Rechercher dans ce blog

Sunday, October 31, 2021

รีวิว Infinix HOT 11S สมาร์ตโฟนขุมพลัง Helio G88 เร็วสุด สนุก เต็มสปีด - mobileocta

หลังจากเปิดตัว Infinix HOT 10S ไปเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา ล่าสุด Infinix ได้เปิดตัว Infinix HOT 11S รุ่นภาคต่อออกมาแล้ว โดยรุ่นนี้มาพร้อมสโลแกน “เร็วสุด สนุก เต็มสปีด” ด้วยขุมพลัง MediaTek Helio G88 ชิปเซ็ตสำหรับการเล่นเกมและความบันเทิงตัวจริง พร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ 6.78 นิ้ว และมีอัตรารีเฟรชเรท 90Hz

รวมถึงกล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียดสูงสุด 50 ล้านพิกเซล กับรูรับแสงกว้างพิเศษ F1.6 ทำให้ผู้ใช้งานสนุกกับการถ่ายภาพ ได้ภาพคมชัด สวยงาม และแบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh รองรับระบบชาร์จไว 18W พร้อมเทคโนโลยี Power Marathon ที่ประหยัดพลังงาน 

นอกจากนี้ Infinix HOT 11S ยังครบเครื่องเรื่องคุณสมบัติการใช้งาน ในราคาสุดคุ้ม อยากรู้กันแล้วใช่ไหมครับว่าคุณสมบัติการใช้งานที่ว่านี้จะเป็นอย่างไร เราไปดูรีวิวกันเลยครับ

Infinix HOT 11S

สเปคเบื้องต้น Infinix Hot 11S

ขนาด 168.9 x 77 x 8.8 มม.
น้ำหนัก 205 กรัม
หน้าจอ Punch Hole Display แบบ IPS LCD ความละเอียด FHD+ 1080 x 2480 พิกเซล (399 ppi) ขนาด 6.78 นิ้ว ในอัตราส่วน 20.5:9, สัดส่วนจอต่อเครื่อง 90.53% โดยมีอัตรารีเฟรชเรท 90Hz, ความสว่างสูงสุด 500nits และครอบทับด้วยกระจกกันรอย NEG Dinorex T2X-1
หน่วยประมวลผล Octa Core ความเร็ว 2.0GHz โดยใช้ชิปเซ็ท MediaTek Helio G88 (12nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-G52 MC2
RAM 6GB
หน่วยความจำภายในเครื่อง 128GB
microSD Card สูงสุด 256GB
กล้องถ่ายภาพ กล้องหลัง 3 ตัว AI Triple Camera พร้อมไฟแฟลช Quad LED ประกอบด้วย
– กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.6, (wide) และระบบ PDAF
– กล้องตัวที่สองเลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
– กล้องตัวที่สาม เลนส์ AI

กล้องหน้าเซลฟี่ ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0

ระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย XOS 7.6
เชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n, hotspot, Bluetooth 5.0, GPS with A-GPS, FM Radio, USB Type-C 2.0, USB On-The-Go
รองรับระบบ 4G LTE 850/900/1800/2100/2300/2500/2600 MHz และ 3G 850/900/2100 MHz ( 4G และ 3G ทุกเครือข่ายในไทย)
แบตเตอรี่ 5,000 mAh รองรับระบบชาร์จไว 18W พร้อมเทคโนโลยี Power Marathon ที่ประหยัดพลังงาน
ราคา ราคา  5,599 บาท 

อุปกรณ์ภายในกล่อง

กล่องแพ็คเกจจิ้งของ Infinix Hot 11S เป็นกล่องกระดาษแข็งสีเขียวสะท้อนแสง ด้านหน้ากล่องสลักชื่อรุ่นขนาดใหญ่ โดยมุมขวาบนล่างระบุหน่วยความจำขนาด RAM 6GB+128GB และด้านขวาล่างระบุชิปเซ็ท Helio G88 Dual Chip Processor ชิปเซ็ตสำหรับการเล่นเกมและความบันเทิงตัวจริงจากค่าย MediaTek 

