Rechercher dans ce blog

Sunday, December 31, 2023

ของขวัญไอทีแจกสุขปีใหม่ 67 เลือกแบบไหนให้ถูกใจคนรับ - เดลินิวส์ออนไลน์

โบกมือลา “ส่งท้ายปีเก่า” เพื่อ “ต้อนรับปีใหม่ 67” ถือเป็นช่วง “ส่งความสุข มอบของขวัญ” ให้กับคนที่รัก

แน่นอนว่าในยุคดิจิทัล สิ่งของที่นิยมมอบให้แก่กันคงไม่พ้น อุปกรณ์ไอที – เกดเจ็ตต่างๆ ก็ถือเป็นหนึ่งตัวเลือก ที่นิยมซื้อมอบให้กัน เพราะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้ในยุคนี้ได้

ซึ่งอุปกรณ์เหล่านนี้ก็มีราคาตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักหมื่นสามารถซื้อหากันได้ตามงบประมาณในกระเป๋า ซึ่งสินค้าที่ควรค่ามอบเป็นของขวัญให้แก่กันช่วงปีใหม่มีอะไรบ้าง วันนี้มีมาแนะนำกัน เริ่มกันที่

 สมาร์ทโฟน

ในยุคนี้ “สมาร์ทโฟน”หรือ “มือถือ” กลายเป็นอุปกรณ์ติดตัวที่ขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวันไปแล้ว ซึ่ง สมาร์ทโฟนได้ช่วยให้ชีวิตเราง่ายขึ้น นอกจากใช้ติดต่อสื่อสารแล้ว ยังสามารถใช้เพื่อทำงาน ทำธุรกรรมการเงิน และ ดูหนังฟังเพลง เพื่อควมบันเทิงได้

ซึ่งการเลือกซื้อสมาร์ทโฟน ควรจะพิจารณาปัจจัยหลักๆ คือ งบประมาณในกระเป๋า สไตล์การใช้งาน และความชอบระบบปฏิบัติการแอนดรอย์ (Android) หรือ ไอโอเอส (iOS)

โดยเรื่องงบประมาณสำคัญสุดเพราะจะบอกได้ว่าเราจะได้สมาร์ทโฟนระดับไหน สเปกยังไง นอกจากนี้ก็ควรดูสไตล์ การใช้งาน เช่น หากเลือกซื้อเป็นของขวัญให้ผู้สูงอายุ ซึ่งรูปแบบการใช้งานเพียงแค่โทรออก รับสาย เล่นไลน์ ซึ่งเป็นการใช้งานพื้นฐานนั้น เพียงสมาร์ทโฟนในระดับกลางถึงล่าง ราคาหลักพันบาท ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว

 แต่หากเป็นการใช้งานเพื่อใช้ในการดูหนัง ฟังเพลง เล่มเกม ก็ต้องใช้สเปกที่สูงขึ้น มี  CPU หรือ ชิปเซต ที่แรงมากขึ้น และหาก RAM / ROM ยิ่งเยอะ ทำให้ยิ่งเร็ว ไม่มีกระตุก และความจุของแบตเตอรี่ก็สำคัญ เพราะหากใช้เล่นเกม ดูหนัง ควรจะเลือกรุ่นที่แบตเตอรี่ความจุ และสุดท้ายควรจะเลือกสมาร์ทโฟนที่รองรับ 5G เพราะปัจจุบันผู้ใหบริการขยายโครงข่ายได้ครอบคลุมพื้นที่เกือบทั่วประเทศแล้ว ซื้อใหม่ทั้งทีเอาที่รองรับ 5 จีไปเลย!!

แท็บเล็ต

อุปกรณ์ที่หลายๆคน อยากมีไว้ใช้งาน เพราะขนาด เล็กกว่าคอมเพิวเตอร์ แต่หน้าจอใหญ่กว่าสมาร์ทโฟน ซึ่งสามารถใช้งานเพื่อเรียน และความบันเทิง ดูหนังฟังเพลง จึงถูกใจหลายๆคน หามาใช้ติดตัว หรือติดกระเป๋าไว้ ซึ่งหากจะซื้อแท็บเล็ต เป็นของขวัญปีใหม่นั้น ต้องเลือกระบบปฏิบัติการ ว่าจะเป็น  IOS คือ ไอแพด ของแอปเปิล หรือ จะเป็น ระบบปฏิบัติการ  Android ซึ่งก็มีหลากหลายยี่ห้อในตลาด หรือจะเป็น ระบบปฏิบัติการ Windows ของ ไมโครซอฟท์ก็มีเช่นกัน!!

หากคนที่เราจะซื้อเป็นขวัญให้ ใช้อุปกรณ์ของแอปเปิล อยู่ ก็ควรจะเป็น ไอแพด เพื่อให้สามารถ เชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่น และอุปกรณ์ของแอปเปิลได้  ส่วน ถ้าเป็น Windows ก็จะสามารถใช้งานเอกสาร ร่วมกับโปรแกรมตระกูล Microsoft และ Adobe โดยไม่ต้องแปลงไฟล์

จากนั้นก็พิจารณาเรื่องความจุ จะต้องใช้งานเพื่อเก็บไฟล์ คลิปต่างๆ จำนวนมากหรือไม่ และก็แน่นอนว่าการใช้งานต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ต้องการแค่ แท็บเล็ตแบบเชื่อมต่อ Wi-Fi อย่างเดียว หรือ แบบ Wi-Fi + Cellular สามารถใส่ซิมการ์ดได้ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อได้ทุกเวลาที่ต้องการใช้งาน ไม่ต้องคอยหาจุดเชื่อมต่อไว-ไฟ  ซึ่งหากเป็น แท็บเล็ตที่ใส่ซิมการ์ดได้ ราคาก็จะสูงกว่าแบบเชื่อมต่อไว-ไฟ อย่างเดียว ส่วนขนาดหน้าจอก็มีให้เลือก หลายขนาด อยู่ที่ความต้องการใช้งานของแต่ละคน หากหน้าจอเล็ก น้ำหนักก็เบาลง ถือไปมาพกพาได้สะดวกมากขึ้น

โน๊ตบุ๊ค

 ถือเป็นอุปกรณ์ที่ติดเป้ ติดกระเป๋าของทั้งวัยทำงานและวัยเรียน หากต้องการซื้อ คอมพิวเตอร์ เป็นของขวัญช่วงปีใหม่นี้  สิ่งที่ต้องดูอันดับแรก คือ งบประมาณ เพราะเป็นปัจจัยบอกว่าจะสามารถ ซื้อโน้ตบุ๊คได้สเปคแบบไหน และลักษณะการใช้งาน คือ อยากได้ขนาดที่บางเบา  ขนาดหน้าจอเท่าไร? หรือใช้เพื่อเล่นเกม ก็ต้องมีสเปคแรงๆ ต้องมี  ซีพียู  แรม และการ์ดจอที่สเปคสูง แต่ก็แน่นอนว่าราคาก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย เช่นเดียวกันหากอยากได้มาใช้เพื่อทำงาน กราฟิค ตัดต่อ ก็ต้องมีสเปคสูงเช่นกัน ก็สามารถเลือกได้ตามกำลังทรัพย์ และลักษณะการใช้งานได้เลย ซึ่งก็มีหลายแบรนด์ หลายสเปคที่วางขายในขณะนี้!

สมาร์ทวอชท์

ยุคนี้ทุกคนหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพ ตื่นตัวในการออกกำลังกายกัน ซึ่งอุปกรณ์ที่ติดคู่กายสำหรับการออกกำลังกาย และเล่นกีฬาก็หนีไม่พ้น  “สมาร์ทวอชท์” ที่สามารถใช้ดูเวลาได้แล้ว ยังสามารถใช้เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน รับสายเรียกเข้า การแจ้งเตือนข้อความต่างๆ และที่สำคัญ คือ  ใช้เพื่อจับอัตราการเต้นของหัวใจ ค่าออกซิเจนในเลือด และการวัดแคลอรี เผาผลาญพลังงานระหว่างวัน การเดินและออกกำลังกาย

สำหรับ“สมาร์ทวอชท์” ที่วางขายในในปัจจุบันก็มีมายมายหลายแบรนด์ ทั้งแบรนด์ของมือถือ และแบรนด์ที่ ผลิตสมาร์ทวอชท์โดยตรง ส่วนราคาก็มีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่นบาท ซึ่งแน่นอนว่า ยิ่งราคาแพง ก็ยิ่งมีฟังกชั่น การใช้งานที่ครบถ้วนและวัสดุในการผลิต หน้าจอที่มีคุณภาพ

การเลือกซื้อ“สมาร์ทวอชท์” อันดับแรกต้องดูเรื่องระบบปฎิบัติการ เพราะ “สมาร์ทวอชท์”  นั้นจะต้องเชื่อมต่อและทำงานกับสมาร์ทโฟน จากนั้นก็ขนาด ดีไซน์ และหน้าจอ เมื่อสวมใส่เหมาะหรือเข้ากับ ข้อมือคนที่จะใส่หรือไม่ รวมดูเรื่องฟังกชั่นการใช้งาน เช่น การออกกำลังกาย มีกีฬาอะไรบ้าง เช่น ว่ายน้ำ จักรยาน  เป็นต้น คลอบคลุมกีฬาที่เราเล่นหรือไม่  มี จีพีเอส และ มาตรฐานการกันน้ำ อยู่ในระดับใด? และที่สำคัญคือ ความจุของแบตเตอรี่ ใช้งานยาวนานต่อเนื่องได้กี่วัน?

ซึ่ง “สมาร์ทวอชท์”  แต่ละแบรนด์นั้นแตกต่างกันไป จึงเป็นปัจจัยที่ต้องพิจารณาก่อนการตัดสินใจซื้อ เป็นของขวัญให้คนที่รัก!?!

หูฟัง

แน่อนอนว่า “หูฟัง” ถือเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่น่าซื้อหาเป็นของขวัญในช่วงปีใหม่นี้ เพราะเป็นอุปกรณ์ไอที ที่พกพาไว้ใช้งาน ระหว่างทำงาน เดินทาง และออกกำลังกายก็ได้หมด ซึ่งในปัจจุบัน หูฟัง ก็มีวางขาย ทั้งมีสาย ไร้สาย   และหลายรูปแบบ ทั้ง หูฟังคาดศีรษะ (On-Ear Headphones) หูฟังอินเอียร์ (In-Ear Earphones) หูฟังเอียร์บัดไร้วาย (Earbuds Wireless Headphones) เป็นต้น ซึ่งแต่ละแบบก็มีการใช้งานที่แตกต่างกัน สามารถเลือกใช้ได้ตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน

ราคาขายก็ตั้งแต่หลักร้อย ไปจนถึงหลักหมื่น มีทั้งแบรด์ของมือถือ ไปจนเบรน์ดเครื่องเสียงลำโพงชื่อดัง การเลือกซื้อ พิจารณาตามไลฟ์สไตล์ หากใช้เพื่อดูหนัง ฟังเพลง  ก็ต้องพิจารณาเรื่องคุณภาพเสียง และบางรุ่น สามารถตัดเสียงรบกวนได้ และหากใช้ตอนออกกำลังกาย  ก็ต้องพิจารณารุ่นที่กันน้ำได้  เพื่อป้องกันเหงื่อที่ออกมา อาจทำให้หูฟังมีปัญหาได้ สุดท้ายที่สำคัญควรเลือกที่สวมใส่สบายๆ ดูขนาด การออกแบบ  เพราะบางครั้งต้องใช้งานยาวๆ หลายชั่วโมงอาจทำให้ปวดหูได้ ทำให้สุนทรีย์ในการใช้หูฟังลดน้อยลง !?!

ทั้งหมดเป็นอุปกรณ์และแกดเจ็ทไอที ที่เหมาะสำหรับเลือกซื้อเป็นของขวัญให้คนที่รักในช่วงเทศกาลปีใหม่ แบบนี้ และใครจะเดินทางท่องเที่ยวหรือกลับบ้านต่างจังหวัดช่วงปีใหม่นี้ ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ และโชคดีปีใหม่ 2567 กันทุกคน!!

จิราวัฒน์ จารุพันธ์

ภาพ : pixabay.com

Adblock test (Why?)


