Rechercher dans ce blog

Wednesday, December 28, 2022

ลือ! Apple อาจเปิดตัว เปิดขาย iPad mini ใหม่ปลายปี 2023 - ต้นปี 2024 - iPhoneMod

Ming-Chi Kuo เผย Apple วางแผนเปิดตัวเปิดขาย iPad mini รุ่นใหม่ปลายปี 2023 หรือไม่ก็ต้นปี 2024 คาดเน้นปรับสเปค ไม่ปรับดีไซน์

iPad mini ใหม่

Kuo เผยว่า iPad mini รุ่นใหม่จะยังใช้ดีไซน์เดิม เน้นปรับปรุงสเปคอย่างเช่นการใช้ชิปตัวใหม่ แต่ก็ไม่ได้ให้รายละเอียดสเปคของรุ่นใหม่นี้แต่อย่างใด

Kuo เผยว่า iPad mini อาจถูกแทนที่ด้วย iPad ดีไซน์จอพับที่อาจเปิดตัวหลังปี 2025 เป็นต้นไป ซึ่ง Kuo เชื่อว่า iPad รุ่นจอพับที่จะมาแทนที่ iPad mini นั้นจะมีราคาสูงกว่า iPad mini แน่นอน

iPad mini รุ่นปัจจุบันคือ iPad mini รุ่นที่ 6 มาพร้อมดีไซน์จอเต็มขอบไร้ปุ่มโฮม, มี Touch ID ที่ปุ่มด้านบน, ใช้พอร์ต USB-C และชิป A15 Bionic

สำหรับ iPad mini รุ่นใหม่ที่ Kuo พูดถึงนั้นยังไม่มีข้อมูลว่าจะใช้ชิป A Series หรือตระกูล M ของ Apple Silicon ซึ่งตอนนี้ iPad Air, iPad Pro ก็ได้อัปเกรดไปใช้ชิป M1, M2 แล้ว!

ที่มา : https://www.macrumors.com/2022/12/27/kuo-new-ipad-mini-late-2023-or-early-2024/

Adblock test (Why?)


ลือ! Apple อาจเปิดตัว เปิดขาย iPad mini ใหม่ปลายปี 2023 - ต้นปี 2024 - iPhoneMod
Read More

vivo แนะนำไอเดีย ของขวัญ สุดเซอร์ไพรส์รับปีใหม่ - TheReporterAsia

ของขวัญ

อีกไม่กี่วันก็ได้เวลาพลิกปฏิทินเข้าสู่ปี 2566 กันแล้ว สำหรับใครที่กำลังมองหา ของขวัญ ชิ้นพิเศษให้คนที่รักในช่วงเทศกาลแห่งความสุขที่กำลังจะถึงนี้ vivo แบรนด์สมาร์ตโฟนชั้นนำระดับโลก ไม่พลาดมัดรวมไอเดียของขวัญสุดเซอร์ไพรส์ กับสมาร์ตโฟน 5 รุ่น 5 สไตล์ สำหรับ vivo fans ที่ชื่นชอบการใช้งาน ที่แตกต่างกันออกไปมาให้ได้เลือกสรรค์ โดยสมาร์ตโฟนทั้ง 5รุ่น ที่ vivo คัดมาในวันนี้ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องและเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปในปี 2565 จะเปย์เป็นของขวัญให้ตัวเองหรือซื้อให้คนที่เรารัก ก็รับรองได้ว่าจะเต็มอิ่มไปกับของขวัญชิ้นพิเศษ ที่จะเก็บบันทึกความทรงจำในทุกโมเมนต์สำคัญไปอีกนานอย่างแน่นอน

1. vivo X80 Pro 5G สมาร์ตโฟนเรือธง เพื่อการถ่ายภาพและวิดีโอระดับมือโปร

เอาใจคนรักการถ่ายภาพและสายคอนเทนต์ครีเอเตอร์ด้วย vivo X80 Pro 5G สมาร์ตโฟนเรือธงที่โดดเด่นด้วยฟีเจอร์การถ่ายวิดีโอมืออาชีพด้วยเลนส์คุณภาพระดับโลกที่ร่วมมือพัฒนากับ ZEISS มาพร้อมกล้องหลัง 4 ตัว กล้องหลักความละเอียดที่ 50MP พร้อมเซนเซอร์ Ultra-Sensing GNV และ Gimbal Stabilization กล้อง Wide-Angle ความละเอียด 48MP กล้อง Portrait ความละเอียด 12MP และกล้อง Periscope ความละเอียด 8MP มอบประสบการณ์สุดล้ำแห่งเทคโนโลยีการถ่ายภาพและวิดีโอ พร้อมเก็บโมเมนต์สุดประทับใจได้ครบทุกมุมมอง เสริมทัพด้วยเทคโนโลยีการถ่ายภาพที่อัดแน่นด้วยชิปประมวลผลภาพ vivo V1+  ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อเนรมิตการถ่ายภาพและวิดีโอได้แบบมือโปรสัมผัสประสบการณ์การทำงานที่เร็วแรงไม่แพ้ใคร กับขุมพลังชิปเซต Snapdragon 8 Gen 1 จึงมั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพการประมวลผลที่รวดเร็ว ใช้งานต่อเนื่องยาวนานด้วยแบตเตอรี่ขนาด 4700mAh โดย vivo X80 Pro 5G วางจำหน่ายในสี Cosmic Black ที่ราคา 39,999 บาท

2. vivo V25 Pro 5G สมาร์ตโฟนสีสันโดดเด่น โดนใจสไตล์คนเจนใหม่

หากใครกำลังมองหาสมาร์ตโฟนฟีเจอร์ครบครันในราคาจับต้องได้ แนะนำ vivo V25 Pro 5G จากตระกูล V Series มอบประสบการณ์การถ่ายภาพพอร์ตเทรตยามค่ำคืนด้วยกล้องหลักความละเอียด 64MP และกล้องหน้าความละเอียด 32MP รองรับฟีเจอร์ Eye Autofocus และ Super Night Portrait ช่วยให้ภาพถ่ายบุคคลยามค่ำคืนสวยงาม คมชัดยิ่งขึ้น อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีเพื่อการถ่ายภาพและวิดีโอที่ล้ำยิ่งขึ้น ทั้งเทคโนโลยีกันสั่นไหว OIS Ultra-Sensing ที่ผสานกับเทคโนโลยีกันสั่น EIS ถ่ายวิดีโอความคมชัดระดับ 4K

vivo V25 Pro 5G มาพร้อมเทคโนโลยี Extended RAM 3.0 ขยายได้สูงสุดถึง 8GB ให้ทุกการใช้งานลื่นไหลไม่สะดุด จุใจกับ ROM 256GB ใช้งานได้ยาวนานด้วยแบตเตอรี่4830mAh พร้อมชาร์จไว 66W เพลิดเพลินไปกับทุกโมเมนต์บนหน้าจอ 3D ประกอบเข้ากับหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.56 นิ้ว รองรับอัตรารีเฟรชสูงถึง 120Hz รีเฟรชได้สูงสุดถึง 300Hz ดีไซน์ฝาหลังให้มีลูกเล่นเปลี่ยนเป็นสีสันต่างๆ เมื่อทำปฏิกิริยากับแสงแดดหรือแหล่งกำเนิดรังสี UV อื่นๆ ด้วยเทคโนโลยี Color-changing Glass มีให้เลือกสองเฉดสี ได้แก่ Starlight Black และ Surfing Blue ครบเครื่องขนาดนี้ แต่ราคา 19,999 บาทเท่านั้น

3. vivo Y35 สมาร์ตโฟนฟังก์ชันครบครัน ใช้สนุกทุกไลฟ์สไตล์

ต่อด้วย vivo Y35 จากตระกูล Y Series ในงบไม่เกินหมื่น แต่อัดแน่นด้วยประสิทธิภาพคับจอ ทั้งแบตเตอรี่ความจุถึง 5000 mAh ใช้งานได้ต่อเนื่องแบบไม่ต้องกังวล รองรับเทคโนโลยีชาร์จไว 44W จัดเต็มกับเทคโนโลยี Extended RAM ที่รองรับการขยายได้สูงสุดถึง 8GB เพื่อการใช้งานไหลลื่นกว่าที่เคย ROM 128GB เต็มอิ่มกับจอแสดงผลFHD+ ขนาด 6.58 นิ้ว และรีเฟรชเรทสูงถึง 90Hz vivo Y35 มาพร้อมกล้องหลักความละเอียด 50MP เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอด้วยเลนส์กล้อง Bokeh 2MP เลนส์กล้อง Macro ที่โฟกัสได้ใกล้ถึง 4 เซนติเมตร เซลฟีกล้องหน้า 16MP พร้อมโหมด Super Night ให้การถ่ายภาพยามค่ำคืนคมชัดเป็นธรรมชาติแม้ในสภาวะแสงน้อย พร้อมสองเฉดสีให้เลือก ได้แก่ สีดำ Agate Bla ผสานลูกเล่นแสงและเงา ดูลุ่มลึก สี Dawn Gold ให้ความรู้สึกนุ่มนวลเหมือนแสงอาทิตย์ยามเช้าที่กระทบเกลียวคลื่น ในราคา 8,999 บาท สำหรับรุ่นความจุ 128GB และ 9,799 บาท สำหรับรุ่นความจุ 256GB

4. vivo Y02 สมาร์ตโฟนจอใหญ่ แบตอึด ตอบโจทย์การใช้งานรอบด้าน

มาต่อกันที่สมาร์ตโฟนน้องเล็กมาใหม่อย่าง vivo Y02 กับดีไซน์สวยทันสมัย ได้รับการออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน ชูความโดดเด่นด้วยแบตเตอรี่สุดอึด ใหญ่จุใจถึง 5000mAh เพื่อการใช้งานที่ยาวนาน หน้าจอ HD+ ขนาด 6.51 นิ้ว ที่มีคุณสมบัติถนอมสายตา ไม่ทำให้เมื่อยล้าเมื่อใช้งานเป็นเวลานาน พร้อม ROM 32 GB ที่เพิ่มพื้นเก็บข้อมูลได้สูงสุดถึง 1TB ใช้หน่วยประมวลผล Octa-Core Processorvivo Y02 มาพร้อมกล้องหลังความละเอียด 8MP และกล้องหน้า 5MP โหมดถ่ายภาพ Face Beauty, Photo, Video และ Time-Lapse มีให้เลือกสองเฉดสี ได้แก่ สี Orchid Blue และ Cosmic Grey ในราคาสุดคุ้มค่าเพียง 3,799 บาทเท่านั้น

5. iQOO 11 5G สมาร์ตโฟนเกมมิงน้องใหม่มาแรง สเปคปังเกินตัว

และปิดท้ายกับแบรนด์ใหม่เอาใจเกมเมอร์และผู้ที่มองหาสมาร์ตโฟนสเปคแรงด้วย iQOO 11 5G สมาร์ตโฟนเกมมิงมาแรงที่เพิ่งเปิดตัวกับกระแสตอบรับที่ดีเกินคาด โดดเด่นด้วยขุมพลังชิปเซ็ตเรือธงQualcomm Snapdragon 8 Gen 2 ที่ติดตั้งมาเป็นรุ่นแรก จอแสดงผล E6 AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 2K ที่ให้ภาพคมชัดสวยสมจริง รีเฟรชเรทระดับสูงสุด 144Hz ให้ภาพลื่นไหล สบายตา ตอบสนองครบครันในทุกฟังก์ชันการใช้งาน

ดีไซน์โฉบเฉี่ยวไม่ซ้ำใครกับสี Legend White พร้อมแถบโลโก้ 3 สี อันเป็นเอกลักษณ์ของทาง BMW M Motorsport ค่ายรถแข่งระดับโลกที่พาร์ทเนอร์การออกแบบร่วมกับ iQOO พร้อมหน่วยความจำRAM 16GB และ ROM 256GB จุใจกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000 mAh เพื่อการใช้งานที่ยาวนานต่อเนื่องตลอดทั้งวัน รองรับเทคโนโลยีชาร์จไว FlashCharge 120W กล้องหลักความละเอียด50MP, กล้อง Telephoto & Portrait ความละเอียด 13MP, กล้อง Ultra-Wide 8MP และกล้องหน้าเซลฟีสวยๆ ที่ความละเอียด 16MP พร้อมโหมดถ่ายภาพสุดล้ำให้เลือกสนุกสำหรับบันทึกความทรงจำดีๆ อย่างไร้ขีดจำกัด จัดเต็มขนาดนี้ แต่ราคาสุดคุ้มเพียง 27,990 บาท

และทั้งหมดนี้คือ สมาร์ตโฟน 5 รุ่นน่าใช้ที่ vivo และ iQOO ตั้งใจเลือกมานำเสนอเป็นไอเดีย ของขวัญ ปีใหม่ ไม่ว่าจะรุ่นไหน ก็เชื่อว่าผู้รับจะต้องประทับใจและกลายเป็นไอเทมชิ้นโปรดที่พกพาไปด้วยทุกที่อย่างแน่นอน หากใครสนใจสมาร์ตโฟนทั้ง 5 รุ่น สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.vivo.com/th และ www.iqoo.com/th

Reporting by

Adblock test (Why?)


vivo แนะนำไอเดีย ของขวัญ สุดเซอร์ไพรส์รับปีใหม่ - TheReporterAsia
Read More

Tuesday, December 27, 2022

เปิดตัว Redmi K60 Series สมาร์ทโฟนสุดทรงพลัง จัดเต็มด้วยชิป SD 8 Gen 2 | จอ 2K | ชาร์จไว 120W - iphone-droid.net

Redmi เปิดตัว Redmi K60 Series อย่างเป็นทางการในประเทศจีนเรียบร้อย! มาด้วยกัน 3 รุ่นได้แก่ Redmi K60, K60 Pro และ K60E มีสเปคจัดเต็มและดีไซน์ใหม่หมด รายละเอียดเต็ม ๆ ดังนี้ครับ!