ส่วนด้านหลังกล่องจะระบุสเปกเบื้องต้นเช่น ชนาดตัวเครื่อง, หน่วยความจำ, หน้าจอแสดงผล, ความละเอียดกล้องหน้าและกล้องหลัง เป็นต้น พร้อมข้อมูลผู้ผลิต และผู้นำเข้า

อุปกรณ์ภายในกล่องประกอบไปด้วย

1.ตัวเครื่อง Infinix HOT 11S

2.สาย USB Type-C + อะแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 18W

3.อุปกรณ์เปิดถาดซิมการ์ด

4.เคสพลาสติกใส

5.คู่มือการใช้งานฉบับย่อ + ใบรับประกันสินค้า

6,บัตรเชิญเข้าสู่ XCLUB ซึ่งเป็นคอมมูนิตี้ของผู้ใช้สมาร์ทโฟน Infinix

รูปลักษณ์ดีไซน์

ตัวเครื่อง Infinix HOT 11S มีรูปลักษณ์ดีไซน์ดีไซน์เรียบหรู ดูทันสมัย ด้วยขนาด 168.9 x 77 x 8.8 มม. และน้ำหนัก 205 กรัม และมีให้เลือก 3 สีคือ สีดำ (Polar Black) สีเขียว (Green Wave) และสีม่วง (7 Degree Purple) โดยสีที่ทางทีมงาน MobileOcta ได้มาพรีวิวแกะกล่องคือ สีเขียว (Green Wave)

หน้าจอแสดงผลแบบ Punch Hole Display แบบ IPS LCD ความละเอียด FHD+ 2480 x 1080 พิกเซล (399ppi) ขนาด 6.78 นิ้ว ในอัตราส่วน 20.5:9 และมีสัดส่วนระหว่างหน้าจอกับตัวเครื่องที่ 90.53% และความสว่างสูงสุด 500nits 

ตรงกลางด้านบนติดตั้งกล้องเซลฟี่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0

พลิกมาด้านหลังเครื่องมุมซ้ายด้านบนติดตั้งกล้อง 3 ตัว พร้อมไฟแฟลช Quad LED อยู่โมดูลรูปทรงวงรีด้านบน ประกอบด้วย

  • กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.6, (wide) และระบบ PDAF
  • กล้องตัวที่สองเลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
  • กล้องตัวที่สาม เลนส์ AI

รองรับการถ่ายภาพนิ่งความละเอียดสูงสุด 8160 x 6120 พิกเซล (50MP) และถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุด
1440p@30fps

ถัดลงมาตรงกลางมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ

ด้านซ้ายข้างเครื่องมีช่องสำหรับใส่ SIM Card แบบ Triple Slot Tray แบ่งเป็นช่องใส่ SIM Card แบบ nanoSIM Card 2 ช่อง และช่องใส่การ์ดหน่วยความจำภายนอก 1 ช่อง

ด้านขวาข้างเครื่องมีปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง กับปุ่ม Power สำหรับเปิดปิดเครื่อง

ด้านบนเครื่องออกแบบเรียบๆ ไม่มีช่อง หรือปุ่มกดใดๆ

ด้านท้ายเครื่องมีช่องหูฟังขนาด 3.5 มม. ช่องไมโครโฟน, พอร์ต USB Type-C 2.0 และช่องลำโพงเสียง

คุณสมบัติการใช้งาน

Infinix HOT 11S รันบนระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย XOS 7.6 ที่ทาง Infinix เป็นผู้พัฒนาขึ้นมาเอง โดยมีหน้าตาเมนูที่ดูสวยงาม มี Theme ให้เลือกดาวน์โหลดมากมาย อีกทั้งมีฟีเจอร์ต่างๆ ที่น่าสนใจอย่าง Freeze หรือตู้แช่แข็ง ที่สามารถย้ายแอปที่ไม่ได้ใช้งานบ่อยๆ หรือแอปที่ชอบทำงานอยู่เบื้องหลัง ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต หรือแอบทำงานโดยที่เราไม่รู้ตัว ซึ่งสามารถย้ายเข้าไปเก็บไว้ได้ ทำให้แอปเหล่านั้นหยุดการทำงานทั้งหมด