ของขวัญไอทีแจกสุขปีใหม่ 67 เลือกแบบไหนให้ถูกใจคนรับ - เดลินิวส์ออนไลน์
Read More

ย้อนอดีต Internet Explorer จากจุดสูงสุด สู่ตำนานที่จบลง - TrueID News

โปรแกรม Web Browser ในตำนานอย่าง Internet Explorer หรือชื่อย่อว่า IE หลายคนพอจะทราบว่าได้ปิดตำนาน ยุติการสนับสนุนอีกต่อไป บทความนี้จะมาเล่าตำนานของ Internet Explorer ให้ทั้งผู้ที่เกิดทันได้ย้อนตำนานไปด้วยกัน และคนที่อาจไม่ทันใช้ตั้งแต่ยุครุ่งเรืองได้เห็นที่มาที่ไปของ Browser ตัวนี้กันนะครับ

จุดเริ่มต้นของ Internet Explorer

ก่อนอื่นเราต้องพาย้อนไปดูว่าก่อนที่ Internet Explorer จะปรากฏตัวออกมา ในอดีตเราใช้เบราว์เซอร์อะไรในการท่องเน็ตบน PC ทั่วไปกัน โดยเบราว์เซอร์ตัวแรกนั่นก็คือ Mosaic ครับ (ขอไม่นับ “WorldWideWeb” เนื่องจากยังไม่ใช่โปรแกรมที่นิยมใช้กันเป็นวงกว้าง)

Mosaic โดย NCSA ออกครั้งแรกในปี 1993 จนกระทั่งในปี 1994 ก็มีเบราว์เซอร์ตัวที่สองออกสู่ตลาด ซึ่งความจริงก็สร้างโดยโปรแกรมเมอร์หลักของ Mosaic นั่นเอง

ช่วงที่ Netscape ทำตลาดใหม่ ๆ ได้รับความนิยมสูงสุด ในบรรดาเบราว์เซอร์ที่ออกสู่ตลาดทั้งหมดในยุคนั้น เพราะเป็นโปรแกรมที่ประสิทธิภาพดีที่สุด แม้ว่าในขณะนั้นเป็นโปรแกรมที่ต้องเสียเงินค่าลิขสิทธิ์ในการใช้งาน

https://ift.tt/zYdnKIP

หรืออาจจะมีการแถมพ่วงไปกับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตบางราย หรือแถมมากับตอนซื้อโมเด็ม (สมัยก่อนติดเน็ตต้องซื้อโมเด็มมาเองด้วยนะครับ)

และ Internet Explorer มาตอนไหน?

ในปี 1995 บริษัท Microsoft เจ้าของระบบปฏิบัติการ Windows ที่เรารู้จักกันดี เริ่มรู้สึกว่าตัวเองช้าไปแล้ว หลังจากที่ไม่เคยคิดว่าอินเทอร์เน็ตจะมาแรง จึงจำเป็นต้องออกโปรแกรม Web Browser ของตัวเองแล้ว เพื่อให้อนาคตสามารถต่อยอดไปยังบริการอื่น ๆ ของตัวเองบนอินเทอร์เน็ตได้ และอาจกลายเป็นผู้กำหนดทิศทางอินเทอร์เน็ตในอนาคต แต่ว่าด้วยความที่เร่งด่วนมาก ก็เลยไปซื้อลิขสิทธิ์โค้ดจากบริษัท Spyglass ซึ่งบริษัทนี้ก็ได้รับสิทธิ์โค้ดมาจาก Mosaic ของทาง NCSA นั่นแหละครับ

ซึ่ง IE เวอร์ชั่นแรกนั้น ออกสู่ตลาดในปี 1995 แต่ว่ายังไม่ได้รับความนิยมนัก เนื่องจากว่ายังไม่ได้ใส่มาพร้อมกับ Windows (แม้ภายหลังแถมมาให้กับแผ่นติดตั้ง Windows 95 เวอร์ชั่นแรกล็อตท้าย ๆ แต่ผู้ใช้ก็ต้องทำการติดตั้งเอง) จนกระทั่งให้มาพร้อมกับ Microsoft Plus! For Windows 95 และออก IE เวอร์ชั่น 2 ใส่มาพร้อมกับ Windows NT 4.0 พร้อมทั้งออกโปรแกรมเวอร์ชั่น Mac สำหรับให้ผู้ใช้ Mac และออกเวอร์ชั่นสำหรับ Windows รุ่นเก่า นำไปติดตั้งได้ ทั้งขายและแจกฟรี แต่ว่าคุณภาพของโปรแกรมตอนนั้นก็ยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ จึงยังไม่ค่อยได้รับความนิยม

https://ift.tt/HI4n1zw

https://ift.tt/z0hXvAO

แต่จุดพีคคือโปรแกรม IE เวอร์ชั่นหลัง ๆ พัฒนาจนดีขึ้นมาก ไม่ว่าจะเป็น IE3 ที่ให้มากับ Windows 95 OSR 2.1, IE4 ที่ให้มากับ Windows 95 C, Windows 98 และ IE ที่มากับWindows 98SE, Windows 2000 ทำให้ IE มีส่วนแบ่งผู้ใช้สูงสุด จนแซง Netscape ไปไกล เพราะในขณะนั้น Netscape ยังต้องเสียเงินซื้อมาใช้งาน และ IE มาพร้อมกับ Windows แถมคุณภาพดีแบบนี้ ก็ไม่มีความจำเป็นต้องไปซื้อ Netscape ยกเว้นผู้ที่จงรักภัคดี (แม้ในยุคนี้ก็มีผู้เล่นหน้าใหม่คือ ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของประเทศใหญ่ ๆ บางรายก็ออก Browser ของตัวเองให้ลูกค้าตัวเองใช้ด้วยก็ตาม แต่ก็ต้องติดตั้งเพิ่มและไม่บังคับให้ใช้)

และไม่ใช่แค่บน Windows ช่วงนั้น Apple ยังไม่มี Browser ของตัวเองและก็มีการร่วมมือหลายอย่างกับ Microsoft หนึ่งในนั้นคือใส่ IE มากับเครื่อง Mac พร้อมใช้ทันทีที่ซื้อเครื่องอีกด้วย

Macworld Boston 1997-The Microsoft Deal – YouTube

https://ift.tt/Mvw98bk

IE 3 ที่มาพร้อมกับ Windows 95 B OSR 2.1

IE 5 ที่มาพร้อมกับ Windows 98 SE

IE 5 ที่มาพร้อมกับ Windows 2000

ช่วงนี้ส่วนแบ่งของ IE จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อย่างชัดเจน Netscape ร่วง แม้จะปรับมาแจกฟรีแต่ว่าไม่ได้มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ ก็มาช้าไปแล้ว จนต้องแยกตัวออกมาเป็น Firefox จึงพอจะมีส่วนแบ่งดีขึ้นเรื่อย ๆ นั่นเอง 

www.csmonitor.com

ทำไมช่วงหนึ่ง IE ถึงครองตลาด และเริ่มเสื่อมความนิยมตอนไหน?

นอกจากมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการแล้ว ยุคหนึ่งเป็น Browser ที่ดีพอสมควร ทำให้ Browser อื่นแม้จะฟรีก็มีคนเข้าไปโหลดมาติดตั้งน้อย โดยเฉพาะช่วงที่ IE 6 ออก มาพร้อมกับ Windows XP 

แม้แต่ผู้ที่ใช้ Windows รุ่นเก่าแทนที่จะโหลด Browser อื่นมาใช้ แต่กลับเลือกที่ดาวน์โหลดอัปเกรด IE เก่าให้เป็น IE6 กันเป็นส่วนใหญ่

แต่ความเสื่อมนิยมของ IE ก็เริ่มต้นขึ้นในช่วงปี 2007 เป็นต้นมา เนื่องจาก IE เวอร์ชั่นใหม่ ๆ หลังจากนี้พัฒนาค่อนข้างช้า และขาดคุณสมบัติรองรับมาตรฐานเว็บใหม่ ๆ หลายอย่าง และประมวลผลเว็บสมัยใหม่ไม่ค่อยดีและทำงานกับเว็บใหม่ ๆ ช้า จึงทำให้คนเปิดใจที่จะ “เปิด IE เพื่อไปโหลด Browser อื่นมาทดแทน” และการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของ Firefox ที่เร่งเครื่องตั้งแต่ปี 2008 ปรับการออกเวอร์ชั่นใหม่ให้ถี่ขึ้น รวมถึงยักษ์ใหญ่ Search Engine อย่าง Google ก็ทำ Chrome ออกมา 

จนทาง Microsoft พัฒนา IE เวอร์ชั่นสุดท้ายออกมาในปี 2013 นั่นก็คือ IE11 จนตัดสินใจพัฒนา Browser ตัวใหม่อย่าง Microsoft Edge มาแทน ซึ่งภายหลัง Microsoft Edge ก็ใช้ Engine Chromium เหมือนกับ Chrome ทำให้ปัจจุบันผู้ใช้หันกลับมาสนใจที่จะใช้งานBrowser ของ Microsoft ตัวใหม่มากขึ้นกว่าเดิม

เลิก Support แต่ทำไมบางคนถึงยังต้องใช้อยู่?

เนื่องจากยังมีเว็บเฉพาะทางเช่น เว็บภายในองค์กร หรือเว็บสำหรับอุปกรณ์เฉพาะทางต่าง ๆ ที่ใช้งานมานานยังรองรับเฉพาะ IE อยู่ และยังไม่พร้อมที่จะปรับปรุงให้รองรับ Browser ตัวอื่น ซึ่งต้องใช้เวลาและเงินทุนจำนวนมาก จึงยังมีความจำเป็นต้องใช้ IE เพื่อเข้าเฉพาะเว็บเหล่านั้น

แม้ทาง Microsoft จะประกาศว่า IE ไม่สามารถเปิดใช้งานได้แล้ว แต่ความจริงยังคงใช้งานได้ผ่านทาง IE Mode บน Microsoft Edge รวมถึงส่วนขยาย IE Tab สำหรับ Chrome และ Edge และยังคงเปิดใช้งาน IE ได้บน Windows 10 LTSB, Windows 10 LTSC, Windows Server

ที่มา:

https://ift.tt/AtoJvzE

https://ift.tt/z0hXvAO

https://ift.tt/o8mlWqY

Adblock test (Why?)


ย้อนอดีต Internet Explorer จากจุดสูงสุด สู่ตำนานที่จบลง - TrueID News
Read More

JSAUX Gaming Docking Station สำหรับ Steam Deck, ROG Ally - UNDER.CO.TH - ใต้ โต๊ะ คอม

แบรนด์ชื่อไม่คุ้นหู JSAUX ออกแท่น Docking Station ตัวใหม่ สำหรับเครื่องเกมพกพา Steam Deck และ ASUS ROG Ally มีพอร์ตมาให้เพียบ พร้อมวัสดุพลาสติกใสมองเห็นทะลุไฟ RGB

ถือเป็นแบรนด์ต่างประเทศที่ทำอุปกรณ์สายเกมมิ่งมากมากมายหลากหลายชิ้นแล้ว แต่อาจจะยังไม่ได้มีนำเข้ามาขายในบ้านเรา แต่สเปก และดีไซน์นั้นน่าจะถูกใจเกมเมอร์หลากหลายคนอย่างแน่นอน

Station ตัวนี้เป็นรุ่น HB1201S และ HB08101S มีมาด้วยกัน 2 ตัว ขนาดตัวที่ 150 x 92 มม. แต่จะแตกต่างในเรื่องของสเปก และฟีเจอร์ไป อย่างเรื่องพอร์ตต่าง ๆ ที่ให้มานั่นเอง

JSAUX

ตัว HB0801S จะให้ HDMI มาแค่ช่องเดียว รองรับ Output ที่ความละเอียด 8K หรือปรับเป็น 2K ได้จะเพิ่มความลื่นมาเป็น 240 Hz ส่วน HB1201S จะให้ HDMI และ DisplayPort 1.4 มาด้วย

พอร์ตอื่น ๆ นั้นมี USB 2.0, Ethernet Gigabit, USB 3.2 Type-A x2 และ Type-C x1 รองรับมาตรฐานจ่ายไฟ USB PD สูงสุดที่ 100W

ตัว HB1201S ยังมีช่องอ่านการ์ดมาให้เพิ่มด้วย และช่องต่อหูฟัง แต่จะไม่มีในรุ่น HB0801S

ราคาค่าตัว HB0801S ที่ $70 ประมาณ 2,400 บาท ส่วน HB1201S ที่ $100 ประมาณ 3,500 บาท

ที่มา t.ly/wL5Zd

Adblock test (Why?)


