนอพิเศษ ซื้อเครื่อง 1 แถม 1 ได้ตั้งแต่วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 – 3 มีนาคม 2565
โดยรับสิทธิได้ที่ https://galaxys22.truemoveh.com/prebooking หรือ ติดต่อทรูช้อปทุกสาขาทั่วประเทศ
หรือซื้อผ่าน [email protected] (สิทธิ์มีจำนวนจำกัด กรุณาตรวจสอบสต็อค ณ จุดขาย)

Adblock test (Why?)


โค้งสุดท้าย ซื้อ 1 ฟรี 1 Samsung Galaxy S22 Ultra 5G 128 GB แถมฟรี Samsung Galax - Flashfly
Read More

Thursday, February 24, 2022

บริษัทเกมญี่ปุ่นให้พนักงานหยุดเพื่อเล่นเกม Elden Ring - เดลีนีวส์

This website uses cookies to improve your experience while you navigate through the website. Out of these, the cookies that are categorized as necessary are stored on your browser as they are essential for the working of basic functionalities of the website. We also use third-party cookies that help us analyze and understand how you use this website. These cookies will be stored in your browser only with your consent. You also have the option to opt-out of these cookies. But opting out of some of these cookies may affect your browsing experience.

Adblock test (Why?)


บริษัทเกมญี่ปุ่นให้พนักงานหยุดเพื่อเล่นเกม Elden Ring - เดลีนีวส์
Read More

Wednesday, February 23, 2022

รีวิว Redmi Note 11 Pro 5G ก้าวสู่ความท้าทายไปกับกล้องโปร 108 ล้านพิกเซล, จอ 120Hz และชาร์จเร็ว 67W Turbo Charging - mobileocta

เปิดตัวอย่างเป็นทางการในบ้านเราเป็นที่เรียบร้อย สำหรับ Redmi Note 11 Pro 5G สมาร์ตโฟนซีรีส์ Note รุ่นล่าสุดจากค่าย Xiaomi ที่มอบประสบการณ์การใช้งานสุดประทับใจภายใต้คอนเซ็ปต์ “Rise to the challenge” โดยมาพร้อมความโดดเด่นด้วยกล้องหลักความละเอียดสูงถึง 108MP และจัดเต็มด้วยแบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh ที่มาพร้อมเทคโนโลยีเทอร์โบชาร์จ 67W ผ่านการขับเคลื่อนด้วยชิปเซต Snapdragon 695 ที่รองรับ 5G ในแบบ SA

อีกทั้งยังตอบโจทย์ด้านความบันเทิงได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยหน้าจอ AMOLED DotDisplay ขนาด 6.67”  ให้ความคมชัดระดับ FHD+ พร้อมรีเฟรชเรต 120Hz ผสานด้วยลำโพง Super Linear สองตัวที่ด้านบนและด้านล่าง ส่งมอบเสียงสเตอริโอแบบสมจริง ที่เต็มอิ่มทุกอรรถรสไม่ว่าจะเล่นเกมหรือดูวิดีโอ

สำหรับฟีเจอร์และความน่าสนใจอื่น ๆ ของ Redmi Note 11 Pro 5G จะมีอะไรบ้าง ขอเชิญติดตามรับชมรีวิวไปพร้อม ๆ กันได้เลยครับ

สเปกเบื้องต้น Redmi Note 11 Pro 5G

ขนาด 164.19 x 76.1 x 8.12 มม.
น้ำหนัก 202 กรัม
หน้าจอ หน้าจอแสดงผล DotDisplay แบบ AMOLED ความละเอียด FHD+ 2400 x 1080 พิกเซล (395 ppi) ขนาด 6.67 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9, อัตรารีเฟรชสูงสุด 120Hz คอนทราสต์: 4,500,000:1 ความสว่างสูงสุด 1000 nits, รองรับ DCI-P3 และครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 5
หน่วยประมวลผล ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.2GHz โดยใช้ชิปเซ็ต Qualcomm SM6375 Snapdragon 695 5G (6 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 619
RAM 6GB/8GB (LPDDR4X)
หน่วยความจำภายในเครื่อง 64GB/128GB ( UFS 2.2 )
microSD Card สูงสุด 1TB
ระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย MIUI 13
เชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot
Bluetooth 5.1, A2DP, LE
Infrared Port
GPS L1 | Glonass G1 | BDS B1 | Galileo E1
USB Type-C
กล้องถ่ายภาพ
กล้องหลัง 3 เลนส์ AI Triple Camera พร้อมไฟแฟลช LED