ส่วนหน้าจอหลักนั้น มีหน้าจอเริ่มต้นให้ใช้ทั้งหมด 2 หน้าด้วยกัน โดยด้านซ้ายเป็นหน้าจอหลัก ส่วนด้านขวาเป็นหน้ารวมแอปพลิเคชั่น และสามารถเพิ่มได้ตามจำนวนแอปที่ดาวน์โหลดมา ด้านบนเมื่อใช้นิ้วแตะลากลงมาจะเป็นส่วนแสดงรายละเอียดเครือข่ายที่ใช้งาน กิจกรรมล่าสุด และการแจ้งเตือนต่างๆ

ส่วนด้านล่างมีปุ่มควบคุมการใช้งานต่างๆ 3 ปุ่มด้วยกันได้แก่ ปุม Recent Apps, ปุ่มโฮม ถ้ากดค้างไว้จะเข้าหน้า Google Assistant และปุ่มย้อนกลับ

รองรับ 2 SIM แบบ dual sim dual standby สามารถใช้งาน 4G ได้พร้อมกันทั้งซิมหนึ่ง และซิมสอง

รองรับการปลดล็อคหน้าจอด้วยการสแกนใบหน้า

ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังเครื่อง

มาพร้อมหน้าจอที่มีอัตรารีเฟรชเรท 90Hz อัตราสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัส 180Hz ทำให้ผู้ใช้งานเพลิดเพลินได้อย่างเต็มตา และได้รับประสบการณ์ความบันเทิงอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นการเล่นโซเชียลมีเดีย การรับชมความบันเทิง คอนเทนต์สนุกๆ บน Youtube หรือการเล่นเกม MOBA อย่าง RoV คุณก็จะเล่นได้ลื่นไม่มีสะดุดพร้อมภาพคมชัดและสีสันที่สวยงาม

Facebook Notice for EU! You need to login to view and post FB Comments!

Adblock test (Why?)


รีวิว Infinix HOT 11S สมาร์ตโฟนขุมพลัง Helio G88 เร็วสุด สนุก เต็มสปีด - mobileocta
Read More

หัวเว่ยเตรียมเปิดตัว HUAWEI nova 9 ในวันที่ 2 พฤศจิกายนนี้ - THE ALL APPS

หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป (ประเทศไทย) พร้อมสร้างปรากฏการณ์ยิ่งใหญ่ส่งท้ายปี หวนคืนตลาดสมาร์ทโฟนเปิดตัว HUAWEI nova 9 สมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับความโดดเด่นในเรื่องของกล้องถ่ายภาพด้วยเทคโนโลยีแบบ Super Sensing มอบความงดงามผ่านผลงานการบันทึกวีดีโอที่คมชัดระดับ 4K ผ่านทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ตรึงสายตาบนหน้าจอแสดงผล OLED ที่มีประสิทธิภาพสูงอัตราการตอบสนองของหน้าจอ 120Hz ช่วยให้การแสดงผลลื่นไหล และสะท้อนสีสันได้ดีไม่ผิดเพี้ยนในเวลาเดียวกัน เอนจอยตลอดวันไปกับทุกความบันเทิงผ่านฟังก์ชันชาร์จไว 

พร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการ และประกาศราคาในประเทศไทย รวมถึงโปรโมชันพิเศษก่อนใคร ในวันอังคารที่ 2 พฤศจิกายน 2564 เวลา 20.00 น. ที่ Facebook Huawei Mobile TH และ YouTube Huawei Mobile TH และ Line Official Account HUAWEI Mobile Thailand