JSAUX Gaming Docking Station สำหรับ Steam Deck, ROG Ally - UNDER.CO.TH - ใต้ โต๊ะ คอม
Read More

Logitech G Yeti Orb ไมโครโฟนเกมมิ่ง Condenser มีไฟ RGB ใช้งานง่าย ไม่ต้องติดตั้งไดรเวอร์ - Siamphone

ไมโครโฟน Logitech G Yeti Orb มาพร้อมกับดีไซน์ทรงกลมเป็นลูก Orb ตามชื่อรุ่น พร้อมด้วยขาตั้งแบบสามขา ช่วยเพิ่มความโดดเด่นในการตั้งได้อย่างสวยงาม เลือกมุมแสดงโลโก้ได้ทั้งแบบมุมเงยและมุมตรงได้ง่าย ๆ อีกทั้งตัววัสดุยังทำจาก PCR ที่ให้ความแข็งแกร่ง ทนทาน มีสีดำด้านเพิ่มความโดดเด่นได้อีกด้วยทำให้การนำไปวางไว้ตรงโต๊ะทำงานนั้นจะช่วยตกแต่งโต๊ะได้ดูดียิ่งขึ้น

Logitech G Yeti Orb เป็นไมโครโฟนที่มีการรับเสียงแบบ Cardioid ทำให้การพูดหรือบันทึกเสียงนั้นชัดเจนด้วยการตอบสนองความถี่ 70Hz-20KHz ที่จะโฟกัสเสียงพูดได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเอาไปใช้สื่อสารแบบเรียลไทม์หรือบันทึกเสียงก็สามารถรับเสียงได้แบบเต็มที่

ในส่วนของพอร์ตการเชื่อมต่อ ไมโครโฟนตัวนี้ใช้งานการเชื่อมต่อแบบเสียบสายแล้วใช้งานได้เลย โดยเป็นตัวสาย USB-C ต่อเข้าที่ตัวไมค์ และนำด้าน USB-A ต่อเข้าที่อุปกรณ์ ใช้งานได้ทันทีไม่ต้องติดตั้งไดรเวอร์

ตัวซอฟต์แวร์ใช้งานง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุ้นเคยกับ Logitech G Hub ที่เป็นซอฟต์แวร์เฉพาะของแบรนด์ สามารถตั้งค่าเชิงลึกได้เลยอย่างเช่น ปรับแต่งการตั้งค่าแสงและเสียง ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งไฟ RGB การเปิดใช้งานฟีเจอร์ Blue VO!CE ที่จะทำให้เสียงที่ออกจากไมโครโฟนตัวนี้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ช่วยป้องกันเสียงขาดหายและเพิ่มเอฟเฟกต์สนุกสนานสร้างความบันเทิงให้กับผู้ชมได้ด้วย

ไมโครโฟน Logitech G Yeti Orb สามารถนำไปใช้งานร่วมกันกับอุปกรณ์ที่มีพอร์ต USB อย่าง Mac และ Windows รวมถึงสมาร์ทโฟนที่มีพอร์ต USB-C ทุกรุ่น

สเปคและรายละเอียด

  • น้ำหนัก: 230 กรัม
  • สูง: 196 มม.
  • กว้าง: 115 มม.
  • ความลึก:: 115 มม.
  • ชนิด: คอนเดนเซอร์
  • คุณภาพเสียง: 24 บิต / 48KHz
  • รูปแบบขั้ว: คาร์ดิออยด์
  • การตอบสนองความถี่: 70Hz-20KHz
  • SPL สูงสุด: 117 dB (THD 1 kHz)
  • ตัวเชื่อมต่อ: USB-C เป็น USB-A

  • Dynamic Range: 95 dB

  • อัตราส่วนสัญญาณต่อเสียงรบกวน: 72 dB

  • แสงไฟ: RGB พร้อม LIGHTSYNC

  • ส่วนติดตั้ง: ขาตั้งในตัวหรือเกลียวยึด ¼”-20

อุปกรณ์ภายในกล่อง

  • 1x ไมโครโฟน Logitech G Yeti Orb Microphone
  • 1x ขาตั้ง Tripod
  • 1x สาย USB-C to USB-A
  • 1x คู่มือการใช้งานเบื้องต้น

แหล่งที่มา yankodesign, logitechg

Adblock test (Why?)


Logitech G Yeti Orb ไมโครโฟนเกมมิ่ง Condenser มีไฟ RGB ใช้งานง่าย ไม่ต้องติดตั้งไดรเวอร์ - Siamphone
Read More

Saturday, December 30, 2023

เปิดตัวหูฟัง Audio-Technica ATH-M50xBT และ ATH-M50x สี Ice Blue - Techoffside.com

RTB เปิดตัวหูฟัง Audio-Technica รุ่น ATH-M50xBT และ ATH-M50x สีใหม่ Ice Blue ด้วยการออกแบบเป็นสีเขียวมิ้นท์สดใสตัดกับสีดำได้อย่างลงตัว

ATH-M50xBT Ice Blue (ATH-M50xBT2IB) 

ATH-M50xBT Ice Blue (ATH-M50xBT2IB) 

หูฟังไร้สายแบบครอบหูในตระกูล M-Series รุ่นที่สองในกลุ่ม Studio Monitor ที่มืออาชีพนิยมใช้ในการทำเพลง โดดเด่นด้วยการออกแบบไร้สายที่มอบเสียงคุณภาพสูงและความสะดวกสบายในขณะเดินทาง ด้วยไดรเวอร์ขนาดใหญ่ 45 มิลลิเมตร ที่เป็นกรรมสิทธิ์และแอมพลิฟายเออร์ที่มอบความคมชัดเป็นพิเศษตลอดช่วงความถี่ที่ขยาย พร้อมการตอบสนองเสียงเบสที่นุ่มลึกและแม่นยำ

นอกจากนี้ยังมาพร้อมไมโครโฟนคู่และเทคโนโลยีบีมฟอร์มิ่งจะช่วยให้คุณมั่นใจในคุณภาพการโทรที่คมชัดยิ่งขึ้น ทั้งยังได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันในทุกรายละเอียด และสวมใส่สบายด้วยวัสดุชั้นเยี่ยม สามารถใส่ฟังเพลง ใส่ทำงาน และฟังเพลงได้เป็นเวลานานโดยไม่เจ็บหู อีกทั้งยังทนทาน สามารถพับเก็บและหมุนได้ 90 องศา ช่วยเพิ่มความคล่องตัวเมื่อต้องการใช้งานได้อย่างสะดวกไม่ว่าจะที่ไหนก็ตาม

ที่ตัวหูฟังจะมีปุ่มควบคุมบนเอียร์คัพจะช่วยควบคุมระดับเสียง และเพิ่มความสะดวกในการฟังเพลง เลือกเพลง รับสาย วางสาย และปรับระดับความดังของเสียงเพลงด้วยปุ่มควบคุมที่ตัวหูฟัง หรือควบคุมการสั่งงานผ่าน Audio-Technica Connect App บนสมาร์ทโฟนได้อย่างสะดวกและง่ายดายยิ่งขึ้น โดยในมาพร้อมสายเคเบิ้ลเพื่อรองรับการใช้งานขนาด 1.2 เมตร และสายชาร์จขนาด 30 เซนติเมตร และตัวแบตเตอรี่รองรับการใช้งานแบบไร้สายได้นานต่อเนื่องสูงสุด 50 ชั่วโมงต่อการชาร์จเต็มผ่าน USB-C  โดยสามารถหาซื้อ Audio-Technica ATH-M50xBT2IB ได้แล้ววันนี้ ในราคา 8,990 บาท

ATH-M50x Ice Blue (ATH-M50xIB) 

ATH-M50x Ice Blue (ATH-M50xIB) 

หูฟัง Studio Monitor ที่ได้รับการยกย่องจากวิศวกรเสียงชั้นนำและผู้ตรวจสอบเสียงระดับมืออาชีพ ทั้งยังได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่อตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการได้ยินทุกรายละเอียดและความเป็นธรรมชาติของเสียงเพลง หรือต้องการใช้ในงานอัดเสียงในสตูดิโอระดับมืออาชีพ เนื่องจากความโดดเด่นของระบบเสียงสุดคมชัด โดยไม่ปรุงแต่งย่านเสียงต่างๆ ทำให้ได้รายละเอียดของเสียงที่สมดุลครบเครื่องในทุกย่านเสียงและพลังเสียงเบสที่นุ่มลึก ด้วยไดรเวอร์ขับเสียงขนาดใหญ่ 45 มิลลิเมตร ช่วยให้การถ่ายทอดเสียงมีความชัดเจนและสมจริงเป็นธรรมชาติใกล้เคียงกับต้นฉบับเป็นอย่างมาก

See also

ตัวหูฟังผลิตจากวัสดุพลาสติกขึ้นรูปชั้นเยี่ยมพร้อมที่ครอบหูเกรดเดียวกับหูฟังมืออาชีพ ให้ความสบาย ทำให้สามารถใส่ฟังเพลงได้เป็นเวลานานโดยไม่เจ็บหู และช่วยให้ได้ยินเสียงเพลงคมชัดทุกรายละเอียด ไม่โดนรบกวนจากเสียงภายนอก ทั้งยังทนทาน สามารถพับเก็บใส่กระเป๋าและหมุนได้ 90 องศา อีกทั้งสายหูฟังยังสามารถถอดออกได้ จึงเหมาะกับการพกพาใช้งานเมื่อเดินทางได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น โดยสามารถหาซื้อATH-M50x Ice Blue (ATH-M50xIB) ในราคา 7,490 บาท

หูฟังคอลเลคชั่นพิเศษ Limited Edition ประจำปี 2023 รุ่น ATH-M50xBT2IB  และรุ่น ATH-M50xIB สี Ice Blue จะวางจำหน่ายแล้ววันนี้ที่ Sound Proof Bros., Pro Gadget Thailand และสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านทาง  www.facebook.com/AudioTechnica.Thailand

Adblock test (Why?)


เปิดตัวหูฟัง Audio-Technica ATH-M50xBT และ ATH-M50x สี Ice Blue - Techoffside.com
Read More

ชวนเก็บภาพถ่ายส่งท้ายปีให้พิเศษทุกความรู้สึกด้วย vivo V29 5G - Siamphone

vivo เตรียมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ชวนแฟนๆ ชาวไทยมาร่วมเนรมิตช่วงเวลาแห่งความสุขให้พิเศษกว่าที่เคยด้วย V29 5G สมาร์ทโฟนตัวท็อปสำหรับสายพอร์ตเทรต โดดเด่นด้วยฟีเจอร์และเทคโนโลยีการถ่ายภาพเหนือระดับ ให้ผู้ใช้งานได้บันทึกทุกรายละเอียดของโมเมนต์สำคัญได้อย่างสวยงามเป็นธรรมชาติ พร้อมส่งมอบความสุขให้แฟนๆ vivo ด้วยการส่งโปรโมชันพิเศษให้ผู้ที่สนใจสามารถเป็นเจ้าของ V29 5G ได้ในราคาที่จับต้องได้ยิ่งขึ้น พร้อมรับของขวัญส่งท้ายปีจาก vivo อีกเพียบ!

