Rechercher dans ce blog

Friday, June 30, 2023

รวว Redmi 12 สมารตโฟนสดคม ดไซนดานหลงกระจกพรเมยม พรอมจอขนาดใหญ 90Hz FHD - mobileocta

ตลาดสมาร์ตโฟนราคาประหยัดยุคนี้ถือว่าเดือดมากจริงๆ ครับ ด้วยความที่เทคโนโลยีแม้จะมีคุณภาพที่สูงขึ้น แต่ราคามักจะต่ำลงทุกปี อย่างเช่น Redmi 12 สมาร์ตโฟนแบรนด์ลูกจากค่าย Xiaomi ที่ขึ้นชื่อเรื่องความคุ้มค่าอยู่แล้ว และเป็นรุ่นที่เราได้มารีวิววันนี้ เป็นอีกหนึ่งสมาร์ตโฟนราคาประหยัดที่น่าสนใจมากทีเดียวครับ

Redmi 12

เกริ่นกันคร่าวๆ ก่อนที่เราจะไปรีวิวว่า Redmi 12 มีราคาค่าตัวอยู่ที่ระดับครึ่งหมื่นเท่านั้น แต่ค่อนข้างเพรียบพร้อมด้วยฟีเจอร์และคุณสมบัติที่น่าใช้มากทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ที่ถอดแบบและวัสดุสวยหรูไม่แพ้รุ่นระดับสูง ชิปเซ็ต Helio G88 ที่เล่นเกมได้มันส์มือมาก

มีหน้าจอที่แสดงผล Full HD+ 90Hz ได้ลื่นไหลสวยงามสบายตา และมีแบตเตอรี่ที่ อึด ถึก ทน ชาร์จไวใช้ได้ สะใจคนชอบมือถือแบตเยอะๆ ไม่ชอบพกพาแบตสำรองให้หนักกระเป๋าอย่างแน่นอน แต่การรีวิวจริงจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังในรีวิวนี้เลยครับ

สเปก Redmi 12

  • หน้าจอ : ขนาด 6.79 นิ้ว Full HD+ DotDisplay ความละเอียด 2460×1080 พิกเซล, 396ppi, 90Hz AdaptiveSync, สว่าง 550nits, 1500:1 Contrast Ratio, NTSC 70%
  • CPU : MediaTek Helio G88, 2.0GHz
  • RAM : LPDDR4X 8GB
  • ROM : eMMC 5.1 128GB
  • รองรับ microSD Card สูงสุด 1TB
  • ระบบปฏิบัติการ : Android 13 ครอบทับด้วย MIUI 14
  • กล้องถ่ายภาพ
    • กล้องหลัง
      • กล้องหลัก 50MP f/1.8
      • กล้อง Ultrawide 8MP f/2.4
      • กล้อง macro 2MP f/2.4
    • กล้องหน้า 8MP f/2.1
  • แบตเตอรี่ : 5000mAh รองรับชาร์จเร็ว 18W ผ่านพอร์ต USB-C
  • ซิมการ์ด : รองรับ 2 ซิมการ์ดแบบ Hybrid (SIM1 + Hybrid SIM หรือ microSD)
  • รองรับการเชื่อมต่อ : 4G LTE + Wi-Fi 2.4GHz หรือ 5GHz
  • มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบริเวณปุ่ม Power
  • รองรับ FM Radio โดยใช้หูฟังเป็นสายสัญญาณ
  • ขนาดตัวเครื่อง : 168.60 x 76.28 x 8.17 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก 198.5 กรัม
  • ตัวเลือกสี : Midnight Black, Sky Blue, Polar Silver
  • กันน้ำ : IP53 ป้องกันน้ำกระเซ็น
  • ราคาเปิดตัว : 5,299 บาท 

อุปกรณ์ในกล่อง Redmi 12

  • ตัวเครื่อง Redmi 12
  • สาย USB 2.0
  • อะแดปเตอร์ชาร์จ 22.5W
  • เคสพลาสติกใส
  • เข็มจิ้มซิมการ์ด
  • คู่มือ และใบรับประกัน