ดีไซน์และหน้าจอ Redmi K60 Series

Redmi K60 Series ใช้ดีไซน์แบบเดียวกันคือฝาหลังโค้งและหน้าจอ Flat เหมือนกันทั้ง 3 รุ่น มาพร้อมกรอบเลนส์สี่เหลี่ยมที่มุมซ้ายด้านหลังแต่ดีไซน์และการวางกล้องจะแตกต่างกันนิดหน่อยตามสเปคกล้องที่ให้มาครับ

ส่วนสีสันจะแตกต่างกันนิดหน่อยคือ Redmi K60 มีให้เลือก 4 สีคือ ดำ, ขาว, เขียว และฟ้า (ฟ้าหลังหนังเทียม) ส่วน Redmi K60 Pro จะมีให้เลือก 4 สีเช่นกันแต่เปลี่ยนสีฟ้าเป็นสีดำแบบหนังเทียมแทนและปรับให้เป็นรุ่นพิเศษ Champion Performance Edition ด้วย

ส่วน Redmi K60E จะมีให้เลือกแค่ 3 สีคือตัดรุ่นฝาหลังหนังออกไปนั่นเองครับมีแค่สีดำ, ขาวและเขียวเท่านั้นครับ

ที่หน้าจอ Redmi K60 และ K60 Pro ใช้หน้าจอไฮเอนด์ OLED ขนาด 6.67″ ความละเอียดระดับ 2K แบบ 12-bit (68.7 พันล้านสี) ความสว่างสูงสุด 1400 nits มี Refresh rate 120Hz ส่วนหน้าจอของ Redmi K60E จะใช้จอ OLED ขนาด 6.67″ ความละเอียด 2K และ Refresh rate 120Hz เหมือนกัน แต่จอรองรับแค่ 8-bit (16.7 ล้านสี) และความสว่างที่ 1200 nits ครับผม

สเปค Redmi K60 Series

ในเรื่องสเปค Redmi K60 Series ทั้ง 3 รุ่นจะแตกต่างกันทั้งหมดตั้งแต่ชิปเซ็ต, หน่วยความจำภายในแบ่งเป็น

  • Redmi K60 ใช้ชิป Snapdragon 8+ Gen 1 | RAM LPDDR5 | ความจุ UFS3.1
  • Redmi K60 Pro ใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 2 | RAM LPDDR5x | ความจุ UFS 4.0
  • Redmi K60E ใช้ชิป Dimensity 8200 | RAM LPDDR5 | ความจุ UFS3.1

นอกจากนี้ในเรื่องแบตเตอรี่และระบบชาร์จก็จะแตกต่างกันด้วย แบ่งเป็นรายละเอียดดังนี้

  • Redmi K60 แบตเตอรี่ 5500mAh | ระบบชาร์จไว 67W | รองรับชาร์จไร้สาย 30W
  • Redmi K60 Pro แบตเตอรี่ 5000mAh | ระบบชาร์จไว 120W | รองรับชาร์จไร้สาย 30W
  • Redmi K60E แบตเตอรี่ 5500mAh | ระบบชาร์จไว 67W | ไม่รองรับชาร์จไร้สาย

กล้อง Redmi K60 Series

กล้องก็เป็นอีกจุดที่ทั้ง 3 รุ่นให้มาไม่เหมือนกันทั้งกล้องหน้าและหลังมีสเปคคร่าว ๆ ดังนี้เลยครับ

สเปคกล้อง Redmi K60

  • กล้องหลัก 64MP เซ็นเซอร์ OV64B พร้อม OIS
  • กล้อง Ultra Wide 8MP
  • กล้อง Macro 2MP
  • กล้องหน้า 16MP

สเปคกล้อง Redmi K60 Pro

  • กล้องหลัก 50MP เซ็นเซอร์ IMX800 พร้อม OIS
  • กล้อง Ultra Wide 8MP
  • กล้อง Macro 2MP
  • กล้องหน้า 16MP

สเปคกล้อง Redmi K60E

  • กล้องหลัก 48MP เซ็นเซอร์ IMX582
  • กล้อง Ultra Wide 8MP
  • กล้อง Macro 2MP
  • กล้องหน้า 20MP

ราคา Redmi K60 Series

Redmi K60 Series แต่ละรุ่นมีหลายความจุให้เลือกมาก เราแบ่งรุ่นและราคาไว้ให้ดังนี้เลยครับผม

Redmi K60

  • รุ่น 8GB + 128GB ราคา 2499 หยวน (ประมาณ 12,400 บาท)
  • รุ่น 8GB + 256GB ราคา 2699 หยวน (ประมาณ 13,400 บาท)
  • รุ่น 12GB + 256GB ราคา 2999 หยวน (ประมาณ 14,900 บาท)
  • รุ่น 12GB + 512GB ราคา 3299 หยวน (ประมาณ 16,400 บาท)
  • รุ่น 16GB + 512GB ราคา 3599 หยวน (ประมาณ 17,900 บาท)

Redmi K60 Pro

  • รุ่น 8GB + 128GB ราคา 3299 หยวน (ประมาณ 16,400 บาท)
  • รุ่น 8GB + 256GB ราคา 3599 หยวน (ประมาณ 17,900 บาท)
  • รุ่น 12GB + 256GB ราคา 3899 หยวน (ประมาณ 19,400 บาท)
  • รุ่น 12GB + 512GB ราคา 4299 หยวน (ประมาณ 21,400 บาท)
  • รุ่น 16GB + 512GB ราคา 4599 หยวน (ประมาณ 22,900 บาท)

Redmi K60E

  • รุ่น 8GB + 128GB ราคา 2199 หยวน (ประมาณ 10,900 บาท)
  • รุ่น 8GB + 256GB ราคา 2399 หยวน (ประมาณ 11,900 บาท)
  • รุ่น 12GB + 256GB ราคา 2599 หยวน (ประมาณ 12,900 บาท)
  • รุ่น 12GB + 512GB ราคา 2799 หยวน (ประมาณ 13,900 บาท)

โดยทั้ง 3 รุ่นจะเริ่มวางจำหน่ายในประเทศจีนวันที่ 31 ธันวาคมนี้เลย ส่วนในตลาด Global จะมีการรีแบรนด์ใหม่เป็น Xiaomi หรือ POCO ต่อไปครับ

สรุปสเปค Redmi K60

  • หน้าจอ OLED ขนาด 6.67″
  • ความละเอียด 2K แบบ 12-bit (68.7 พันล้านสี) ความสว่างสูงสุด 1400 nits
  • Refresh rate 120Hz
  • ชิปเซ็ต Snapdragon 8+ Gen 1 (4nm)
  • RAM 8GB/12GB/16GB
  • ความจุ 128GB/256GB/512GB
  • แบตเตอรี่ 5500mAh
  • ชาร์จไว 67W รองรับชาร์จไร้สาย 30W
  • กล้องหน้า 16MP
  • กล้องหลัง 3 ตัว
  • กล้องหลัก 64MP เซ็นเซอร์ OV64B พร้อม OIS
  • กล้อง Ultra Wide 8MP
  • กล้อง Macro 2MP
  • ระบบปฏิบัติการ Android 13 (MIUI 14)

สรุปสเปค Redmi K60 Pro

  • หน้าจอ OLED ขนาด 6.67″
  • ความละเอียด 2K แบบ 12-bit (68.7 พันล้านสี) ความสว่างสูงสุด 1400 nits
  • Refresh rate 120Hz
  • ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 2 (4nm)
  • RAM 8GB/12GB/16GB
  • ความจุ 128GB/256GB/512GB
  • แบตเตอรี่ 5000mAh
  • ชาร์จไว 120W รองรับชาร์จไร้สาย 30W
  • กล้องหน้า 16MP
  • กล้องหลัง 3 ตัว
  • กล้องหลัก 50MP เซ็นเซอร์ IMX800 พร้อม OIS
  • กล้อง Ultra Wide 8MP
  • กล้อง Macro 2MP
  • ระบบปฏิบัติการ Android 13 (MIUI 14)

สรุปสเปค Redmi K60E

  • หน้าจอ OLED ขนาด 6.67″
  • ความละเอียด 2K แบบ 8-bit (16.7 ล้านสี) ความสว่างสูงสุด 1200 nits
  • Refresh rate 120Hz
  • ชิปเซ็ต Dimensity 8200 (4nm)
  • RAM 8GB/12GB
  • ความจุ 128GB/256GB/512GB
  • แบตเตอรี่ 5500mAh
  • ชาร์จไว 67W
  • กล้องหน้า 20MP
  • กล้องหลัง 3 ตัว
  • กล้องหลัก 48MP เซ็นเซอร์ IMX582
  • กล้อง Ultra Wide 8MP
  • กล้อง Macro 2MP
  • ระบบปฏิบัติการ Android 13 (MIUI 14)

ที่มา : Gizmochina[1][2], Xiaomi

Adblock test (Why?)


เปิดตัว Redmi K60 Series สมาร์ทโฟนสุดทรงพลัง จัดเต็มด้วยชิป SD 8 Gen 2 | จอ 2K | ชาร์จไว 120W - iphone-droid.net
Read More

Amazfit ส่งแคมเปญชุดของขวัญสุดพรีเมียม ส่งท้ายปี - TheReporterAsia

Amazfit

เทศกาลแห่งความสุข ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2023 ที่กำลังมาถึงนี้ Amazfit  ร่วมเฉลิมฉลอง ด้วย“ชุดของขวัญเพื่อสุขภาพ ครบชุด สุดคุ้ม” โดยคัดสรรเพื่อมอบให้กับคนที่คุณรักในเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลอง ด้วยสินค้าคุณภาพระดับพรีเมียม ดังนี้

Amazfit Falcon นาฬิกามัลติสปอร์ต ระดับพรีเมี่ยม ตัวเรือนเป็นไทเทเนียมเกรดเดียวกับอากาศยาน ทนทานต่อการกัดกร่อน ป้องกันหน้าจอด้วยกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ ต้านทานน้ำในระดับ 20 ATM และมี GPS แบบ Dual-band รองรับเทคโนโลยี GPS มีความแม่นยำสูง ทำงานร่วมกับระบบแอปพลิเคชัน Zepp Coach™ ซึ่งจะคำนวณการออกกำลังกายด้วย AI ให้ผลลัพธ์การออกกำลังกายขั้นสูงด้วยโหมดกีฬาในตัว 150+ แบบ มีระบบการจดจำโหมดกีฬา 8 ชนิด, การติดตามการวิ่ง, การรีวิว และการแชร์ศักยภาพระหว่างการวิ่งกับเพื่อน ๆ ได้แบบเรียลไทม์ และการแจ้งสถานะการออกกำลังกาย PeakBeats™, สามารถตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ 24 ชม., ค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด (SpO₂), ความเครียด  และยังสามารถติดตามสุขภาพด้วยเซ็นเซอร์BioTracker 3.0 PPG โดยมีความจุแบตเตอรี่ 500mAh รองรับการใช้งานทั่วไปนานถึง 14 วัน