สิ่งที่คนรักการถ่ายภาพพลาดไม่ได้สำหรับช่วงสิ้นปีซึ่งเป็นเวลาแห่งความสุขและการเฉลิมฉลอง คือการมีสมาร์ทโฟนที่โดดเด่นเรื่องการถ่ายภาพอย่าง vivo V29 5G ไว้เพื่อบันทึกช่วงเวลาและความรู้สึกสุดพิเศษ ไม่ว่าจะภาพถ่ายครอบครัว เพื่อนฝูง หรือบรรยากาศของชั่วโมงข้ามปี V29 5G ก็พร้อมส่งมอบผลลัพธ์ภาพถ่ายอันน่าประทับใจในทุกๆ ช็อต

vivo V29 5G สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดจาก V Series ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่รักการถ่ายภาพด้วยระบบ Aura Light Portrait 2.0 มาพร้อม ‘วงแหวนออร่า’ ขนาดใหญ่ขึ้นและเทคโนโลยี Smart Temperature Adjustment ช่วยปรับอุณหภูมิแสงเป็นโทนอุ่น-โทนเย็นตามสภาพแวดล้อม มอบผลลัพธ์ภาพถ่ายพอร์ตเทรตกับบรรยากาศเทศกาลยามค่ำคืนที่สว่างและคมชัดอย่างเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังมาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซลฟี่ได้กว้างขึ้น เก็บภาพโมเมนต์สำคัญกับคนพิเศษได้ครบทุกดีเทล นอกจากนี้ V29 5G ยังมาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 4600mAh ให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ว่าจะสามารถดื่มด่ำกับช่วงเวลาแห่งความสุขได้อย่างเต็มที่ตลอดวัน

vivo V29 5G โดดเด่นด้วยดีไซน์เรียบหรู พร้อมวัสดุและเทคโนโลยีการผลิตระดับพรีเมียม มาพร้อม 4 ตัวเลือกสี ได้แก่ สีม่วง Starry Purple สีแดงเข้ม Magic Maroon สีดำ Noble Black และสีใหม่ล่าสุด สีชมพู Rose Pink พร้อมให้ผู้ใช้งานทุกไลฟ์สไตล์ได้ถ่ายภาพพอร์ตเทรตในชั่วโมงพิเศษให้สวยกว่าที่เคย สำหรับผู้ที่อยากจะส่งต่อความสุขให้กับคนที่รักในช่วงเทศกาล V29 5G ก็สามารถเป็นของขวัญที่ผู้รับจะประทับใจได้เช่นกัน

vivo พร้อมเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลแห่งการให้ด้วยการมอบโปรโมชันส่งท้ายปีให้แฟนๆ ได้เป็นเจ้าของ vivo V29 5G ในราคาที่จับต้องได้ยิ่งขึ้น พร้อมรับของสมนาคุณสุดพิเศษ ดังนี้

  • ผู้ที่สั่งซื้อ vivo V29 5G สีม่วง Starry Purple สีแดงเข้ม Magic Maroon และสีดำ Noble Black รุ่นความจุ 12GB + 512GB ราคาพิเศษ 15,999 บาท รับฟรี Limited Box Set มูลค่า 10,398 บาท
  • ผู้ที่สั่งซื้อ vivo V29 5G สีชมพู Rose Pink รุ่นความจุ 12GB + 512GB ราคา 13,999 บาท รับฟรี Pink Limited Box Set มูลค่า 10,398 บาท

พิเศษสองต่อสำหรับแฟนๆ vivo ที่สั่งซื้อสมาร์ทโฟนผ่าน vivo Brand Shop ระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2566 - 7 มกราคม 2567 รับฟรีบัตร Viu Premium ระยะเวลา 6 เดือน มูลค่า 769.- ภายใต้แคมเปญ vivo MEGA FEST 2023 ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ก vivo Thailand และเว็บไซต์ https://www.vivo.com/th

Adblock test (Why?)


ชวนเก็บภาพถ่ายส่งท้ายปีให้พิเศษทุกความรู้สึกด้วย vivo V29 5G - Siamphone
Read More

Thursday, December 28, 2023

Gaston Glock ชายผู้อยู่เบื้องหลังปืน Glock เสียชีวิตแล้วในวัย 94 ปี - Post Today

ตำรวจสหรัฐฯ จำนวนมากใช้เพลงเหล่านี้ และแร็ปเปอร์ชาวอเมริกันก็แต่งเพลงเหล่านี้ให้เข้ากับเพลงของพวกเขา เช่น "Protocol" ของ Snoop Dogg และเพลง "Da Glock" ของ Wu-Tang Clan

ทหารสหรัฐฯ โค่นล้มประธานาธิบดีอิรัก ซัดดัม ฮุสเซน พบเขาซ่อนตัวอยู่กับปืนกล็อคในอุโมงเมื่อปี พ.ศ. 2546 ต่อมาพวกเขาก็ได้มอบอาวุธดังกล่าวแก่ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ของสหรัฐฯ ตามรายงานของนิวยอร์กไทมส์

กลุ่มสนับสนุนการควบคุมปืน วิพากษ์วิจารณ์กล็อคที่จำหน่ายปืนอานุภาพสูงที่พวกเขากล่าวว่าซุกซ่อนได้ง่ายและสามารถบรรจุกระสุนได้มากกว่าปืนอื่นๆ

อดีตทหารผ่านศึกนาวิกโยธินสหรัฐฯ ซึ่งติดอาวุธตามที่ตำรวจเรียกว่ากล็อค .45 พร้อมด้วยแม็กกาซีนความจุสูง คร่าชีวิตผู้คนไป 12 รายในบาร์แห่งหนึ่งในเมืองเทาซันด์โอ๊คส์ แคลิฟอร์เนีย เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ดีแลนน์ รูฟ ชายผิวขาวใช้ปืนพกกล็อคสังหารชาวแอฟริกันอเมริกัน 9 คนระหว่างการศึกษาพระคัมภีร์ที่โบสถ์แห่งหนึ่งในเมืองชาร์ลสตัน รัฐเซาท์แคโรไลนา เมื่อเดือนมิถุนายน 2558

Gaston Glock ชายผู้อยู่เบื้องหลังปืน Glock เสียชีวิตแล้วในวัย 94 ปี

Adblock test (Why?)


Gaston Glock ชายผู้อยู่เบื้องหลังปืน Glock เสียชีวิตแล้วในวัย 94 ปี - Post Today
Read More

แนะนำแท็บเล็ต 4 รุ่น ประจำปี 2023 มีรุ่นไหนบ้างที่น่าสนใจ ? - กรุงเทพธุรกิจ

พบกับแท็บเล็ต 4 รุ่น ประจำปี 2023 มีรุ่นไหนบ้างที่น่าสนใจ พร้อมแนะนำสเปก และสีที่ชอบให้ตรงกับไลฟ์สไตล์การใช้งาน ติดตามอ่านได้จากบทความนี้

ในปัจจุบัน "แท็บเล็ต" ได้มีการเปิดตัวออกมาหลายรุ่น ทำให้หลายๆ คนไม่รู้จะเลือกซื้อรุ่นไหนดี ในวันนี้จะมาแนะนำแท็บเล็ต Samsung 4 รุ่น ประจำปี 2023 ให้ได้รู้จักกัน 

แท็บเล็ตรุ่นไหนน่าซื้อประจำปี 2023 ?

1.) Galaxy Tab S9 FE แท็บเล็ต Samsung รุ่นใหม่ ที่เปิดตัวในปี 2023 มีสเปกในการใช้งานที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย โดยมีรายละเอียด ดังนี้

  • หน่วยประมวลผล : Exynos 1380 Octa Core 2.4GHz
  • หน้าจอ : 10.9 นิ้ว IPS-LCD 24-bit
  • หน่วยความจำ : RAM 6GB ROM 128GB
  • กล้อง : กล้องหลังความ 8MP กล้องหน้าความละเอียด 12MP
  • แบตเตอรี่ : 8,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 45W
  • ระบบปฏิบัติการ : Android 13 One UI 5.1
  • ขนาดตัวเครื่อง : 254.3 × 165.8 × 6.5 มิลลิเมตร
  • น้ำหนักตัวเครื่อง : 523 กรัม
  • สีที่มีให้เลือก : Gray, Mint, Lavender

2.) Galaxy Tab S9 Ultra รุ่นใหม่ล่าสุดตัวท็อปที่เปิดตัวในปี 2023 มีสเปกจัดเต็ม ตอบโจทย์กับทุกการใช้งานในปัจจุบัน และในอนาคตได้หลายปี โดยจะมีรายละเอียด ดังนี้ 

  • หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2 Octa Core 3.36GHz
  • หน้าจอ : 14.6 นิ้ว Dynamic AMOLED 2X 24-bit
  • หน่วยความจำ : RAM 12GB ROM 256 / 512GB
  • กล้อง : กล้องหลัง 2 ตัว ความละเอียด 13MP (กล้องหลัก) + 8MP (Ultrawide) กล้องหน้าความละเอียด 12MP
  • แบตเตอรี่ : 11,200mAh รองรับชาร์จเร็ว 45W
  • ระบบปฏิบัติการ : Android 13 One UI 5.1
  • ขนาดตัวเครื่อง : 326.4 x 208.6 x 5.5 มิลลิเมตร
  • น้ำหนักตัวเครื่อง : 732 กรัม
  • สีที่มีให้เลือก : Graphite

3.) Galaxy Tab S9+ รุ่นรองท็อป ที่มีประสิทธิภาพการทำงานที่ใกล้เคียงกัน แต่จะมีจุดที่ต่างกันคือ ขนาดของหน้าจอ และแบตเตอรี่ ซึ่งรุ่นนี้จะมีขนาดที่เล็กกว่า เพื่อรองรับผู้ใช้งาน แท็บเล็ต ที่มีขนาดกลาง โดยจะมีรายละเอียด ดังนี้

  • หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2 Octa Core 3.36GHz
  • หน้าจอ : 12.4 นิ้ว Dynamic AMOLED 2X 24-bit
  • หน่วยความจำ : RAM 12GB ROM 256GB
  • กล้อง : กล้องหลัง 2 ตัว ความละเอียด 13MP (กล้องหลัก) + 8MP (Ultrawide) กล้องหน้าความละเอียด 12MP
  • แบตเตอรี่ : 10,090mAh รองรับชาร์จเร็ว 45W
  • ระบบปฏิบัติการ : Android 13 One UI 5.1
  • ขนาดตัวเครื่อง : 285.4 x 185.4 x 5.7 มิลลิเมตร
  • น้ำหนักตัวเครื่อง : 586 กรัม
  • สีที่มีให้เลือก : Graphite

4.) Galaxy Tab S9 มีจุดเด่นที่ขนาดหน้าจอเล็กมากที่สุด และมีการตัดในส่วนของกล้องหลัง Ultrawide ออกไป 1 ตัว แต่ในเรื่องของประสิทธิภาพโดยรวม จัดได้ว่าแรงไม่แพ้กับ แท็บเล็ต Samsung ตัวท็อปทั้ง 2 รุ่น โดยจะมีรายละเอียด ดังนี้

  • หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2 Octa Core 3.36GHz
  • หน้าจอ : 11 นิ้ว Dynamic AMOLED 2X 24-bit
  • หน่วยความจำ : RAM 8GB ROM 128GB
  • กล้อง : กล้องหลัง 2 ตัว ความละเอียด 13MP (กล้องหลัก) + 6MP (Ultrawide) กล้องหน้าความละเอียด 12 MP
  • แบตเตอรี่ : 8,400mAh รองรับชาร์จเร็ว 45W
  • ระบบปฏิบัติการ : Android 13 One UI 5.1
  • ขนาดตัวเครื่อง : 254.3 × 165.8 × 5.9 มิลลิเมตร
  • น้ำหนักตัวเครื่อง : 498 กรัม
  • สีที่มีให้เลือก : Graphite, Beige

แนะนำแท็บเล็ต 4 รุ่น ประจำปี 2023 มีรุ่นไหนบ้างที่น่าสนใจ ?

สรุป

ถ้าหากชื่นชอบการเล่นโซเชียลอยู่เป็นประจำ หรือมีการทำงานเกี่ยวกับเทคโนโลยี การมี แท็บเล็ต สักเครื่องก็จะตอบโจทย์ในการใช้งานด้านนี้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งถ้าหากต้องการรุ่นใหม่ มีประสิทธิภาพในการทำงานในหลายๆ ด้าน อยากแนะนำให้เลือกแท็บเล็ต Samsung Galaxy Tab S9 Series ที่เปิดตัวในปี 2023 นี้

สุดท้ายนี้ ผู้ที่กำลังสนใจอยากเลือกซื้อแท็บเล็ตที่มีราคาคุ้มค่า มีสีสันที่สวยงามไม่เหมือนใคร พร้อมโปรโมชันราคาพิเศษ สามารถเลือกซื้อได้ที่บนเว็บไซต์ Samsung Official Store ได้เลย

แนะนำแท็บเล็ต 4 รุ่น ประจำปี 2023 มีรุ่นไหนบ้างที่น่าสนใจ ?

Adblock test (Why?)