หัวเว่ยเตรียมเปิดตัว HUAWEI nova 9 ในวันที่ 2 พฤศจิกายนนี้

HUAWEI nova 9 สมาร์ทโฟนสุดชิค สะกดทุกสายตา พร้อมสุดยอดเทคโนโลยีด้านการถ่ายภาพอันเหนือชั้น

ดีไซน์บางเฉียบ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในแบบฉบับของ nova และกล้องระดับไฮเอนด์ 50 MP RYYB ที่ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังสามารถบันทึกวีดีโอคุณภาพสูงระดับ 4K สร้างความประทับใจในทุกเฉดสี รองรับเทคโนโลยีการถ่ายภาพแบบ Super Sensing แถมตอบสนองฉับไว แม่นยำด้วยอัตรารีเฟรชหน้าจอสูงถึง 120Hz ใช้งานได้ต่อเนื่องด้วยพลังงานแบตเตอรี่ความจุ 4300 mAh ควบคู่เทคโนโลยีชาร์จไว 66W HUAWEI SuperCharge พร้อมระบบอีโคซิสเต็มเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ที่สมบูรณ์แบบ สะดวกในการใช้ชีวิตไร้รอยต่อในโลกแห่งอนาคตซึ่งผสมผสานเทคโนโลยีและวิถีชีวิตเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว

พบกันเร็วๆ นี้กับสมาร์ทโฟนสุดชิคในตระกูล nova สมาร์ทโฟนกล้องเทพที่มีจุดเด่นเฉพาะตัว ยกระดับสกิลการทำคอนเทนต์ถ่ายภาพ และวิดีโอขึ้นไปอีกขั้น อัดแน่นไปด้วยฟังก์ชันการเชื่อมต่อระหว่างดีไวซ์ที่ไม่ธรรมดา ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของวัยรุ่นยุคใหม่ได้แบบคูลคูล Be Inspired. Be nova. ไปด้วยกัน สามารถติดตามรายละเอียดโปรโมชันอื่นๆ ได้ทาง Facebook Huawei Mobile TH และติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ได้ที่นี่ หรือผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซได้แก่ HUAWEI Online Store และร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการของหัวเว่ยใน Shopee, Lazada และ JD Central

Adblock test (Why?)


หัวเว่ยเตรียมเปิดตัว HUAWEI nova 9 ในวันที่ 2 พฤศจิกายนนี้ - THE ALL APPS
Read More

Unbox : พรีวิวแกะกล่อง realme Narzo 50i สมาร์ตโฟนที่มอบประสบการณ์การเล่นเกมที่คุ้มค่าที่สุด - mobileocta

เดินทางมาถึงประเทศไทยแล้วสำหรับ realme Narzo 50i สมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ตระกูล Narzo Series ที่มาพร้อมสเปกครบครัน และมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่คุ้มค่าที่สุด ในราคาสบายกระเป๋า ซึ่งก่อนที่จะได้ชมรีวิวเต็ม ไปชมพรีวิวแกะกล่องกันก่อนเลยครับ

สเปกเบื้องต้น realme Narzo 50i

ขนาด 165.2 x 76.4 x 8.9 มม.
น้ำหนัก 195 กรัม
หน้าจอ Mini-drop Fullscreen แบบ IPS LCD ความละเอียด HD+ 720 x 1600 พิกเซล ขนาด 6.5 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 โดยมีสัดส่วนจอต่อเครื่องที่ 88.7% ความสว่างสูงสุด 400 nits และมีอัตรารีเฟรชเรท 60Hz
หน่วยประมวลผล ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 1.6GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Unisoc SC9863A SoC, หน่วยประมวลผลกราฟิก IMG8322
RAM 2GB/4GB แบบ  LPDDR4X
หน่วยความจำภายในเครื่อง 32GB/64GB
microSD Card รองรับ
ระบบปฏิบัติการ  Android 11 ครอบทับด้วย realme UI Go Edition
เชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 b/g/n, hotspot, Bluetooth 4.2, ช่องหูฟัง 3.5 มม., พอร์ต microUSB 2.0, USB On-The-Go, GPS with A-GPS, GLONASS, GALILEO, BDS
กล้องถ่ายภาพ กล้องหลังเดี่ยว พร้อมไฟแฟลช LED ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0, 4P Lens, ซูมดิจิทัล 4 เท่า และระบบออโต้โฟกัส