Amazfit GTR 4  สมาร์ทวอทช์พรีเมี่ยมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความทันสมัยของรถสปอร์ต มาพร้อมดีไซน์หน้าจอขนาด 1.43 นิ้ว แบบ HD AMOLED ที่มีให้เลือกกว่า 200 แบบพร้อมจอแสดงผลแบบเปิดตลอดเวลา และแบตเตอรี่ที่ทรงพลังสามารถใช้งานทั่วไปได้นาน 14 วัน ตัวเรือนได้รับการออกแบบด้วยโลหะ มีปุ่มด้านข้างและเม็ดมะยมทางด้านขวาเพื่อการควบคุมหน้าจอแทนการสัมผัส โดยมีให้เลือก 3 สี คือ Superspeed Black, Vintage Brown Leather และ Racetrack Grey มีฟังก์ชัน  ติดตามข้อมูลด้านสุขภาพ ด้วยการตั้งค่าให้แจ้งเตือนเมื่อผิดปกติ เช่น อัตราการเต้นของหัวใจสูงหรือต่ำ, ระดับค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดต่ำ และระดับความเครียดสูง โดยแจ้งเตือนให้ออกกำลังกาย เพื่อลดความเครียด

Amazfit GTS 4 Mini ขนาดกะทัดรัด บางเฉียบ เบาเพียง 19 กรัม ตัวเรือนออกแบบบางเฉียบเพียง 9.1 มิลลิเมตร มีหน้าจอแสดงผล AMOLED ขนาด 1.65 นิ้ว ทนน้ำ 5ATM และมีเซ็นเซอร์ที่ด้านหลังสำหรับตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจ, ความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด, รูปแบบการนอนหลับ และระดับความเครียดได้ตลอด 24 ชั่วโมง มาพร้อมโหมดติดตามกีฬา 120 โหมด มีระบบติดตามสถานะการออกกำลังกาย PeakBeatsTM และยังรองรับระบบการประเมินค่า PAI ในการแสดงภาพรวมของสถานะเรื่องสุขภาพ รวมถึงการช่วยติดตามผลรอบเดือนและคาดการณ์การมาของในรอบต่อไปได้อย่างแม่นยำ ส่วนแบตเตอร์รี่ 270 mAh มีอายุการใช้งานยาวนานถึง 15 วันต่อการชาร์จเพียงหนึ่งครั้ง และสูงสุดถึง 45 วันสำหรับโหมดประหยัดแบตเตอร์รี่

Amazfit T-Rex 2 สมาร์ทวอทช์ที่มีความโดดเด่นในหลายฟังก์ชั่น ประกอบด้วย ฟังก์ชั่น OxygenBeats™ การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ที่ทำให้เราสามารถกำหนดระยะเวลาในการออกกำลังกายในระดับที่เหมาะสม หรือการวัดค่า SpO2 สามารถวัดความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือด ซึ่งทำได้บ่อยครั้งเท่าที่ต้องการเพื่อปรับปรุงผลลัพธ์ให้ดีขึ้นและยังสามารถวัดค่าแคลอรี่ที่เผาผลาญในทุกกิจกรรม, VO2max, รวมถึง GPS Built-in ที่เชื่อมต่อดาวเทียมนำทาง ตัวเครื่องทนทานเพราะทำจากโลหะคุณภาพสูง กันน้ำได้ระดับ10ATM อีกทั้งในเรื่องของแบตเตอรี่ที่มีความอึดถึง 18 วัน ทำให้มั่นใจสำหรับการทำกิจกรรมท้าทายกลางแจ้งได้อย่างดีเยี่ยม และยังมีโหมดกีฬากว่า 100 โหมด รองรับความต้องการของแฟนพันธ์แท้สายกีฬาได้อย่างดีที่สุด

พบกับชุดของขวัญเพื่อสุขภาพ ครบชุด สุดคุ้ม โดนใจผู้รับ ช้อปได้เลยที่ https://shopee.co.th/amazfitofficialstore

Reporting by

Adblock test (Why?)


Amazfit ส่งแคมเปญชุดของขวัญสุดพรีเมียม ส่งท้ายปี - TheReporterAsia
Read More

vivo มัดรวม 5 สมาร์ตโฟน 5 สไตล์ แนะนำไอเดียของขวัญสุดเซอร์ไพรส์รับปีใหม่ - iphone-droid.net

อีกไม่กี่วันก็ได้เวลาพลิกปฏิทินเข้าสู่ปี 2566 กันแล้ว สำหรับใครที่กำลังมองหาของขวัญชิ้นพิเศษให้คนที่รักในช่วงเทศกาลแห่งความสุขที่กำลังจะถึงนี้ vivo แบรนด์สมาร์ตโฟนชั้นนำระดับโลก ไม่พลาดมัดรวมไอเดียของขวัญสุดเซอร์ไพรส์ กับสมาร์ตโฟน 5 รุ่น 5 สไตล์ สำหรับ vivo fans ที่ชื่นชอบการใช้งาน ที่แตกต่างกันออกไปมาให้ได้เลือกสรรค์ โดยสมาร์ตโฟนทั้ง 5 รุ่น ที่ vivo คัดมาในวันนี้ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องและเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปในปี 2565 จะเปย์เป็นของขวัญให้ตัวเองหรือซื้อให้คนที่เรารัก ก็รับรองได้ว่าจะเต็มอิ่มไปกับของขวัญชิ้นพิเศษ ที่จะเก็บบันทึกความทรงจำในทุกโมเมนต์สำคัญไปอีกนานอย่างแน่นอน

1. vivo X80 Pro 5G สมาร์ตโฟนเรือธง เพื่อการถ่ายภาพและวิดีโอระดับมือโปร

เอาใจคนรักการถ่ายภาพและสายคอนเทนต์ครีเอเตอร์ด้วย vivo X80 Pro 5G สมาร์ตโฟนเรือธงที่โดดเด่นด้วยฟีเจอร์การถ่ายวิดีโอมืออาชีพด้วยเลนส์คุณภาพระดับโลกที่ร่วมมือพัฒนากับ ZEISS มาพร้อมกล้องหลัง 4 ตัว กล้องหลักความละเอียดที่ 50MP พร้อมเซนเซอร์ Ultra-Sensing GNV และ Gimbal Stabilization กล้อง Wide-Angle ความละเอียด 48MP กล้อง Portrait ความละเอียด 12MP และกล้อง Periscope ความละเอียด 8MP มอบประสบการณ์สุดล้ำแห่งเทคโนโลยีการถ่ายภาพและวิดีโอ พร้อมเก็บโมเมนต์สุดประทับใจได้ครบทุกมุมมอง เสริมทัพด้วยเทคโนโลยีการถ่ายภาพที่อัดแน่นด้วยชิปประมวลผลภาพ vivo V1+  ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อเนรมิตการถ่ายภาพและวิดีโอได้แบบมือโปรสัมผัสประสบการณ์การทำงานที่เร็วแรงไม่แพ้ใคร กับขุมพลังชิปเซต Snapdragon 8 Gen 1 จึงมั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพการประมวลผลที่รวดเร็ว ใช้งานต่อเนื่องยาวนานด้วยแบตเตอรี่ขนาด 4700mAh โดย vivo X80 Pro 5G วางจำหน่ายในสี Cosmic Black ที่ราคา 39,999 บาท

2. vivo V25 Pro 5G สมาร์ตโฟนสีสันโดดเด่น โดนใจสไตล์คนเจนใหม่

หากใครกำลังมองหาสมาร์ตโฟนฟีเจอร์ครบครันในราคาจับต้องได้ แนะนำvivo V25 Pro 5G จากตระกูล V Series มอบประสบการณ์การถ่ายภาพพอร์ตเทรตยามค่ำคืนด้วยกล้องหลักความละเอียด 64MP และกล้องหน้าความละเอียด 32MP รองรับฟีเจอร์ Eye Autofocus และ Super Night Portrait ช่วยให้ภาพถ่ายบุคคลยามค่ำคืนสวยงาม คมชัดยิ่งขึ้น อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีเพื่อการถ่ายภาพและวิดีโอที่ล้ำยิ่งขึ้น ทั้งเทคโนโลยีกันสั่นไหว OIS Ultra-Sensing ที่ผสานกับเทคโนโลยีกันสั่นEIS ถ่ายวิดีโอความคมชัดระดับ 4K

vivo V25 Pro 5G มาพร้อมเทคโนโลยี Extended RAM 3.0 ขยายได้สูงสุดถึง 8GB ให้ทุกการใช้งานลื่นไหลไม่สะดุด จุใจกับ ROM 256GB ใช้งานได้ยาวนานด้วยแบตเตอรี่ 4830mAh พร้อมชาร์จไว 66W เพลิดเพลินไปกับทุกโมเมนต์บนหน้าจอ 3D ประกอบเข้ากับหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.56 นิ้ว รองรับอัตรารีเฟรชสูงถึง 120Hz รีเฟรชได้สูงสุดถึง 300Hz ดีไซน์ฝาหลังให้มีลูกเล่นเปลี่ยนเป็นสีสันต่างๆ เมื่อทำปฏิกิริยากับแสงแดดหรือแหล่งกำเนิดรังสี UV อื่นๆ ด้วยเทคโนโลยี Color-changing Glass มีให้เลือกสองเฉดสี ได้แก่ Starlight Black และ Surfing Blue ครบเครื่องขนาดนี้ แต่ราคา 19,999 บาทเท่านั้น

3. vivo Y35 สมาร์ตโฟนฟังก์ชันครบครัน ใช้สนุกทุกไลฟ์สไตล์

ต่อด้วย vivo Y35 จากตระกูล Y Series ในงบไม่เกินหมื่น แต่อัดแน่นด้วยประสิทธิภาพคับจอ ทั้งแบตเตอรี่ความจุถึง 5000 mAh ใช้งานได้ต่อเนื่องแบบไม่ต้องกังวล รองรับเทคโนโลยีชาร์จไว 44W จัดเต็มกับเทคโนโลยี Extended RAM ที่รองรับการขยายได้สูงสุดถึง 8GB เพื่อการใช้งานไหลลื่นกว่าที่เคย ROM 128GB เต็มอิ่มกับจอแสดงผล FHD+ ขนาด 6.58 นิ้ว และรีเฟรชเรทสูงถึง 90Hz vivo Y35 มาพร้อมกล้องหลักความละเอียด 50MP เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอด้วยเลนส์กล้อง Bokeh 2MP เลนส์กล้องMacro ที่โฟกัสได้ใกล้ถึง 4 เซนติเมตร เซลฟีกล้องหน้า 16MP พร้อมโหมด Super Night ให้การถ่ายภาพยามค่ำคืนคมชัดเป็นธรรมชาติแม้ในสภาวะแสงน้อย พร้อมสองเฉดสีให้เลือก ได้แก่ สีดำ Agate Bla ผสานลูกเล่นแสงและเงา ดูลุ่มลึก สี Dawn Gold ให้ความรู้สึกนุ่มนวลเหมือนแสงอาทิตย์ยามเช้าที่กระทบเกลียวคลื่น ในราคา 8,999 บาท สำหรับรุ่นความจุ 128GB และ 9,799 บาท สำหรับรุ่นความจุ 256GB

4. vivo Y02 สมาร์ตโฟนจอใหญ่ แบตอึด ตอบโจทย์การใช้งานรอบด้าน

มาต่อกันที่สมาร์ตโฟนน้องเล็กมาใหม่อย่าง vivo Y02 กับดีไซน์สวยทันสมัย ได้รับการออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน ชูความโดดเด่นด้วยแบตเตอรี่สุดอึด ใหญ่จุใจถึง 5000mAh เพื่อการใช้งานที่ยาวนาน หน้าจอ HD+ ขนาด 6.51 นิ้ว ที่มีคุณสมบัติถนอมสายตา ไม่ทำให้เมื่อยล้าเมื่อใช้งานเป็นเวลานาน พร้อม ROM 32 GB ที่เพิ่มพื้นเก็บข้อมูลได้สูงสุดถึง 1TB ใช้หน่วยประมวลผลOcta-Core Processorvivo Y02 มาพร้อมกล้องหลังความละเอียด 8MP และกล้องหน้า 5MP โหมดถ่ายภาพ Face Beauty, Photo, Video และ Time-Lapse มีให้เลือกสองเฉดสี ได้แก่ สี Orchid Blue และ Cosmic Grey ในราคาสุดคุ้มค่าเพียง 3,799 บาทเท่านั้น