แนะนำแท็บเล็ต 4 รุ่น ประจำปี 2023 มีรุ่นไหนบ้างที่น่าสนใจ ? - กรุงเทพธุรกิจ
Read More

Wednesday, December 27, 2023

แนะนำ 'ครีมทาคอ' ต้านแรงโน้มถ่วงช่วยดูแลผิวลำคอให้กระชับ - Vogue Thailand

แนะนำ 'ครีมทาคอ' ต้านแรงโน้มถ่วงช่วยดูแลผิวลำคอให้กระชับ

หน้าตึงแต่คอเหี่ยวไม่ดีแน่! มาดูแลหิวคอให้เรียบเนียนและอ่อนเยาว์ด้วยครีมเหล่านี้

     การทำความสะอาดและการใช้สกินแคร์บำรุงผิว ไม่เพียงจะต้องดูแลที่ผิวหน้าเท่านั้น อีกส่วนสำคัญที่ควรใส่ใจคือบริเวณลำคอที่บางครั้งก็ถูกละเลยไป โดยปัญหาผิวส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นบริเวณลำคอจะเป็นเรื่องริ้วรอยและความหย่อนคล้อย ซึ่งจะทำให้ใบหน้าแลดูแก่กว่าวัยได้ แต่ปัญหานี้สามารถป้องกันได้ด้วยการใช้ครีมทาคอที่มีประสิทธิภาพในการยกกระชับและลดเลือนริ้วรอย ซึ่งต่อไปนี้คือแบรนด์ครีมทาคอใช้ดีที่โว้กบิวตี้รวบรวมมาฝากกัน

1 / 6

Clarins Super Restorative Décolleté and Neck Concentrate (75 ml ราคา 5,800 บาท)

     ครีมกระชับผิวลำคอจาก Clarins ที่ช่วยเติมเต็มความอ่อนเยาว์ให้ผิวเนินอกและลำคอ มีประสิทธิภาพมุ่งเข้าบำรุงและปรับสีผิวให้เรียบเนียน ผิวที่เคยหยาบกร้านจะนุ่มนวลมากขึ้น ที่สำคัญคือช่วยลดเลือนริ้วรอยที่เป็นสัญญาณแห่งวัย อีกทั้งยังมีส่วนผสมอย่างเปปไทด์ วิตามินบี และเฮกซิลรีซอร์ซินอล ช่วยปรับสภาพผิวให้สม่ำเสมอและดูเปล่งปลั่งมากขึ้น 

2 / 6

 Sisley Neck Cream the Enriched Formula (50 ml ราคา 5,900 บาท)

     ครีมทาคอที่เข้าบำรุงผิวและชะลอสัญญาณแห่งวัย จาก Sisley ตัวนี้มีสารสกัดจากซอย ไฟเบอร์ และโอ๊ตซี้ดส์ที่สร้างฟิล์มโครงข่ายยืดหยุ่นบางเบา โอบประคองผิวจากภายนอก พยุงผิวลำคอให้รู้สึกยกกระชับขึ้นทันที ขณะเดียวกันยังช่วยปรับเรียวคอเข้ารูปได้สัดส่วน ไม่มีส่วนเกินใต้คาง เนื้อครีมบางเบาซึมซาบรวดเร็ว ไม่อุดตันผิว ผิวแพ้ง่ายสามารถใช้ได้

3 / 6

Estée Lauder Resilience Multi-Effect Night Tri-Peptide Face and Neck Moisturizer (50 ml ราคา 5,250 บาท)

     ครีมทาคอกลางคืนจาก Estée Lauder ใช้โทโคฟีรอลอะซิเตตอันเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ทำหน้าที่เป็นมอยส์เจอไรเซอร์เข้มข้น ช่วยให้ผิวสร้างคอลลาเจนได้ตามธรรมชาติ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีไทเทเนียมไดออกไซด์อยู่ในลิสต์ของส่วนผสม ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของครีมกันแดดมิเนอรัลอย่างดี ทำหน้านี้ลดรูขุมขนและกระชับผิวไปพร้อมกัน อีกทั้งยังมีความอ่อนโยนมากจึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผิวแพ้ง่าย

4 / 6

Cle de Peau Beaute Synactif Neck & Décolleté Cream (75 ml ราคา 14,600 บาท)

     ครีมทาคอจากแบรนด์ Cle de Peau Beaute ใช้ทาและนวดเพื่อยกกระชับผิวที่บอบบางบริเวณลำคอและเนินอกและได้สัดส่วนที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันยังมอบความชุ่มชื้นให้ผิว ปรับผิวให้เรียบเนียน พร้อมตรงเข้าดูแลปัญหาผิวอันเกิดจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ความหมองคล้ำ ความแห้งกร้าน ริ้วรอยและความหย่อนคล้อย 

  

5 / 6

 Rojukiss Anti-Gravity Face Eye Neck Cream (30 ml ราคา 690 บาท)

     ครีมต้านแรงโน้มถ่วงจาก Rojukiss ที่เป็น All-in-one ทาได้ทั้งผิวหน้า รอบดวงตา และลำคอ แค่ชื่อรุ่นก็บอกอยู่แล้วว่า “Anti-Gravity” แน่นอนว่าจุดขายคือประสิทธิภาพในการยกกระชับผิวให้ตึงต้านแรงโน้มถ่วง โดยมีส่วนผสมของคอลลาเจนที่เสริมความยืดหยุ่นผิว และเติมผิวให้อิ่มน้ำ พร้อมลดริ้วรอยด้วยเปบไทด์ อีกทั้งยังมีวิตามินหลายชนิดเข้าช่วยปรับผิวให้เรียบเนียนและลดเลือนจุดด่างดำ

6 / 6

 Dermalogica Neck Fit Contour Serum (50 ml ราคา 3,900 บาท)

     เซรั่มสำหรับผิวลำคอจาก Dermalogica มาพร้อมหัวแอปพลิเคเตอร์แบบลูกกลิ้งช่วยนวดกระตุ้นผิวให้ซึมซาบเซรั่มได้ดี พร้อมยกกระชับผิวลำคอให้ได้รูปสวย นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Flex Lift Contour ทำหน้าที่ดุจตาข่ายล่องหนช่วยพยุงผิว และนวัตกรรมจากสาร Plant-based และ Tripeptide ให้ผลลัพธ์เสมือนเรตินอล คือช่วยให้ผิวเรียบเนียน ยกกระชับ

ภาพ : Courtesy of brands

WATCH

Adblock test (Why?)


แนะนำ 'ครีมทาคอ' ต้านแรงโน้มถ่วงช่วยดูแลผิวลำคอให้กระชับ - Vogue Thailand
Read More

หลุดสเปค vivo X Fold 3 Pro มาพร้อมชิป Snapdragon 8 Gen 3 | กล้องหลัก 50MP (LYT-900) | ชาร์จเร็ว 100W คาดเปิดตัวไตรมาสแรก 2024 พร้อม vivo Pad 3 !? - iphone-droid.net

vivo X Fold ถือเป็นอีกซีรีส์จอพับที่จัดสเปคมาได้หวือหวาไม่แพ้คู่แข่งรุ่นไหน ๆ ล่าสุดก็มีข้อมูลสเปคของ vivo X Fold 3 Pro เรือธงจอพับรุ่นถัดไปออกมาตอกย้ำความไม่ธรรมดาของซีรีส์เพิ่มเติมอีกแล้ว!

โดย Digital Chat Station รายงานว่า vivo X Fold 3 Pro จะมาพร้อมชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 3, มีกล้องหลัก 3 ตัว กล้องหลักความละเอียด 50MP มี OIS (อาจเป็น LYT-900)

หน้าจอ 2K+ มี Refresh rate 120Hz แบบ LTPO มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบ Ultrasonic บนหน้าจอ และรองรับระบบชาร์จเร็วแบบสาย 100W + ไร้สาย 50W

ถือว่าเป็นสเปคที่ให้มาครบทีเดียวทั้งชิปเซ็ต, หน้าจอหรือกล้อง ตามรายงานระบุว่า vivo X Fold 3 Pro จะเปิดตัวคู่กับ vivo Pad 3 แท็บเล็ตเรือธงพลัง Dimensity 9300 ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2024 นี้แล้ว น่าสนใจจริง ๆ ครับ!

ที่มา : Gizmochina

Adblock test (Why?)


หลุดสเปค vivo X Fold 3 Pro มาพร้อมชิป Snapdragon 8 Gen 3 | กล้องหลัก 50MP (LYT-900) | ชาร์จเร็ว 100W คาดเปิดตัวไตรมาสแรก 2024 พร้อม vivo Pad 3 !? - iphone-droid.net
Read More

ASUS ProArt LC 420 CPU AIO Cooler ชุดน้ำระบายความร้อน สไตล์มินิมอล เสียงเบา - Techoffside.com

ASUS ProArt LC 420 CPU AIO Cooler ชุดน้ำระบายความร้อน แบบ All-in-One สำหรับคอมประกอบสายครีเอเตอร์ ด้วยประสิทธิภาพการระบายความร้อนที่ดีเยี่ยม, เสียงรบกวนต่ำ และมาพร้อมกับ minimalist ดีไซน์

ProArt LC 420 เป็น AIO cooler ขนาด 420 มม. ที่มีไม่มากในตลาด ให้การระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพสูงสุดได้ ด้วยพัดลมระบายความร้อน Noctua NF-A14 industrialPPC-2000 PWM ขนาด 140 มม. สร้างการไหลของอากาศและส่งออกได้อย่างเงียบ

ความสมดุลระหว่างประสิทธิภาพที่สูงและเสียงรบกวนที่ต่ำของ ProArt LC 420 ยังขยายไปยังองค์ประกอบอื่น ๆ อย่างปั้มมอเตอร์ 3 เฟสพรีเมียม ช่วยในเรื่องการถ่ายเทความร้อนไปยังระบายความร้อนเป็นไปอย่างนุ่มนวลและมีความเสถียร ทั้งยังปรับแต่งอย่างละเอียดเพื่อผสมเข้ากับงานได้อย่างเหมาะสม ตัวระบายความร้อนเองยังมีขนาดใหญ่กว่าปกติเพื่อสร้างพื้นที่เก็บน้ำหล่อเย็นเพิ่มเติม เพื่อให้พัดลมและมอเตอร์ทำงานได้โดยไม่ต้องใช้พลังงานมากเกินไป

ASUS ProArt LC 420 CPU AIO Cooler

ProArt LC 420 ออกแบบให้เหมาะกับเคสคอมขนาดใหญ่ จึงมีท่อยาว 450 มม. ที่ได้รับการห่อหุ้มมและปรับวัสดุของหลอดยางให้ทนทานและยืดหยุ่นสำหรับการติดตั้งที่หลากหลาย

และตามสไตล์ของสายครีเอเตอร์ ที่ไม่ได้นิยมกับการตกแต่งไฟ RGB แบบสายเกมมิ่ง เพราะอาจจะทำให้รบกวนสายตา และเสียสมาธิระหว่างทำงาน ProArt LC 420 จึงออกแบบระบบไฟเป็น illuminated meter แสดงผลที่บนฝาปั้มเท่านั้น แบ่งออกเป็นส่วนที่แสดงระดับต่าง ๆ ของความเร็วพัดลม, อุณหภูมิ, หรือภาวะของระบบ ด้วย illuminated meter นี้, ผู้ใช้สามารถตรวจสอบประสิทธิภาพการระบายความร้อนของระบบของตนได้ด้วยแค่การเดินสายตาเร็ว ๆ. การตั้งค่าเหล่านี้สามารถตั้งค่าได้ได้ภายใน Armoury Crate.

See also

ProArt LC 420 ออกแบบให้เป็นทางเลือกที่สมบูรณ์แบบกับส่วนประกอบอื่น ๆ ในตระกูล ProArt, เช่น motherboards, graphics cards, displays และอุปกรณ์อื่น ๆ, ซึ่งเสริมความสามารถของ Creator มืออาชีพในการออกแบบระบบทั้งหมดที่เน้นทางประสิทธิภาพที่สูง, เสียงที่เงียบสงบ, และดีไซน์ที่ดูดีอย่างลงตัว

ASUS ProArt LC 420 ชุดน้ำระบายความร้อน CPU แบบ AIO Cooler จะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ช่วงเดือนมกราคม 2567 นี้

Adblock test (Why?)


