Rechercher dans ce blog

Sunday, July 31, 2022

สุดยอดหูฟังไร้สาย 5 ดาว ตัวท็อปเรื่องงานเสียง HUAWEI FreeBuds Pro 2 จากแบรนด์เทคโนโลยีระดับโลก HUAWEI และเครื่องเสียง Devialet ส่งมอบที่สุดของสุนทรียทางดนตรีสู่แก้วหูคุณ - mobileocta

สายเล่นเครื่องเสียงและหูฟังแบบจริงจัง (Audiophile) จะรู้กันดีว่า เมื่อเราจะต้องเลือกซื้ออุปกรณ์ชิ้นใหม่เพื่อส่งมอบความบันเทิงทางด้านเสียงดนตรี เรามักจะต้องเลือกแบบรักพี่เสียดายน้องอยู่เสมอ ว่าจะเอาตัวที่เน้น “คุณภาพเสียง” ที่สุนทรีย์ที่สุด หรือจะเอาแบบเน้น “ฟีเจอร์ด้านนวัตกรรม” ที่ล้ำที่สุด 

เพราะโดยส่วนใหญ่แล้วหูฟังจากแบรนด์ต่างๆ มักจะมีจุดเด่นที่ไม่ได้ครบไปทุกด้าน ซึ่งคนซื้อก็มักจะรู้กันอยู่ว่าถ้าอยากได้แนวเสียงใสคมชัดคุณภาพดี คงต้องถอยยี่ห้อที่ผลิตโดยเจ้าแห่งวงการเครื่องเสียง แต่ถ้าอยากได้แนวฟีเจอร์ล้ำๆ เทคโนโลยีจัดเต็ม ก็คงต้องเลือกยี่ห้อที่มาจากสายเจ้าแห่งเทคโนโลยีเป็นหลัก

แต่วันนี้ เรามีข่าวดีมาบอกคนที่ชอบเสพย์ความสุนทรีย์ทางเสียงที่กำลังเล็งหูฟังตัวใหม่ ต่อไปนี้คุณอาจไม่ต้องเลือกแบบได้อย่างเสียอย่างอีกต่อไป เมื่อแบรนด์ไอทีอย่างหัวเว่ยได้จับมือกับแบรนด์เครื่องเสียงระดับพรีเมียมอย่าง Devialet เพื่อออกหูฟังน้องใหม่ HUAWEI FreeBuds Pro 2 เพื่อตอบโจทย์แบบครบหมดทั้งในแง่คุณภาพเนื้อเสียงและฟีเจอร์การใช้งาน

เรามาแกะสเป็คนวัตกรรมเสียงดูไปพร้อมกันเลยดีกว่า ว่าหูฟังน้องใหม่ไฟแรงสูงคู่นี้จะสามารถเอาใจคอเครื่องเสียงได้ครบเครื่องขนาดไหน

HUAWEI FreeBuds Pro 2

5 ดาวกับคุณภาพพลังเสียง จากแบรนด์ลำโพงหรู Devialet

สำหรับใครที่เป็นสายเล่นลำโพงเน้นดีไซน์คงจะต้องเคยผ่านหูผ่านตาแบรนด์ Devialet มาบ้างอยู่แล้ว เพราะรูปทรงของเครื่องเสียงและหูฟังเจ้านี้ดูโดดเด่นไม่ซ้ำใคร แบบสามารถนำไปตั้งประดับห้องและทำให้ห้องดูหรูหราขึ้นมาทันที นอกจากนี้คุณภาพเสียงก็นุ่มละมุน เก็บรายละเอียดเสียงเพลงได้ใกล้เคียงเสียงจริง การเข้ามาจับมือกันครั้งนี้ทำให้หูฟังของหัวเว่ยเป็นสิ่งที่น่าจับตาอย่างยิ่งสำหรับทั้งสายเครื่องเสียงและแก็ดเจ็ตไอที