5. iQOO 11 5G สมาร์ตโฟนเกมมิงน้องใหม่มาแรง สเปคปังเกินตัว 

และปิดท้ายกับแบรนด์ใหม่เอาใจเกมเมอร์และผู้ที่มองหาสมาร์ตโฟนสเปคแรงด้วย iQOO 11 5G สมาร์ตโฟนเกมมิงมาแรงที่เพิ่งเปิดตัวกับกระแสตอบรับที่ดีเกินคาด โดดเด่นด้วยขุมพลังชิปเซ็ตเรือธง Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2 ที่ติดตั้งมาเป็นรุ่นแรกจอแสดงผล E6 AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 2K ที่ให้ภาพคมชัดสวยสมจริง รีเฟรชเรทระดับสูงสุด 144Hz ให้ภาพลื่นไหล สบายตา ตอบสนองครบครันในทุกฟังก์ชันการใช้งาน

ดีไซน์โฉบเฉี่ยวไม่ซ้ำใครกับสี Legend White พร้อมแถบโลโก้ 3 สี อันเป็นเอกลักษณ์ของทางBMW M Motorsport ค่ายรถแข่งระดับโลกที่พาร์ทเนอร์การออกแบบร่วมกับ iQOO พร้อมหน่วยความจำ RAM 16GB และ ROM 256GB จุใจกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000 mAh เพื่อการใช้งานที่ยาวนานต่อเนื่องตลอดทั้งวัน รองรับเทคโนโลยีชาร์จไว FlashCharge 120W กล้องหลักความละเอียด 50MP, กล้อง Telephoto & Portrait ความละเอียด 13MP, กล้อง Ultra-Wide 8MP และกล้องหน้าเซลฟีสวยๆ ที่ความละเอียด16MP พร้อมโหมดถ่ายภาพสุดล้ำให้เลือกสนุกสำหรับบันทึกความทรงจำดีๆ อย่างไร้ขีดจำกัด จัดเต็มขนาดนี้ แต่ราคาสุดคุ้มเพียง 27,990 บาท

และทั้งหมดนี้คือ สมาร์ตโฟน 5 รุ่นน่าใช้ที่ vivo และ iQOO ตั้งใจเลือกมานำเสนอเป็นไอเดียของขวัญปีใหม่ ไม่ว่าจะรุ่นไหน ก็เชื่อว่าผู้รับจะต้องประทับใจและกลายเป็นไอเทมชิ้นโปรดที่พกพาไปด้วยทุกที่อย่างแน่นอน หากใครสนใจสมาร์ตโฟนทั้ง 5 รุ่น สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.vivo.com/th และ www.iqoo.com/th

Adblock test (Why?)


vivo มัดรวม 5 สมาร์ตโฟน 5 สไตล์ แนะนำไอเดียของขวัญสุดเซอร์ไพรส์รับปีใหม่ - iphone-droid.net
Read More

Wow Gadget : Kingston, Samsung, Travelite และ DDPAI - ผู้จัดการออนไลน์



Kingston - แฟลชไดร์ฟ USB สุดน่ารัก Mini Rabbit มาพร้อมดีไซน์ที่น่าสะสม ด้วยรูปทรงน้องกระต่ายแสนน่ารักกำลังเคี้ยวแครอท ถูกบรรจุอยู่ในแพ็กเกจทรงขวดน้ำแครอทสกัดเย็น ความจุ 64GB พร้อมรองรับประสิทธิภาพระดับ USB 3.2 Gen 1 ที่สามารถใช้งานร่วมกับมาตรฐาน USB 2.0 ได้ โดยผลิตภัณฑ์สามารถถ่ายโอนข้อมูลได้เร็วกว่าเดิมถึง 10 เท่าเมื่อเทียบกับ USB 2.0 ช่วยตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ทั้งการจัดเก็บข้อมูลดิจิทัลในชีวิตประจำวัน การใช้งานที่โรงเรียน ที่ทำงาน และการเดินทาง ราคา 790 บาท


Travelite - หัวชาร์จใหม่ TravelHub GaN100 ออกแบบมาให้เป็นทั้ง Wall Charger และ Desktop Charger ด้วยตัวต่อสายชาร์จแบบ US ที่มีมาให้ มีพอร์ต USB 4 พอร์ต ปล่อยกำลังไฟสูงสุด 100 วัตต์ USB-C PD/PPS 3 พอร์ต และ USB-A QC 3.0 1 พอร์ต ชาร์จได้พร้อมกัน 4 อุปกรณ์ รองรับ Power Delivery 100W (PD100W) ชาร์จเร็วสูงสุด 100 วัตต์ ชาร์จ iPhone 8 ขึ้นไปได้ 50% ภายใน 30 นาที สามารถชาร์จ MacBook Pro M1 ได้ รองรับ Programmable Power Supply (PPS44W) ชาร์จเร็วสูงสุด 44 วัตต์ ราคาเริ่ม 3,290 บาท


Samsung - สมาร์ทโฟน Galaxy A23 5G สีใหม่ Sliver Bright สะดุดตาสุดพรีเมียม ใช้สีเมทัลลิคเล่นแสง ด้วยฝาหลังที่มีสีเงินและสีรุ้งแวววาวสดใสเอาใจคนรุ่นใหม่ อีกทั้งดีไซน์หรูหราทันสมัยสุดพรีเมียม พร้อมสเปคจัดเต็มในราคาคุ้มค่าสบายกระเป๋า พร้อมจุดเด่นที่กล้องหลังความละเอียดสูงสวยชัด 50MP พร้อมระบบกันสั่น OIS หน้าจอ 6.6 FHD+ Refresh rate 120Hz เร็วแรงลื่นกว่าด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 695 5G เล่นเกมลื่น แบตเตอรี่ 5,000 mAh ราคาเพียง 9,999 บาท


DDPAI - กล้องติดรถยนต์ DDPAI N3 Pro GPS เชื่อมต่อแอปได้ ให้ความละเอียดสูง 1600P+1080P มาพร้อมกับกล้อง 2 ตัว สำหรับติดด้านหน้าและด้านหลัง รองรับการบันทึกภาพตลอด 24 ชม. รองรับ GPS, G-sensor และไจโรสโคป 3 แกนในตัว บันทึกแบบวนซ้ำได้ต่อเนื่อง พื้นที่เก็บข้อมูลสูงสุด 128G ดีไซน์แบบถอดแยกและพับเก็บได้ ขนาด 9.9 × 3.3 × 2.5 ซม./ 5.4 x 3.9 x 2.9 ซม. น้ำหนัก 0.98 กิโลกรัม ราคาเริ่ม 2,398-2,965 บาท

Adblock test (Why?)


Wow Gadget : Kingston, Samsung, Travelite และ DDPAI - ผู้จัดการออนไลน์
Read More

Monday, December 26, 2022

SQEX ยืนยัน Chocobo GP จะไม่มีการอัปเดตเนื้อหาอีกต่อไป - Thaiger ข่าวประเทศไทย

Square Enix ยืนยันว่า Chocobo GP เกมแข่งรถในจักรวาล Final Fantasy จะไม่มีการอัปเดตเนื้อหาขนาดใหญ่อีกต่อไป

วันที่ 21 ธ.ค. 2022 ทาง Square Enix ได้ออกมาประกาศยืนยันแล้วว่าเกม Chocobo GP เกมแข่งรถในจักรวาล Final Fantasy บนเครื่อง Nintendo Switch จะไม่มีการอัปเดตเนื้อหาขนาดใหญ่อีกต่อไปแล้ว

Chocobo GP Season 5 will be the last season where prize pass levels are used in the Chocobo GP mode, and sales of Mythril on the Nintendo eShop have been discontinued with the update released earlier today. Full details: https://t.co/dIQZoNGIH2 https://t.co/rjg3jDgrQz

ซึ่งในส่วนของตัวเกม ทางผู้จัดจำหน่ายยังได้ประกาศเพิ่มเติมอีกว่าถึงแม้ว่าตัวเกมจะไม่มีการอัปเดคใหญ่เพิ่มเติมหลังจาก Season 5 ที่เริ่มต้นในวันนี้ แต่ผู้เล่นสามารถยังสามารถเล่นเกมได้ตามปกติ

ในส่วนของ Rankings จะยังคงเล่นได้ตามเคย แต่ว่า Mythril หรือค่าเงินแบบพรีเมียม (Premium Currency) ของเกม จะถูกลบออกจากการขายบน Nintendo eShop และร้านค้าขายของในเกม ซึ่งจะปิดให้บริการถาวรในวันที่ 6 มกราคม 2023

ส่วนอัปเดต Season 5 ของ Chocobo GP ที่สามารถเข้าเล่นได้แล้วตั้งแต่ตอนนี้ จะเป็นการเพิ่มแผนที่ใหม่ “Midgar” หรือเมืองจาก Final Fantasy VII เข้ามาในเกม และเพิ่ม 2 ตัวละครใหม่ นั่นคือ Croma และ Volg รวมไปถึงชุดแต่งกายและสติกเกอร์รับเทศกาลคริสต์มาส

อ้างอิงข้อมูลจาก : Square Enix 

Photo of sorrawit

sorrawit

นักบริหารผู้ที่ผันตัวมาเป็นนักเล่าเรื่อง มีความสนใจในด้านกีฬาตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าจะเป็น ฟุตบอล บาสเกตบอล หรืออเมริกันฟุตบอล รวมไปถึงชื่นชอบเกมและอนิเมะเป็นชีวิตจิตใจ ปัจจุบันผันตัวมาเป็นนักเขียนบทความออนไลน์ ด้วยการเขียนแบบ สั้น กระชับ เข้าใจง่าย หัวข้อที่เชี่ยวชาญคือเรื่องกีฬา เกมส์ อนิเมะญี่ปุ่นและเรื่องราวเทคโนโลยีต่างๆ

Adblock test (Why?)


SQEX ยืนยัน Chocobo GP จะไม่มีการอัปเดตเนื้อหาอีกต่อไป - Thaiger ข่าวประเทศไทย
Read More

Saturday, December 24, 2022

Steam เริ่มเทศกาล Winter Sale 2022 บางเกมลดเพิ่มจากตอน Autumn Sale - Blognone

Steam เริ่มเทศกาลลดราคาเกมส่งท้ายปี Winter Sale 2022 แล้ว ซึ่งเว้นช่วงจาก Autumn Sale เพียงเดือนเดียว หลายเกมจึงอาจลดราคาอีกรอบเท่าเดิม หลายเกมลดเพิ่มจากเดิม และบางเกมที่เพิ่งวางขายก็เข้าร่วมลดราคาเป็นครั้งแรก (ตรวจสอบสถิติการลดราคาแบบละเอียดได้จาก SteamDB)

ตัวอย่างเกมดังที่น่าสนใจมีดังนี้

  • FIFA 23 ลด 60% เหลือ 759.60 บาท (รอบที่แล้วลด 40%)
  • God of War ลด 40% เหลือ 774 บาท (รอบที่แล้วลด 25%)
  • Metro Exodus ลด 75% เหลือ 198.75 บาท
  • Modern Warfare 2 ลด 15% เหลือ 1,973.70 บาท
  • Elden Ring ลด 30% เหลือ 1,043 บาท
  • Vampire Survivors เกมอินดี้ยอดฮิตของปีนี้ ลด 20% เหลือ 95.20 บาท
  • Two Point Campus ลด 20% เหลือ 1,032 บาท
  • Triangle Strategy ลด 40% เหลือ 1,194 บาท

ตัวอย่างเกมดังที่ลดราคาเท่าเดิม ได้แก่ Monster Hunter Rise ลด 50%, Cyberpunk 2077 ลด 50%, Stray ลด 20% เป็นต้น

No Description

ที่มา - Steam

Adblock test (Why?)


