Rechercher dans ce blog

Friday, September 30, 2022

หลุดภาพกล่อง Xiaomi 12T เผยอุปกรณ์แถมมาให้ครบ ก่อนการเปิดตัวทางการ 4 ต.ค. นี้ - iphone-droid.net

Xiaomi 12T Series ทั้ง 2 รุ่น ได้แก่ Xiaomi 12T และ Xiaomi 12T Pro เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 4 ตุลาคมนี้ ล่าสุด ก็มีภาพหลุดของกล่องสินค้าของรุ่น Xiaomi 12T พร้อมเผยอุปกรณ์ที่แถมมาให้แบบครบถ้วนเลยครับ

ตัวกล่องของ Xiaomi 12T จะมาพร้อมกับสีขาวที่มีตัวอักษรสีทองตัดอย่างสวยงาม โดยสิ่งที่ให้มาในกล่องก็ถือว่าครบเลยครับ ได้แก่ ตัวเครื่อง, อะแดปเตอร์ชาร์จ 120W, สาย USB-C, เข็มเปิดถาดซิม, เคสใส, คู่มือการใช้งานเบื้องต้น และใบรับประกันสินค้า ทั้งนี้ สเปคข้างกล่องก็ระบุไว้ว่าจะมีรุ่น RAM 8GB + ROM 128GB อีกด้วย แต่คาดว่าในรุ่น Xiaomi 12T ก็จะมีความจุ 8+256GB มาเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก

สเปคต่างๆ ของ Xiaomi 12T คาดการณ์ว่าจะมาพร้อมกับหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1.5K รองรับ Refresh Rate 120Hz พร้อมใช้หน่วยประมวลผล Dimensity 8100 Ultra มี RAM แบบ LPDDR5, ROM UFS 3.1 และรันบน Android 12 ครอบทับด้วย MIUI 13 ขณะที่กล้องหน้าจะให้มา 20 ล้านพิกเซล และกล้องหลัง 108 + 8 (Ultra-Wide) + 2 (Macro) ล้านพิกเซล

ที่มา : Gizmochina, Twitter

Adblock test (Why?)


หลุดภาพกล่อง Xiaomi 12T เผยอุปกรณ์แถมมาให้ครบ ก่อนการเปิดตัวทางการ 4 ต.ค. นี้ - iphone-droid.net
Read More

Microsoft เปิดตัวแอปพลิเคชั่น Outlook ใหม่ เวอร์ชัน Windows - SpringNews

Microsoft กำลังเปิดตัว Outlook ใหม่ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นสำหรับใช้บน Windows ให้ทุกคนที่ใช้ Office สามารถใช้ได้ในสัปดาห์นี้

แอปพลิเคชั่น Outlook สำหรับ Windows ใหม่จะทำให้ไคลเอนต์อีเมลบนเดสก์ท็อปมีความคล้ายคลึงกับเวอร์ชันเว็บมากขึ้น ทาง Microsoft ได้ทำงานเกี่ยวกับการออกแบบใหม่นี้มาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว และเดิมทีเปิดตัวเบต้ากึ่งสาธารณะไปเมื่อต้นปีนี้

มาร์กี้ คลินตัน (Margie Clinton) ผู้จัดการผลิตภัณฑ์กลุ่มในทีม Outlook อธิบายว่า "ตั้งแต่นั้นมา เราได้รับคำติชมอันมีค่าจาก Office Insiders จากช่องทางเบต้าเกี่ยวกับวิธีการสร้างประสบการณ์การใช้งานที่สม่ำเสมอและเต็มไปด้วยฟีเจอร์ เรารับฟังคำติชมมาตั้งแต่เดือน พ.ค. และทีมของเราทำงานอย่างขยันขันแข็งเพื่อปรับปรุง Outlook สำหรับ Windows ใหม่"

Adblock test (Why?)


Microsoft เปิดตัวแอปพลิเคชั่น Outlook ใหม่ เวอร์ชัน Windows - SpringNews
Read More

Wednesday, September 28, 2022

Apple Watch Series 8, Watch SE, และ Watch Ultra วางจำหน่ายครบทุกร?... - Droidsans

ล่าสุด Apple ประเทศไทยก็เริ่มวางจำหน่าย Apple Watch Series 8, Apple Watch Ultra, Apple Watch SE  ทุกรุ่นอย่างเป็นทางการแล้ว หลังจากที่เปิดหน้าเว็บให้มาเลือกดูเล่นมาตั้งนาน ปีนี้มีจุดเด่นในเรื่องฟีเจอร์ตรวจจับการชน ตรวจจับช่วงประจำเดือนของสตรี โหมดประหยัดพลังงานให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้น ส่วนรุ่น Ultra ก็ถือว่าเผยมาให้เห็นเป็นครั้งแรก เหมาะสำหรับสายนักผจญภัยแบบเอาท์ดอร์ ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 9,900 บาท ไปจับจองกันได้แล้ววันนี้

Apple Watch Series 8

ในที่สุดก็เปิดให้ซื้อแล้วซะทีกับนาฬิกาอัจฉริยะ Apple Watch ปีล่าสุด รุ่นธรรมดาคือ Apple Watch Series 8 ที่มีการเพิ่มฟีเจอร์เพื่อสุขภาพดี ๆ อย่างตัวตรวจจับการชนในกรณีเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ตัวนาฬิกาก็ชะช่วยส่งข้อมูลให้หน่วยงานมาช่วยเหลือ อีกอย่างคือฟีเจอร์ตรวจจับรอบประจำเดือนเพื่อดูช่วงตกไข่และวางแผนการตั้งครรภ์ได้ และก็มีฟีเจอร์ช่วยเพิ่มอายุการใช้งานให้ยาวนานมากขึ้นอย่างโหมดประหยัดพลังงาน

ราคา APPLE WATCH SERIES 8 ที่วางขายในไทย

  • ตัวเรือนหน้าปัด 41 มม. ราคา 15,900 บาท
  • ตัวเรือนหน้าปัด 45 มม. ราคา 16,900 บาท
  • การเชื่อมต่อ GPS ราคาเริ่มต้น 16,900 บาท
  • การเชื่อมต่อ GPS + Cellular ราคาเริ่มต้น 19,900 บาท

APPLE WATCH SE

Apple Watch SE ปีนี้ถือเป็นรุ่นที่ 2 แล้วที่เค้าเปิดตัวมา ก็จะมีฟีเจอร์เด่นที่เหมือน Watch Series 8 คือการตรวจจับการชน พร้อมอัปเกรดชิปข้างในให้ประมวลผลได้ไวกว่ารุ่นแรก และแน่นอนว่ามาในราคาย่อมเยากว่า เปิดให้คนเข้าถึงได้มากขึ้น

ราคา APPLE WATCH SE (2022) ที่วางขายในไทย

  • ตัวเรือนหน้าปัด 40 มม. ราคา 9,900 บาท
  • ตัวเรือนหน้าปัด 44 มม. ราคา 10,900 บาท
  • การเชื่อมต่อ GPS ราคาเริ่มต้น 9,900 บาท
  • การเชื่อมต่อ GPS + Cellular ราคาเริ่มต้น 11,900 บาท

APPLE WATCH ULTRA

Apple Watch Ultra นี่เป็นนาฬิกาสายลุย จอสว่างถึง 2000 นิต มีบอดี้ไทเทเนียมแข็งแรงทนทาน ผ่านการทดสอบ MIL-STD 810H3 และทนฝุ่นที่ระดับ IP6X4 พร้อมมีระบบสำหรับนักดำน้ำ และมีอายุแบตที่ใช้ได้ยาวนานถึง 36 ชั่วโมงในโหมดปกติ ใครมาสายผจญภัย สายกีฬาหรือชอบออกท่องเที่ยวแบบลุย ๆ ตัวนี้ก็ตอบโจทย์ได้ดี รุ่นนี้มีขายแบบขนาดหน้าปัดและการเชื่อมต่อเดียวเท่านั้น เลือกได้แค่สายรัดข้อมือนะ

ราคา APPLE WATCH ULTRA ที่วางขายในไทย

  • ตัวเรือนหน้าปัด 49 มม. การเชื่อมต่อ GPS + Cellular ราคา 31,900 บาท

ทั้งสามรุ่นในที่สุดก็วางขายครบแล้ว ไปจับจองกันได้ที่เว็บไซต์ของ Apple และร้าน Apple Store หรือพาร์ทเนอร์ต่าง ๆ ได้แล้ววันนี้

Adblock test (Why?)