กล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2

รองรับระบบ Dual Slot  แบบ 2 ซิม ชนิดนาโนซิม Support 4G+4G dual sim dual standby
Frequency Bands:
GSM: 850/900/1800/1900MHz
WCDMA: 850/900/2100MHz
FDD-LTE: Bands 1/3/5/8
TD-LTE: Bands 38/40/41 (2535-2655MHz)
แบตเตอรี่ 5,000mAh และรองรับการชาร์จ OTG
สี Carbon Black และ Mint Green
ราคา X,XXX บาท

บรรจุภัณฑ์ / อุปกรณ์ภายในกล่อง

realme

กล่องบรรจุภัณฑ์ของ realme Narzo 50i มาในแพ็คเกจสีฟ้าสดใสโดยมีขนาดพอดีกับตัวเครื่อง ด้านหน้ากล่องระบุชื่อรุ่นให้เห็นอย่างชัดเจน

ด้านหลังกล่องระบุสเปกเด่น 4 อย่างคือ แบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh, ขุมพลังซีพียูแบบ Octa Core , หน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว และรองรับ 2 SIM Card + 1 MicroSD พร้อมรายละเอียดสีตัวเครื่อง เลขอีมี่ ขนาดหน่วยความจำ เครือข่ายที่รองรับ และวันที่ผลิต

เมื่อเปิดกล่องออกมาจะพบตัวเครื่อง realme Narzo 50i ในสี Carbon Black ซึ่งติดฟิลม์กันรอยมาให้เรียบร้อย

ส่วนอุปกรณ์ภายในกล่องมีดังนี้

  • คู่มือการใช้งานฉบับย่อ ข้อมูลด้านความปลอดภัย และบัตรรับประกัน
  • อุปกรณ์เปิดถาดซิมการ์ด
  • อแดปเตอร์ 5V2A
  • สายดาต้าลิงค์แบบ microUSB 2.0

อแดปเตอร์ชาร์จไฟ 5V2A

รูปลักษณ์ดีไซน์ / การออกแบบ

ตัวเครื่อง realme narzo 50i มีรูปลักษณ์ดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจจากเส้นทะแยงมุม โชว์ถึงความเป็นคนรุ่นใหม่ทั้งความคิดและบุคลิกภาพ พร้อมกันนี้ยังดึงดูดสายตา เพิ่มความโดดเด่นเป็นอย่างมาก มาด้วยกัน 2 สี คือ Mint Green และ Carbon Black และด้วยความบางเพียง 8.9 มิลลิเมตร ช่วยให้รู้สึกสบายเมื่อได้สัมผัสและใช้งาน

หน้าจอแสดงผลเป็นจอรอยบากทรงหยดน้ำ Mini-drop Fullscreen แบบ IPS LCD ความละเอียด HD+ 720 x 1600 พิกเซล ขนาด 6.5 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 โดยมีสัดส่วนจอต่อเครื่องที่ 88.7% ความสว่างสูงสุด 400 nits และมีอัตรารีเฟรชเรท 60Hz

และในรอยบากติดตั้งกล้องเซลฟี่ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2

ด้านหลัง ติดตั้งกล้องเดี่ยว พร้อมไฟแฟลช LED อยู่ในโมดูลสี่เหลี่ยมมุมซ้ายด้านบน ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสง f/2.0

ด้านซ้ายข้างเครื่องมีช่องสำหรับใส่ SIM Card แบบ Triple Slot Tray แบ่งเป็นช่องใส่ SIM Card แบบ nanoSIM Card 2 ช่อง และช่องใส่การ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD Card อีก 1 ช่อง

ด้านขวาข้างเครื่องมีปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง กับปุ่ม Power สำหรับเปิดปิดเครื่อง 