ดีไซน์การออกแบบ

ด้านดีไซน์การออกแบบของ Redmi 12 ถือว่าเป็นหนึ่งในจุดขายหลักของรุ่นนี้เลยครับ เพราะส่วนใหญ่ถ้าเป็นสมาร์ตโฟนราคาประหยัด ก็มักจะมีการออกแบบที่ดูบ้านๆ หรือใช้วัสดุที่ค่อนข้างเน้นลดต้นทุน แต่ไม่ใช่กับ Redmi 12 รุ่นนี้ครับ เพราะสมาร์ตโฟนรุ่นนี้ถูกออกแบบสไตล์สมาร์ตโฟนเกรดพรีเมี่ยมในตลาดเลยครับ คือมีหน้าจอขนาดใหญ่ ใช้ช่องเจาะรู punch-hole ที่สวยงาม ต่างจากคู่แข่งที่ยังใช้รอยบากทรงหยดน้ำอยู่เลย และที่สำคัญ วัสดุด้านหลังเป็นกระจกด้วยครับ ช่วยยกระดับความพรีเมี่ยมได้อีกเยอะเลยทีเดียว และงานประกอบถือว่าแน่นหนามีความบางเพียง 8.17 มม. โดยรวมด้านการออกแบบให้ 10/10 ไม่หักได้เลยครับ 

ดีไซน์ด้านหน้าจะเป็นหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6.79 นิ้ว ให้ความละเอียดระดับสูง Full HD+ 2460×1080 พิกเซล ทำให้หน้าจอนี้มีความคมชัดสูงมาก เพิ่มสุนทรีย์ในการรับชมหน้าจอได้ดีมากจริงๆ

โดยหน้าจอมีความคมชัดต่อตารางนิ้วที่ 396ppi รองรับอัตรารีเฟรชเรทที่ 90Hz รองรับ AdaptiveSync ให้การแสดงผลที่ลื่นไหล ไม่มีสะดุด จะเล่นเกมหรือดูหนังก็ลื่นไหลดีมาก มีความสว่างถึง 550nits สามารถสู้แสงกลางแจ้งได้ดีใช้ได้ครับ 

ตรงกลางด้านบนเจาะรูฝังกล้องเซลฟี่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล โดยรวมบอกได้เลยว่าใครที่หามือถือไว้เล่นเกม หรือรับชมคอนเท้นต์ดูหนังดูซีรีย์ บอกเลยว่าฟินจัดๆ ครับ 

ทางด้านซ้ายของตัวเครื่องมีถาดใส่ซิมการ์ด ซึ่งรุ่นนี้จะเป็นแบบ Hybrid SIM ครับ คือซิมสองจะต้องเลือกว่าจะใส่ซิมการ์ดหรือว่า MicroSD Card นั่นเอง ซึ่งหน่วยความจำเสริมจะรองรับสูงสุดที่ 1TB

ด้านขวาจะมีปุ่มควบคุมคือปุ่ม Power และปุ่มควบคุมเสียงครับ ซึ่งปุ่ม Power นี้จะใช้สำหรับสแกนลายนิ้วมือด้วย

ด้านบนจะมีพอร์ต IR สำหรับการเป็นรีโมท และช่องเสียงหูฟัง 3.5 มม. 

ส่วนด้านล่างจะมีไมค์สนทนา พอร์ต USB-C และช่องลำโพง ซึ่งรุ่นนี้จะมีลำโพงเพียงจุดเดียวคือด้านล่างนี้นั่นเอง 

และด้านหลังจะมีกล้องทั้งหมด 3 ตัวครับ คือ กล้องหลัก, Ultrawide และ Macro โดยจะมีไฟแฟลช LED อยู่ด้านบน และมีตัวอักษร AI อยู่ใกล้ๆ การออกแบบของกล้องจะเรียกว่า Deco Design ที่มีส่วนของกล้องแต่ละตัวยื่นออกมาเล็กน้อย พร้อมกับมีขอบวงกลมสีเงินล้อมรอบ ส่วนด้านล่างจะมีโลโก้และข้อมูลการรับรองครับ 

โดยรวมก็อย่างที่บอกไว้ข้างต้นครับว่า Redmi 12 มาพร้อมการออกแบบที่ใส่ใจทุกรายละเอียดจริงๆ เรียกว่าหรูเกินรุ่นประหยัดไปมากครับ สามารถใช้งานได้ไม่อายใครเลย นอกจากนี้ในกล่องยังให้เคสใสมาให้พร้อมใช้เลยครับ ทำให้สามารถปกป้องดีไซน์สวยๆ ของมือถือได้นานยิ่งขึ้น และยังรองรับกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP53 ที่เราไม่ได้เห็นบ่อยๆ ในมือถือราคาระดับนี้ครับ ทำให้ Redmi 12 สามารถป้องกันน้ำกระเซ็นหรือน้ำหยดเล็กๆ น้อยๆ ได้อีกด้วย 