เพราะนั่นหมายความว่าคราวนี้แฟนหูฟังหัวเว่ยจะได้รับคุณภาพเสียงระดับไฮเอนด์ที่ส่งจากมือ Devialet โดยตรง โดยหูฟัง HUAWEI FreeBuds Pro 2 ได้บรรจุลำโพงคู่สุดกระหึ่ม Dual-Speaker True Sound พร้อมส่งมอบเนื้อเสียงที่แทบไม่ผิดเพี้ยนจากคุณภาพเสียงเวอร์ชันต้นฉบับ

ทั้งยังรองรับเอฟเฟกต์เสียงอีกหลากหลายรูปแบบ การันตีคุณภาพเสียงด้วยไดรเวอร์ขับเสียงแบบแม่เหล็ก 4 ตัวแบบ quad-magnet dynamic driver ที่เป็นนวัตกรรมในวงการหูฟังที่นำมาใช้ใน HUAWEI FreeBuds Pro 2 เพื่อช่วยให้เจ้าของหูฟังได้รับคุณภาพเสียงที่เก็บครบในทุกรายละเอียดที่สุด ได้เสียงเบสที่หนักแน่น กระหึ่ม และได้เสียงโทนสูงที่สูงเป็นพิเศษจากไดรเวอร์ที่ใช้เทคโนโลยี planar diaphragm 

5 ดาวกับเทคโนโลยีเสียงอัดแน่นติดท็อปวงการหูฟัง TWS

ในด้านของเทคโนโลยีในตัวหูฟัง HUAWEI FreeBuds  Pro 2 ก็เรียกได้ว่าพกของล้ำระดับไฮเอนด์มาแบบจัดเต็ม ไม่น้อยหน้านวัตกรรมทางด้านเสียงของแบรนด์ Devialet เลย โดยหัวเว่ยเน้นจัดหนักเรื่องฟีเจอร์ด้านการตัดเสียงรบกวน เพื่อให้คุณเพลิดเพลินกับการรับฟังเสียงได้อย่างเต็มที่ ด้วยนวัตกรรมการตัดเสียงภายนอก (ANC) รุ่นใหม่ Intelligent Dynamic ANC 2.0 

โดย HUAWEI FreeBuds Pro 2 ถือเป็นครั้งแรกที่ใช้ระบบตัดเสียงรบกวนที่ใช้ไมโครโฟน 3 ตัว ผสานกับเทคโนโลยี Intelligent Dynamic ANC 2.0 ทำให้สามารถลดเสียงรบกวนได้ในย่านความถี่ที่กว้างขึ้นและลดเสียงรบกวนได้สูงสุด 47 เดซิเบล รวมถึงมีเทคโนโลยีถ่ายทอดไฟล์เสียงคุณภาพสูงอย่าง LDAC High-Resolution Codec และยังได้รับการรับรองมาตรฐานจาก HWA เพื่อช่วยประกันคุณภาพเสียงจากการเชื่อมต่อไร้สายทุกรูปแบบให้คมชัดไม่บิดพริ้วอีกด้วย

5 ดาวกับความคมชัดทุกสายสนทนา

ไม่ต้องกังวลกับการใช้หูฟังท่ามกลางเสียงดังอีกต่อไป เพราะ HUAWEI FreeBuds Pro 2 มาพร้อมเทคโนโลยีตัดเสียงรอบข้าง Pure Voice กับไมโครโฟน 4 ตัว ระบบ Call Noise Cancellation แบบไฮบริด กับอัลกอริทึมการตัดเสียงจากนวัตกรรมรอบข้างมากกว่า 500 สถานการณ์เอกสิทธิ์เฉพาะของหัวเว่ยแบบ Deep Neural Network (DNN)  ตัดเสียงผู้คนสัญจรหรือเสียงรถซิ่งบนท้องถนนได้กริบ จะประชุมหรือฟังเพลงที่ไหนก็ไร้กังวล