ด้านบนออกแบบเรียบๆ ไม่มีปุ่มกด หรือช่องใดๆ

ด้านท้ายเครื่องมีช่องหูฟังขนาด 3.5 มม. ช่องไมโครโฟน, ช่องลำโพงเสียง และพอร์ต microUSB 2.0

ไฮไลท์ฟีเจอร์เด่นบน realme Narzo 50i

realme Narzo 50i มาพร้อมหน้าจอ Mini-drop design โดยโครงสร้างภายในของหน้าจอใช้กระบวนการสแต็คที่ได้รับการอัปเกรดใหม่ มีการดึงชิ้นส่วนและส่วนประกอบให้ชิดกันมากยิ่งขึ้น เพื่อลดพื้นที่ในส่วนของมินิดรอปและทำให้อัตราส่วนหน้าจอสูงถึง 88.7% ซึ่งจะช่วยลดการรบกวนในการมองเห็นให้น้อยลงในขณะที่เพลิดเพลินกับความสะดวกสบายจากหน้าจอขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว มอบประสบการณ์การการใช้งานได้อย่างเต็มตา ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกม ฟังเพลงหรือดูวิดีโอ

ประสิทธิภาพจัดเต็ม ด้วยหน่วยประมวลผล octa-core ช่วยให้ทำงานได้อย่างลื่นไหล ไม่เพียงแต่การใช้งานในชีวิตประจำวันเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการเล่นเกมระดับเริ่มต้นอีกด้วย นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับความจุขนาด 64GB รวมถึงถาดใส่ซิม 3 ช่อง สำหรับใส่ซิมการ์ด 2 ช่องและ SD Card 1 ช่อง โดยสามารถเพิ่มความจุได้สูงสุงถึง 256GB

realme narzo 50i มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่จุใจขนาด 5000 มิลลิแอมป์ ให้คุณสนุกกับสมาร์ตโฟนได้อย่างเต็มที่แบบไม่มีหยุด และด้วยการชาร์จ OTG แบบพิเศษ จะสามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้ครื่องอื่นได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งมีโหมด Ultra Saving Mode จะช่วยประหยัดพลังงานสำหรับสมาร์ตโฟน โดยเมื่อเปิดใช้งาน Ultra Saving Mode สมาร์ตโฟนจะสแตนบายด์ได้นานถึง 2 วัน หรือหากแบตเตอรี่เหลือเพียง 5% ก็สามารถใช้งานในการโทรได้นานถึง 2.2 ชั่วโมง และมี App Standby Optimizer ที่เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานของแอปพลิเคชั่นในขณะที่อยู่ในโหมดสแตนด์บายได้

ทั้งนี้ realme Narzo 50i มีกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย พร้อมกับสมาร์ตโฟน Flagship Killer รุ่นใหม่ “realme GT Neo2” และผลิตภัณฑ์ AIoT สุดล้ำอีกมากมาย ในงาน ‘Everything in NEO’ ซึ่งจะจัดขึ้นในรูปแบบออนไลน์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่างเป็นทางการของทาง realme ได้แก่ YouTube  และ Facebook  ในวันที่  3 พฤศจิกายน 2564 ตั้งแต่เวลา 14.00 – 15.00 น. ส่วนคุณสมบัติอื่นๆ รวมถึงราคา และโปรโมชั่น สามารถติดตามได้ในรีวิวฉบับเต็มเร็วๆ นี้ครับ

Facebook Notice for EU! You need to login to view and post FB Comments!

Adblock test (Why?)