Steam เริ่มเทศกาล Winter Sale 2022 บางเกมลดเพิ่มจากตอน Autumn Sale - Blognone
Read More

Friday, December 23, 2022

พร้อมขายแล้วในไทย! Brother AirSure 2 สถาบันระดับโลกรับรองประสิทธิภาพการยับยั้งเชื้อไวรัสโควิดได้ถึง 99.9% - ThaiPR.net

บราเดอร์ ล้ำหน้าอีกขั้นด้วยการพัฒนา ‘Brother AirSure’ เครื่องดักจับฝุ่นและละอองฝอยในอากาศที่ยังไม่เคยมีมาก่อนในไทย ได้รับการการันตีจาก 2 สถาบันระดับโลกถึงประสิทธิภาพในการดักจับไวรัสโอไมครอนได้ถึง 99.9% พร้อมเปิดตัวครั้งแรกในเอเชียที่ประเทศไทย

นายธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า การเปิดตัว Brother AirSure ถือเป็นการขยายธุรกิจสู่กลุ่มผลิตภัณฑ์นวัตกรรมด้านสุขภาพ โดยล่าสุดได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และไทยถือเป็นประเทศที่ 2 ที่ได้นำเข้ามาจำหน่าย เพราะเล็งเห็นถึงศักยภาพตลาด โดยเฉพาะการชูจุดขายที่เป็นทั้งเครื่องดักจับฝุ่นและละอองฝอยที่มาจากสารคัดหลั่งในร่างกายของคนเรา เช่น น้ำลาย ลมหายใจ ซึ่งอยู่ในเครื่องเดียวกัน โดยบราเดอร์จะเริ่มทำตลาดจากกลุ่มลูกค้าองค์กร และขยายสู่ตลาดลูกค้าครัวเรือนและลูกค้ารายย่อยตามลำดับ

“การตัดสินใจนำ Brother AirSure เข้ามาจำหน่ายในไทยครั้งนี้ เนื่องจากเทรนคนรักสุขภาพสูงขึ้นเรื่อยๆ บวกกับการระบาดของโรคอุบัติใหม่ที่มาจากเชื้อไวรัสต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น โควิด-19 ทำให้ต้องหันมาดูแลสุขภาพกันมากยิ่งขึ้น ในขณะที่ทุกคนยังคงต้องใช้ชีวิตพูดคุยกันแบบปกติต่อไป ดังนั้น ในการสนทนาย่อมมีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อจากการพูดคุยซึ่งหน้าที่มาจาก น้ำลาย ลมหายใจ หรือจากเชื้อไวรัสที่ลอยมาในอากาศ ซึ่งเครื่องกรองอากาศแบบตั้งพื้นทั่วไปอาจป้องกันไม่ได้ แต่ Brother AirSure สามารถดักจับไวรัสสายพันธุ์ต่างๆ โดยเฉพาะสายพันธุ์โอไมครอนได้ถึง 99.9% ทำหน้าที่เหมือนเป็นม่านคอยดักจับและกรองให้เป็นอากาศดีไปในตัว เราจึงมั่นใจว่า Brother AirSure จะสามารถตอบโจทย์คนรักสุขภาพและผู้ที่ต้องการใช้ชีวิตประจำวันแบบปกติด้วยความสบายใจเมื่อมี AirSure” นายธีรวุธ กล่าวแสดงความเชื่อมั่น

ด้านนางสาวทิพยา ไตรเสถียรกุล ผู้จัดการอาวุโสแผนกธุรกิจเครื่องพิมพ์ บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ในครั้งนี้ว่า Brother AirSure ที่นำเข้ามาจำหน่ายในไทยผลิตจากประเทศญี่ปุ่น สามารถดักจับฝุ่นละอองและสารคัดหลั่งต่างๆ ที่มีอนุภาคเล็กมากถึง 0.3 ไมครอน และที่สำคัญยังช่วยยับยั้งเชื้อไวรัสทุกสายพันธุ์ รวมถึง Omicron (Novel coronavirus SARS-CoV-2 Mutant strain (Omicron strain);hCoV-19/Japan/TY38-873/2021) ได้ถึง 99.9% ด้วยแผงกรองไฟฟ้าสถิตรูปตัวยู BEU-shape HEPA เทคโนโลยีเอกสิทธิ์เฉพาะของบราเดอร์ โดยมีผลการทดสอบจาก 2 สถาบันคือ Japan Textile Product Quality Technology Center (QTEC) และ SGS IBR Laboratories นอกจากนี้ ตัวเครื่องยังถูกออกแบบให้มีพลังดูด 3 ทิศทาง ทั้งด้านหน้า ด้านหลัง และด้านบน ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเร็วและแรงในการดูดซับละอองฝอยที่เกิดจากการสนทนาพูดคุย การประชุมงาน แม้กระทั่งการเลี้ยงสังสรรค์ได้มากยิ่งขึ้น จึงเหมาะที่จะใช้ทั้งในสถานที่ทำงานและภายในบ้าน

ทั้งนี้ Brother AirSure มีขนาดกระทัดรัด น้ำหนักเบา สามารถพกพาไปใช้ได้ในทุกที่ เหมาะสำหรับใช้ในพื้นที่ขนาดเล็ก ได้รับการออกแบบให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ประหยัดไฟด้วยค่าใช้จ่ายเพียง 10 บาทต่อเดือนสำหรับการทำงานประมาณ 6 ชั่วโมงต่อวันในโหมดเทอร์โบที่ใช้พลังงานสูง มีระบบการทำงานให้เลือก 2 ระบบ คือ ระบบการทำงานโหมด ปกติและเทอร์โบ มีเสียงเบา 35dB และ 43dB เหมาะสำหรับใช้งานในสภาพแวดล้อมต่างๆ อาทิ เคาน์เตอร์บริการธนาคาร ห้องตรวจแพทย์ จุดบริการรับชำระเงิน เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ห้องประชุม สำนักงาน ห้องอาหาร ห้องเรียน เป็นต้น

Brother AirSure มีจำหน่ายแล้วในราคาเครื่องละ 4,990 บาท สามารถสั่งซื้อได้ผ่านทางแผนกบริการลูกค้า Brother Contact Center โทร. 0-2665-7777 หรือหรือสอบถามผ่านช่องทาง Live Chat: https://ift.tt/X5BsitE

ที่มา: โฟว์ดี คอมมิวนิเคชั่น

Adblock test (Why?)


พร้อมขายแล้วในไทย! Brother AirSure 2 สถาบันระดับโลกรับรองประสิทธิภาพการยับยั้งเชื้อไวรัสโควิดได้ถึง 99.9% - ThaiPR.net
Read More

Tuesday, December 20, 2022

ไฮเซ่นส์ เขย่าตลาดจอใหญ่ ส่ง Hisense PX1-PRO Trichroma Laser Cinema ปลุกกระแสจอภาพขนาดใหญ่ - ThaiPR.net

“ไฮเซ่นส์” (Hisense) ผู้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมจอเลเซอร์ระดับโลก ปล่อยหมัดเด็ดส่งท้ายปี เปิดตัวโปรดักส์เรือธงรุ่นล่าสุด “Hisense PX1-PRO Trichroma Laser Cinema” ปลุกกระแสตลาดเลเซอร์ซีนีมา (Laser Cinema) ในประเทศไทยรับดีมานด์ผู้บริโภคนิยมโซลูชั่นจอแสดงผลขนาดใหญ่ ชูจุดขาย TriChroma Laser หรือเลเซอร์ 3 สี ครั้งแรกในประเทศไทย ให้คุณภาพสีสันคมชัดสมจริงแสดงรายละเอียดเฉดสีได้ถึง 107% BT.2020 เนรมิตทุกห้องเป็นโรงภาพยนตร์ขนาดสูงสุดถึง 130 นิ้ว ที่มาพร้อมนวัตกรรมระยะฉายสั้น (Ultra Short Throw) เริ่มต้นเพียง 32 ซม. เจาะกลุ่มคอหนัง เกมเมอร์ กลุ่มปาร์ตี้สังสรรค์

นายฉันท์ชาย พันธุฟัก ผู้อำนวยการส่วนการขายและการตลาด บริษัท ไฮเซ่นส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ปัจจุบันตลาดผลิตภัณฑ์เลเซอร์ทีวี (Laser TV) หรือเครื่องฉายภาพมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในตลาดโลกและในประเทศไทย เนื่องมาจากความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการจอแสดงภาพที่มีขนาดใหญ่ขึ้นในทุก ๆ ครั้งที่มีการซื้อทีวีเครื่องใหม่ และยังต้องการคุณภาพความคมชัดและสีสันที่สวยงามสมจริงมากยิ่งขึ้น ในขณะที่แอลซีดีทีวี หรือ OLED TV ที่มีขนาดใหญ่ก็มีราคาสูงมากขึ้นตามไปด้วย เลเซอร์ทีวีจึงเป็นทางเลือกใหม่ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่มีความต้องการโซลูชันจอแสดงภาพที่มีขนาดใหญ่ได้ดีกว่า ด้วยนวัตกรรมระยะฉายที่สั้นลง (Ultra-Short Throw) สะดวกต่อใช้งานและการจัดวางภายในบ้านได้มากขึ้น

ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ไฮเซ่นส์ ถือเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเลเซอร์ทีวีในระดับโลกมาโดยตลอด ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยในด้านการแสดงภาพด้วยเลเซอร์ และเมื่อเร็ว ๆ นี้ ยังได้มีความร่วมมือกับแบรนด์ระดับโลกอย่างไลก้า คาเมร่า เอจี (Leica Camera AG) ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการวิจัยและพัฒนาเลนส์ออปติคอลคุณภาพสูง เพื่อร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ และเชื่อว่าจะช่วยเพิ่มความนิยมให้กับ Ultra-Short Throw เลเซอร์ทีวีในตลาดโลก โดยในปีที่ผ่านมาไฮเซ่นส์ครองส่วนแบ่งตลาดเลเซอร์ทีวีกว่า 49% ทั่วโลก เช่นเดียวกับในตลาดประเทศไทยที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ปี 2565 มียอดจำหน่ายเลเซอร์ทีวีสูงขึ้นถึง 10 เท่า เมื่อเทียบกับปีแรกที่เริ่มจำหน่าย

เพื่อตอบรับความต้องการของตลาดบริษัทฯ จึงเปิดตัวผลิตภัณฑ์เรือธง “Hisense PX1-PRO Trichroma Laser Cinema” ไตรโครมา เลเซอร์ ซีนีมา เนรมิตทุกห้องให้เป็นโรงภาพยนตร์สุดพิเศษได้ทุกที่ทุกเวลา ซึ่งได้ยกระดับสู่เลเซอร์ ซีนีมา (Laser Cinema) ด้วยคุณสมบัติการแสดงภาพที่มีขนาดใหญ่สูงสุดถึง 130 นิ้ว และด้วยเทคโนโลยี Ultra Short Throw ทำให้ระยะการฉายภาพทำได้สั้นกว่าปกติ เริ่มต้นเพียง 32 เซนติเมตร ครั้งแรกกับนวัตกรรม Trichroma Laser หรือ เลเซอร์ 3 สี ที่ให้ขอบเขตสีกว้างได้ถึง 107% Rec 2020 มาตรฐานใหม่ของการผลิตภาพยนตร์ สร้างคุณภาพการรับชมที่คมชัดระดับ 4K HDR ไม่พลาดทุกโมเมนต์สำคัญ และยังรับชมได้ในทุกสภาพแสงแม้จะอยู่ในที่สว่างหรือมืด เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้หลงไหลการชมภาพยนตร์ในบ้านแต่ให้ความรู้สึกราวกับอยู่ในโรงภาพยนตร์ชั้นนำ พิเศษด้วย FILM MAKER MODE รับชมภาพยนตร์ได้แบบต้นฉบับของผู้กำกับ รวมไปถึงบรรดาเกมเมอร์ที่นิยมการเล่นเกมบนจอขนาดใหญ่กับเพื่อน ด้วย GAME MODE เล่นเกมบนหน้าจอภาพยนตร์ ต่อเครื่องเล่นเกม หรือพีซีได้อย่างไร้รอยต่อ เคลื่อนไหวไม่มีสะดุด รวมถึงการช่วยเพิ่มบรรยากาศในการปาร์ตี้สังสรรค์ในกลุ่มเพื่อนได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ยังเอาใจสายบันเทิง ด้วย AndroidTV กับการเลือกชมภาพยนตร์และคอนเทนต์ระดับโลกกว่า 400,000 เรื่อง สั่งงานด้วยเสียงผ่าน Google Assistant พร้อมลำโพงขนาด 30 วัตต์ รองรับระบบเสียง Dolby Atmos ระบบเสียงสมจริงราวกับอยู่ในเหตุการณ์​

“Hisense PX1-PRO Trichroma Laser Cinema” เปิดตัวแล้วตั้งแต่วันนี้ ในราคาสุดพิเศษเพียง 119,990 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ www.hisense.co.th หรือเพจเฟซบุ๊ก https://ift.tt/rSxNBVQ

ที่มา: เอ พับลิซิสท์

Adblock test (Why?)