Apple Watch Series 8, Watch SE, และ Watch Ultra วางจำหน่ายครบทุกร?... - Droidsans
Read More

Xiaomi ยืนยัน Xiaomi 12T Series มาพร้อมกล้องคมชัดสูง 200MP - iphone-droid.net

Xiaomi 12T Series เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 4 ตุลาคมนี้ ล่าสุด Lei Jun ซีอีโอของแบรนด์ได้เปิดเผยหนึ่งในข้อมูลของตระกูลเรือธงนี้ออกมาเรียบร้อยครับ

โดยเขาได้ยืนยันว่า Xiaomi 12T Series จะมาพร้อมกล้องหลังความละเอียดสูงสุด 200 ล้านพิกเซล ซึ่งคาดว่าสเปคนี้จะได้เฉพาะรุ่น Xiaomi 12T Pro เท่านั้น ส่วน Xiaomi 12T จะยังคงเป็นกล้อง 108 ล้านพิกเซลครับ

สำหรับ Xiaomi 12T Pro คาดการณ์ว่าจะใช้เซ็นเซอร์ Samsung HP1 ขนาด 1/1.22″ พร้อมรูรับแสง f/1.69 รองรับ Phase Detection Autofocus (PDAF) และ OIS ทั้งยังสามารถรวม 16-1 Pixel binning ให้เหลือความละเอียด 12.5 ล้านพิกเซลเท่านั้นอีกด้วย

ขณะที่สเปคอื่นๆ ของ Xiaomi 12T Series จะมาพร้อมหน้าจอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 2712 x 1220 พิกเซล พร้อมด้วยชิป Snapdragon 8+ Gen 1 ในรุ่น Pro และ Dimensity 8100 ในรุ่น 12T ขณะที่แบตจะให้มา 5000mAh ชาร์จเร็ว 120W ครับ

ที่มา : GSMArena, Twitter

Adblock test (Why?)


Xiaomi ยืนยัน Xiaomi 12T Series มาพร้อมกล้องคมชัดสูง 200MP - iphone-droid.net
Read More

การทำงานเบื้องหลังแอป Facebook อาจเป็นหนึ่งสาเหตุทำให้ iOS 16 แบตหมดไว! - iPhoneMod

การทำงานเบื้องหลังของแอป Facebook อาจเป็นหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ iOS 16 แบตหมดไว!

การทำงานเบื้องหลังแอป Facebook อาจเป็นหนึ่งสาเหตุทำให้ iOS 16 แบตหมดไว!

ผู้ใช้หลายรายใน Reddit รายงานข้อมูลว่า การทำงานเบื้องหลังของแอป Facebook เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ iPhone ที่ใช้ iOS 16 แบตหมดไว โดยปัญหานี้ไม่เกิดขึ้นใน iOS 15

หนึ่งในรายงานเผยว่าแอป Facebook เวอร์ชันล่าสุดที่ติดตั้งบน iOS 16.0.2 นั้นจะทำงานอยู่เบื้องหลังทั้ง ๆ ที่ปิดการตั้งค่าทำงานเบื้องหลังไปแล้ว ถึงแม้จะกดปิดแอป เคลียร์แอป ก็ยังเจอปัญหานี้อยู่

นอกจาก iOS 16 แล้ว ผู้ใช้ก็รายงานว่าแอป Facebook เวอร์ชันล่าสุดก็ทำงานเบื้องหลังอยู่ตลอดเช่นกันใน iOS 15 โดยบางคนลองลบแอป Facebook แล้วไม่ใช้งานพบว่า แบตจะไม่ลดไวเมื่อเทียบกับการไม่ใช้งานแอปแต่ยังเก็บแอปไว้อยู่

สาเหตุปัญหาที่แอป Facebook ทำงานเบื้องหลังอยู่ตลอดคาดการณ์ว่ามาจากฟีเจอร์การส่งสัญญาณแบบ “beacons” เพื่อใช้สื่อสารกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ในการระบุตำแหน่งที่ตั้ง หรืออื่น ๆ แบบไร้สายผ่าน Bluetooth, ถึงแม้จะใช้พลังงานน้อยแต่ถ้าเปิดใช้ตลอดหรือใช้งานบ่อยก็จะส่งผลให้ใช้งานแบตมากขึ้นนั่นเอง

อย่างไรก็ตามปัญหาแอป Facebook ทำงานเบื้องหลังแล้วใช้แบตเยอะใน iOS 16 นั้นอาจเป็นเพียงปัญหาของผู้ใช้บางกลุ่ม หรือส่วนหนึ่งของปัญหาแบตหมดไวใน iOS 16 ซึ่งจากที่สังเกตดูพบว่า Meta ออกอัปเดตแอป Facebook บ่อยมาก ดังนั้นหากมีอัปเดตแอปเมื่อไหร่ก็ควรอัปเดตให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดเสมอ

ที่มา : teknojava

Adblock test (Why?)


การทำงานเบื้องหลังแอป Facebook อาจเป็นหนึ่งสาเหตุทำให้ iOS 16 แบตหมดไว! - iPhoneMod
Read More

Belkin เอาใจสาวกไอโฟน จัดเต็มอุปกรณ์เสริมระดับพรีเมี่ยมสำหรับ iPhone 14 - mobileocta

Belkin (เบลคิน), หนึ่งในแผนก Connected Things จาก Belkin International และ Foxconn Interconnect Technology (FIT) (HK: 6088) ยกทัพอุปกรณ์เสริมสุดพรีเมี่ยมสำหรับ iPhone 14, iPhone 14 Plus, iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max 

พร้อมมอบประสบการณ์ที่เหนือระดับด้วยนวัตกรรมล่าสุดทั้งในเรื่องของความสามารถในการชาร์จแบบไร้สายสูงสุด 15 วัตต์ ความปลอดภัยเหนือมาตรฐาน และเทคโนโลยี MagSafe ที่สมบูรณ์แบบ

นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ที่ป้องกันหน้าจอด้วยฟิล์มกระจกชนิดพิเศษ เป็นวัสดุที่ให้ความยืดหยุ่นป้องกันหน้าจอ iPhone 14 ได้อย่างแข็งแกร่ง ให้ความมั่นใจ และสะดวกสบายในการใช้งานสมาร์ทโฟนเครื่องโปรดได้ทุกที่

Ms. Jenny Ng ผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เบลคิน อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า “นับตั้งแต่ปี 1983 เป็นต้นมา นับเป็นเวลา 39 ปีที่ Belkin มุ่งมั่นที่จะสร้างนวัตกรรมอุปกรณ์เสริมสำหรับการเชื่อมต่อและการให้พลังงานกับอุปกรณ์ Apple มาหลายต่อหลายรุ่น และนับตั้งแต่ iPhone 12 เป็นต้นมา

เรียกได้ว่า Belkin เป็นผู้นำเรื่องการชาร์จด้วย MagSafeที่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจาก Apple ภายใต้มาตรฐาน “Made for MagSafe” และมียอดจำหน่ายอุปกรณ์ MagSafe ไปแล้วกว่า 500,000 ชิ้นทั่วโลก และด้วยอุปกรณ์เสริมระดับพรีเมี่ยมของเราทั้งหมดนี้ จะสามารถช่วยให้ผู้บริโภคเพลิดเพลินกับ iPhone 14 ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้งาน iPhone สะดวกสบายทั้งการใช้งานภายในบ้าน ที่ทำงาน หรือในระหว่างการเดินทาง”

Belkin

คุณชาคริต ศิริกุลประดิษฐ ผู้จัดการฝ่ายขายประจำภูมิภาคอาเซียน สำหรับภูมิภาคอาเซียน กล่าวเสริมว่า “ในปีนี้ตลาดในภูมิภาคอาเซียนมีการปรับตัวดีขึ้นตามลำดับในทุกประเทศเมื่อเทียบกับปี 2021 และภูมิภาคอาเซียน 5 ประเทศได้แก่ ประเทศมาเลเซีย ไทย สิงคโปร์ เวียดนาม และฟิลิปปินส์ ยังคงเป็นลำดับที่ 3 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยมีสัดส่วนรายได้ที่ 16% ตามหลังแค่กลุ่มประเทศจีน (จีน ฮ่องกง ไต้หวัน) และเกาหลีใต้เท่านั้น และปีนี้คาดการณ์ว่าจะมียอดขายมากกว่า 850,000 ชิ้น เติบโตมากกว่า 35% เมื่อเทียบกับปี 2021”