ประสิทธิภาพการใช้งาน 

ต่อไปมาดูด้านประสิทธิภาพ และประสบการณ์การใช้งาน Redmi 12 ที่เราได้ทดสอบกันครับ เริ่มกันที่ด้านชิปเซ็ตของรุ่นนี้กันก่อนเลยครับ สมาร์ตโฟนรุ่นนี้มาพร้อม CPU Helio G88 ของ MediaTek ซึ่งเป็นชิปแบบ Octa-Core ความเร็วสูงสุด 2.0GHz ใช้การผลิตแบบสถาปัตยกรรม 12nm และมี GPU Mali-G52 MC2 ซึ่งถือว่าแรงเพียงพอที่จะรันเกมและการใช้งานต่างๆ ได้ดีมากในราคาระดับเริ่มต้นครับ 

และยังมาพร้อม RAM แบบ LPDDR4X ที่ความจุ 8GB รวมถึงรองรับ RAM เสมือนเพิ่มเติมได้อีก 3GB รวมเป็น 11GB ทำให้การใช้งานหลายแอปพลิเคชันพร้อมกัน หรือ multi-tasking ได้ค่อนข้างเพียงพอและลื่นไหลในระดับที่ดีครับ และยังมีหน่วยความจำภายใน eMMC 5.1 ความจุ 128GB สำหรับเก็บข้อมูลค่อนข้างเยอะ เพียงพอสำหรับการเก็บภาพ วีดีโอ หรือโหลดแอปได้ค่อนข้างเยอะ และหากยังไม่พอใจ ก็สามารถเพิ่มเมม microSD Card ได้อีกสูงสุด 1TB เยอะจุใจกันไปเลย 

ไหนๆ เครื่องก็เก็บหนัง เก็บซีรีย์ได้เยอะแล้ว การรับชมบนหน้าจอของ Redmi 12 ยังผ่านการรับรองแสงสีฟ้าต่ำ SGS รวมถึงมีโหมดการอ่านหนังสือ 3.0 ที่จะลดแสงสีฟ้าและความเมื่อยล้าของดวงตา ช่วยปกป้องดวงตาของผู้ใช้ ทำให้ผู้ใช้สนุกกับการใช้งานสมาร์ตโฟนได้นานขึ้นโดยไม่เมื่อยล้าดวงตาครับ 

และจากที่เราทดสอบลำโพงเสียงของ Redmi 12 บอกเลยว่ารุ่นนี้แม้จะให้ลำโพงมาตัวเดียวบริเวณด้านล่าง แต่ก็ให้เสียงที่ดังเอาเรื่องทีเดียว โดยเสียงจะเน้นไปทางโทนเสียงสูงและเสียงกลางเยอะหน่อย และการวางตำแหน่งลำโพงอยู่ในจุดที่มือไม่บังขณะใช้งาน โดยรวมถือว่าโอเคครับ 

ด้านการเล่นเกมของ Redmi 12 รุ่นนี้ บอกได้เลยว่าใครที่หามือถือไว้เล่นเกมในงบประมาณ 5 พัน จัดว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่เราแนะนำเลยครับ เพราะพลังของชิป Helio G88 รวมกับ RAM เยอะถึง 8+3GB บอกเลยว่าให้พลังเหลือๆ ครับ จากเกมที่เราทดสอบคือ RoV เกมและ Asphalt 9 สามารถเล่นได้อย่างลื่นไหล บนหน้าจอ 90Hz สนุกเต็มตาเต็มอารมณ์จริงๆ 

เกม RoV สามารถเล่นได้ที่กราฟฟิกระดับ 60fps ได้ลื่นไหลมาก ตอนบวกกันหนักๆ เฟรมเรทก็ไม่ตกลงไปมากกว่า 59fps ทัชสกรีนให้การตอบสนองที่ดี ไม่มีอาการหน่วงให้เห็น ในขณะที่เกม Asphalt 9 ที่เป็นฉากการแข่งรถที่รวดเร็ว หน้าจอสามารถแสดงผลได้อย่างลื่นไหล คมชัดบนหน้าจอขนาดใหญ่เกือบ 7 นิ้ว ถือว่าใหญ่สะใจดีครับ ใครชอบเล่นเกมน่าจะชอบกันครับ 