ไฮเซ่นส์ เขย่าตลาดจอใหญ่ ส่ง Hisense PX1-PRO Trichroma Laser Cinema ปลุกกระแสจอภาพขนาดใหญ่ - ThaiPR.net
Read More

Sunday, December 18, 2022

Epic Games Store แจกฟรี "Sable" จนถึง 5 ทุ่มของวันที่ 19 ธันวาคมนี้ - GamingDose

Epic Games Store แจกฟรี “Sable” ไปจนถึง 23:00 น. ของวันที่ 19 ธันวาคม หรือก็คือจะอยู่ให้กดรับฟรีเพียง 24 ชั่วโมงเท่านั้น

ใครที่สนใจ ก็สามารถล็อกอินด้วยบัญชี Epic Games แล้วเข้าไปกดรับกันได้ที่ :
https://store.epicgames.com/th/p/sable

และถ้าอยากทำความรู้จักกับ Sable ให้มากขึ้นก่อนตัดสินใจเล่น ก็เข้าไปชมบทความกันได้ใน : https://www.gamingdose.com/feature/sable

โดยช่วงนี้ก็ถือเป็นการกลับมาของเทศกาลลดราคาส่งท้ายปีบน Epic Games ซึ่งจะเพิ่มความถี่มาแจกเกมฟรีในทุก ๆ วัน และก็ต้องรอลุ้นว่าจะมีเกมใดที่น่าสนใจมาแจกฟรีกันบ้างหลังจากนี้จนถึงสิ้นปี

Adblock test (Why?)


Epic Games Store แจกฟรี "Sable" จนถึง 5 ทุ่มของวันที่ 19 ธันวาคมนี้ - GamingDose
Read More

Saturday, December 17, 2022

Atomic Heart เกมแอ๊กชั่น RPG สไตล์ FPS เปิดตัวยิ่งใหญ่ในเอเชีย วางขายต้นปีหน้า - Online Station

เมื่อวันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา ทาง 4Divinity ที่เป็นบริษัทในเครือของ GCL จากประเทศสิงคโปร์ ในฐานะผู้จัดจำหน่ายเกม Atomic Heart ได้ทำการเปิดตัวเกมดังกล่าวพร้อมประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการบนแพลตฟอร์ม PS5, PS4 และ PC เป็นที่เรียบร้อย โดย 4Divinity นั้นรับหน้าที่เป็นผู้จัดจำหน่ายประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย

Atomic Heart

ในส่วนของเกม Atomic Heart นั้นเป็นเกมแนวแอ๊กชั่นกึ่ง RPG ที่ผจญภัยผ่านมุมมองบุคคลที่ 1 โดยเป็นเหตุการณ์ในสหภาพโซเวียตช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อวิทยาการของโซเวียตที่รุดหน้าไปมากในด้านหุ่นยนต์ได้ทำให้พวกเขาพิชิตฝั่งกองทัพนาซีได้สำเร็จ ทว่าหลังจากนั้นไม่นานก็ได้เกิดปัญหาใหญ่ขึ้น ซึ่งส่งผลให้เหล่าหุ่นยนต์เกิดคิดก่อการกบฎ ร้อนถึงหน่วย KGB จนต้องส่งเจ้าหน้าที่พิเศษที่ใช้โค้ดเนมว่า P-3 มายับยั้งเหตุร้ายนี้ ซึ่งเราจะได้รับบทบาทเป็น P-3 เพื่อแก้ไขวิกฤตการณ์ให้ได้

เพื่อน ๆ สามารถชมเทรลเลอร์ของเกม Atomic Heart ได้ที่คลิปด้านล่างครับ

ในส่วนของราคาของเกม Atomic Heart ที่จะวางจำหน่ายในประเทศไทยจะมีจำแนกตามแพลตฟอร์ม และตามชุดต่าง ๆ ดังตารางด้านล่าง

แพลตฟอร์ม Standard Edition Gold Edition Premium Edition
PC (Steam) 1,490 บาท 2,090 บาท 2,390 บาท
PS5, PS4 (Digital) 2,343 บาท 3,306 บาท 3,627 บาท
แพลตฟอร์ม Standard Edition Limited Edition
PS5, PS4 (แผ่น) 2,480 บาท 3,850 บาท

ทั้งนี้ ตัวเกมเวอร์ชั่นแผ่น PS5 และ PS4 จะเริ่มเปิดให้พรีออเดอร์ตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคมที่จะถึงนี้ครับ

Atomic Heart

เพื่อน ๆ ที่สนใจและอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเกม Atomic Heart สามารถแวะชมเว็บไซต์ทางการของเกมได้ที่ลิงค์ https://www.atomicheart.asia/


ติดตามข่าวเกมพีซี/คอนโซลอื่น ๆ ได้ที่ https://ift.tt/H9EV4mQ

Adblock test (Why?)


Atomic Heart เกมแอ๊กชั่น RPG สไตล์ FPS เปิดตัวยิ่งใหญ่ในเอเชีย วางขายต้นปีหน้า - Online Station
Read More

Friday, December 16, 2022

4Divinity เปิดตัวเกมแอคชันถล่มจักรกล "Atomic Heart" พร้อมตั้งกองทุนผลักดันนักพัฒนาเกม - ผู้จัดการออนไลน์



4Divinity บริษัทจัดจำหน่ายเกมในเครือ GCL ประกาศเป็นตัวแทนจำหน่ายเกม "Atomic Heart" บนแพลตฟอร์ม PC ผ่านร้านค้า Steam และแพลตฟอร์ม PlayStation ในเอเชีย พร้อมตั้งกองทุน Games Fund เพื่อผลักดันและจัดจำหน่ายเกมจากผู้พัฒนาเอเซีย

"Atomic Heart" เป็นเกมแอคชัน RPG มุมมองบุคคลที่ 1 (FPS) พัฒนาโดยสตูดิโอ Mundfish เล่าเรื่องราวของโลกคู่ขนาน ในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ผู้เล่นจะได้ก้าวเข้าสู่โลกไซไฟอันน่าอัศจรรย์ ที่ซึ่งมนุษย์และสิ่งประดิษฐ์ A.I. อาศัยอยู่ร่วมกัน แต่เมื่อเหล่าเครื่องจักรก่อกบฏต่อมนุษย์ ความสงบสุขก็เริ่มถูกทำลายและกลายเป็นฝันร้ายของมนุษยชาติ


ผู้เล่นจะได้รับบทเป็น Will Major เจ้าหน้าที่จากหน่วยข่าวกรอง P-3 ที่ถูกส่งเข้าไปค้นหาสาเหตุการปฏิวัติของเหล่าจักรกล โดยมีเป้าหมายคือศูนย์วิจัยโซเวียต Facility 3826 เพื่อเปิดโปงความลับอันดำมืดและการทดลองที่บิดเบี้ยว พร้อมทั้งหยุดยั้งไม่ให้โลกถูกทำลาย

ผู้เล่นจะได้ต่อกรกับศัตรูหลากหลายแบบ ทั้งหุ่นยนต์ เครื่องจักรขนาดยักษ์ และสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ ผู้เล่นจะต้องศึกษาพฤติกรรมของศัตรู และปรับเปลี่ยนสไตล์การต่อสู้เพื่อรับมือศัตรูแต่ละประเภท ใช้ยุทโธปกรณ์อันหลากหลาย ควบคู่กับพลังพิเศษจากถุงมือ Polymer Glove เพื่อเปลี่ยนสภายแวดล้อมให้กลายเป็นอาวุธ หรือรวบรวมวัสดุเพื่อสร้างอาวุธแบบใหม่ในสไตล์ของตัวเอง

"Atomic Heart" จะวางจำหน่ายในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2023 บนแพลตฟอร์ม PC (Steam) และ PlayStation โดยแบ่งเป็น 3 Edition ได้แก่
- Standard Edition (PC ราคา 1,490 บาท / PlayStation ราคา 2,343 บาท) เกมตัวเต็ม
- Gold Edition (PC ราคา 2,090 บาท / PlayStation ราคา 3,306 บาท) มาพร้อมเกมตัวเต็มและ Atomic Pass
- Premium Edition (PC ราคา 2,390 บาท / PlayStation ราคา 3,627 บาท) มาพร้อมของทั้งหมดใน Gold Edition พร้อม Digital Artbook และสกินอาวุธระดับพรีเมียม


สำหรับเวอร์ชันแผ่นบลูเรย์ PlayStation 4 และ PlayStation 5 แบ่งเป็น 2 Edition ได้แก่
- Standard Edition (ราคา 2,480 บาท) มาพร้อมแผ่นเกมและชุด Labour & Science Weapon Skin Pack
- Limited Edition (ราคา 3,850 บาท) มาพร้อมแผ่นเกมและ Atomic Pass รวมถึงสกินอาวุธระดับพรีเมียม กล่องใส่แผ่น Steelbook หนังสือ Artbook ชุดสติ๊กเกอร์ และกล่องบรรจุที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ

สามารถสั่งจองเกมล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันนี้ และติดตามรายละเอียดเกมบนเว็บไซต์ภาษาไทยพร้อมข้อมูลจัดเต็มได้ที่ www.atomicheart.asia

ทำความรู้จัก 4Divinity
4Divinity เป็นบริษัทผู้จัดจำหน่ายเกม ที่มีความมุ่งมั่นในการนำประสบการณ์เกมอันน่าตื่นเต้นจากทั่วโลกมาสู่เอเซีย และแนะนำผลงานของผู้พัฒนาเกมเอเซียสู่เกมเมอร์นานาชาติในเวลาเดียวกัน โดยบริษัทจะร่วมงานกับบริษัทในเครือเดียวกันอย่าง Epicsoft Asia รวมไปถึงผู้พัฒนาและจัดจำหน่ายเกมเพื่อนำผลผลิตใหม่ ๆ มาสู่ภูมิภาค

ทำความรู้จัก GCL
GCL คือเครือข่ายธุรกิจหลัก 4 ด้าน ซึ่งทำงานร่วมกันเพื่อมอบการบริการอันรอบด้าน ให้ผู้สร้างสรรค์ผลงานเกมสามารถส่งผ่านประสบการณ์อันแสนสนุกไปยังผู้เล่นมากมายในตลาดเกมที่เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดในทวีปเอเซีย โดยบริษัทในเครือ GCL มีสำนักงานสาขาในประเทศต่าง ๆ ถึง 7 ประเทศ ประกอบไปด้วยบริษัท Epicsoft Asia, 4Divinity, 2Game.com และ Titan Digital Media ซึ่งทำหน้าที่ประสานงานกับผู้พัฒนา ผู้จัดจำหน่าย และเจ้าของแบรนด์สินค้ามากมายเพื่อแนะนำสินค้าสื่อบันเทิงให้กับผู้บริโภคในภูมิภาค

ภายใต้การนำของผู้บริหารมากประสบการณ์ในอุตสาหกรรมเกมอย่างคุณ Jacky Choo เครือบริษัท GCL มีวิสัยทัศน์ที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำในด้านเกมและสื่อการตลาดในทวีปเอเซีย เพื่อมอบประสบการณ์เกมอันน่าตื่นเต้นและมีคุณภาพให้กับทั้งภูมิภาค โดยร่วมกับเจ้าของแบรนด์และคอนเทนต์ครีเอเตอร์

เปิดตัวกองทุน 4Divinity Game Fund
ในฐานะส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของบริษัทในการผลักดันการสร้างผลงานเกมในภูมิภาค เครือ GCL ได้ประกาศเปิดตัวกองทุน 4Divinity Games Fund มูลค่ากว่า $5,000,000 สิงค์โปร์ (ราว 128 ล้านบาท) เพื่อสนับสนุนการพัฒนาและจัดจำหน่ายเกม PC และคอนโซลจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเฉพาะ โดย CEO ของเครือ GCL คุณ Jacky Choo กล่าวว่า “ภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้นั้นอุดมสมบูรณ์ไปด้วยไอเดียและเรื่องราวมากมาย ที่สามารถดัดแปลงเป็นประสบการณ์เกมที่สนุกและน่าประทับใจได้ โดยเรามีความต้องการจะสนับสนุนเหล่านักพัฒนาเหล่านี้ เช่นเดียวกับที่เราเคยสนับสนุนผู้สร้างคอนเทนต์บน YouTube ผ่านบริษัท Titan Digital Media มาแล้ว ด้วยประสบการณ์อันลึกซึ้งของเราในการร่วมงานกับบริษัทเกมระดับโลกอย่างใกล้ชิดมานานกว่า 16 ปี เพื่อนำประสบการณ์เกม AAA มาสู่ตลาดในภูมิภาค ทำให้เราอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมในการเฟ้นหาผลงานที่น่าจะประสบความสำเร็จทั้งในด้านความนิยมและเสียงวิจารณ์ ซึ่งจะส่งผลกระทบในแง่ดีต่อวงการพัฒนาเกมในภูมิภาคต่อไป”

ผู้พัฒนาหรือผู้จัดจำหน่ายเกมในภูมิภาคที่สนใจเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ หรือต้องการร่วมมือกับ 4Divinity เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมการเกมในภูมิภาคต่อไป สามารถติดต่อบริษัท 4Divinity ได้ทางเว็บไซต์ www.4divinity.asia


*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับข่าวสารวงการเกมครับ*

Adblock test (Why?)