แผ่นฟิล์มกระจกเทมเปอร์ (TemperedGlass Treated Screen Protector with Anti-microbial)

iPhone 14 Pro / 14 Pro Max iPhone 14 / 14 Plus

TemperedGlass Treated Screen Protector with Anti-microbial เป็นแผ่นฟิล์มช่วยเรื่องป้องกันการกระแทก, ลดรอยขีดข่วน, ลดคราบไคลได้ดีเป็นพิเศษ ด้วยการใช้กระจกแบบพรีเมี่ยมจาก Japanese AsahiTM ช่วยให้เกิดความลื่นไหลในการใช้งานพร้อมให้การสัมผัสที่เหมือนการสัมผัสที่หน้าจอไอโฟนโดยตรง

พร้อมบรรจุสารยับยั้งแบคทีเรียที่สามารถช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียได้กว่า 99.9% ผ่านการทดสอบความแข็งแกร่งระดับ 9H ให้ความมั่นใจในการป้องกันอุปกรณ์ของคุณได้ดีเยี่ยม รวมถึงการมี Easy Align Tray จะเป็นอุปกรณ์ช่วยในการติดแผ่นฟิล์มให้มีความเที่ยงตรง ติดได้เรียบเนียนไร้ฟองอากาศได้อย่างง่ายดาย ราคา 990 บาท พิเศษสุด! รับส่วนลด 50% เมื่อซื้อผ่าน PowerMall, Lazada และ Shopee ตั้งแต่ ตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย. 65 – 4 ม.ค. 66

NEW! หัวชาร์จ Belkin BOOST↑CHARGE™ PRO Dual USB-C® GaN Wall Charger with PPS 65W (WCH013)

หัวชาร์จ Belkin BOOSTCHARGE™ PRO Dual USB-C® GaN Wall Charger with PPS 65W สามารถชาร์จ MacBook Pro® หรือ MacBook Air, หรือชาร์จ iPhone 14 ได้ 2 อุปกรณ์พร้อมกัน เมื่อชาร์จ 1 พอร์ต จ่ายกำลังไฟได้สูงสุดถึง 65 วัตต์ ทำให้ชาร์จ MacBook Pro ได้เต็มประสิทธิภาพ และเมื่อชาร์จพร้อมกัน 2 พอร์ตจะจ่ายไฟสูงสุดที่ 45 วัตต์และ 20 วัตต์ ราคาเพียง 1,790 บาท

หัวชาร์จ BOOST↑CHARGE™ USB-C® PD 3.0 PPS Wall Charger 30W (WCA005)

ด้วยวิศวกรรมการออกแบบและเทคโนโลยีการชาร์จล่าสุด USB-C Power Delivery 3.0 และ PPS ทำให้หัวชาร์จ BOOSTCHARGE™ USB-C® PD 3.0 PPS Wall Charger 30W นี้มีขนาดกะทัดรัด มีความปลอดภัย และมีความเร็วในการชาร์จที่ดีเยี่ยม สามารถชาร์จ iPhone 14 จาก 0-50% ได้ภายใน 24 นาที* เมื่อใช้งานร่วมกับสาย USB-C to Lightning เรียกได้ว่าเป็นหัวชาร์จที่เหมาะสำหรับการพกพาไปใช้งานในสถานที่ต่าง ๆ ได้อย่างสะดวก ราคาเพียง 890 บาท

*เป็นการทดสอบภายในด้วยเทคโนโลยี USB-C PD กับ iPhone 14 Pro Max ร่วมกับสาย USB-C cable with Lightning

สายชาร์จ BOOST↑CHARGE™ PRO Flex USB-C® Cable with Lightning Connector

สายชาร์จ BOOSTCHARGE™ PRO Flex เป็นสายถักไนล่อนที่หุ้มซิลิโคนไว้อีกชั้น ให้ความทนทานกว่าสายชาร์จแบบเดิมถึง 30 เท่า ให้การใช้งานที่ยาวนานมากขึ้น รวมถึงความยืดหยุ่นสูงทนต่อการบิดงอได้ดีขึ้น มาพร้อมอุปกรณ์รัดสายแบบแป้นแม่เหล็กในตัว ช่วยในการจัดเก็บสายให้เป็นระเบียบเรียบร้อย และนำไปติดกับวัสดุต่าง ๆ ได้ทันทีเพื่อความสะดวกในการใช้งาน โดยมีความยาวให้เลือกใช้งาน 2 ขนาด คือ 1 เมตร และ 2 เมตร และมีให้เลือกถึง 4 สี คือ ดำ, ขาว, ฟ้า และ ชมพู ราคา 990 บาทสำหรับความยาว 1 เมตร และราคา 1,190 บาทสำหรับความยาว 2 เมตร

* ทนการบิดงอได้กว่า 30,000 ครั้งเป็นการทดสอบในห้องทดลองเทียบกับการบิดงอ 1,000 ครั้งของสายแบบ

แท่นชาร์จ BOOST↑CHARGE PRO 3-in-1 Wireless Charging Pad with MagSafe 15W (WIZ016)

Belkin ออกแบบ BOOSTCHARGE PRO 3-in-1 Wireless Charging Pad with MagSafe 15W มาเพื่อสามารถใช้งานได้แบบ 3-in-1 สามารถชาร์จ Apple Watch Series 7/8 และ Apple Watch Ultra ได้เร็วขึ้น 33% นอกจากนี้ยังรองรับการชาร์จกับ Apple Watch SE ด้วย ในขณะที่แท่นชาร์จ MagSafe สามารถชาร์จ iPhone 14 ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเทคโนโลยี MagSafe ของ Belkin ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจาก Apple ภายใต้มาตรฐาน “Made for MagSafe” ที่พร้อมมอบประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมในการใช้งาน iPhone 14 ด้วยการชาร์จไร้สาย 15 วัตต์ พร้อมความความใส่ใจในทุกรายละเอียดในแบบสไตล์มินิมอลที่ดูเรียบหรู สามารถใช้งานได้ทุกที่และดูดีมีสไตล์ ราคา 6,990 บาท

แท่นชาร์จ BOOST↑CHARGE PRO 3-in-1 Wireless Charger with MagSafe 15W (WIZ017)

ดีไซน์โดดเด่นที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ผิวสแตนเลสสตีลช่วยเพิ่มความเงางาม ทำให้ แท่นชาร์จ BOOSTCHARGE PRO 3-in-1 Wireless Charger with MagSafe 15W สามารถเติมเต็มทุกพื้นที่ ตั้งแต่ห้องนั่งเล่นไปจนถึงโต๊ะทำงานของคุณ พร้อมรับประสบการณ์การชาร์จแบบไร้สายที่รวดเร็วและง่ายดายสำหรับ iPhone 14 และมีโมดูลการชาร์จแบบแม่เหล็กสำหรับ Apple Watch ช่วยชาร์จ Apple Watch Series 7 ได้เร็วขึ้น 33%  รวมถึงแท่นวางรองสำหรับชาร์จ AirPods แบบไร้สาย ราคา 6,590 บาท

ช่องทางการวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริม Belkin สำหรับ iPhone 14 / 14 Plus / 14 Pro / 14 Pro Max และ Apple Watch พร้อมวางจำหน่ายที่ร้านค้าชั้นนำ ดังนี้

สามารถดูภาพเพิ่มเติมได้ที่นี่ Click here.

Adblock test (Why?)


Belkin เอาใจสาวกไอโฟน จัดเต็มอุปกรณ์เสริมระดับพรีเมี่ยมสำหรับ iPhone 14 - mobileocta
Read More

Grounded เกมแนวเอาชีวิตรอดจำลองการเป็นคนตัวเล็กเท่ามด กลายเป็นเกมเต็มแล้ว! - แอพดิสคัส (APPDISQUS)

Grounded คือเกมแนวเอาชีวิตรอดที่ให้เราได้กลายเป็นคนตัวเล็กเท่ามด หลบหลีกอุปสรรค ต่างๆ เช่นแมงมุมหรือ มดตัวขนาดใหญ่! โดยตัวเกมได้คำวิจารณ์ในแง่ดีมากๆ แม้จะยังไม่เป็นตัวเต็มเลยก็ตาม โดยที่ตัวเกมนั้นอัพเดทมาเรื่อยๆ ผู้พัฒนาไม่ยอมปล่อยให้เกมของเขาตายเลย ทำให้คนที่ซื้อมาเรียกว่าคุ้มสุดๆ เลย แม้เนื้อเรื่องจะยังไม่ได้จบก็ตาม

capsule 616x353 2 | Grounded | Grounded เกมแนวเอาชีวิตรอดจำลองการเป็นคนตัวเล็กเท่ามด กลายเป็นเกมเต็มแล้ว!