และสำหรับด้านแบตเตอรี่ Redmi 12 ให้แบตมาเยอะถึง 5000mAh เรียกได้ว่าเยอะตามมาตราฐานของสมาร์ตโฟนยุคใหม่ครับ แถมยังมีที่ชาร์จเร็ว 18W ทำให้การชาร์จ 0-100% สามารถชาร์จได้เร็วระดับนึงครับ หรือใช้เวลาประมาณ 2 ชม. ถือว่าดีใช้ได้สำหรับกลุ่มราคาประมาณนี้ครับ

ส่วนการใช้งานการเปิดสแตนด์บายเฉยๆ สามารถอยู่ได้เกิน 20 วันเลยครับ หรือจะใช้งานทั่วไปก็จะอยู่ได้เกือบ 2 วัน ใครที่ใช้งานหนักหน่อยก็ได้เกินวันแน่นอนครับ นอกจากนี้ยังสามารถสนทนาได้ต่อเนื่อง 37 ชม. เปิดวีดีโอต่อเนื่องได้ 16 ชม. และท่องเน็ตอ่านคอนเท้นต์ได้ราวๆ 26 ชม. จัดว่าแบตอึดเอาเรื่องทีเดียว และการทดสอบ Benchmark ต่างๆ เช่น AnTuTu, PCMark และอื่นๆ สามารถดูได้ที่นี่เลยครับ

Adblock test (Why?)


รีวิว Redmi 12 สมาร์ตโฟนสุดคุ้ม ดีไซน์ด้านหลังกระจกพรีเมี่ยม พร้อมจอขนาดใหญ่ 90Hz FHD+ - mobileocta
Read More

รวว Redmi 12 สมารตโฟนสดคม ดไซนดานหลงกระจกพรเมยม พรอมจอขนาดใหญ 90Hz FHD - mobileocta

ตลาดสมาร์ตโฟนราคาประหยัดยุคนี้ถือว่าเดือดมากจริงๆ ครับ ด้วยความที่เทคโนโลยีแม้จะมีคุณภาพที่สูงขึ้น แต่ราคามักจะต่ำลงทุกปี อย่างเช่น Redmi 12 สมาร์ตโฟนแบรนด์ลูกจากค่าย Xiaomi ที่ขึ้นชื่อเรื่องความคุ้มค่าอยู่แล้ว และเป็นรุ่นที่เราได้มารีวิววันนี้ เป็นอีกหนึ่งสมาร์ตโฟนราคาประหยัดที่น่าสนใจมากทีเดียวครับ

Redmi 12

เกริ่นกันคร่าวๆ ก่อนที่เราจะไปรีวิวว่า Redmi 12 มีราคาค่าตัวอยู่ที่ระดับครึ่งหมื่นเท่านั้น แต่ค่อนข้างเพรียบพร้อมด้วยฟีเจอร์และคุณสมบัติที่น่าใช้มากทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ที่ถอดแบบและวัสดุสวยหรูไม่แพ้รุ่นระดับสูง ชิปเซ็ต Helio G88 ที่เล่นเกมได้มันส์มือมาก

มีหน้าจอที่แสดงผล Full HD+ 90Hz ได้ลื่นไหลสวยงามสบายตา และมีแบตเตอรี่ที่ อึด ถึก ทน ชาร์จไวใช้ได้ สะใจคนชอบมือถือแบตเยอะๆ ไม่ชอบพกพาแบตสำรองให้หนักกระเป๋าอย่างแน่นอน แต่การรีวิวจริงจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังในรีวิวนี้เลยครับ