5 ดาวกับดีไซน์สวยหรู แบตอึด ทนทาน เชื่อมต่อได้สองอุปกรณ์ในเวลาเดียวกัน

นอกจากเรื่องนวัตกรรมในตัวหูฟัง รูปลักษณ์ภายนอกของ HUAWEI FreeBuds Pro 2 ยังได้รับการออกแบบให้ดูสวยงามแบบเรียบหรูไฮโซ ค่อนไปทางสไตล์การดีไซน์ของเครื่องเสียง Devialet ผสมกับแนวแก็ดเจ็ตไอทีของหัวเว่ยที่ดูไฮเทคแต่ยังเหมาะกับการหยิบมาใช้ในทุกสถานการณ์

โดยตัวหูฟังพร้อมเคสจะมาพร้อมสีสันให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่สีเงินอมฟ้า Silver Blue ดูโฉบเฉี่ยว สีเงิน Silver Frost ดูเข้มขรึม และสีขาวสะอาดตา Ceramic White ซึ่งไม่ว่าจะเลือกสีไหนก็สามารถใช้งานแบบทนน้ำ ทนเหงื่อ ได้ตามมาตรฐานระดับ IP54 

และยังรองรับการเชื่อมต่อสองอุปกรณ์พร้อมกัน ได้ทั้งบนระบบปฏิบัติการ iOS, Android และ Windows ที่สำคัญคือตัวหูฟังยังมีแบตเตอรี่แบบเล็กพริกขี้หนู โดยคุณสามารถใช้ HUAWEI FreeBuds Pro 2 ฟังเพลงต่อเนื่องได้นานสูงสุดถึง 30 ชั่วโมงเมื่อเก็บไว้ในเคส และรองรับการชาร์จแบบไร้สายได้ด้วย

อย่าพลาด! หากสายเล่นเครื่องเสียงและหูฟังตัวจริงอยากรู้ว่า HUAWEI FreeBuds Pro 2 ตัวนี้เสียงดีขนาดไหน ก็คงต้องหามาลองพิสูจน์กับหูตัวเองเท่านั้น โดย HUAWEI FreeBuds Pro 2 มีราคาค่าตัวที่ 6,499 บาท

พรีออเดอร์ระหว่างวันที่ 27 กรกฎาคม 2565 ถึง 5 สิงหาคม 2565 ที่หน้าร้าน HUAWEI Experience Store และร้านค้าที่ร่วมรายการ รับฟรี! HUAWEI Band 6 มูลค่า 1,899 บาท และ HUAWEI Music Premium ฟรี 3 เดือน มูลค่า 387 บาท

หรือจะกดลงตะกร้าออนไลน์กันที่ HUAWEI Store และร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบน Shopee และ Lazada รับฟรี! HUAWEI Mini Speaker มูลค่า 2,180 บาท และ HUAWEI Music Premium ฟรี 3 เดือน มูลค่า 387 บาท

ติดตามอัปเดตข่าวสารล่าสุดก่อนใครได้ทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ HUAWEI Mobile TH สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อสินค้า คอมมิวนิตี้ และบริการ ง่ายๆ ในคลิกเดียว เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน My HUAWEI ใน AppGallery

#HUAWEIFreeBudsPro2 #CoEngineeredwithDevialet

Adblock test (Why?)


สุดยอดหูฟังไร้สาย 5 ดาว ตัวท็อปเรื่องงานเสียง HUAWEI FreeBuds Pro 2 จากแบรนด์เทคโนโลยีระดับโลก HUAWEI และเครื่องเสียง Devialet ส่งมอบที่สุดของสุนทรียทางดนตรีสู่แก้วหูคุณ - mobileocta
Read More

ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ รั้งรองแชมป์สร้างมลพิษ สูงกว่าคนทั่วไป 1,011 เท่า - ข่าวสด

ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ – ยาร์ด บริษัทที่ให้ข้อมูลเชิงการตลาดผ่านแพลตฟอร์มดิจิตอล รายงานข้อมูลคนดังที่ใช้เครื่องบินส่วนตัวเดินทางไปที่ต่างๆ ซึงมีส่วนสำคัญในการสร้างมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ สู่ชั้นบรรยากาศ ปรากฎว่า ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ อดีตแชมป์มวยโลก เจ้าของสถิติแชมป์โลกไร้พ่าย 50 ไฟต์เข้าป้ายเป็นอันดับ 2 ที่สร้างคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 7,076.8 ตัน จากการเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัวเฉลี่ย 25 ไฟลต์ต่อเดือน

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

บางไฟลต์ของฟลอยด์ เป็นการเดินทางระยะสั้นในลาสเวกัสแค่ 10 นาที ภาพรวมคิดเป็น 1,011 เท่าของค่าเฉลี่ยของบุคคลธรรมดา

โดยอันดับ 1 ของรายชื่อดังกล่าวเป็นของ เทย์เลอร์ สวิฟต์ นักร้องสาวชื่อดัง ที่บินด้วยเจ็ตส่วนตัวไปมากกว่า 170 ไฟลต์นับตั้งแต่ ม.ค. เฉลี่ยไฟลต์ละ 80 นาที และราวๆ 139 ไมล์ต่อไฟลต์เท่านั้น คิดเป็นการสร้างกาซคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 8,293.54 ตัน สูงกว่าบุคคลทั่วไปถึง 1,184.8 เท่า โดยไฟลต์สั้นที่สุดใช้เวลาเพียง 36 นาที จากมิซซูรี ไปแนชวิลล์

10 อันดับคนดังสร้างก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
อันดับ 1. เทย์เลอร์ สวิฟต์ (ศิลปิน) 8293.54 ตัน
อันดับ 2 ฟลอย์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์(อดีตนักมวยแชมป์โลก) 7,076 ตัน
อันดับ 3 เจย์-ซี (ศิลปิน) 6,981.3 ตัน
อันดับ 4 อเล็กซ์ โรดริเกซ (อดีตนักเบสบอล) 5,342.7 ตัน
อันดับ 5 เบลก เชลตัน (ศิลปินคันทรี) 4495 ตัน
อันดับ 6 สตีเฟน สปีลเบิร์ก (ผู้กำกับ) 4,465 ตัน
อันดับ 7 คิม คาร์ดาเชียน(นักแสดง, นางแบบ) 4268.3 ตัน
อันดับ 8 มาร์ก วอห์ลเบิร์ก 3772.85 ตัน
อันดับ 9 โอปราห์ วินฟรีย์(พิธีกรโทรทัศน์) 3493.17 ตัน
อันดับ 10 ทราวิส สกอตต์(ศิลปินแรป) 3033.3 ตัน

สำหรับการเดินทางด้วยเครื่องบินพาณิชย์จะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 7 ตันต่อปี ขณะที่เครื่องบินส่วนตัวของบรรดาเซเลบริตี มีค่าเฉลี่ยปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 3,376.64 ตัน มากกว่าเครื่องบินทั่วไป 482.37 เท่า

Adblock test (Why?)


ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ รั้งรองแชมป์สร้างมลพิษ สูงกว่าคนทั่วไป 1,011 เท่า - ข่าวสด
Read More

Cryptojacking คืออะไร? เข้าเว็บเถื่อน! ระวังโดนขโมยใช้เครื่องไปขุดคริปโต วิธีป้องกันและแก้ไข? - แอพดิสคัส (APPDISQUS)

Cryptojacking เป็นอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ประเภทหนึ่ง ที่เกี่ยวข้องกับการเข้าใช้งานอุปกรณ์ของบุคคลอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต (คอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือแม้แต่เครื่องเซิร์ฟเวอร์) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้อุปกรณ์เหล่านั้นในการขุดสกุลเงินดิจิทัล หรือขุดเหรียญคริปโตต่าง ๆ นั่นเอง ซึ่งเหมือนกับอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ตอื่น ๆ ที่ทำไปเพื่อ “เงิน” แต่ Cryptojacking มันถูกออกแบบให้สามารถซ่อนตัวจากเหยื่อได้อย่างสมบูรณ์แบบมากกว่า