ASUS ProArt LC 420 CPU AIO Cooler ชุดน้ำระบายความร้อน สไตล์มินิมอล เสียงเบา - Techoffside.com
Read More

Apple เผยโฆษณา iPhone 15 Plus แบตอึด จนปลั๊กไฟ "ต้องคิดถึง" - iPhoneMod

Apple ได้ปล่อยโฆษณาชูจุดเด่นเรื่องแบตเตอรี่ของ iPhone 15 Plus ที่สามารถใช้งานได้ทั้งวัน ไม่ต้องเสียบชาร์จบ่อย จนปลั๊กไฟต้องบ่นคิดถึง

โฆษณา iPhone 15 Plus

โฆษณาตัวนี้มีชื่อว่า "iPhone 15 Plus | Miss You" เล่าเรื่องเกี่ยวกับปลั๊กไฟบ้านร้องเพลงชื่อ "Way Too Long" ของ Doe Boy ที่ ประกอบกับเรื่องราวของปลั๊กไฟบ้านที่เศร้า เนื่องจากไม่ค่อยได้จ่ายไฟให้ iPhone 15 Plus, เพราะ iPhone 15 Plus แบตอึดใช้งานได้ทั้งวัน

ชมคลิป

ส่วนคำอธิบายคลิปนั้น Apple เผยว่า จอใหญ่, แบตใหญ่ใช้งานได้นาน, มี Dynamic Island, กล้อง Wide 48MP, Telephoto ซูมได้ 2 เท่า, โหลด Portrait แบบใหม่, ทนน้ำมาตรฐาน IP68, USB-C, กระจกแข็งเกร่ง และกรอบดีไซน์อะลูมิเนียม

Apple ระบุสเปคของ iPhone 15 Plus ไว้ว่าสามารถใช้งานดูวิดีโอได้ต่อเนื่อง 26 ชม., ฟังเพลงได้ 100 ชม. และก็เหมือนกับ iPhone 14 Plus คือ เป็น iPhone รุ่นที่แบตอึดมากสุดเท่าที่มาใน iPhone

iPhone 15 Plus เปิดขายในราคาเริ่มต้น 37,900 บาท สั่งซื้อได้ที่ Apple และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ!!

Adblock test (Why?)


Apple เผยโฆษณา iPhone 15 Plus แบตอึด จนปลั๊กไฟ "ต้องคิดถึง" - iPhoneMod
Read More

Apple อัปเดตสิทธิบัตรกล้องใต้จอด้านหน้า เตรียมนำไปใช้กับ iPhone ในอนาคต - MacThai

กล้องใต้จอนับเป็นสิ่งที่มีลือกันมาสักพักใหญ่ ๆ แล้วว่าแอปเปิลกำลังจะพัฒนา เพื่อกำจัดรอยบากเจ้าปัญหาที่ทำให้ผู้ใช้หลาย ๆ คนขัดหูขัดตามานาน และแม้การพัฒนาจะซับซ้อนเพราะเป็นระบบกล้อง True Depth ขั้นสูง แต่ก็มีการจดสิทธิบัตร และอัปเดตไปแล้ว

ซึ่งทั้ง Samsung ก็เปิดตัวกล้องใต้จอ (UDC) พร้อมกับ Galaxy Z Fold ในเดือนสิงหาคม 2022 และ Axon แบรนด์ที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักก็เปิดตัวกล้องที่ได้รับการตรวจสอบโดย Marques Brownlee และ Xiaomi ก็มีต้นแบบมาตั้งแต่ปี 2020 แต่ยังไม่ได้ผลิตขึ้นมา ส่วน Google ก็ได้ยื่นจดสิทธิบัตรครอบคลุมฟีเจอร์นี้ไปแล้ว

ฝั่งแอปเปิลก็ยังคงพัฒนาระบบกล้อง  True Depth ขั้นสูง ที่ต้องใช้สำหรับ Face ID อยู่ เลยทำให้มีความซับซ้อนมากขึ้น เพราะกล้องนี้จะทำให้มีแต่จอแสดงผล และไร้รอยบากมากวนใจ ซึ่งตอนนี้ก็ได้มีการอัปเดตสิทธิบัตรเป็นกล้องใต้จอด้านหน้าแทนแล้ว

2 มะเดื่อสิทธิบัตร UDC

ซึ่งสิทธิบัตรฉบับที่ 20 นี้ จะซัพพอร์ตให้ระบบกล้องใต้จอแสดงผลใช้ตัวกรองดิจิทัลกับภาพที่ถ่าย เพื่อลดความผิดเพี้ยนของภาพเพราะถ่ายจากกล้องใต้จอเวลาที่ผู้ใช้ถ่ายเซลฟี่ หรือสแกน Face ID ก็จะมีพิกเซลมาครอบปิดรอยบากอีกทีด้วย

ที่มา – https://www.patentlyapple.com/2023/12/apple-updates-their-under-display-camera-patent-to-protect-its-digital-filter-technology-that-reduces-image-distortion-caused.html


Adblock test (Why?)


Apple อัปเดตสิทธิบัตรกล้องใต้จอด้านหน้า เตรียมนำไปใช้กับ iPhone ในอนาคต - MacThai
Read More

Tuesday, December 26, 2023

vivo V29 5G ชวนเก็บภาพถ่ายส่งท้ายปีให้พิเศษทุกความรู้สึก - thaimobilecenter

vivo แบรนด์สมาร์ตโฟนชั้นนำระดับโลก เตรียมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ชวนแฟน ๆ ชาวไทยมาร่วมเนรมิตช่วงเวลาแห่งความสุขให้พิเศษกว่าที่เคยด้วย V29 5G สมาร์ตโฟนตัวท็อปสำหรับสายพอร์ตเทรต โดดเด่นด้วยฟีเจอร์และเทคโนโลยีการถ่ายภาพเหนือระดับ ให้ผู้ใช้งานได้บันทึกทุกรายละเอียดของโมเมนต์สำคัญได้อย่างสวยงามเป็นธรรมชาติ พร้อมส่งมอบความสุขให้แฟน ๆ vivo ด้วยการส่งโปรโมชันพิเศษให้ผู้ที่สนใจสามารถเป็นเจ้าของ V29 5G ได้ในราคาที่จับต้องได้ยิ่งขึ้น พร้อมรับของขวัญส่งท้ายปีจาก vivo อีกเพียบ!

สิ่งที่คนรักการถ่ายภาพพลาดไม่ได้สำหรับช่วงสิ้นปีซึ่งเป็นเวลาแห่งความสุขและการเฉลิมฉลอง คือการมีสมาร์ตโฟนที่โดดเด่นเรื่องการถ่ายภาพอย่าง V29 5G ไว้เพื่อบันทึกช่วงเวลาและความรู้สึกสุดพิเศษ ไม่ว่าจะภาพถ่ายครอบครัว เพื่อนฝูง หรือบรรยากาศของชั่วโมงข้ามปี V29 5G ก็พร้อมส่งมอบผลลัพธ์ภาพถ่ายอันน่าประทับใจในทุก ๆ ช็อต

vivo V29 5G สมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดจาก V Series ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่รักการถ่ายภาพด้วยระบบ Aura Light Portrait 2.0 มาพร้อม ‘วงแหวนออร่า’ ขนาดใหญ่ขึ้นและเทคโนโลยี Smart Temperature Adjustment ช่วยปรับอุณหภูมิแสงเป็นโทนอุ่น-โทนเย็นตามสภาพแวดล้อม มอบผลลัพธ์ภาพถ่ายพอร์ตเทรตกับบรรยากาศเทศกาลยามค่ำคืนที่สว่างและคมชัดอย่างเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังมาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซลฟี่ได้กว้างขึ้น เก็บภาพโมเมนต์สำคัญกับคนพิเศษได้ครบทุกดีเทล นอกจากนี้ V29 5G ยังมาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 4600mAh ให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ว่าจะสามารถดื่มด่ำกับช่วงเวลาแห่งความสุขได้อย่างเต็มที่ตลอดวัน

vivo V29 5G โดดเด่นด้วยดีไซน์เรียบหรู พร้อมวัสดุและเทคโนโลยีการผลิตระดับพรีเมียม มาพร้อม 4 ตัวเลือกสี ได้แก่ สีม่วง Starry Purple สีแดงเข้ม Magic Maroon สีดำ Noble Black และสีใหม่ล่าสุด สีชมพู Rose Pink พร้อมให้ผู้ใช้งานทุกไลฟ์สไตล์ได้ถ่ายภาพพอร์ตเทรตในชั่วโมงพิเศษให้สวยกว่าที่เคย สำหรับผู้ที่อยากจะส่งต่อความสุขให้กับคนที่รักในช่วงเทศกาล V29 5G ก็สามารถเป็นของขวัญที่ผู้รับจะประทับใจได้เช่นกัน

vivo พร้อมเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลแห่งการให้ด้วยการมอบโปรโมชันส่งท้ายปีให้แฟน ๆ ได้เป็นเจ้าของ vivo V29 5G ในราคาที่จับต้องได้ยิ่งขึ้น พร้อมรับของสมนาคุณสุดพิเศษ ดังนี้

  • ผู้ที่สั่งซื้อ vivo V29 5G สีม่วง Starry Purple สีแดงเข้ม Magic Maroon และสีดำ Noble Black รุ่นความจุ 12GB + 512GB ราคาพิเศษ 15,999 บาท รับฟรี Limited Box Set มูลค่า 10,398 บาท
  • ผู้ที่สั่งซื้อ vivo V29 5G สีชมพู Rose Pink รุ่นความจุ 12GB + 512GB ราคา 13,999 บาท รับฟรี Pink Limited Box Set มูลค่า 10,398 บาท

พิเศษสองต่อสำหรับแฟน ๆ vivo ที่สั่งซื้อสมาร์ตโฟนผ่าน vivo Brand Shop ระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2566 - 7 มกราคม 2567 รับฟรีบัตร Viu Premium ระยะเวลา 6 เดือน มูลค่า 769.- ภายใต้แคมเปญ vivo MEGA FEST 2023 ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ก vivo Thailand และเว็บไซต์ https://www.vivo.com/th

#vivoV295GAuraPortrait #ออร่าพอร์ตเทรตพิเศษทุกความรู้สึก

วันที่ : 26/12/2566

Adblock test (Why?)


vivo V29 5G ชวนเก็บภาพถ่ายส่งท้ายปีให้พิเศษทุกความรู้สึก - thaimobilecenter
Read More

MSI Prestige 16 AI Series AI - NBS

00Thumb

ด้วยจิตวิญญาณของเทคโนโลยี AI ที่กำลังเป็นกระแสไปทั่วโลก ณ ตอนนี้ แบรนด์โน้ตบุ๊กชั้นนำระดับโลกอย่าง MSI ก็ได้นำเทคโนโลยีอันล้ำสมัยนี้ มาผนวกเข้ากับผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เต็มไปด้วยภาพลักษณ์อันหรูหรา, ประสิทธิภาพระดับสูง และเทคโนโลยีที่เต็มไปด้วยนวัตกรรมใหม่ ๆ ใน Prestige 16 AI ที่มาพร้อมโปรเซสเซอร์สูงสุดถึงระดับ Intel® Core™ Ultra 9 กับน้ำหนักเพียง 1.5 กิโลกรัมเท่านั้น

01


ตัวเครื่องนั้นทำมาจาก Magnesium-Aluminum Alloy, แบตเตอรี่ที่ใส่มาขนาดใหญ่ถึง 99.9WHr และช่องชาร์จ PD 3.1 ที่จ่ายไฟได้มากถึง 140W เพื่อประสิทธิภาพและการใช้งานที่ยาวนาน

Advertisement

ตัวเครื่องใช้โปรเซสเซอร์ตัวใหม่ล่าสุดอย่าง Intel® Core™ Ultra ทำให้ Prestige 16 AI รุ่นใหม่นี้จะมีเทคโนโลยีที่เรียกว่า NPU (Neural Processing Unit) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการประมวลผล AI ที่ได้รับการคัดสรรเป็นอย่างดีในโปรเซสเซอร์จาก Intel โดยจะทำงานเป็นตัวเร่งความเร็วให้กับการทำงาน AI โดยเฉพาะ ซึ่งจะทำให้การทำงานร่วมกันของ CPU/GPU ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน โดยโปรเซสเซอร์ตัวล่าสุดจาก Intel นี้ได้ปฏิวัติการประมวลผลสำหรับงานที่เกี่ยวข้องกับ AI  โดยทาง Intel ได้ร่วมมือกับแอพพลิเคชั่นต่างๆมากกว่า 100 แอพพลิเคชั่นที่รองรับการทำงานร่วมกันกับ AI เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้