Unbox : พรีวิวแกะกล่อง realme Narzo 50i สมาร์ตโฟนที่มอบประสบการณ์การเล่นเกมที่คุ้มค่าที่สุด - mobileocta
Read More

สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในการประชุมยุค Next Normal ด้วย Jabra PanaCast 50, Video Conference แบบ Sound Bar - iphone-droid.net

องค์กรในปัจจุบันถูกผลักดันด้วยปัจจัยต่างๆ ทำให้ต้องพัฒนาตนเองไปสู่แนวทางการดำเนินธุรกิจในรูปแบบใหม่ ในลักษณะที่เรียกกันว่า Next Normal ซึ่งเป็นการทำงานที่มีลักษณะของการผนวกเอาเทคโนโลยีเข้าไปใช้มากขึ้น เป็นไปในแนวทางที่เรียกกันว่า Modernization Workplace  โดยที่ผู้คนทั่วไปสามารถทำงานได้ในทุกที่ผ่านทางระบบการพบปะ พูดคุย และประชุมกันทางระบบ VDO Conference ยุคใหม่แห่งอนาคต ไม่จำเป็นจะต้องอยู่ภายในสำนักงานอีกต่อไป

อย่างไรก็ตามการที่จะเข้าสู่โลกการทำงานแบบ Modernization Workplace นั้นเป็นสิ่งที่้ท้าทายอย่างมาก ในแง่ของการสร้างประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับระบบประชุมทางไกล ที่ทุกวันนี้ต่างประสบปัญหาเรื่องของการสื่อสารที่ไม่ราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นภาพที่ขาดความคมชัดและเสียงที่ไม่ชัดเจน รวมถึงความยุ่งยากในการติดตั้งและใช้งาน ทั้งหมดนี้ส่งผลในแง่ลบต่อประสิทธิภาพการทำงานโดยรวมต่อองค์กร

Jabra คือผู้นำด้านนวัตกรรม Audio ระดับโลก ที่พัฒนาอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อรองรับกับความต้องการในการทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง Jabra ได้เข้าใจถึงแนวทางการดำเนินธุรกิจของผู้คนที่เปลี่ยนแปลงไป ตลอดจนตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้นจากการใช้งานอุปกรณ์ที่ไม่มีประสิทธิภาพ จึงได้พัฒนาอุปกรณ์ในการประชุมอัจฉริยะ “Jabra PanaCast 50” ที่ออกมาตอบโจทย์ในการทำงานลักษณะ Modernization Workplace ได้เป็นอย่างดี ช่วยสร้างความเป็นมืออาชีพให้กับองค์กรอย่างที่สุด

Jabra PanaCast 50 นวัตกรรมที่แตกต่าง

PanaCast 50 เป็นอุปกรณ์ Unified Communication (UC) อัจฉริยะ ที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานด้านระบบการประชุมทางไกลในยุคใหม่ มาพร้อมด้วยดีไซน์อันโดดเด่นในลักษณะแบบ Video Bar ที่รวมเอาสุดยอดเทคโนโลยีภาพที่ให้ความละเอียดสูงถึงระดับ 4K ในแบบมุมมองขายได้สูงสุด 180 องศา ผ่านทางกล้องขนาดความละเอียด 13 เมกะพิกเซลที่ให้มาถึง 3 ตัว ช่วยเพิ่มมุมมองการมองเห็นที่กว้างขึ้นทำให้ผู้เข้าร่วมประชุมสามารถนั่งเว้นระยะห่างในห้องประชุมได้ง่ายกว่าเดิม

ตัวกล้อง Jabra PanaCast 50 ยังมีระบบซูมอัจฉริยะ Virtual Director ที่ช่วยซูมภาพผู้พูดระหว่างประชุมได้อัตโนมัติไม่ว่าจะนั่งอยู่มุมใดในห้อง โดยกล้องจะทำการโฟกัสและจับภาพไปยังผู้พูดโดยอัตโนมัติ อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี Intelligent Zoom ช่วยปรับขอบเขตมุมรับภาพอัตโนมัติ (Field of View – FOV)  ตามจำนวนผู้เข้าประชุม พร้อมด้วยระบบ Live Whiteboard ที่ช่วยจับภาพของการขีดเขียนผ่านไวท์บอร์ดเป็นเสมือนการแชร์หน้าจอทำให้ผู้เข้าร่วมประชุมสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้ตลอดเวลา ฟังก์ชันนี้สามารถใช้ร่วมกับแพลตฟอร์มและโซลูชันในการประชุมต่างๆ เช่น Microsoft Teams, Microsoft Teams Room และ Zoom, Zoom Room รวมถึงแพลตฟอร์มทั่วๆไปในท้องตลาด