Cryptojacking คือภัยคุกคามที่ฝังตัวเองภายในคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์พกพา แล้วใช้ทรัพยากรเครื่องในการขุดเหรียญคริปโต ซึ่ง คริปโต หรือ คริปโตเคอร์เรนซี (crypto or cryptocurrency) เป็นสกุลเงินดิจิทัล ที่ไม่สามารถจับต้องได้ อยู่ในรูปแบบของโทเคนหรือคอยน์  โดยคริปโตที่เป็นที่รู้จักมากที่สุด ก็คือ บิทคอยน์ (Bitcoin) แต่ในความเป็นจริงแล้ว ปัจจุบันเรามีสกุลเงินดิจิทัลมากกว่า 3,000 รูปแบบ และมีธุรกิจหลากหลายเจ้าที่พยายามนำสกุลเงินดิจิทัลออกมาสู่โลกจริง ใช้จ่ายได้จริง ผ่านบัตรเครดิตหรือมีตู้กดเงินดิจิทัลกันเลยทีเดียว

กิจกรรมการได้มาซึ่งเหรียญคริปโตมี 2 วิธีหลัก ๆ 1. การได้เหรียญมาจากการแลกเปลี่ยนทางการเงิน เช่น การซื้อด้วยเงินจริง การซื้อขายด้วยเหรีญคริปโตเหมือนกัน (ต่างสกุลเงิน) การลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่แพลตฟอร์มต่าง ๆ สร้างขึ้น 2. ได้มาจากการขุดเหรียญคริปโต เรียกว่า “miner”

การได้มาจากการขุดเหรียญคริปโต นี่เกี่ยวกับ Cryptojacking แบบเต็ม ๆ จึงขอขยายความกันนิดหน่อยครับ ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจหลักการทำงานของ Blockchain ซึ่งถือว่าเป็นแกนหลักของคริปโต กล่าวคือ คริปโตต้องการให้เหรียญของตัวเองมีค่า จึงเลียนแบบเงินจริง ที่เงินจริงมีค่าเพราะมีการรับรองจากธนาคารกลาง (เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นต้น) และธนาคารกลางมีความน่าเชื่อถือ ดังนั้นคริปโตจึงสร้างระบบที่รับรองการซื้อขายแลกเปลี่ยนที่น่าเชื่อถือขึ้นมา เรียกว่า “Blockchain” เป็นระบบรับรองการซื้อขายที่จะบันทึกธุรกรรมทางการเงินลงไปใน Block ทุก ๆ 10 นาที เกิดเป็นหลาย ๆ Block แล้วนำมาเรียงร้อยต่อกัน กลายเป็น Chain จึงเป็นที่มาของคำว่า Blockchain นี่คือระบบรับรองการซื้อขาย แล้วการสร้างความน่าเชื่อถือหละ ทำยังไง? คำตอบคือขั้นตอนการร้อยเรียงนี่หละ  ในขณะที่จะบันทึกธุรกรรมลงไปใน Block ระบบจะเปิดให้นักขุดทุกคนใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่าเครื่องขุดของตัวเอง เข้ามายืนยันธุรกรรมแข่งกันพร้อมแก้โจทย์ทางคณิตศาสตร์ที่ระบบกำหนดมาเพื่อหาค่าสมการที่ถูกต้อง ใครแก้โจทย์ได้ก่อนก็ปิดกล่องแล้วนำไปร้อยเรียงกับกล่องหรือ Block ก่อนหน้านี้ หลักการนี้เรียกว่า Proof of Work (PoW) กล่าวคือ ยิ่งมีการแข่งขันสูงผลการแข่งขันยิ่งมีความน่าเชื่อถือนั่นเอง แต่การจะแก้โจทย์ที่ซับซ้อนมาก ๆ และแข่งด้านความเร็วกับนักขุดคนอื่น ๆ เราต้องใช้ทรัพยากรเครื่องขุดอย่างมหาศาล นี่หละเป็นที่มาของการพยายาม Cryptojacking เพื่อขโมยใช้เครื่องของคนอื่นมาใช้ในการขุดเหรียญคริปโต แล้วทำไม่ต้องพยายามแข่งขันกันแบบนั้น? คำตอบก็คือ หลังจากที่นักขุดสามารถปิดกล่องสำเร็จ เขาจะได้รางวัลจากระบบนั่นเอง ซึ่งถือว่าเป็นค่าตอบแทนที่คุ้มค่า (ขึ้นอยู่กับราคาคริปโตในขณะนั้น)