โดยตอนนี้ เกมนี้หลุดจากช่วงพัฒนา Early Accesss และขึ้นราคาอย่างโหด! จาก 379 เป็น 1,249 แต่ใน Xbox Game Pass ยังสามารถเล่นได้ปกติ หากใครสมัครเอาไว้ก็ไม่ต้องเป็นกังวลไป แต่ใครที่อยากเล่นตอนนี้ไม่ทันแล้วนะครับ! แต่บอกเลยว่าเกมนี้ดีจริงๆ และคุ้มราคามากๆ เพราะหลังจากหลุดมาเป็นตัวเต็มก็มีของใหม่ๆ มาเต็มไปหมดเลย!

ss 9116324cd0843d2962554d833684a4ce57ac75db.1920x1080 | Grounded | Grounded เกมแนวเอาชีวิตรอดจำลองการเป็นคนตัวเล็กเท่ามด กลายเป็นเกมเต็มแล้ว!

คัดมาเพื่อคุณ
gundam evolution pc 1 e1626336794311 | Gundam Evolutio | Gundam Evolution เปิดให้โหลดไว้ก่อนได้แล้วบน Steam!!

Adblock test (Why?)


Grounded เกมแนวเอาชีวิตรอดจำลองการเป็นคนตัวเล็กเท่ามด กลายเป็นเกมเต็มแล้ว! - แอพดิสคัส (APPDISQUS)
Read More

Tuesday, September 27, 2022

รีวิว Samsung Galaxy Watch5 รู้จักตัวเราดีมากกว่าที่เราคิด [ชมคลิป] - iphone-droid.net

รีวิว Samsung Galaxy Watch5 เป็นสมาร์ทวอทช์ด้านสุขภาพที่รู้จักตัวเราดีมากกว่าที่เราคิด ติดตามแนะนำการนอนหลับได้ และสามารถวัดค่าข้อมูลร่างกาย Body Composition ได้ ดูคลิปรีวิวที่นี่

Galaxy Watch5 ที่ใช้ในรีวิวจะเป็นขนาด 44 มม. มีกระจกหน้าจอ Sapphire Crystal Glass ซึ่งเป็นครั้งแรกของจอระดับพรีเมียม ที่มีความแข็งแรง ทนทานต่อการเกิดรอยขีดข่วน มีเซ็นเซอร์ Samsung BioActive ซึ่งประกอบไปด้วย 3 เซ็นเซอร์ ได้แก่ เซ็นเซอร์การวิเคราะห์องค์ประกอบร่างกาย, เซ็นเซอร์คลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) และเซ็นเซอร์อัตราการเต้นของหัวใจแบบออปติคัล

รีวิว Samsung Galaxy Watch5
รีวิว Samsung Galaxy Watch5

คนที่ดูแลสุขภาพและออกกำลังกายเป็นประจำ Body Composition อันนี้ถือว่าเป็นประโยชน์มากๆ ช่วยให้เราเข้าใจร่างกายได้ดีเลย และสามารถติดตามการนอนหลับ Advanced Sleep Coaching บันทึกและวิเคราะห์แพทเทิร์นการนอนของผู้ใช้งานแต่ละคน ออกมาเป็นคาแรคเตอร์เฉพาะตัว พร้อมข้อแนะนำเพื่อพัฒนาการนอนให้มีคุณภาพยิ่งขึ้น

รีวิว Samsung Galaxy Watch5
รีวิว Samsung Galaxy Watch5

Galaxy Watch5 เป็นสมาร์ทวอชท์ที่มาพร้อม Wear OS ที่ซัมซุงได้พัฒนาร่วมกับพันธมิตรชั้นนำอย่าง Google รวมถึงหน้าตาของ One UI Watch ที่มีอินเทอร์เฟซการใช้งานที่ตอบสนองได้ดีที่สุดของ Samsung ซึ่งข้อดีของการมาพร้อม Wear OS คือติดตั้งแอปพลิเคชั่นจาก Google Play Store ได้เลย

Galaxy Watch5 สามารถติดตามกิจกรรมประจำวันได้อัตโนมัติโดยที่เราไม่ต้องเลือกโหมดการออกกำลังกายก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นการเดิน การวิ่ง หรือรูปแบบการออกกำลังกายทั่วไป แต่ถ้าต้องการให้ตัวสมาร์ทวอทช์บันทึกการออกกำลังกายได้ตรงตามที่ต้องการ ก็เลือกเองได้เลย ซึ่งก็รองรับการออกกำลังกายมากกว่า 90 รูปแบบ

ราคา Galaxy Watch5 series

  • หน้าปัดขนาด 40 มม. รุ่น Bluetooth ราคา 8,490 บาท และรุ่น LTE ราคา 11,490 บาท
  • หน้าปัดขนาด 44 มม. รุ่น Bluetooth ราคา 9,990 บาท และรุ่น LTE ราคา 12,490 บาท
  • Galaxy Watch5 Pro หน้าปัดขนาด 45 มม. รุ่น Bluetooth ราคา 13,900 บาท และรุ่น LTE ราคา 16,900 บาท

สามารถหาซื้อได้ที่ Samsung ออนไลน์สไตร์, Samsung Experience Store, และร้านค้าที่ร่วมรายการ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.samsung.com/th/watches/galaxy-watch/galaxy-watch5-44mm-sapphire-bluetooth-sm-r910nzbaasa/

Adblock test (Why?)


รีวิว Samsung Galaxy Watch5 รู้จักตัวเราดีมากกว่าที่เราคิด [ชมคลิป] - iphone-droid.net
Read More

Monday, September 26, 2022

TECNO เปิดตัวสมาร์ทโฟนโฉมใหม่ SPARK 9T นิยามใหม่ของการเซลฟี่ 32 MP พร้อมกับแฟลชคู่ - mobileocta

เทคโน (TECNO) แบรนด์โทรศัพท์มือถือพรีเมียมระดับโลก ปรับโฉมสมาร์ทโฟน TECNO SPARK 9T ซีรีส์ใหม่ ที่มาพร้อมกับกล้องเซลฟี่ 32MP คมชัดสุด แฟลชคู่ เติมแสงแบบสามมิติแม้ในที่แสงน้อย

มอบประสบการณ์ระดับพรีเมียมกว่าและการออกแบบที่มีสไตล์ เพื่อกลุ่ม Gen Z ให้ผู้ใช้งานแสดงตัวตนด้วยแฟชั่นที่ล้ำนำสมัย เริ่มจำหน่าย TECNO SPARK 9T ROM 128GB + RAM 4GB/ROM 64GB + RAM 4GB ในประเทศไทยตั้งแต่ วันที่ 25 กันยายน 2565 นี้ ที่ช่องทางออนไลน์ Lazada Shopee และ JD Central 

TECNO SPARK 9T

นายสตีเฟน ฮา ผู้จัดการทั่วไป TECNO Mobile กล่าวว่า “เรามุ่งมั่นในการคิดค้นพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสิ่งที่ฝังในจิตวิญญาณของแบรนด์ TECNO #StopAtNothing โดยในครั้งนี้ เรานำสมาร์ทโฟน TECNO SPARK 9T ใหม่ มาเพื่อส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่ได้บันทึกและแชร์ความคิด รวมทั้งความมุ่งมั่นได้อย่างอิสระ  

ในฐานะที่ TECNO เป็นผู้ที่ลุกขึ้นมาพัฒนานวัตกรรมที่เกี่ยวกับกล้องถ่ายรูปในโทรศัพท์ โดยได้ปรับปรุงประสบการณ์การถ่ายภาพของผู้ใช้งานอย่างเต็มที่เต็มกำลัง กล้องหน้าความละเอียด 32MP ระดับ HD พร้อมด้วยอัลกอริทึมที่ปรับอย่างเหมาะสมของ TECNO SPARK 9T ช่วยให้ถ่ายเซลฟี่ได้ละเอียดและคมชัด

ในขณะเดียวกัน เราได้อัพเกรดการออกแบบ ไม่ว่าจะเป็น น้ำหนักตัวเครื่องที่เบากว่า เพื่อประสบการณ์ของผู้ใช้งานที่ดียิ่งขึ้น เราเชื่อว่าหนุ่มสาวทั่วโลกสามารถแสดงออกได้ด้วยความมั่นใจมากขึ้นและเป็นตัวของตัวเองที่สุดด้วยสมาร์ทโฟน TECNO SPARK 9T”