03


อย่างไรก็ตาม MSI ได้นำเสนอนวัตกรรมตัวใหม่อย่าง MSI AI Engine*  ซึ่งจะมอบประสบการณ์ในการทำงานโดยใช้ AI เข้ามาช่วยในปรับแต่งการตั้งค่าของ Hardware โดยอัตโนมัติ ทำให้ผู้ใช้งาน มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยจะมีหลักการทำงาน อาทิ เช่น  “Intelligent Gaming”, “Intelligent Work”, “Intelligent Meeting” และ “Intelligent Entertainment” เป็นต้น

02

ตัวเครื่องนั้นได้รับเครื่องหมาย Intel® Evo™ ที่ผ่านการทดสอบจาก Intel มาแล้วว่ารองรับการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพบนตัวเครื่องที่บางเบา อีกทั้งยังได้การรับรองจาก NVIDIA Studio ที่เป็นตัวการันตีว่าการทำงานด้านงานภาพ , งานตัดต่อ และ งานที่ใช้ความสร้างสรรค์ต่างๆ บนกราฟิกการ์ดที่สูงสุดถึงระดับ NVIDIA® GeForce RTX™ 4070 Laptop GPU นั้นสามารถทำงานได้อย่างเต็มความสามารถสำหรับแอปพลิเคชันที่ใช้งานด้าน Creative อันมีความต้องการประสิทธิภาพในการทำงานสูง รวมถึงหน้าจอ OLED ที่มาพร้อมอัตตราส่วนหน้าจอ 16:10 คุณภาพสูงนี้ จะมอบประสบการณ์ด้านภาพที่ผู้ใช้จะได้รับให้สูงขึ้นไปอีกขั้นในด้านสีสันและพื้นที่การใช้งานของจอ , พอร์ต I/O ต่างๆที่จัดเต็ม และ Wi-Fi 7 ตัวล่าสุดที่รวดเร็วและเสถียร กับทุกการใช้งาน , แน่นอนว่าสิ่งที่มีมาในเครื่องนี้บ่งบอกได้ถึงประสิทธิภาพของตัวเครื่องว่า มันสามารถลุยงานไปกับผู้ใช้งานได้อย่างดีที่สุด

นอกจากรุ่นหน้าจอ 16 นิ้วแล้ว ในครั้งนี้ทาง MSI ยังได้มีการเปิดตัว Prestige 13 AI Evo รุ่นใหม่ที่มีการใช้โปรเซสเซอร์ Intel® Core™ Ultra เช่นเดียวกัน เพียงแต่มีน้ำหนักแค่ 990 กรัม พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 75WHrs ซึ่งมีขนาดความจุของแบตเตอรี่มากกว่า ถึง 50% เมื่อเทียบกับโน้ตบุ๊กระดับเดียวกันในตลาด

Prestige AI Series เจเนอเรชั่นใหม่ทั้งสองรุ่นนี้ พร้อมที่จะให้ทุกคนได้สัมผัสกับความหรูหราที่มาพร้อมประสิทธิภาพอันล้ำสมัยกันแล้ว

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

*MSI AI Engine จะได้รับการอัพเดทในเดือน มกราคม

* สเปคข้างต้นเป็นสเปคภาพรวม สินค้าอาจะมีสเปคและรายละเอียดแตกต่างกันไปตามรุ่นที่จำหน่ายในแต่ละประเทศ

MSI Gaming Website       https://th.msi.com/

MSI Thailand Facebook https://msi.gm/2u6kGeX

MSI Thailand Instagram https://msi.gm/2QOli6R

MSI Thailand YouTube https://msi.gm/2ZgU1tt

Adblock test (Why?)


MSI Prestige 16 AI Series AI - NBS
Read More

Monday, December 25, 2023

เปิดตัว LG Gram Pro 2024 โดดเด่นด้วย Intel Core Ultra 7 & RTX 3050 พร้อมชิป AI-Boost แยก - TechXcite

LG เปิดตัวแล็ปท็อปซีรีส์ล่าสุด LG Gram Pro Series ที่มาพร้อมเทคโนโลยี AI ขั้นสูง โดยซีรีส์นี้ประกอบด้วยสองรุ่น ได้แก่ รุ่นมาตรฐาน และ LG Gram Pro 360 เพื่อให้ผู้ใช้มีตัวเลือกที่หลากหลาย

LG Gram Pro Series มีโปรเซสเซอร์ Intel Core Ultra 7 ทำงานร่วมกับชิป neural processing แยกเฉพาะสำหรับการทำงานด้าน AI-Boost การผสานรวมนี้ทำให้โน้ตบุ๊กสามารถดำเนินการการทำงานของ AI อัตโนมัติได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อเครือข่าย และช่วยปรับปรุงฟังก์ชันการทำงานของอุปกรณ์โดยรวม

คุณสมบัติเด่นของซีรีส์นี้คือการเปิดตัวฟังก์ชัน AI Gram Link ซึ่งอำนวยความสะดวกในการแชร์ไฟล์ได้อย่างราบรื่นกับอุปกรณ์ Android และ iOS สูงสุด 10 เครื่อง นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถควบคุมโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ตโดยใช้แป้นพิมพ์และเมาส์ของโน้ตบุ๊ก ช่วยเพิ่มความสะดวกและการเชื่อมต่ออย่างสอดประสานได้ดีขึ้น

ด้านตัวเลือกกราฟิกผู้ใช้สามารถเลือกการ์ดกราฟิก Nvidia RTX 3050 พร้อมหน่วยความจำวิดีโอ 4GB GDDR6 การทำงานร่วมกันกับโปรแกรมสร้างภาพ AI ช่วยให้การ์ดสามารถเจน 5 ภาพต่อวินาทีได้ และซีรีส์นี้มีจอแสดงผลความละเอียด WQXGA+ (2880 x 1800 พิกเซล) พร้อมอัตราการรีเฟรชสูงสุดที่ 144Hz

สำหรับรุ่น 16 นิ้ว มาพร้อมกราฟิกการ์ด RTX 3050 ในตัว โดยยังคงรูปลักษณ์ที่เพรียวบางไว้ด้วยความหนาเพียง 12.4 มม. ซึ่งบางกว่ารุ่นก่อนถึง 21% และมีน้ำหนักเพียง 1.19 กก. และแม้จะมีความบางเบา แต่ก็ยังให้ฟีเจอร์การทำงานจริงมาด้วย เช่น พัดลมคู่ และพื้นที่ท่อความร้อนเพิ่มขึ้น 58%

ส่วนรุ่น LG Gram Pro 360 รุ่น 2-in-1 มาพร้อมปรัชญาการออกแบบที่บางเบาเหมือนกัน โดยมีความหนา 12.4 มม. และน้ำหนัก 1.39 กก. และมีหน้าจอสัมผัสพร้อมสไตลัสเฉพาะพร้อมการรองรับการชาร์จแบบไร้สายเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้

ทางด้านราคาของ LG Gram Pro Series จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับขนาดหน้าจอ กราฟิกการ์ด และหน่วยความจำ โดย LG Gram Pro รุ่นมาตรฐานมีราคาเริ่มต้นที่ 2.54 ล้านวอน หรือประมาณ 68300 บาท ในขณะที่ LG Gram Pro 360 มีราคาเริ่มต้นที่ 2.74 ล้านวอน หรือประมาณ 73700 บาท โดยการสั่งจองล่วงหน้าในเกาหลีใต้มีกำหนดตั้งแต่วันที่ 2 ถึงวันที่ 15 ของเดือนมกราคมที่จะถึงนี้

 source: gizmochina

Adblock test (Why?)


เปิดตัว LG Gram Pro 2024 โดดเด่นด้วย Intel Core Ultra 7 & RTX 3050 พร้อมชิป AI-Boost แยก - TechXcite
Read More

รีวิวเกม Wild Hearts เกมที่จำลองความเป็นมอนฮันได้เป็นอย่างดี - TrueID News

[unable to retrieve full-text content]

รีวิวเกม Wild Hearts เกมที่จำลองความเป็นมอนฮันได้เป็นอย่างดี  TrueID News
รีวิวเกม Wild Hearts เกมที่จำลองความเป็นมอนฮันได้เป็นอย่างดี - TrueID News
Read More

ชี้เป้า ! สมาร์ตวอตช์รุ่นไหนดี ปี 2024 มีทั้งสายแฟชั่นและสายฟิตเนส - Kapook Men

แนะนำสมาร์ตวอตช์รุ่นใหม่ ปี 2024 รวมสมาร์ตวอตช์ยี่ห้อต่าง ๆ ที่มีให้เลือกตั้งแต่ราคาหลักพันไปจนถึงหลักหมื่น ทั้งสายแฟชั่นและสายออกกำลังกาย

สมาร์ทวอทช์

สมาร์ตวอตช์ (Smart Watch) อุปกรณ์ Gadget แบบสวมใส่ที่เป็นได้มากกว่าข้อมือ  เพราะนอกจากจะใช้ดูเวลาแล้ว ก็ยังสามารถใช้เชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือ พร้อมทั้งมีฟีเจอร์ลูกเล่นต่าง ๆ ที่ใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้มากมาย โดยเฉพาะฟีเจอร์ด้านสุขภาพและฟิตเนสต่าง ๆ ที่จะช่วยอัปเกรดคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น และสำหรับใครที่กำลังมองหาสมาร์ตวอตช์ไว้ใช้สักรุ่น วันนี้เราก็ได้คัดเลือกรุ่นใหม่ ๆ ที่น่าสนใจในปี 2024 มาให้แล้ว จะมีรุ่นไหนบ้างลองตามไปดูกันเลย

สมาร์ตวอตช์รุ่นไหนดี ปี 2024

1. Apple Watch Series 9

Apple Watch Series 9

ภาพจาก : apple.com

สมาร์ตวอตช์รุ่นล่าสุดจาก Apple ที่ใช้ชิปตัวใหม่แรงกว่าเดิมอย่าง S9 พร้อมทั้งเพิ่มการรองรับคำสั่งด้วยการแตะสองครั้ง มีหน้าจอที่สว่างกว่ารุ่นก่อน ๆ อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ด้านสุขภาพ การปั่นจักรยานและการเดินเขา สามารถค้นหาตำแหน่งพิกัดของ iPhone และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยใช้ระบบปฏิบัติการ watchOS 10 นอกจากนี้ก็ยังเป็น Apple Watch รุ่นแรกที่สามารถจับคู่สายและตัวเรือนแบบต่าง ๆ ที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนได้อีกด้วย

  • รุ่นอะลูมิเนียมราคาเริ่มต้น 15,900 บาท

  • รุ่นสแตนเลสสตีลราคาเริ่มต้น 27,900 บาท

2. Samsung Galaxy Watch6

Samsung Galaxy Watch6

ภาพจาก : samsung.com

สมาร์ตวอตช์ Samsung ที่มาพร้อมหน้าจอ Super AMOLED ขนาดใหญ่ 1.3 นิ้ว กระจกคริสตัลแซฟไฟร์ป้องกันรอยขีดข่วน สามารถปรับแต่งหน้าปัดนาฬิกาได้ด้วยสีสัน รูปภาพ หรือการแสดงข้อมูลต่าง ๆ ตัวเรือนค่อนข้างบาง สามารถเปลี่ยนสายนาฬิกาข้อมือได้ง่ายในคลิกเดียว พร้อมสายให้เลือกเปลี่ยนได้หลายสไตล์ มีฟีเจอร์ติดตามกันนอนหลับ รวมทั้งฟีเจอร์ด้านสุขภาพและฟิตเนส แบตเตอรี่ใช้ได้นาน 40 ชั่วโมง 

  • รุ่น Bluetooth ราคาเริ่มต้น 7,900 บาท

  • รุ่น LTE ราคาเริ่มต้น 12,400 บาท

3. Garmin vívoactive 5

Garmin vívoactive 5

ภาพจาก : garmin.com

สมาร์ตวอตช์จาก Garmon หน้าจอ AMOLED ขนาด 1.2 นิ้ว มาพร้อมฟีเจอร์ติดตามค่า Body Battery ที่ช่วยให้รู้กิจกรรมใดที่ทำให้พลังงานร่างกายลดลงหรือเพิ่มขึ้นตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน การแสดงข้อมูลสุขภาพเชิงลึก รวมทั้งฟีเจอร์ Garmin Coach และโหมดกีฬามากกว่า 30 กิจกรรม บวกกับฟีเจอร์ติดตามการนอนหลับพร้อมให้คำแนะนำในการนอนหลับ มีโหมดการออกกำลังกายในตัวสำหรับผู้ใช้งานวีลแชร์พร้อมระบบติดตามการผลัก แบตเตอรี่ใช้ได้นานสูงสุด 11 วัน