ในส่วนของระบบเสียงนั้น ต้องถือว่า PanaCast 50 ให้เสียงที่เป็นอัตลักษณ์และมีประสิทธิภาพของเสียงที่ยอดเยี่ยม โดยใช้เทคโนโลยี Beamforming ที่อยู่ในไมโครโฟนทั้ง 8 ตัว เทคโนโลยีดังกล่าวนี้ ทำให้ผู้ใช้ฝั่งปลายทางได้ยินเสียงสนทนาหรือพูดคุยได้อย่างชัดเจนโดยไม่ต้องเชื่อมต่อไมโครโฟนเพิ่ม อีกทั้งยังมาพร้อมกับลำโพงทั้งหมด 4 ตัว (เป็น Subwoofer ขนาด 50 มม. และ Tweeters 20 มม.) ให้พลังเสียงที่คมชัดสมจริงในแบบ High Definition ราวกับอยู่ในห้องประชุมจริง  PanaCast 50 ยังมีเทคโนโลยี PeopleCount ซึ่งช่วยนับจำนวนผู้เข้าร่วมประชุมให้เราอีกด้วย

นอกจากนี้ด้วยสถาปัตยกรรมแบบ Ultra-Advance System ผ่านทางตัวประมวลผล Edge-AI processing ที่ช่วยในการประมวลผลในลักษณะแบบ AI  ซึ่งได้รวบรวมเอาความสามารถของภาพและเสียงที่โดดเด่นของ PanaCast 50 มารวมเป็นหนึ่งเดียวเพื่อสร้างมิติแห่งการประชุมทางไกลในยุค Modernization Workplace ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ติดตั้งและใช้งานง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ!

ความโดดเด่นของ PanaCast 50 ที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเองก็คือ “ความง่าย” ในการติดตั้งและใช้งาน ด้วยความที่แพลตฟอร์มตัวนี้เป็นระบบแบบ Plug-and-Play คุณแค่เชื่อมต่อ PanaCast 50 เข้ากับคอมพิวเตอร์ของคุณผ่านทางระบบ USB-C เพียงแค่นี้ก็เริ่มต้นการประชุมผ่านทางแพลตฟอร์ม UC อัจฉริยะ PanaCast 50 ได้แล้ว และหากต้องการความสะดวกสบายเพิ่มขึ้นอีกสักนิด คุณสามารถใช้ตัว Remote Control (ออปชันเสริม) เพื่อช่วยงานคุณได้ในทุกๆ การประชุม

บทสรุปแห่งความอัจฉริยะ

จากประสบการณ์กว่า 150 ปีในโลกการสื่อสารจากประเทศเดนมาร์ก PanaCast 50 คืออุปกรณ์  Unified Communication (UC) ที่ Jabra ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับการทำงานในยุค Modernization Workplace ตอบโจทย์ความต้องการของการประชุมทางไกลด้วยภาพความละเอียดสูงและเสียงที่คมชัดพร้อมด้วยคุณสมบัติพิเศษที่ครบถ้วน และยังรองรับการใช้งานร่วมกับ Microsoft Team, Zoom นอกจากนี้ยังสามารถทำงานร่วมกับแพลตฟอร์ม UC อื่นๆ อีกมากมาย

Adblock test (Why?)


สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในการประชุมยุค Next Normal ด้วย Jabra PanaCast 50, Video Conference แบบ Sound Bar - iphone-droid.net
Read More

รีวิว Death Stranding Director's Cut เล่นบน iPad Pro M2 - iPhoneMod

ในที่สุดสาวก Apple อย่างเราก็ได้เล่นเกม Death Stranding เวอร์ชัน Director’s Cut บนอุปกรณ์ Apple กันแล้ว ใครอยากลองเล่นเข้าไปซื้อเกมใน App S...