กล้องหน้าความละเอียด 32MP เซลฟี่สุดคมชัด

TECNO SPARK 9T นำกล้องหน้าที่อัพเกรดใหม่ล่าสุด ปิดข้อจำกัดในการแสดงความตัวตนผ่านเทคโนโลยี เซลฟี่ จากรุ่นเดิมที่กล้องหน้า 8MP มาถึงรุ่นล่าสุดนี้มีกล้องหน้า 32MP ความละเอียดระดับ HD ที่น่าทึ่ง ให้คนรุ่นใหม่แสดงความเป็นตัวตนได้ดีกว่า กับภาพเซลฟี่ที่คมชัดขึ้นและเรียบเนียนเป็นพิเศษ เก็บรายละเอียดได้ดีเยี่ยมแม้ซูมอิน

กล้องที่ได้รับการอัพเกรดนี้ช่วยให้ผู้ใช้เก็บภาพและแชร์ลงโซเชียลมีเดียในทุกช่วงเวลาสำคัญ ประสบการณ์การเซลฟี่ใหม่นี้มาจากโหมด Ultra HD ที่มีชิปเซ็นเซอร์แบบ 4-in-1 พร้อมการจัดตำแหน่งพิกเซลอัจฉริยะ รวมทั้งรูรับแสงของกล้องหน้า F/2.45 มีโฟกัสฟิกซ์ที่กว้างขึ้น นอกจากนี้ ยังมีแฟลชคู่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายเซลฟี่ได้คมชัดในทุกสภาพแสง ไม่ว่าจะถ่ายภาพย้อนแสงหรือในที่แสงน้อย

เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่องและอัตราการรีเฟรชที่ 90Hz กับจอเว้าแบบจุด หรือ Dot Notch ปรับภาพได้ลงตัวที่สุด

สมาร์ทโฟน TECNO SPARK 9T ติดตั้งเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ที่ข้างตัวเครื่อง ซี่งสะดวกและเร็วกว่าการติดตั้งไว้ที่จุดอื่นของตัวเครื่อง จอแสดงผลกว้างมากขึ้น หน้าจอ Ultra HD ขนาดใหญ่ 6.6” และอัตราการรีเฟรชสูงที่ 90Hz การออกแบบหน้าจอที่เหมาะสม ช่วยให้ประสบการณ์การมองเห็นภาพดีขึ้น เลื่อนจอลื่นไหลลื่นและตอบสนองกับสัมผัสไวกว่า เพื่อความบันเทิงในการเล่นเกมและการดูวิดีโอ

สายชาร์จแบบ Type-C แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh หมดปัญหากับการไม่มีแบตเตอรี่

TECNO SPARK 9T รุ่น มีแบตเตอรี่ความจุขนาดใหญ่พิเศษถึง 5000mAh พร้อมที่ชาร์จ Type-C อายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนาน ช่วยให้สมาร์ทโฟนทำงานได้ต่อเนื่องได้ตลอดทั้งวัน แม้จะถูกใช้งานอย่างหนัก

ดีไซน์สมาร์ทโฟนที่อัพเกรด มีสไตล์และอินเทรนด์มากขึ้น

ในการเปิดตัวครั้งนี้ สมาร์ทโฟน TECNO SPARK 9T มาพร้อมกับรูปลักษณ์ที่สดใหม่ ด้วยขอบมุมฉากที่ได้รับความนิยมในอุตสาหกรรม ตัวเครื่องเป็นชิ้นเดียว น้ำหนักเบา และบางเพียง 8.65 มม. ตามเทรนด์ของโลกสมาร์ทโฟน สามารถใส่กระเป๋าได้อย่างลงตัวและง่ายดาย พื้นผิวกระจกเมทัลลิกอันเป็นเอกลักษณ์ที่ด้านหลังสร้างลุคที่มีสไตล์ ให้สัมผัสที่เนียนนุ่ม 

ยิ่งไปกว่านั้น ซีรีส์ล่าสุดนี้ยังคงใช้เลนส์วงแหวนคู่ อันเป็นเอกลักษณ์ของรุ่น ด้วยการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ของการวางกล้องหลัง 3 ตัวภายในวงแหวนคู่ TECNO Galaxy ลุคแห่งอนาคตสมาร์ทโฟน

TECNO SPARK 9T ที่นำมาจำหน่ายในประเทศไทย เป็นรุ่นมีหน่วยความจุความจำ ROM 128GB + RAM 4GB ราคา 4,499 บาท มีให้เลือก 3 สีทันสมัย คือสีดำ Quantum Black และสีน้ำเงิน Burano Blue เริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันนี้ ที่ช่องทางออนไลน์ Shopee Lazada และ JD Central หรือติดตามร้านค้า Shopee Global Official Store bit.ly/3cK2FNS  Lazada Global Official Store bit.ly/TECNO_TH และ JD https://bit.ly/3ddfP60

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สมาร์ทโฟน TECNO SPARK 9T ใหม่ ได้ที่ https://www.tecno-mobile.com/th/phones/product-detail/product/spark-9t-11/ และทางเฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/TECNOMobileThailand/ 

Adblock test (Why?)


TECNO เปิดตัวสมาร์ทโฟนโฉมใหม่ SPARK 9T นิยามใหม่ของการเซลฟี่ 32 MP พร้อมกับแฟลชคู่ - mobileocta
Read More

รีวิว ASUS Vivobook Pro 15 OLED จอสวยคมชัด ประสิทธิภาพเต็มพลัง พร้อมทุกงานสร้างสรรค์ - Techoffside.com

รีวิว ASUS Vivobook Pro 15 OLED โน้ตบุ๊คที่เราแนะนำสำหรับนักเรียน นักศึกษา และกลุ่มสายงานครีเอเตอร์ ที่ต้องการเครื่องที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับการทำงานสร้างสรรค์และความบันเทิงได้อย่างครบถ้วน โดดเด่นด้วยหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว 2.8K OLED Display 120Hz อัตราส่วน 16:9 WUXGA (2880 x 1620) โปรเซสเซอร์ 12th Gen Intel® Core™ H-series ที่มีให้เลือกเป็น Core i5 และ Core i7 ส่วนกราฟิกการ์ดจัดมาเป็น NVIDIA® GeForce RTX™ 3050 Ti, RAM 16GB LPDDR5 on board พร้อมหน่วยเก็บข้อมูลขนาด 512GB M.2 NVMe™ PCIe® 3.0 SSD ที่สำคัญ มี Windows 11 Home และ Office Home and Student 2021 ติดตั้งพร้อมใช้งานตลอดอายุเครื่อง ใน ราคา เริ่มต้น 38,990 บาท

ต้องยอมรับว่า ตอนนี้ ASUS เป็นผู้นำตลาดด้านโน้ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอแบบ OLED ที่มีคุณสมบัติที่ให้ภาพสีที่คมชัดสวยงามและแม่นยำ จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากสำหรับคนที่ต้องการเอาไว้สำหรับการทำงานที่ต้องการความเที่ยงตรงของสี อย่างงานครีเอเตอร์ กราฟิกดีไซน์ งานตัดต่อวิดีโอ รวมไปถึงด้านความบันเทิงก็ยังให้อรรถรสในการรับชมภาพยนตร์หรือเล่นเกมได้อย่างดีเยี่ยม

UnBox แกะกล่อง

ตัวแพ็กเกจของ ASUS Vivobook Pro 15 OLED มาในขนาดพอดีกับตัวเครื่อง ใช้วัสดุเป็นกระดาษน้ำตาลทั้งหมดที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ 100% เมื่อเปิดกล่องมาจะเห็นตัวเครื่องวางอยู่

ที่ด้านล่างใต้เครื่องจะมีเอกสารในส่วนการรับประกันและคู่มือการใช้งานเบื้องต้น และข้อมูลส่วน MyASUS และมีกิมมิคน่ารักๆ เป็นสติกเกอร์สำหรับเอามาแปะเพื่อตกแต่งเครื่อง

ในกล่องจะมีอะแดปเตอร์ชาร์จแบบ 150W มาให้พร้อมสำหรับใช้งาน

ASUS Vivobook Pro 15 OLED ที่เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย จะมีให้เลือก 2 รุ่นด้วยกัน โดยรุ่นที่ทางทีมงานล้ำหน้าได้มาทดสอบ จะเป็นรหัส K6500ZE-MA721WS ตัวโปรเซสเซอร์จะเป็น Intel®Core™ i7-12650H และการ์ดจอเป็น NVIDIA® GeForce RTX™ 3050 Ti ราคา อยู่ที่ 43,990 บาท