– กล้องหลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซล  เซนเซอร์ Samsung HM2 รูรับแสง f/1.9
– กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ถ่ายมุมกว้างได้ 118 องศา
– กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4

กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4

รองรับเครือข่าย 5G: n1/3/5/7/8/20/28/38/40/41/66/77/78
4G: LTE FDD 1/2/3/4/5/7/8/12/13/17/18/19/20/26/28/32/66
4G: LTE TDD 38/40/41
3G: WCDMA 1/2/4/5/8/19
2G: GSM 850 900 1800 1900MHz
แบตเตอรี่ 5000mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว เทอร์โบชาร์จ 67W
สี Graphite Gray, Polar White, Atlantic Blue
ราคา RAM 8GB+128GB ราคา 10,999 บาท

บรรจุภัณฑ์ / อุปกรณ์ภายในกล่อง

รูปภาพนี้มี Alt แอตทริบิวต์เป็นค่าว่าง ชื่อไฟล์คือ รีวิว-Redmi-Note-11-Pro-5G-18-1024x686.jpg

ตัวกล่องมาในโทนสีขาวสะอาดตา ด้านหน้าจะโชว์โลโก้ ชื่อรุ่นและรูปตัวเครื่อง Redmi Note 11 Pro 5G ขนาดใหญ่เห็นได้ชัดสะดุดตา ส่วนด้านล่างจะบอกรายละเอียดต่าง ๆ ทั้งชื่อรุ่นและสี,  ขนาด ROM/RAM, เลขอีมี่, หมายเลขประจำเครื่องและข้อมูลของผู้ผลิต 

รูปภาพนี้มี Alt แอตทริบิวต์เป็นค่าว่าง ชื่อไฟล์คือ 1S8A8712-1024x686.jpg

เมื่อเปิดกล่องออกมาจะพบตัวเครื่อง Redmi Note 11 Pro 5G ในสี Graphite Gray ซึ่งติดฟิลม์กันรอยมาให้เรียบร้อย ส่วนอุปกรณ์ภายในกล่องมีดังนี้

  • อแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 67W
  • สายดาต้าลิงค์แบบ USB Type-C
  • อุปกรณ์เปิดถาดซิมการ์ด
  • Soft Case TPU แบบใส
  • คู่มือการใช้งานฉบับย่อ, คู่มือความปลอดภัย และใบรับประกันสินค้า 

รูปลักษณ์ดีไซน์ / การออกแบบ

Redmi Note 11 Pro 5G มาพร้อมกับรูปลักษณ์สวยงามทันสมัย โดดเด่นด้วยการออกแบบที่มอบความกระชับด้วยดีไซน์ขอบแบนและบางให้สัมผัสที่พอดีมือ ตัวเครื่องมาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่และแบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh ที่มีความหนาเพียง 8.12 มิลลิเมตรเท่านั้น โดยตัวเครื่องมีให้เลือกทั้งหมดสามสีได้แก่ Graphite Gray, Polar White และ Atlantic Blue

สำหรับสีที่ทางทีมงานได้มารีวิวในครั้งนี้ก็คือ Graphite Gray ซึ่งในภาพรวม Redmi Note 11 Pro 5G ยังคงให้ฟิลลิ่งที่ดูเรียบง่าย แต่แฝงความหรูหราพรีเมี่ยมไว้ภายใน โดดเด่นด้วยการออกแบบที่มีความเพรียวบาง พร้อมมอบความกระชับด้วยการออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์ ช่วยให้จับได้ถนัดมือกระชับแม้จะเป็นการถือด้วยมือเดียวก็ตาม