 

ปฏิบัติการ Cryptojacking มีวิธีการหลัก ๆ อยู่ 2 รูปแบบ คือ 1. การทำผ่านโค้ด JavaScript ที่ฝังอยู่บนเว็บไซต์ 2. การฝังมัลแวร์ลงในเครื่องคล้ายกับการโจมตีของ Ransomware แต่อย่างไรก็ตามส่วนใหญ่แล้วแฮกเกอร์จะทำทั้ง 2 วิธีเพื่อให้มีโอกาสขโมยพลังงานของ CPU เรามากที่สุด

how-to-Cryptojacking-protect-check-2

การโจมตีโดยสร้างโค้ด JavaScript ฝังลงในเว็บไซต์ ลักษณะตามชื่อบทความของเราเลยครับ นั่นคือ แฮกเกอร์จะสร้างเว็บเถื่อนขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นเว็บโป๊ 18+ เว็บดูหนังออนไลน์ฟรี เว็บธุรกิจสีเทาต่าง ๆ ซึ่งเราต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก เมื่อเราเข้าเว็บไซต์เหล่านี้แล้ว ระวังที่ดูเนื้อหาหรือดูหนังเพลิน ๆ แฮกเกอร์จะทำการ Cryptojacking เรียกใช้งาน CPU จนอาจถึง 100 % เลยก็เป็นได้ แล้วเมื่อเราดูเสร็จและออกจากเว็บไซต์การใช้งาน CPU ก็จะกลับมาเป็นปกติ

วิธีตรวจสอบว่าเว็บไซต์ที่เราใช้งาน มีการ Cryptojacking หรือไม่? ก็ทำโดยการเช็คการทำงาน CPU โดยการเข้าไปที่ Task Manager (กด Alt + Ctrl + Delete พร้อมกัน) เราก็จะรู้ว่าการทำงานของ CPU สูงเกินไปหรือไม่ เช่น มากกว่า 90 % เป็นต้น หากเป็นเช่นนั้นแสดงว่าเว็บไซต์ที่เราท่องอยู่ฝังโค้ดเพื่อ Cryptojacking เราซะแล้ว และมันอาจยังค้างอยู่ในเครื่อง แอบใช้ทรัพยากรเครื่องโดยที่เราไม่รู้ตัว แม้แฮกเกอร์กลุ่มนี้ไม่ประสงค์จะเข้าถึงข้อมูลที่เราไม่อนุญาต (รูปภาพ วิดีโอ เอกสาร บัญชีสังคมออนไลน์ต่าง ๆ ) แต่มันอาจส่งผลทำให้เครื่องช้า ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพได้

การแก้ปัญหาที่ได้ผลที่สุด ก็คือ การ Reset Factory อุปกรณ์ของเรานั่นเอง ส่วนวิธีป้องกันการ Cryptojacking ก็คือ