ส่วนอีกรุ่นจะเป็น K6500ZC-MA582WS สเปคจะต่างกันตรงโปรเซสเซอร์ใช้เป็น Intel®Core™ i5-12450H การ์ดจอเป็น NVIDIA® GeForce RTX™ 3050 ราคา จะอยู่ที่ 38,990 บาท

สเปค ASUS Vivobook Pro 15 OLED (K6500ZE-MA721WS)

  • ขนาด 35.98 x 23.43 x 1.89 ~ 1.99 เซนติเมตร
  • น้ำหนัก 1.80 กิโลกรัม
  • สี Quiet Blue
  • ระบบปฏิบัติการ Windows 11 Home
  • CPU: Intel®Core™ i7-12650H Processor
  • GPU: NVIDIA® GeForce RTX™ 3050 Ti
  • RAM: 16GB LPDDR5 on board
  • Storage: 512GB M.2 NVMe™ PCIe® 3.0 SSD
  • หน้าจอ: 15.6 นิ้ว 2.8K (2880 x 1620) OLED 16:9, 120Hz Refresh rate, 100% DCI-P3
  • พอร์ตเชื่อมต่อ :
    • 1x USB 3.2 Gen 1 Type-A
    • 2 x USB 2.0 Type-A
    • 1x Thunderbolt™ 4 supports display / power delivery
    • 1 x HDMI 2.1
    • 1x 3.5mm Combo Audio Jack
    • 1x DC-in
    • Micro SD card reader
  • Wireless: Wi-Fi 6 + Bluetooth 5.0
  • กล้อง 1080p FHD
  • แบตเตอรี่ 70WHrs, 3S1P, 3-cell Li-ion
  • Office: Office Home and Student 2021 included

Design ส่องดูรอบเครื่อง

ตัวบอดี้ของ ASUS Vivobook Pro 15 OLED รุ่นที่นำเข้ามาจำหน่ายในไทยจะปเป็นสี Quiet Blue ที่จะเป็นสีน้ำเงินเข้มโทนดำ ที่มีความสุขุม เรียบง่าย

ตัวฝาด้านนอกเครื่องวัสดุเป็นอะลูมิเนียม ดีไซน์มีในส่วนที่นูนขึ้นมาเป็นกรอบพร้อมโลโก้ของ ASUS และชื่อรุ่น Vivobook อย่างลงตัว

ตัวเครื่องมีความหนา 18.9 มิลลิเมตร น้ำหนัก 1.8 กิโลกรัม ถือว่าไม่หนักมากสำหรับโน้ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว นอกจากนี้ยังได้รับมาตรฐาน US MIL-STD 810H military-grade ในด้านความแข็งแรงทนทานในการใช้งานไม่ว่าจะเป็นการกระแทก สั่นสะเทือน หรือการใช้งานในอุณหภูมิที่สูงหรือต่ำมากๆ ได้

ตัวฝาพับหน้าจอ ออกแบบมาให้สามารถกางได้กว้างสุดถึง 180 องศา เพื่อช่วยให้สะดวกในการทำงานที่ต้องทำงานร่วมกับกับหลายๆ คน สามารถกางจอออกเพื่อให้มองเห็นกันได้โดยรอบ เป็นการออกแบบมาเพื่อใช้สำหรับการประชุมและงานสร้างสรรค์โดยเฉพาะ

พอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ ถือว่ามีมาให้ครบครัน ทางฝั่งซ้ายของเครื่อง จะมีพอร์ต USB-A 2.0 มาให้ 2 ช่อง และมีไฟแจ้งสถานะการทำงานของเครื่องและการชาร์จแบตมาให้ด้วย

ส่วนทางขวา จะมีช่องหูฟังแบบ Combo, ช่องอ่านการ์ด microSD, พอร์ต Thunderbolt 4 แบบ USB-C, ช่อง HDMI 2.1 รองรับ 4K 120Hz, พอร์ต USB 3.2 Gen 1 Type-A และช่องสำหรับเสียบอะแดปเตอร์ชาร์จ 150W

ด้านล่างตัวเครื่อง มีแถบช่องสำหรับรับอากาศจากภายนอกเข้าไปเพื่อระบายความร้อนในเครื่อง และมีช่องของลำโพงคู่สเตอริโออยู่ด้านล่างเครื่อง ใช้วิธียิงเสียงให้สะท้อนกับพื้นเพื่อให้ได้ความดังมากขึ้น

แป้นพิมพ์ ASUS ErgoSense เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด พร้อมกับทัชแพด ErgoSense ที่มีผิวสัมผัสนุ่มนวล มีแรงเสียดทานต่ำและเป็นรอยนิ้วมือยาก ทั้งสองถูกออกแบบมาเพื่อให้ได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น ตัวแป้นพิมพ์จะมีค่า Dished key caps โค้งเว้าลงไป 0.2 มิลลิเมตร เพื่อรับกับการกดสัมผัสนิ้ว

รีวิว ASUS Vivobook Pro 15 OLED

ระยะความสูงของแป้นที่ 1.4 มิลลิเมตร ที่ตอบสนองทางสัมผัสได้โดยไม่ต้องออกแรงกดมาก กลไกด้านในเป็นแบบโดมยางที่เด้งรับการพิมพ์ พร้อมทั้งยังมีปุ่ม Number มาให้สำหรับใช้งานป้อนค่าตัวเลขได้ง่ายและสะดวก

ปุ่ม Enter จะมีดีไซน์แถบคาดเหมือนกับที่แถบที่ฝาด้านนอกของเครื่อง

รีวิว ASUS Vivobook Pro 15 OLED

ที่ปุ่ม Power บริเวณขวาบนสุดของแป้นพิมพ์ จะมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือรวมอยู่ด้วยภายในปุ่มเดียว ทำให้สะดวกรวดเร็วในการเปิดเครื่องและปลดล็อคหน้าจอเพื่อเข้าใช้งานได้ทันทีที่กดเปิด

นอกจากนี้เพื่อความปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน พื้นผิวของตัวโน้ตบุ๊คบริเวณด้านในตรงแป้นพิมพ์และผิวสัมผัส จะได้รับการปกป้องโดย ASUS Antibacterial Guard เป็นการเคลือบ Silver Ions เพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียได้มากกกว่า 99% ภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมง เพื่อให้มั่นใจว่าการพิมพ์หรือใช้งานจะสะอาดและถูกสุขอนามัยมากข้น

หน้าจอ OLED ใหญ่เต็มตา

รีวิว ASUS Vivobook Pro 15 OLED

ความโดดเด่นและเป็นสิ่งที่คุณจะต้องหลงไหลกับโน้ตบุ๊ครุ่นนี้ ก็คือตัวหน้าจอ OLED ที่ยกระดับในทุกด้านขึ้นมาเหนือกว่าจอ LCD ทั่วไปที่คุณเคยใช้มา และนี่ยังเป็นโน้ตบุ๊ครุ่นแรกที่ใช้หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว แบบ OLED 2.8K 120Hz

ด้วยการแสดงผลในขอบเขตสีที่ดีที่สุดในระดับเดียวกัน ให้ค่าสีที่แม่นยำเที่ยงตรงในระดับที่ทำงานระดับมืออาชีพ พร้อมทั้งยังลดแสงสีฟ้าได้มากถึง 70% ผ่านมาตรฐานจาก TÜV Rheinland-certified ช่วยถนอมสายตาและลดความเสี่ยงต่อความเสียหายต่อจอประสาทตา

รีวิว ASUS Vivobook Pro 15 OLED

ขอบเขตในการแสดงสีของ ASUS Vivobook Pro 15 OLED ได้มาตรฐาน 100% DCI-P3 color gamut มีค่าความเที่ยงตรงของสี Delta-E < 2 พร้อมการรับรองความเที่ยงตรงของสีจาก Pantone แสดงสีได้ 1 พันล้านสี (10-bits) ค่าคอนทราสต์ 1,000,000:1 โดยค่าความสว่างสูงสุดถึง 600nits ที่ให้ทำงานในสภาพแสงสว่างมากๆ ได้อย่างไม่มีปัญหา และได้การรับรอง VESA CERTIFIED Display HDR True Black 500 ที่แสดงผลสีดำได้อย่างดำสนิทจริงๆ