4Divinity เปิดตัวเกมแอคชันถล่มจักรกล "Atomic Heart" พร้อมตั้งกองทุนผลักดันนักพัฒนาเกม - ผู้จัดการออนไลน์
Read More

moto G53 มาแล้ว! มือถือ 5G จอ 120Hz แบตอึด 5,000 mAh ราคา?... - Droidsans

ในงานเปิดตัวมือถือเรือธงของ Motorola เมื่อวาน นอกจากจะมี moto X40 เป็นพระเอกของงานแล้ว ยังมีมือถือระดับเริ่มต้นที่เปิดตัวมาพร้อมกันอีก 1 รุ่นนั่นคือ moto G53 ซึ่งก็แอบขโมยซีนอยู่เหมือนกัน เพราะเปิดมาด้วยราคาที่เรียกได้ว่าถูกมาก ๆ สำหรับมือถือที่รองรับ 5G เริ่มต้นเพียงแค่ราว ๆ 4,500 บาทเท่านั้น ส่วนสเปคจะเป็นยังไง ไปดูกัน

moto G53 มาพร้อมกับดีไซน์ยอดนิยมของมือถือในปีนี้ พร้อมเคลือบสารสะท้อนน้ำไว้ที่ตัวเครื่อง (ใครนึกภาพไม่ออกว่าสารที่ว่าเป็นยังไง ให้นึกถึงใบบัวเวลาโดนหยดน้ำ) โดยตัวเครื่องใช้จอแสดงผล LCD ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด HD+ (720 x 1600 พิกเซล) พร้อมรองรับรีเฟรชเรตระดับสูง 120Hz ดีไซน์กล้องเซลฟี่มาในแบบเจาะรู มีความละเอียดอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหลังคู่มีความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พ่วงด้วยกล้อง Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล

ด้านประสิทธิภาพ moto G53 ไม่ได้ระบุว่าใช้ชิปประมวลผลอะไร ระบุแค่ว่าชิปประมวลผล Octa-Core รองรับ 5G จาก Qualcomm ประกบคู่มาพร้อม ROM ขนาด 128GB รองรับ microSD Card และมี RAM ให้เลือก 2 ขนาด 4GB / 8GB ทำงานบน Android 13 เวอร์ชั่นใหม่ ครอบทับด้วย MyUi 5.0 ส่วนแบตเตอรี่ก็มีขนาดใหญ่จุใจ 5,000 mAh สามารถชาร์จที่กำลังไฟสูงสุด 18W

moto G53 ใช้พอร์ตแบบ USB Type-C 2.0 มีช่องเชื่อมต่อหูฟังขนาด 3.5 มม. มาให้ แถมยังมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม Power และรองรับ NFC ด้วย โดยตัวเครื่องจะมีขนาด 162.7 x 74.7 x 8.2 มม. และหนักประมาณ 183 กรัม

สเปค moto G53

  • หน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด HD+ รีเฟรชเรต 120Hz
  • CPU : ชิป Qualcomm Octa-Core ไม่ทราบรุ่น
  • RAM : 4GB / 8GB
  • ความจุ : 128GB รองรับ microSD Card
  • กล้องหลัง 2 ตัว
    – กล้องหลักความละเอียด 50MP (f/1.8)
    – กล้อง Macro ความละเอียด 2MP (f/2.4)
  • กล้องหน้า : 8MP
  • การเชื่อมต่อ : 5G Dual SIM, WiFi , USB Type-C 2.0, ช่องเชื่อมต่อหูฟัง 3.5 มม.
  • เซนเซอร์ : Fingerprint (ข้างตัวเครื่อง), NFC
  • ระบบเสียง : moto SST  รองรับ Spatial Audio
  • แบตเตอรี่ : 5,000 mAh ชาร์จสูงสุด 18W
  • ตัวเครื่องเคลือบสารสะท้อนน้ำ
  • ระบบ Android 13 ครอบทับด้วย My UI 5.0

Motorola moto G53 เปิดตัวในประเทศจีนทั้งหมด 2 รุ่นความจุ และมีตัวเครื่อง 2 สีให้เลือก ได้แก่สีขาว และสีดำ และเปิดให้สั่งซื้อกันแล้วในราคาดังนี้

  • รุ่น 4GB + 128GB ราคา 899 หยวน หรือประมาณ 4,500 บาท
  • รุ่น 8GB + 128GB ราคา 1,099 หยวน หรือประมาณ 5,500 บาท

ในตอนนี้ moto G53 วางขายเฉพาะในประเทศจีนเท่านั้น และคาดว่าตัวเครื่องโมเดล Global น่าจะเปิดตัวตามมาในเร็ว ๆ นี้

ที่มา: Lenovo China

Adblock test (Why?)


moto G53 มาแล้ว! มือถือ 5G จอ 120Hz แบตอึด 5,000 mAh ราคา?... - Droidsans
Read More

Thursday, December 15, 2022

เพาเวอร์ มอลล์ กระตุ้นตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าโค้งสุดท้าย ส่งความสุขแบบอัพไซส์ จัดงาน POWER MALL ELECTRONICA - มติชน

มหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและสินค้าไอทีครั้งยิ่งใหญ่แห่งปี
พร้อมสัมผัสโฉมใหม่ สาขา เอ็มโพเรียม ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์
ภายใต้ NEW FLAGSHIP STORE CONCEPT

เพาเวอร์ มอลล์ (POWER MALL) เดอะมอลล์ กรุ๊ป ตอกย้ำความเป็นผู้นำ ELECTRONIC LIFESTYLE DESTINATION ของสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า ไอที ผนึกกำลัง บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) และแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำ จัดงาน “เพาเวอร์ มอลล์ อิเล็คทรอนิก้า” (POWER MALL ELECTRONICA) มหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและสินค้าไอทีครั้งยิ่งใหญ่ส่งท้ายปี ภายใต้คอนเซ็ปต์ POWER MALL HAPPINESS++” เปิดประสบการณ์อัพไซส์ความสุขให้ทวีคูณยิ่งขึ้น ขนความสุขฉลองปีใหม่ พร้อมทัพเครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าไอที และGADGET สุดล้ำ ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้าแบบครบครันจากแบรนด์ชั้นนำกว่า 200 แบรนด์ พร้อมดับเบิ้ลความคุ้มค่า สินค้าลดสูงสุด 60%, สมาชิก M CARD ลดเพิ่ม 15%, ผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือน พร้อมรับเครดิตเงินคืน / บัตรกำนัลห้างฯ จากสถาบันการเงิน ระหว่างวันที่ 8 ธันวาคม 2565 – 4 มกราคม 2566 ที่ POWER MALL ทุกสาขา และพื้นที่แกรนด์ ฮอลล์ ชั้น G เดอะมอลล์ บางกะปิ และ บางแค

นายจักรกฤษณ์ กีรติโชคชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารห้างสรรพสินค้า บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด (Mr.Jakkrit  Keeratichokchaikun, Chief Executive officer -TR  The Mall Group Co., Ltd.) กล่าวว่า ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าเริ่มมีทิศทางการเติบโตที่ดีขึ้น โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ที่เป็นซีซั่นหลักของการจำหน่ายสินค้า และเป็นช่วงเวลาของการซื้อเพื่อเป็นของขวัญในช่วงเทศกาลปีใหม่ คาดว่าในช่วง 2 อาทิตย์สุดท้ายของปี จะเป็นช่วงที่ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้ามีการจับจ่ายสูงที่สุด ประกอบกับผู้ประกอบการแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างแข่งขัน และพัฒนาสินค้าใหม่ๆ พร้อมปรับกลยุทธ์การตลาดมากระตุ้นการจับจ่าย ส่งผลให้ภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าเมืองไทยมีอัตราการเติบโต 10% เมื่อเทียบจากต้นปีที่ผ่านมา

เพื่อรองรับความเติบโตที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพาเวอร์ มอลล์ จึงได้ จับมือกับ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) และแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้า จัดงาน เพาเวอร์ มอลล์ อิเล็คทรอนิก้า มหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและสินค้าไอทีครั้งยิ่งใหญ่แห่งปี ถือเป็น SIGNATURE EVENT ELECTRONIC TRADE SHOW ของเมืองไทย ในช่วงปลายปี ของเพาเวอร์ มอลล์ ที่ลูกค้าให้การตอบรับด้วยดีเสมอมา ภายในงานได้รวบรวมสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าไอที สมาร์ทโฟน ทีวี เครื่องเสียงและแก็ดเจ็ทสุดล้ำ แบบครบครันทุกกลุ่มสินค้า การันตีคุณภาพจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลกกว่า 200 แบรนด์ ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีสุดล้ำ และดีไซน์ที่ทันสมัย รวมถึง สินค้าที่เปิดตัวครั้งแรกในไทย, สินค้าตามเทรนด์ของผู้บริโภค ในกลุ่ม SMART PHONE & TABLET ที่สามารถเลือกตามฟังก์ชั่นการใช้งาน ทั้ง IPHONE 14 PRO MAX , IPAD , SAMSUNG GALAXY FOLD และ FLIP SERIES, DEVIALET MANIA ฯลฯ , สินค้าขายดีในช่วง WORK FROM HOME ที่ผ่านมา ทั้งกลุ่มสินค้า GAME ที่กำลังได้รับความนิยม ตอบโจทย์คนเล่นเกมส์ที่เพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม CONSOLE GAMING อาทิ SONY PLAYSTATION พร้อมกับ แว่น VR2 หรือ NINTENDO และกลุ่ม PC GAMING ที่คอเกมส์สามารถเลือกอุปกรณ์ได้ ตอบโจทย์ด้านประสิทธิภาพตามความต้องการ

นอกจากนี้ยังรวบรวมสินค้ากลุ่มภาพและเสียง จากกระแสฟุตบอลโลกที่กำลังเกิดขึ้น มารองรับความต้องการของลูกค้าที่มีความต้องการ TV จอใหญ่ โดยเฉพาะขนาดจอที่เป็นที่นิยม คือขนาดใหญ่กว่า 65 นิ้ว ขึ้นไป ที่มีความคมชัด ความละเอียดสูง รวมถึงกลุ่มสินค้าที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และรสนิยมของผู้บริโภค อาทิ SAMSUNG BESPOKE ที่มาพร้อมดีไซน์ที่สามารถกำหนดเองได้ ทั้งสีและตัวเลือกวัสดุ ที่สามารถเข้ากับห้องครัวได้อย่างลงตัว โดยลูกค้าสามารถปรับแต่งและผสมผสานตู้เย็นให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของตัวเองได้, LG WASH TOWER เครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าในเครื่องเดียวกัน โดดเด่นที่แผงควบคุมตรงกลาง ที่เชื่อมต่อเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าให้ทำงานร่วมกันโดยอัตโนมัติ สามารถใช้งานได้ง่ายและสะดวกสบายมากขึ้น ตอบโจทย์ลูกค้าที่มีพื้นที่ใช้งานจำกัด

นอกเหนือจากนี้ยังได้รวบรวมสินค้าในกลุ่มการดูแลสุขภาพเข้ามาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สายเฮลตี้เนื่องจากในช่วงสถานการณ์โควิดที่เกิดขึ้น กระแสเทรนด์การดูแลสุขภาพและความงาม (PERSONAL CARE & WELLNESS) กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง พฤติกรรมของคนรุ่นใหม่หันมาใส่ใจดูแลสุขภาพมากขึ้น ทำให้
เทรนด์สินค้าเรื่องการดูแลสุขภาพเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมๆกับการขยายตัวของสังคมเมือง รวมถึงรูปแบบการใช้ชีวิตแบบ NEW NORMAL และจากการ WORK FROM HOME ที่ผ่านมา ทำให้ผู้บริโภคมีความสนใจในไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ ทั้งการทำอาหารด้วยตนเอง ทำให้สินค้าในกลุ่ม KITCHEN & COOKING APPLIANCE ยังคงเป็นที่ต้องการอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน

งาน POWER MALL ELECTRONICA พบกับไฮไลท์สินค้า อาทิ

กลุ่มโมบาย ไอที และแกดเจ็ต (MOBILE, IT & GADGET) พบกับ APPLE SHOP ที่นำเสนอความครบครันของกลุ่มสินค้าใหม่ล่าสุด ทั้ง IPHONE, IPAD, MACBOOK, AIR POD, APPLE WATCH พร้อม APPLE EXPERT ที่พร้อมให้คำแนะนำกับลูกค้า, กลุ่มสินค้า MOBILE อาทิ SAMSUNG, HUAWEI, VIVO, OPPO ที่นำเสนอสินค้าใหม่ SMARTPHONE & TABLET 5G  พร้อม WORKSHOP ให้ความรู้และเทคนิคพิเศษอย่างมืออาชีพ นอกจากนี้ยังนำเสนอ NEW FLAGSHIP BRAND CONCEPT ด้วยแบรนด์ชั้นนำในกลุ่มสินค้า SMART AUDIO สัมผัสประสบการณ์ของพลังเสียงเหนือระดับ จากแบรนด์ชั้นนำ อาทิ DEVIALET, BOSE, B&O อีกทั้งยังมีกลุ่มสินค้า COMPUTER & GAME แบบครบครัน อาทิ MICROSOFT, LENOVO , ASUS, HP, ACER, DELL ฯลฯ และยังเพิ่มเติมความครบ จบในที่เดียวกับกลุ่มสินค้าเกมส์ ทั้ง CONSOLE GAME , PC GAME จากแบรนด์ชั้นนำ MSI, SONY PLAY STATION, NINTENDO

กลุ่มทีวี (TV) กับการนำเสนอทีวีจอใหญ่ ขนาด 65 นิ้วขึ้นไป ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด เพื่อตอบเทรนด์พฤติกรรมของลูกค้าในปัจจุบัน ที่ต้องการความสมบูรณ์แบบทั้งด้านภาพและเสียง โดยนำเสนอด้วย NEW CONCEPT STORE จากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก อาทิ SAMSUNG NEO QLED 8K ความคมชัดไร้ขอบเขต อีกระดับของความสมบูรณ์แบบ, LG OLED EVO 4K ซีรีส์ G2 โดดเด่นด้วยดีไซน์แบบ GALLERY บางเฉียบสวยเรียบกับผนัง, SONY BRAVIA XR SERIES ทีวี 4K FULL ARRAY LED เต็มอรรถรสด้วยสุดยอดเทคโนโลยีจากชิป COGNITIVE PROCESSOR XR™ ที่ UPSCALE ให้ภาพเสมือน 4K คมชัดสมจริงกว่าที่เคย

กลุ่มสินค้าภายในบ้านขนาดใหญ่ (HOME APPLIANCE) ได้แก่ SAMSUNG BESPOKE สัมผัสประสบการณ์ BESPOKE ครบทุกรุ่นที่เดียวในไทย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าแต่ละคนได้ในแบบที่ไม่ซ้ำกัน, LG​ OBJET COLLECTION ที่มาพร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าหลากหลายสีสัน ตอบโจทย์ทุกดีไซน์ สะท้อนไลฟ์สไตล์ในแบบที่เป็นคุณ, ELECTROLUX มาพร้อม NEW CONCEPT ULTIMATE HOME นำเสนอประสบการณ์ใหม่ในการเลือกสินค้า พร้อมส่งต่อเทคโนโลยีชั้นยอด ที่มาพร้อมดีไซน์ที่สวยงาม รวมถึงแบรนด์ ชั้นนำอื่นๆ ที่มาพร้อมเทรนด์สินค้า CONNECTIVITY ที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน

กลุ่มสินค้าภายในบ้านขนาดเล็ก (SMALL APPLIANCE) และกลุ่มสินค้า HEALTH & COOKING ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตภายในบ้าน ด้วยประสบการณ์ใหม่ล่าสุดจากแบรนด์ชั้นนำ อาทิ DYSON AIRWRAP™ เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ที่จะทำให้การดูแลและจัดแต่งทรงผมง่ายกว่าที่เคย ทั้งการม้วน จัดแต่งทรงทำให้ผมเรียบลื่น โดยไม่ต้องใช้ความร้อนสูง, NESPRESSO VERTUO NEXT DELUXE เต็มอรรถรสของกาแฟ และเติมความสดชื่นได้ทุกวัน พร้อมการเชื่อมต่อกับ BLUETOOTH + WIFI เพื่อความสะดวกสบายในทุกไลฟ์สไตล์, HEALTH & COOKING อาทิ PHILIPS SMART AIRFRYER XXL หม้อทอดระบบ AI อัจฉริยะ ที่จะเพิ่มความสะดวกสบายในการทำอาหารได้มากยิ่งขึ้น

งาน “เพาเวอร์ มอลล์ อิเล็คทรอนิก้า” ในครั้งนี้ ยังมาพร้อมความพิเศษ ด้วยโฉมใหม่ ของ POWER MALL เอ็มโพเรียม ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ ที่มีคอนเซ็ปต์ใหม่ล่าสุด ด้วยพื้นที่โดยรวมกว่า 4,200 ตร.ม. ถือเป็นเดสติเนชั่นใหม่ล่าสุดของเครื่องใช้ฟ้า มาตอบโจทย์ลูกค้าในย่านสุขุมวิท ที่เป็นย่านธุรกิจและที่อยู่อาศัยหลักใจกลางเมือง ที่มี RESIDENT และ CONDOMINIUM จำนวนมาก โดยมี FLAGSHIP STORE CONCEPT ที่แรกในไทย โดยเฉพาะกลุ่ม PREMIUM SEGMENTATION เช่น  APPLE SHOP, SAMSUNG MOBILE, DEVIALET, BOSE, B&O, DYSON, SMEG, NESPRESSO, OSIM,

กลุ่มสินค้า IT & GAMING มาในคอนเซ็ปต์ NOTEBOOK BRAND CORNER และPOWER MALL GAME SQUARE ที่นำเสนอสินค้า NOTEBOOK ครบทุกแบรนด์ อาทิ  MICROSOFT SURFACE , LENOVO, ASUS ที่กลุ่มคอเกมส์สามารถสัมผัสได้ทั้ง CONSOLE GAMING อย่าง SONY PLAYSTATION, NINTENDO, และ PC GAMING

กลุ่มสินค้าทีวี กับ CONCEPT ใหม่ทุกแบรนด์ ภายใต้ ไลฟ์สไตลทีวี โดยพบกับการเปิดตัวที่แรกของ SAMSUNG MICRO LED ขนาด 110 นิ้ว สุนทรียความบันเทิงเหนือจินตนาการ ที่มาพร้อมดีไซน์สุดล้ำเรียบหรู ให้เข้าถึงคอนเทนต์ได้อย่างไร้ขีดจำกัด ปกติ 6,499,990 บาท เฉพาะ ในงานนี้ ลดเพิ่ม 500,000 บาท นอกจากนี้พบกับ LG OLED EVO 4K รุ่น 77G2 โดดเด่นด้วยดีไซน์แบบ GALLERY บางเฉียบสวยเรียบกับผนัง เป็นจอ OLED EVO ที่สว่างกว่ารุ่นก่อนถึง 30% มอบภาพดำสนิทและคอนทราสต์ได้ดีเยี่ยม เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์  โดยเฉพาะสายคอหนัง รองรับระบบภาพ DOLBY VISION IQ และระบบเสียง DOLBY ATMOS เสมือนยกโรงภาพยนตร์มาไว้ที่บ้าน

กลุ่มสินค้า LIFE STYLE APPLIANCE กับคอนเซ็ปต์ CONECTIVITY อาทิ  SAMSUNG, LG, ELECTROLUX , BOSCH ที่มาตอบโจทย์ลูกค้าในกลุ่มบ้านและคอนโด ที่ต้องการเครื่องใช้ในบ้านชิ้นใหม่ นอกจากนี้ยังมีกลุ่มสินค้า COOKING LIFESTYLE ที่รวบรวมไว้ให้ลูกค้าสามารถเลือกสินค้าให้ตรงกับความต้องการก่อนตัดสินใจซื้อ พร้อมไฮไลท์ FLAGSHIP STORE BRAND CONCEPT อย่าง DYSON, NESPRESSO, SMEG มาพร้อมกับคำแนะนำการใช้งานจาก BRAND EXPERT รวมถึงยังมีสินค้าในกลุ่ม SMART HOME&SECURITY ที่เริ่มมีบทบาทเพิ่มขึ้นในกลุ่มลูกค้าที่ต้องการความสะดวกสบาย และความปลอดภัยทั้งในบ้าน และคอนโด

นอกเหนือจากความพิเศษของเทคโนโลยีสินค้า POWER MALL ยังมอบความคุ้มค่าแบบดับเบิ้ลครั้งยิ่งใหญ่กับโปรโมชั่นส่งท้ายปี อาทิ เครื่องใช้ไฟฟ้า ทีวี เครื่องเสียง และสินค้าไอที ลดสูงสุด 60%, รับฟรีคูปอง ส่วนลดเงินสดสูงสุด 20,000 บาท, สมาชิก M CARD ลดเพิ่ม 15%, ผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือนทุกชิ้น + ลดเพิ่มสูงสุด 15% พร้อมบัตรกำนัลห้างฯ รวมสูงสุด 20,000 บาท จากสถาบันการเงิน, รับคูปองส่วนลดเงินสด มูลค่า 500 บาท จาก M CARD APPLICATION สำหรับซื้อสินค้าที่ POWER MALL มุลค่า 5,000 บาท ขึ้นไป สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกไทยประกันชีวิต PRIVILEGE รับฟรีโค้ดส่วนลด มูลค่า 100 บาท ใช้เป็นส่วนลด เมื่อซื้อสินค้าภายในงาน โดยกดรับสิทธิ์ผ่านแอปพลิเคชั่น ไทยประกันชีวิต ที่ เดอะมอลล์ สาขาบางแค และบางกะปิ เฉพาะวันที่ 22 ธันวาคม 2565 – 4 มกราคม 2566 เท่านั้น

นอกเหนือจากนี้ยังมีกิจกรรมอีกมากมาย ที่สลับหมุนเวียนกันมาสร้างสีสันมอบความสุข ตลอดระยะเวลาการจัดงาน อาทิ  กิจกรรมความสนุกสุดมันส์กับดีเจที่สลับหมุนเวียนมาสร้างบรรยากาศความสนุกในการช้อปปิ้ง, กิจกรรมการเล่นเกมส์ จากแบรนด์ NINETENDO, PREDATOR , กิจกรรมสาธิต COOKING SHOW โดยเชฟชื่อดัง จากแบรนด์ SAMSUNG, ELECTROLUX, BOSCH TEFAL, VERASU, KITCHENAID กิจกรรมจากแบรนด์ TEMPTECH กับเทคนิคการเพิ่มสุนทรียในการดื่มไวน์, กิจกรรม WORKSHOP จากแบรนด์ APPLE SAMSUNG HUAWEI OPPO กิจกรรม BEAUTY WORKSHOP จากแบรนด์ DYSON เป็นต้น

งาน “เพาเวอร์ มอลล์ อิเล็คทรอนิก้า ในครั้งนี้ เชื่อว่าจะเป็นการส่งมอบความสุข และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ อีกทั้งยังช่วยสร้างสีสัน และกระตุ้นการจับจ่ายและกำลังซื้อของลูกค้าในช่วงเทศกาลปีใหม่ ถือเป็นมหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ลูกค้ารอคอย และคุ้มค่าที่สุดในรอบปี เรียกว่าตอบโจทย์ทุกความต้องการของคนรุ่นใหม่ (NEW GEN LIFESTYLE) มั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับความสุขแบบอัพไซส์ จาก POWER MALL ผ่านคุณภาพและความครบครันของสินค้าและการบริการ พร้อมโปรโมชั่นแบบจัดเต็ม คาดว่าตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าจะกลับมาคึกคักได้แน่นอน นายจักรกฤษณ์กล่าวปิดท้าย

Adblock test (Why?)


เพาเวอร์ มอลล์ กระตุ้นตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าโค้งสุดท้าย ส่งความสุขแบบอัพไซส์ จัดงาน POWER MALL ELECTRONICA - มติชน
Read More

รีวิว Death Stranding Director's Cut เล่นบน iPad Pro M2 - iPhoneMod

ในที่สุดสาวก Apple อย่างเราก็ได้เล่นเกม Death Stranding เวอร์ชัน Director’s Cut บนอุปกรณ์ Apple กันแล้ว ใครอยากลองเล่นเข้าไปซื้อเกมใน App S...