สเปก Redmi 12

  • หน้าจอ : ขนาด 6.79 นิ้ว Full HD+ DotDisplay ความละเอียด 2460×1080 พิกเซล, 396ppi, 90Hz AdaptiveSync, สว่าง 550nits, 1500:1 Contrast Ratio, NTSC 70%
  • CPU : MediaTek Helio G88, 2.0GHz
  • RAM : LPDDR4X 8GB
  • ROM : eMMC 5.1 128GB
  • รองรับ microSD Card สูงสุด 1TB
  • ระบบปฏิบัติการ : Android 13 ครอบทับด้วย MIUI 14
  • กล้องถ่ายภาพ
    • กล้องหลัง
      • กล้องหลัก 50MP f/1.8
      • กล้อง Ultrawide 8MP f/2.4
      • กล้อง macro 2MP f/2.4
    • กล้องหน้า 8MP f/2.1
  • แบตเตอรี่ : 5000mAh รองรับชาร์จเร็ว 18W ผ่านพอร์ต USB-C
  • ซิมการ์ด : รองรับ 2 ซิมการ์ดแบบ Hybrid (SIM1 + Hybrid SIM หรือ microSD)
  • รองรับการเชื่อมต่อ : 4G LTE + Wi-Fi 2.4GHz หรือ 5GHz
  • มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบริเวณปุ่ม Power
  • รองรับ FM Radio โดยใช้หูฟังเป็นสายสัญญาณ
  • ขนาดตัวเครื่อง : 168.60 x 76.28 x 8.17 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก 198.5 กรัม
  • ตัวเลือกสี : Midnight Black, Sky Blue, Polar Silver
  • กันน้ำ : IP53 ป้องกันน้ำกระเซ็น
  • ราคาเปิดตัว : 5,299 บาท 

อุปกรณ์ในกล่อง Redmi 12

  • ตัวเครื่อง Redmi 12
  • สาย USB 2.0
  • อะแดปเตอร์ชาร์จ 22.5W
  • เคสพลาสติกใส
  • เข็มจิ้มซิมการ์ด
  • คู่มือ และใบรับประกัน

ดีไซน์การออกแบบ

ด้านดีไซน์การออกแบบของ Redmi 12 ถือว่าเป็นหนึ่งในจุดขายหลักของรุ่นนี้เลยครับ เพราะส่วนใหญ่ถ้าเป็นสมาร์ตโฟนราคาประหยัด ก็มักจะมีการออกแบบที่ดูบ้านๆ หรือใช้วัสดุที่ค่อนข้างเน้นลดต้นทุน แต่ไม่ใช่กับ Redmi 12 รุ่นนี้ครับ เพราะสมาร์ตโฟนรุ่นนี้ถูกออกแบบสไตล์สมาร์ตโฟนเกรดพรีเมี่ยมในตลาดเลยครับ คือมีหน้าจอขนาดใหญ่ ใช้ช่องเจาะรู punch-hole ที่สวยงาม ต่างจากคู่แข่งที่ยังใช้รอยบากทรงหยดน้ำอยู่เลย และที่สำคัญ วัสดุด้านหลังเป็นกระจกด้วยครับ ช่วยยกระดับความพรีเมี่ยมได้อีกเยอะเลยทีเดียว และงานประกอบถือว่าแน่นหนามีความบางเพียง 8.17 มม. โดยรวมด้านการออกแบบให้ 10/10 ไม่หักได้เลยครับ 

ดีไซน์ด้านหน้าจะเป็นหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6.79 นิ้ว ให้ความละเอียดระดับสูง Full HD+ 2460×1080 พิกเซล ทำให้หน้าจอนี้มีความคมชัดสูงมาก เพิ่มสุนทรีย์ในการรับชมหน้าจอได้ดีมากจริงๆ

โดยหน้าจอมีความคมชัดต่อตารางนิ้วที่ 396ppi รองรับอัตรารีเฟรชเรทที่ 90Hz รองรับ AdaptiveSync ให้การแสดงผลที่ลื่นไหล ไม่มีสะดุด จะเล่นเกมหรือดูหนังก็ลื่นไหลดีมาก มีความสว่างถึง 550nits สามารถสู้แสงกลางแจ้งได้ดีใช้ได้ครับ 

ตรงกลางด้านบนเจาะรูฝังกล้องเซลฟี่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล โดยรวมบอกได้เลยว่าใครที่หามือถือไว้เล่นเกม หรือรับชมคอนเท้นต์ดูหนังดูซีรีย์ บอกเลยว่าฟินจัดๆ ครับ 