ตัวจอขนาด 15.6 นิ้ว สัดส่วนภาพ 16:9 ความละเอียด 2880 x 1620 ด้วยการออกแบบให้ขอบเครื่องด้านข้างให้เหลือขอบน้อยมากๆ ทำให้มีพื้นที่หน้าจอต่อตัวเครื่องถึง 84% ทำให้ภาพที่ได้ใหญ่เต็มตามากยิ่งขึ้น

ตัวจอมีค่ารีเฟรชเรตสูงถึง 120Hz และ 0.2ms response time ทำให้นอกจากจะใช้สำหรับการทำงานแล้ว ในด้านความบันเทิงอย่างการเล่นเกมหรือดูภาพยนตร์ก็ให้อรรถรสที่ดีมากด้วยเช่นกัน หรือเวลาที่เลื่อนหน้าจอเว็บไซต์ ตัวหนังสือต่างๆ ก็จะมีความคมชัดไม่เกิดเงาเบลอ

Windows 11 Home และ Office Home and Student 2021 มาพร้อมใช้งาน

รีวิว ASUS Vivobook Pro 15 OLED

เมื่อคุณซื้อ ASUS Vivobook Pro 15 OLED เปิดเครื่องมาก็คือพร้อมใช้ทำงานได้ทันที เพราะว่ามีติดตั้งมาให้เรียบร้อยกับ Windows 11 Home ที่ไม่ต้องซื้อเพิ่ม ลิขสิทธิ์แท้ พร้อมอัปเดตเวอร์ชั่นใหม่ และความปลอดภัยที่หายห่วง

รีวิว ASUS Vivobook Pro 15 OLED

และยังมาพร้อมด้วย Office Home and Student 2021 สำหรับงานเอกสารต่างๆ ที่ครบถ้วนไม่ต้องไปสมัครซื้อเพิ่ม และรองรับให้อัปเดตได้ตลอดอายุการใช้งานเครื่อง

ประสิทธิภาพเปี่ยมพลัง สำหรับทุกงานสร้างสรรค์

รีวิว ASUS Vivobook Pro 15 OLED

สเปคของ ASUS Vivobook Pro 15 OLED สำหรับรุ่นที่ทางเรา รีวิว จะเป็นรุ่นโปรเซสเซอร์ Intel®Core™ i7-12650H ตัวการ์ดจอเป็น NVIDIA® GeForce® RTX 3050 Ti ทำงานร่วมกับหน่วยความจำ 512 GB PCIe® SSD และ RAM LPDDR5 ขนาด 16 GB

ถือว่าเป็นสเปคระดับสูงสำหรับโน้ตบุ๊คเพื่อการทำงานได้อย่างหายห่วง อย่างการทำงานกราฟิกขั้นสูงบนโปรแกรมตระกูล Adobe ไม่ว่าจะเป็นการแต่งภาพ Photoshop, Lightroom หรือตัดต่อวิดีโอบน Premier, After Effect แค่เสียบอะแดปเตอร์เพื่อเปิดใช้ Performance Mode เพิ่มพลังของ CPU เป็น TDP ที่ 55W ก็พร้อมสำหรับใช้งานเป็น Work Station ที่ทรงพลัง

ตัวการ์ดจอ NVIDIA® GeForce® RTX 3050 Ti ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในการทำงานกราฟิค ด้วยสถาปัตยกรรม NVIDIA® Ampere ล่าสุด ให้ประสบการณ์ภาพที่ดีที่สุดแก่คุณ ไม่ว่าคุณจะทำงาน 3D ระดับเริ่มต้น วิดีโอความละเอียดสูง หรือสตรีมมิ่งแบบสด รวมถึงคุณสมบัติขั้นสูงใน GPU ซึ่งรวมถึง ray tracing การเร่งความเร็ว AI และหน่วยความจำ GDDR6 ที่รวดเร็ว ไดรเวอร์ NVIDIA Studio ที่ให้มาช่วยให้มั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพและความเสถียรของกราฟิกสูงสุด

ผลการทดสอบประสิทธิภาพของ ASUS Vivobook Pro 15 OLED

ผลทดสอบโปรเซสเซอร์ ด้วย CPU-Z

ผลทดสอบกราฟิกการ์ดด้วย GPU-Z

ผลทดสอบประสิทธิภาพผ่าน PCmark10

ผลทดสอบความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูลของ SSD

ผลทดสอบประสิทธิภาพด้วย Cinebench R23

ASUS IceCool Plus จัดการเรื่องความร้อนได้ดี

รีวิว ASUS Vivobook Pro 15 OLED

เมื่อเครื่องประสิทธิภาพแรง ก็ต้องมาพร้อมกับระบบระบายความร้อนที่ดี ด้วย ASUS IceCool Plus ใน Vivobook Pro 15 OLED จะใช้ท่อความร้อนแบบคู่ที่ได้รับการอัพเกรดขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 8 มม. และ 6 มม. พร้อมพัดลมคู่ที่ช่วยเร่งการถ่ายเทความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตัวพัดลมแบบ 86 ใบและใบพัดทำจากพอลิเมอร์คริสตัลเหลวแบบสายโซ่ด้านข้าง (LCP) ที่ออกแบบใบมีดโค้ง 3 มิติ ให้เวลาทำงานเงียบ ต่ำกว่า 40 เดซิเบล และประหยัดพลังงานช่วยเพิ่มกระแสลมได้ถึง 16% ด้วยการสั่นสะเทือนที่น้อยลง

แบตเตอรี่ใช้ได้ยาวนานต่อเนื่อง

รีวิว ASUS Vivobook Pro 15 OLED

ภายใน ASUS Vivobook Pro 15 OLED ให้แบตเตอรี่มาขนาดความจุ 70Wh ถือว่าค่อนข้างใหญ่สำหรับโน้ตบุ๊คไซส์นี้ ช่่วยให้การใช้งานนอกสถานที่ไม่ต้องมีความกังวลเรื่องแบตเตอรี่จะหมดระหว่างวัน สำหรับการใช้งานทั่วไปนั้นสามารถอยู่แบบเช้ายันเย็นได้หายห่วง แต่ถ้าต้องการใช้งานแบบเต็มประสิทธิภาพ ก็ต้องเสียบตัวอะแดปเตอร์เพื่อใช้กำลังไฟในการทำงานด้านกราฟฟิคและประมวลผลได้อย่างเต็มที่

ข้อดีอีกอย่างของ ASUS Vivobook Pro 15 OLED ในการชาร์จแบตเตอรี่ ถ้าคุณรู้สึกว่าไม่อยากพกอะแดปเตอร์ 150W ไปไหนมาไหนด้วย คุณสามารถหาอะแดปเตอร์ 65W ที่เป็นแบบ PD (Power Delivery) แล้วเอาไว้เสียบชาร์จผ่านพอร์ต USB-C ก็ได้ โดยความเร็วในการชาร์จก็อยู่ในระดับที่รวดเร็ว

กล้อง 1080p พร้อม webcam shield

ตัวกล้องที่ให้มา เป็นความละเอียด 1080p ที่มีความคมชัด พร้อมใส่ตัว webcam shield ที่เป็นสวิทช์ให้เลื่อนเพื่อปิดบังกล้องเอาไว้ในเวลาที่ไม่ต้องการใช้งานสำหรับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัว

โดยตัวระบบจะมี เทคโนโลยี ASUS 3D Noise Reduction (3DNR) และซอฟต์แวร์ Intelligent Collaboration มาช่วยในการเพิ่มความคมชัดให้กับกล้องเว็บแคม ที่จะปรับคอนทราสต์ภาพ และลด noise สัญญาณรบกวนที่เกิดขึ้นในภาพให้น้อยลง ทำให้ภาพที่ได้เวลาที่สนทนามีความสวยงามชัดเจนมากขึ้น

ระบบเสียงอัจฉริยะทั้งไมโครโฟนและลำโพง

เรื่องของเสียงก็มีเทคโนโลยีมาช่วยทั้งไมโครโฟนและลำโพง โดยตัวไมค์นั้นจะใช้ AI เพื่อช่วยในการตัดเสียงรบกวนต่างๆ โดยแยกแยกจากสภาพแวดล้อมต่างๆ อาทิ เสียงในบ้านที่อาจจะมีเสียงเด็กร้อง, สุนัขเห่า, เสียงในออฟฟิศที่มีเสียงพูดคุยหรือการทำงานรอบข้าง และเสียงในร้านกาแฟคาเฟ่ ที่จะมีเสียงคนอื่นๆ รอบตัวเรา