Redmi Note 11 Pro 5G

Redmi Note 11 Pro 5G พร้อมมอบประสบการณ์ใช้งานหน้าจอแบบลื่นไหลสะดวกสบายด้วยหน้าจอขนาด 6.67 นิ้ว FHD+ AMOLED DotDisplay ให้การแสดงผลและหน้าจอสัมผัสสุดราบรื่นเพลิดเพลินกับคอนเทนต์ บนอัตรารีเฟรชอันราบรื่นที่สูงถึง 120Hz (360Hz touch sampling rate) เลื่อนดูหน้าฟีดโซเชียลมีเดียได้ลื่นไหล มอบสัมผัสประสบการณ์เล่นเกมสุดแรงและตอบสนองฉับไว

ในขณะเดียวกันก็มาพร้อมกับระบบสัมผัสที่แม่นยำมากยิ่งขึ้นพร้อมด้วยฟีเจอร์ DCI-P3 Wide Color Gamut ที่ให้ภาพและสีคมชัด ที่มีค่าความสว่างมากถึง 1000 nit เพื่อให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ว่าหน้าจอยังคงมองเห็นชัดแม้อยู่ท่ามกลางแสงแดด นอกจากนี้ ยังมีลำโพงทรงพลัง 2 ตัวติดตั้งอยู่ที่ด้านบนและด้านล่างของตัวเครื่องที่จะสามารถทำให้ผู้ใช้งานได้ดื่มด่ำไปกับการเล่นเกมหรือดูหนังแบบไม่ติดขัด 

ลำโพงสนทนามีขนาดเล็กและจัดวางอยู่ในขอบของตัวเครื่องซึ่งช่วยเพิ่มพื้นที่แสดงผลได้อีกทางหนึ่งด้วย สำหรับกล้องหน้าเซลฟี่ออกแบบให้มีขนาดเล็ก โดยจัดวางเลย์เอาท์ไว้อยู่ตรงกลางของจอแสดงผล ซึ่งจากการใช้งานจริงให้ความรู้สึกกลมกลืนไม่รบกวนสายตา แต่ยังคงให้คุณภาพมาแบบเต็มเปี่ยม โดยมาพร้อมความละเอียดที่ 16 ล้านพิกเซล  พร้อมฟีเจอร์ในการถ่ายเซลฟี่ที่ตอบโจทย์การใช้งานในยุคนี้ได้อย่างลงตัว

กล้องหลัง 3 เลนส์ AI Triple Camera ที่ให้มาครบทุกระยะการใช้งาน โดดเด่นด้วยเลนส์หลักมาพร้อมความละเอียดสูงถึง 108 พิกเซล ตัวเลนส์จัดวางในโมดูลรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า พร้อมล้อมคาดด้วยขอบโลหะเพิ่มความพรีเมี่ยม สำหรับรายละเอียดของเลนส์ทั้ง 3 ตัว มีรายละเอียดดังนี้ 

– กล้องหลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซล  เซนเซอร์ Samsung HM2 รูรับแสง f/1.9
– กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ถ่ายมุมกว้างได้ 118 องศา
– กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4

ฝั่งขวามือของตัวเครื่องจะมีปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียงและปุ่มพาวเวอร์ โดยตัวปุ่มพาวเวอร์จะมีการฝั่งเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบ  Arc side fingerprint sensor  ที่ปลดล็อกได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ส่วนฝั่งซ้ายจะเรียบ ๆ ไม่มีปุ่มหรือพอร์ตใด ๆ 

Redmi Note 11 Pro 5G มาพร้อมลำโพงคู่แบบสเตอริโอ โดยด้านบนของตัวเครื่องจะมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. และลำโพงตัวที่ 1 ถัดไปจะเป็นไมค์ตัดเสียงรบกวนและใช้ในการบันทึกเสียง ปิดท้ายด้วย IR Blaster ที่ใช้ในการควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ได้เหมือนรีโมท

ส่วนด้านล่างจะประกอบด้วย ลำโพงสเตอริโอตัวที่ 2 , ไมค์สนทนา, พอร์ต Type-C  และช่องถาดซิมการ์ด 

ตัวถาดซิมการ์ดจะเป็นแบบ Hybrid Slot  ที่ต้องเลือกระหว่างการใช้งานพร้อมกัน 2 ซิมการ์ด หรือใช้ 1 ซิมร่วมกับ Micro SD Card นั่นเอง