ทางด้านซ้ายของตัวเครื่องมีถาดใส่ซิมการ์ด ซึ่งรุ่นนี้จะเป็นแบบ Hybrid SIM ครับ คือซิมสองจะต้องเลือกว่าจะใส่ซิมการ์ดหรือว่า MicroSD Card นั่นเอง ซึ่งหน่วยความจำเสริมจะรองรับสูงสุดที่ 1TB

ด้านขวาจะมีปุ่มควบคุมคือปุ่ม Power และปุ่มควบคุมเสียงครับ ซึ่งปุ่ม Power นี้จะใช้สำหรับสแกนลายนิ้วมือด้วย

ด้านบนจะมีพอร์ต IR สำหรับการเป็นรีโมท และช่องเสียงหูฟัง 3.5 มม. 

ส่วนด้านล่างจะมีไมค์สนทนา พอร์ต USB-C และช่องลำโพง ซึ่งรุ่นนี้จะมีลำโพงเพียงจุดเดียวคือด้านล่างนี้นั่นเอง 

และด้านหลังจะมีกล้องทั้งหมด 3 ตัวครับ คือ กล้องหลัก, Ultrawide และ Macro โดยจะมีไฟแฟลช LED อยู่ด้านบน และมีตัวอักษร AI อยู่ใกล้ๆ การออกแบบของกล้องจะเรียกว่า Deco Design ที่มีส่วนของกล้องแต่ละตัวยื่นออกมาเล็กน้อย พร้อมกับมีขอบวงกลมสีเงินล้อมรอบ ส่วนด้านล่างจะมีโลโก้และข้อมูลการรับรองครับ 

โดยรวมก็อย่างที่บอกไว้ข้างต้นครับว่า Redmi 12 มาพร้อมการออกแบบที่ใส่ใจทุกรายละเอียดจริงๆ เรียกว่าหรูเกินรุ่นประหยัดไปมากครับ สามารถใช้งานได้ไม่อายใครเลย นอกจากนี้ในกล่องยังให้เคสใสมาให้พร้อมใช้เลยครับ ทำให้สามารถปกป้องดีไซน์สวยๆ ของมือถือได้นานยิ่งขึ้น และยังรองรับกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP53 ที่เราไม่ได้เห็นบ่อยๆ ในมือถือราคาระดับนี้ครับ ทำให้ Redmi 12 สามารถป้องกันน้ำกระเซ็นหรือน้ำหยดเล็กๆ น้อยๆ ได้อีกด้วย 

ประสิทธิภาพการใช้งาน 

ต่อไปมาดูด้านประสิทธิภาพ และประสบการณ์การใช้งาน Redmi 12 ที่เราได้ทดสอบกันครับ เริ่มกันที่ด้านชิปเซ็ตของรุ่นนี้กันก่อนเลยครับ สมาร์ตโฟนรุ่นนี้มาพร้อม CPU Helio G88 ของ MediaTek ซึ่งเป็นชิปแบบ Octa-Core ความเร็วสูงสุด 2.0GHz ใช้การผลิตแบบสถาปัตยกรรม 12nm และมี GPU Mali-G52 MC2 ซึ่งถือว่าแรงเพียงพอที่จะรันเกมและการใช้งานต่างๆ ได้ดีมากในราคาระดับเริ่มต้นครับ 

และยังมาพร้อม RAM แบบ LPDDR4X ที่ความจุ 8GB รวมถึงรองรับ RAM เสมือนเพิ่มเติมได้อีก 3GB รวมเป็น 11GB ทำให้การใช้งานหลายแอปพลิเคชันพร้อมกัน หรือ multi-tasking ได้ค่อนข้างเพียงพอและลื่นไหลในระดับที่ดีครับ และยังมีหน่วยความจำภายใน eMMC 5.1 ความจุ 128GB สำหรับเก็บข้อมูลค่อนข้างเยอะ เพียงพอสำหรับการเก็บภาพ วีดีโอ หรือโหลดแอปได้ค่อนข้างเยอะ และหากยังไม่พอใจ ก็สามารถเพิ่มเมม microSD Card ได้อีกสูงสุด 1TB เยอะจุใจกันไปเลย 