ระบบ AI จะวิเคราะห์เพื่อลดความดังของเสียงที่อยู่รอบข้างเราให้น้อยลง และปรับให้เสียงพูดของเรามีความชัดเจน ทำให้การประชุมออนไลน์ที่ปลายสายได้ยินเสียงของเราชัดเจนที่สุด

รีวิว ASUS Vivobook Pro 15 OLED

ระบบเสียงลำโพงให้มาอย่างดี ด้วยระบบเสียงแบบสเตอริโอที่ได้ของ Harman Kardon ให้เสียงที่ทรงพลัง สมจริงคมชัด ทั้งในการสื่อสารและความบันเทิง เพิ่มความเร้าใจสมจริงขึ้นไปอีกด้วย Dolby Atmos® เสียงแบบรอบทิศทาง และยังมี Smart Amp แบบดูอัลแชนเนลที่เพิ่มระดับเสียงและลดความผิดเพี้ยนของเสียง ด้วยการทำงานของชิป DSP ที่มีประสิทธิภาพ ให้เสียงที่ได้สามารถดังได้สุดโดยไม่เกิดความเสียหายกับตัวลำโพง ให้เสียงที่ดีที่สุดอย่างที่คุณต้องการ

เชื่อมต่อไร้สาย ASUS WiFi Master Premium

รีวิว ASUS Vivobook Pro 15 OLED

เทคโนโลยีการเชื่อมต่อไร้สายที่ให้คุณใช้งานออนไลน์ได้อย่างไม่มีสะดุด ที่รองรับมาตรฐานถึง WiFi 6E โดยผสานกับ ASUS WiFi Master Premium ซึ่งรวมถึง ASUS WiFi SmartConnect และรองรับ WiFi Stabilizer WiFi SmartConnect จะเลือกแหล่งสัญญาณ WiFi ที่ดีที่สุดโดยอัตโนมัติ ช่วยให้ไม่ว่าคุณจะเดินไปทำงานในจุดไหนในบ้านหรือออฟฟิศ ระบบจะเลือกเชื่อมต่อจุดสัญญาณที่ดีที่สุดให้ และยังมีระบบช่วยกรองสัญญาณรบกวน ทำให้คุณทำงานได้อย่างราบรื่นตลอดเวลา

ProArt Creator Hub

รีวิว ASUS Vivobook Pro 15 OLED

ใน ASUS Vivobook Pro 15 OLED จะมีหน้าแดชบอร์ดสำหรับปรับประสิทธิภาพการทำงานของเครื่อง รวมถึงปรับเทียบการแสดงสีของหน้าจอ เพื่อให้คุณจูนเครื่องให้พร้อมสำหรับการทำงานใน Workflow แบบที่เราต้องการใช้งาน ที่เลือกปรับส่วนความเร็วพัดลมในการระบายความร้อน ถ้าคุณต้องการความเงียบก็อาจจะเลือกเป็นโหมด Whisper ได้ แต่ถ้าอยากอัดเต็มกำลังก็เลือก Full Speed ได้เลย

ด้วยหน้าจอของ ASUS Vivobook Pro 15 OLED มีความคมชัดและค่าสีมีขอบเขตกว้างสมจริง ใน ProArt Creator Hub จะมีให้ปรับ Calibrate ค่าสีให้มีความเที่ยงตรงตามสภาพแสงของห้องที่ทำงานอย่างที่เราต้องการได้อีกด้วย

และในส่วนของ WorkSmart ก็จะให้เราเลือกรวมกลุ่มโปรแกรมสำหรับการทำงานด้านต่างๆ เพื่อความสะดวกในการจัดหมวดหมู่การทำงานในแต่ละด้านได้อย่างเป็นระเบียบและสะดวกยิ่งขึ้น

MyASUS

รีวิว ASUS Vivobook Pro 15 OLED

แดชบอร์ดศูนย์รวมในการปรับแต่งและควบคุมตัวเครื่อง ASUS Vivobook Pro 15 OLED ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกทั้งการบำรุงรักษาระบบ, อัปเดตซอฟต์แวร์, ปรับแต่งประสิทธิภาพการทำงาน รวมไปถึงการติดต่อกับ ASUS เพื่อขอรับบริการและการสนับสนุนการขาย ในนี้จะรวมการตั้งค่าเพื่อปรับแต่งการทำงานด้านต่างๆ รวมถึงเปิดใช้งานฟีเจอร์ที่มีในตัวเครื่อง ให้คุณเข้ามาเลือกได้ในที่เดียว

สรุป รีวิว ASUS Vivobook Pro 15 OLED เหมาะสำหรับใคร

จากการทดสอบลองใช้งานเจ้า ASUS Vivobook Pro 15 OLED มาได้สักพัก โดยรวมแล้วถือว่าทำได้น่าประทับใจมากๆ สำหรับการทำงาน ด้วยขนาดของเครื่องที่หน้าจอใหญ่แต่ยังอยู่ในไซส์ที่สามารถพกพาได้คล่องตัว เหมาะสำหรับการใช้งานเป็น Work Station ต่อออกจอใหญ่หลายจอทำงานที่บ้านที่ออฟฟิศ หรือจะถอดพกใส่กระเป๋าไปนั่งทำงานนอกสถานที่หรือนัดคุยกับลูกค้าได้สบายๆ

หน้าจอ OLED ที่คุณปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันสวยและสีสันสดใส ส่วนที่เป็นสีดำคือดำสนิท ต่างจากหน้าจอ LCD ที่ยังเป็นสีเทาๆ และการให้สีที่เที่ยงตรงแม่นยำตามมาตรฐาน คนทำงานด้านออกแบบกราฟิก หรือตัดต่อวิดีโอต้องถูกใจกับสิ่งนี้อย่างแน่นอน

รีวิว ASUS Vivobook Pro 15 OLED

สเปคเครื่องเร็วแรงแบบไม่ต้องกังขาอะไร เพียงพอสำหรับการทำงานกราฟิคของเหล่าครีเอเตอร์ได้อย่างสบาย ทั้งงานแต่งภาพ ตัดคลิปวิดีโอ มีช่อง Thunderbolt4 สำหรับคนที่อยากจะต่อเสริมอย่างหน่วยความจำภายนอกเอาไว้ตัดงานจาก External SSD ก็ยังไหว รวมถึงมีพอร์ตต่อออกจอได้ทั้ง HDMI หรือจะ USB-C ก็ได้ ถูกใจสายทำงานต่อหลายจอ

ว่าไปแล้วสเปคนี้ นอกจากทำงาน จะเอาไว้เล่นเกมก็ยังเอาอยู่ เพียงพอสำหรับเกมระดับ AAA ภาพสวย เพราะตัวการ์ดจอ NVIDIA® GeForce RTX™ 3050 Ti นี่รับมือได้สบาย ตัวจอก็เป็น 120Hz ภาพไหลลื่นเนียนๆ หรือต่อออกจอ HDMI 2.1 ก็ได้ด้วย เรียกว่าตัวเดียวทั้งทำงานและบันเทิง ครบได้ในตัวเดียว

สำหรับราคานั้น ถือว่าไม่ได้สูงมากเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ทำได้ ส่วนตัวแนะนำว่าเล่นตัวบนที่เป็น Intel®Core™ i7-12650H ตัวการ์ดจอเป็น NVIDIA® GeForce® RTX 3050 Ti ราคา 43,990 บาท ไปเลย ครบจบพร้อมใช้ได้กับทุกงาน แถมยังมี Windows 11 และ Office Home and Student 2021 มาให้เรียบร้อยแกะเครื่องมาพร้อมใช้ได้เลย

สำหรับผู้ที่สนใจ ASUS Vivobook Pro 15 OLED สามารถดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ www.asus.com

Adblock test (Why?)


รีวิว ASUS Vivobook Pro 15 OLED จอสวยคมชัด ประสิทธิภาพเต็มพลัง พร้อมทุกงานสร้างสรรค์ - Techoffside.com
Read More

รีวิว Death Stranding Director's Cut เล่นบน iPad Pro M2 - iPhoneMod

ในที่สุดสาวก Apple อย่างเราก็ได้เล่นเกม Death Stranding เวอร์ชัน Director’s Cut บนอุปกรณ์ Apple กันแล้ว ใครอยากลองเล่นเข้าไปซื้อเกมใน App S...