4. Amazfit Active

Amazfit Active

ภาพจาก : amazfit.com

สมาร์ตวอตช์ Amazfit ที่มีหน้าจอ AMOLED ขนาด 1.75 นิ้ว ความละเอียด HD มาพร้อมฟีเจอร์ Readiness ที่ช่วยบอกได้ว่ากิจกรรมใดที่ส่งผลต่อสุขภาพจิตและสุขภาพกายบ้าง และ Zepp Coach ที่จะทำหน้าที่เป็นเทรนเนอร์ AI ส่วนตัว มีระบบนำทางที่แม่นยำด้วยดาวเทียม 5 ตัว นอกจากนี้ก็สามารถเชื่อมต่อกับมือถือผ่านบลูทูธเพื่อใช้สนทนาหรือฟังเพลงได้ แบตเตอรี่สามารถใช้ได้นาน 2 สัปดาห์ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง

5. HUAWEI WATCH GT 4

HUAWEI WATCH GT 4

ภาพจาก : huawei.com

สมาร์ตวอตช์ HUAWEI หน้าจอ AMOLED ดีไซน์เป็นเอกลักษณ์จากรูปทรงเรขาคณิต มาพร้อมโค้ชออกกำลังกายอัจฉริยะและระบบจัดการแคลลอรี่รูปแบบใหม่ รวมทั้งฟีเจอร์อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการจัดการสุขภาพ การตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจ, SpO2, การนอนหลับ และความเครียดด้วย TruSeen 5.5+ แบตเตอรี่ใช้ได้นาน 2 สัปดาห์ รองรับการเชื่อมต่อกับทั้ง iOS และ Android ผ่านบลูทูธ สามารถใช้รับสายโทรศัพท์ ดูประวัติการโทร. และอื่น ๆ ได้

6. Redmi Watch 3 Active

Redmi Watch 3 Active

ภาพจาก : mi.com

สมาร์ตวอตช์จาก Xiaomi ที่มาพร้อมหน้าจอ LCD ขนาดใหญ่ 1.83 นิ้ว สามารถเลือกเปลี่ยนหน้าปัดได้มากกว่า 200 รูปแบบ ตัวเรือนรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีฟีเจอร์การติดตามข้อมูลสุขภาพและโหมดออกกำลังกายมากกว่า 100 โหมด รองรับการสนทนาผ่านบลทูธ สามารถกันน้ำได้ที่ระดับ 5ATM แบตเตอรี่สามารถใช้งานทั่วไปได้นาน 12 วัน และใช้งานหนัก ๆ ได้นาน 8 วัน

7. Fitbit Versa 4

Fitbit Versa 4

ภาพจาก : fitbit.com

สมาร์ตวอตช์สายฟิตเนสดีไซน์บางเบา มีหน้าจอขนาดใหญ่ มาพร้อมฟีเจอร์ Daily Readiness ช่วยวิเคราะห์สภาพร่างกายเพื่อจัดรูปแบบการออกกำลังที่เหมาะสม มีโหมดการออกกำลังกายมากกว่า 40 โหมด พร้อม GPS รองรับการใช้งานร่วมกับแอปฯ ของ Google และอื่น ๆ สามารถตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจ วัดระดับออกซิเจนในเลือด และตรวจจับการนอนหลับได้ สามารถกันน้ำได้ลึก 50 เมตร แบตเตอรี่ใช้ได้นานกว่า 6 วัน

สมาร์ตวอตช์ เลือกซื้อยังไงดี

สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจจะซื้อสมาร์ตวอตช์ แต่ไม่รู้ว่าจะต้องเลือกอย่างไร เรามีวิธีเลือกสมาร์ตวอตช์มาแนะนำกัน ดังนี้

1. ดีไซน์

ควรเลือกดีไซน์ที่ชอบและเหมาะกับตัวเอง โดยในปัจจุบันมีสมาร์ตวอตช์ออกมาให้เลือกหลากหลายดีไซน์ ทั้งแบบเรียบหรูดูแพง แบบคลาสสิกสามารถใส่ได้ทุกวัน และแบบสีสันสดใสถูกใจสายแฟชั่น อีกทั้งบางรุ่นยังสามารถใส่เคสกันกระแทกหรือเปลี่ยนสายได้ตามความชอบ

2. ฟังก์ชันการใช้งาน

สมาร์ตวอตช์แต่ละรุ่นมีฟังก์ชันการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคนด้วย แต่โดยส่วนใหญ่แล้วสมาร์ตวอตช์เกือบทุกรุ่นจะมีฟังก์ชันพื้นฐานที่คล้ายกันคือ สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจขณะออกกำลังกาย แคลอรีที่ถูกเผาผลาญออกไป และแสดงจำนวนก้าวเดินในแต่ละวัน

3. ราคา

ราคาของสมาร์ตวอตช์แต่ละรุ่นส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับฟังก์ชันการใช้งาน ยิ่งฟังก์ชันเยอะและทันสมัยก็ยิ่งทำให้ราคาสูงตามไปด้วย รวมทั้งยี่ห้อและดีไซน์ก็มีผลต่อราคาด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นจึงควรเลือกสมาร์ตวอตช์ที่เหมาะกับงบและการใช้งานของตัวเองมากที่สุด เพราะนอกจากจะได้สมาร์ตวอตช์ที่ตอบโจทย์การใช้งานแล้ว ยังช่วยเซฟเงินในกระเป๋าด้วย

4. คุณภาพ

สุดท้ายควรคำนึงถึงคุณภาพของสินค้า เพราะคนส่วนใหญ่จะเน้นใส่ออกกำลังกาย ซึ่งต้องเจอทั้งเหงื่อ น้ำ ฝุ่น และแรงกระแทก ดังนั้นจึงควรเลือกสมาร์ตวอตช์ที่ใช้วัสดุแข็งแรงทนทาน กันน้ำ-กันฝุ่นได้ดี สวมใส่สบาย พร้อมลุยไปกับคุณในทุกกิจกรรม

ทั้งนี้ เนื่องจากสมาร์ตวอตช์บางรุ่น บางยี่ห้อ อาจไม่สามารถเชื่อมต่อหรือใช้งานร่วมกับโทรศัพท์มือถือบางยี่ห้อได้ หรืออาจใช้งานได้แต่ไม่รองรับในบางฟีเจอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่เป็นการใช้งานข้ามระบบปฏิบัติการ เช่น การนำ Apple Watch ไปใช้กับมือถือ Android หรือการใช้ iPhone กับสมาร์ตวอตช์ยี่ห้ออื่น ๆ เพราะฉะนั้นก็อย่าลืมเช็กข้อมูลกันให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อมาใช้ด้วยนะครับ

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : apple.com, samsung.com, garmin.com, amazfit.com, huawei.com, mi.com, fitbit.com

Adblock test (Why?)


ชี้เป้า ! สมาร์ตวอตช์รุ่นไหนดี ปี 2024 มีทั้งสายแฟชั่นและสายฟิตเนส - Kapook Men
Read More

Saturday, December 23, 2023

แตกต่างอย่างไร! Samsung Galaxy A15 4G vs Samsung Galaxy A15 5G ราคาไทยต่างกัน 1000 บาท - Siamphone

Samsung ประเทศไทยเตรียมนำสมาร์ทโฟน Samsung Galxy A15 Series เข้ามาวางจำหน่าย แบ่งเป็นโมเดล 4G กับ 5G บทความนี้จะช่วยคลายข้อสงสัยว่าทั้งสองโมเดลมีข้อแตกต่างกันอย่างไรบ้าง เพราะมีราคาต่างกัน 1,000 บาทเท่านั้น เพื่อเป็นข้อมูลช่วยตัดสินใจว่าจะเลือกรุ่นไหนดี ถ้าใครกำลังเล็งอยู่!?

สำหรับจุดเด่นที่เหมือนกันระหว่าง Samsung Galaxy A15 4G vs Samsung Galaxy A15 5G มีอะไรบ้าง

จุดเด่นอยู่ที่การันตีอัปเดต OS (ระบบปฏิบัติการตัวเครื่อง) นาน 4 ปี และแพทช์ความปลอดภัยนาน 5 ปี ด้านข้างตัวเครื่องมีปุ่ม Power ที่มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ช่วยยืนยันตัวตนในการปลดล็อคตัวเครื่อง ส่วนแบตเตอรี่มีความจุ 5000mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 15 วัตต์ โดยมีฟีเจอร์สร้าง RAM เสมือนช่วยเพิ่มความเร็วในการประมวลผล ไม่ว่าจะเป็นการเปิดแอปฯ หรือสลับแอปฯ ใช้งานไปมาก็รวดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมั่นใจในการใช้งานมากยิ่งขึ้นด้วยฟีเจอร์ Samsung Knox ที่ช่วยป้องกันภัยร้ายจากโลกไซเบอร์

หน้าจอแสดงผลของทั้งสองรุ่น ต้องบอกว่า Samsung ใจป้ำมากยิ่งขึ้น ให้หน้าจอประเภท Super AMOLED พร้อมเทคโนโลยี Eye Comfort Shield ลดแสงสีฟ้าที่หน้าจอ ลดอาการเมื่อยล้าและถนอมสายตามากยิ่งขึ้น โดยมีขนาดหน้าจอ 6.5 นิ้ว อัตรารีเฟรชเรท 90Hz มีความละเอียดหน้าจอ 2340x1080 พิกเซล

สเปคเบื้องต้นของ Samsung Galaxy A15 5G/4G

  • ระบบปฏิบัติการ : Android 14 ครอบทับ OneUI 6.0
  • ขนาดตัวเครื่อง :
    • Samsung Galaxy A15 4G : 163.9 x 81.7 x 8.7 มม.
    • Samsung Galaxy A15 5G : 160.1 x 81.7 x 8.7 มม.
  • น้ำหนัก : 200 กรัม
  • หน้าจอ : Super AMOLED แบบ 90Hz ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด 2340 x 1080 พิกเซล (FullHD+)
  • หน่วยประมวลผล : 
    • Samsung Galaxy A15 4G : MediaTek Helio G99
    • Samsung Galaxy A15 5G : MediaTek Dimensity 6100+
  • RAM : 8GB
  • พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน : 256GB
  • MicroSD Card : สูงสุด 1TB
  • ระบบเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11a/b/g/n 2.4GHz+5GHz, Bluetooth 5.3, GPS, GLONASS, A-GPS, NFC
  • ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
  • ระบบปลดล็อคด้วยใบหน้า และเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
  • พอร์ต : USB Type-C
  • ถาดซิมการ์ดประเภท Hybrid-Slot
  • กล้องหลัง : แบ่งเป็น 3 เลนส์ รายละเอียดดังนี้
    • ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัส รูรับแสง f/1.8
    • เลนส์ Ultra-Wide : ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
    • เลนส์มาโคร : 4 ซม. ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
  • กล้องหน้า : ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
  • แบตเตอรี่ : 5000 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 15 วัตต์

สำหรับสมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นจะเข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างแน่นอน โดยมีราคาต่างกันแค่เพียง 1,000 บาท ซึ่ง Samsung Galaxy A15 5G จะอยู่ที่ประมาณ 7,9xx บาท กับ Samsung Galaxy A15 4G จะอยู่ที่ประมาณ 6,9xx บาท รายละเอียดและโปรโมชันรอติดตามได้เร็วๆ นี้

Adblock test (Why?)


แตกต่างอย่างไร! Samsung Galaxy A15 4G vs Samsung Galaxy A15 5G ราคาไทยต่างกัน 1000 บาท - Siamphone
Read More

รีวิว Death Stranding Director's Cut เล่นบน iPad Pro M2 - iPhoneMod

ในที่สุดสาวก Apple อย่างเราก็ได้เล่นเกม Death Stranding เวอร์ชัน Director’s Cut บนอุปกรณ์ Apple กันแล้ว ใครอยากลองเล่นเข้าไปซื้อเกมใน App S...