ไหนๆ เครื่องก็เก็บหนัง เก็บซีรีย์ได้เยอะแล้ว การรับชมบนหน้าจอของ Redmi 12 ยังผ่านการรับรองแสงสีฟ้าต่ำ SGS รวมถึงมีโหมดการอ่านหนังสือ 3.0 ที่จะลดแสงสีฟ้าและความเมื่อยล้าของดวงตา ช่วยปกป้องดวงตาของผู้ใช้ ทำให้ผู้ใช้สนุกกับการใช้งานสมาร์ตโฟนได้นานขึ้นโดยไม่เมื่อยล้าดวงตาครับ 

และจากที่เราทดสอบลำโพงเสียงของ Redmi 12 บอกเลยว่ารุ่นนี้แม้จะให้ลำโพงมาตัวเดียวบริเวณด้านล่าง แต่ก็ให้เสียงที่ดังเอาเรื่องทีเดียว โดยเสียงจะเน้นไปทางโทนเสียงสูงและเสียงกลางเยอะหน่อย และการวางตำแหน่งลำโพงอยู่ในจุดที่มือไม่บังขณะใช้งาน โดยรวมถือว่าโอเคครับ 

ด้านการเล่นเกมของ Redmi 12 รุ่นนี้ บอกได้เลยว่าใครที่หามือถือไว้เล่นเกมในงบประมาณ 5 พัน จัดว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่เราแนะนำเลยครับ เพราะพลังของชิป Helio G88 รวมกับ RAM เยอะถึง 8+3GB บอกเลยว่าให้พลังเหลือๆ ครับ จากเกมที่เราทดสอบคือ RoV เกมและ Asphalt 9 สามารถเล่นได้อย่างลื่นไหล บนหน้าจอ 90Hz สนุกเต็มตาเต็มอารมณ์จริงๆ 

เกม RoV สามารถเล่นได้ที่กราฟฟิกระดับ 60fps ได้ลื่นไหลมาก ตอนบวกกันหนักๆ เฟรมเรทก็ไม่ตกลงไปมากกว่า 59fps ทัชสกรีนให้การตอบสนองที่ดี ไม่มีอาการหน่วงให้เห็น ในขณะที่เกม Asphalt 9 ที่เป็นฉากการแข่งรถที่รวดเร็ว หน้าจอสามารถแสดงผลได้อย่างลื่นไหล คมชัดบนหน้าจอขนาดใหญ่เกือบ 7 นิ้ว ถือว่าใหญ่สะใจดีครับ ใครชอบเล่นเกมน่าจะชอบกันครับ 

และสำหรับด้านแบตเตอรี่ Redmi 12 ให้แบตมาเยอะถึง 5000mAh เรียกได้ว่าเยอะตามมาตราฐานของสมาร์ตโฟนยุคใหม่ครับ แถมยังมีที่ชาร์จเร็ว 18W ทำให้การชาร์จ 0-100% สามารถชาร์จได้เร็วระดับนึงครับ หรือใช้เวลาประมาณ 2 ชม. ถือว่าดีใช้ได้สำหรับกลุ่มราคาประมาณนี้ครับ

ส่วนการใช้งานการเปิดสแตนด์บายเฉยๆ สามารถอยู่ได้เกิน 20 วันเลยครับ หรือจะใช้งานทั่วไปก็จะอยู่ได้เกือบ 2 วัน ใครที่ใช้งานหนักหน่อยก็ได้เกินวันแน่นอนครับ นอกจากนี้ยังสามารถสนทนาได้ต่อเนื่อง 37 ชม. เปิดวีดีโอต่อเนื่องได้ 16 ชม. และท่องเน็ตอ่านคอนเท้นต์ได้ราวๆ 26 ชม. จัดว่าแบตอึดเอาเรื่องทีเดียว และการทดสอบ Benchmark ต่างๆ เช่น AnTuTu, PCMark และอื่นๆ สามารถดูได้ที่นี่เลยครับ

Adblock test (Why?)


รีวิว Redmi 12 สมาร์ตโฟนสุดคุ้ม ดีไซน์ด้านหลังกระจกพรีเมี่ยม พร้อมจอขนาดใหญ่ 90Hz FHD+ - mobileocta
Read More

รีวิว Death Stranding Director's Cut เล่นบน iPad Pro M2 - iPhoneMod

ในที่สุดสาวก Apple อย่างเราก็ได้เล่นเกม Death Stranding เวอร์ชัน Director’s Cut บนอุปกรณ์ Apple กันแล้ว ใครอยากลองเล่นเข้าไปซื้อเกมใน App S...