ฟีเจอร์เด่นบน Redmi Note 11 Pro 5G

Redmi Note 11 Pro 5G ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 695 5G ที่ผลิตบนสถาปัตยกรรมขนาด 6 นาโนเมตร พร้อมหน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 619 ให้ประสิทธิภาพการทำงาน การเล่นเกมและการประมวลผลกราฟิกที่ดีขึ้น อีกทั้งยังยกระดับประสิทธิภาพไปอีกขั้นด้วย  RAM แบบ LPDDR4x  ผสานหน่วยความจำแบบ UFS2.2  รวมถึงยังจัดการด้านพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินไปกับการใช้งานยาวนานต่อเนื่องโดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่

นอกจากนี้ Redmi Note 11 Pro 5G ยังมาพร้อมเทคโนโลยีระบายความร้อน LiquidCool มีระบบท่อความร้อนรูปวงแหวนและแผ่นแกรไฟต์หลายเลเยอร์ เทคโนโลยีนี้ช่วยให้ชาร์จไฟได้เร็วขึ้นโดยการระบายความร้อน ผ่านตัวทำระเหย, ตัวทำควบแน่น, รีฟิล, ท่อก๊าซ และท่อของเหลว

ในด้านความปลอดภัย Redmi Note 11 Pro 5G มาพร้อมระบบสแกนลายนิ้วมือด้านข้าง Arc side fingerprint sensor  ที่สามารถปลดล็อคเครื่องได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีสแกนใบหน้า AI face unlock เพื่อปลดล็อกได้อีกด้วย โดยทั้ง 2 ระบบ ตอบสนองการทำงานได้อย่างรวดเร็ว และมีความแม่นยำอยู่ในเกณฑ์ที่น่าประทับใจ และนอกจากจะใช้ในการปลดล็อคหน้าจอแสดงผลแล้ว ยังสามารถใช้ในการปกป้องข้อมูลส่วนตัวและการเข้าถึงแอปพลิเคชันได้อีกทางหนึ่งด้วย

Redmi Note 11 Pro 5G มาพร้อมหน้าจอ AMOLED แบบ Dot Drop ขนาด 6.67 นิ้ว ที่ให้สีสันสวยงามสมจริง บนความละเอียด FHD+ 2400×1080 (395ppi) ในอัตราส่วน 20:9 อัตรารีเฟรชสูง 120Hz (360Hz touch sampling rate) ความสว่างสูงสุด 1000 nits (nits peak ) รองรับขอบเขตสีแบบ DCI-P3 , อัตรา Contrast ratio: 4,500,000:1 ฟีเจอร์ช่วยถนอมสายตา Reading mode 3.0, Sunlight mode 2.0,  และครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 5  เรียกว่าเป็นสมาร์ตโฟนระดับเรือธง ที่มีหน้าจอแสดงผลที่ดีมาก ๆ ในตลาด ณ ขณะนี้ 

Redmi Note 11 Pro 5G ให้แบตเตอรี่ความจุสูงถึง 5,000mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วระดับเรือธงด้วย 67W turbo charging ที่สามารถชาร์จไฟจาก 0 ถึง 100% ได้ภายในเวลาประมาณ 42 นาที  และ 50% ในเวลาเพียง 15 นาที  รองรับการใช้งานได้ตลอดทั้งวัน อีกทั้งยังแถมอะแดปเตอร์ชาร์จเร็ว  67W มาให้ในกล่องด้วย

Facebook Notice for EU! You need to login to view and post FB Comments!

Adblock test (Why?)


รีวิว Redmi Note 11 Pro 5G ก้าวสู่ความท้าทายไปกับกล้องโปร 108 ล้านพิกเซล, จอ 120Hz และชาร์จเร็ว 67W Turbo Charging - mobileocta
Read More

รีวิว Death Stranding Director's Cut เล่นบน iPad Pro M2 - iPhoneMod

ในที่สุดสาวก Apple อย่างเราก็ได้เล่นเกม Death Stranding เวอร์ชัน Director’s Cut บนอุปกรณ์ Apple กันแล้ว ใครอยากลองเล่นเข้าไปซื้อเกมใน App S...