คัดมาเพื่อคุณ
How-to-create-entity-account-personal-binance
  1. การติดตั้งส่วนขยายของเว็บบราวเซอร์ที่พัฒนามาเพื่อป้องกัน Cryptojacking โดยเฉพาะ ตัวอย่างเช่น minerBlock, No Coin และ Anti Miner เป็นต้น
  2. ใช้เครื่องมือบล็อกโฆษณาบนเว็บบราวเซอร์ (ad blocker) เหตุผลเพราะสคริปต์ Cryptojacking มักจะส่งผ่านโฆษณาออนไลน์ การติดตั้งตัวบล็อกโฆษณาจึงเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการหยุดการทำงานของ Cryptojacking ตัวอย่างของ ad blocker เช่น Ad Blocker Plus ที่สามารถตรวจจับและบล็อกโค้ดเข้ารหัสลับที่เป็นอันตรายได้
  3. ปิดการทำงานของ JavaScript ซึ่งสามารถป้องกันไม่ให้ Cryptojacking โจมตีคอมพิวเตอร์ของเราได้ แต่มันก็จะทำให้การท่องเว็บไซต์ต่าง ๆ มีปัญหาอยู่ไม่น้อยครับ

how-to-what-is-Cryptojacking-protect-check-1

เทรนด์การ Cryptojacking จะเพิ่มขึ้นหรือลดลงนั้น ก็ขึ้นอยู่กับราคาคริปโตในตลาด ยิ่งราคาสูงผลตอบแทนก็ยิ่งมาก มันก็จูงใจให้มีการ Cryptojacking มากขึ้น แต่หากตลาดคริปโตซบเซา Cryptojacking  ก็อาจลดลงตามไปด้วยเช่นกัน   มีประเด็นอีกอย่างที่น่าสนใจ คือ Cryptojacking ถือว่าเป็นกิจกรรมสีเทาอยู่ ไม่มีกฎหมายชัดเจนในการคุ้มครองผู้เสียหาย เพราะไม่ได้ขโมยข้อมูลแต่เป็นการขโมยใช้งาน CPU ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ผู้เสียหายมากเท่าการโจมตีรูปแบบอื่นนั่นเอง

ที่มา:

[1] https://www.kaspersky.com/resource-center/definitions/what-is-cryptojacking [2] https://www.padaacademy.com/blog/cryptojacking.html [3] https://www.bitkub.com/blog/proof-of-work-proof-of-stake-2a5ed294dca3

Adblock test (Why?)


Cryptojacking คืออะไร? เข้าเว็บเถื่อน! ระวังโดนขโมยใช้เครื่องไปขุดคริปโต วิธีป้องกันและแก้ไข? - แอพดิสคัส (APPDISQUS)
Read More

จีนเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตหดตัวแตะ 49 ในก.ค. จาก 50.2 - อาร์วายที9

สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ (31 ก.ค.) ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ (PMI) ภาคการผลิตปรับตัวสู่ระดับ 49 ในเดือนก.ค. ซึ่งลดลงจาก 50.2 ในเดือนมิ.ย. โดยตัวเลขที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ถึงการขยายตัว ส่วนตัวเลขที่ต่ำกว่าระดับดังกล่าวบ่งชี้ถึงการหดตัว

ทั้งนี้ กิจกรรมภาคการผลิตของจีนหดตัวแบบไม่คาดหมายในเดือนก.ค. หลังเพิ่งขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือนในเดือนมิ.ย. เพราะจีนผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ โดยถูกกดดันจากการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโรคโควิด-19 และแนวโน้มซบเซาทั่วโลกบั่นทอนผู้ผลิตจีน

ด้านดัชนี PMI ภาคบริการปรับตัวสู่ระดับ 53.8 ในเดือนก.ค. ซึ่งลดลงจาก 54.7 ในเดือนมิ.ย.


Adblock test (Why?)


จีนเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตหดตัวแตะ 49 ในก.ค. จาก 50.2 - อาร์วายที9
Read More

Saturday, July 30, 2022

Infinix NOTE 12 PRO และ NOTE 12 PRO 5G มาพร้อม Helio G99 รุ่นแรกของโลก ราคา เริ่มต้น 6,799 บาท - Techoffside.com

เปิดตัว Infinix NOTE 12 PRO และ NOTE 12 PRO 5G ภายใต้สโลแกน ”Arena Grand Master – ที่สุด ทุกสมรภูมิ” ปฏิวัติวงการมือถือเกมมิ่งด้วย ชิปเช็ตใหม่ล่าสุด MediaTek Helio G99 รุ่นแรกของโลก พร้อมยกระดับการถ่ายภาพ ด้วยกล้องความละเอียด 108 ล้านพิกเซล และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานด้วยหน่วยพื้นที่ความจำ 256 GB เพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่สมบูรณ์แบบมากที่สุด ราคา สุดคุ้มเริ่มต้น 6,799 บาท พร้อมรับฟรีหูฟังบูลทูธ TWS XE 25 มูลค่า 1,199 บาท สำหรับ 600 ออเดอร์แรกเท่านั้น วางจำหน่ายแบบออนไลน์บน Lazada พร้อมเปิดให้จองก่อนใคร ในวันที่ 1 – 4 สิงหาคม 2565 และจะจำหน่ายอย่างเป็นทางการเริ่มวันแรกตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคมเป็นต้นไป

NOTE 12 PRO และ NOTE 12 PRO 5G เป็นอีกรุ่นใน NOTE 12 Series ที่พัฒนาต่อยอดมาจาก NOTE 12 ยังคงเน้นตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์กลุ่มวัยรุ่นวัยทำงานที่ชื่นชอบการเล่นเกม สำหรับรุ่น NOTE 12 PRO โดดเด่นด้วยชิปเช็ตทรงพลังใหม่ล่าสุด MediaTek Helio G99 ซึ่งเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกของโลกที่ได้นำซีพียูตัวนี้ มาใช้งาน และรุ่น NOTE 12 PRO 5G กับประสิทธิภาพที่เหนือกว่าด้วยชิปเซ็ต 6nm MediaTek Dimensity 810 รองรับสัญญาณ 5G โดยทั้งสองรุ่นนี้ได้มอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดสำหรับการใช้งานกล้องบนมือถือด้วยกล้องหลักคุณภาพความละเอียดสูงสุด 108 ล้านพิกเซล พร้อมโหมดถ่ายภาพกลางคืน ที่ทำให้ผู้ใช้งานถ่ายภาพใน ทุกช่วงเวลาดี ๆ ได้อย่างมืออาชีพในทุกสภาพแสง และเซลฟี่อย่างมั่นใจได้ภาพสวยงาม คมชัด เก็บทุกรายละเอียดด้วยกล้องหน้าความละเอียดถึง 16 ล้านพิกเซล

Infinix NOTE 12 PRO และ NOTE 12 PRO 5G

นอกจากนี้ได้เสริมศักยภาพการใช้งานที่ไร้ขีดจำกัดด้วยพื้นความจำถึง 256 GB พร้อมกับเทคโนโลยี Extended RAM สามารถเพิ่มแรมได้สูงสุดถึง 13 GB สามารถรองรับได้ถึง 20 แอปพลิเคชันให้ทำงานในเวลาเดียวกันโดยไม่มีกระตุก และยังคงรักษามาตรฐานหน้าจอให้เป็นแบบ AMOLED ขนาดหน้าจอใหญ่ 6.7 นิ้ว ความละเอียด FHD+ ที่ให้ภาพสีสันสว่างสดใส สมจริง สู้แสงแม้อยู่กลางแจ้ง ซึ่งช่วยเพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมและรับชมความบันเทิงได้ดีที่สุด ด้านแบตเตอรี่ให้มาถึง 5,000 mAh และรองรับชาร์จเร็ว 33 วัตต์ ทำให้สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานตลอดทั้งวันและเปิดเครื่องสมาร์ตโฟนได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

Infinix NOTE 12 PRO และ NOTE 12 PRO 5G ราคา

สำหรับการดีไซน์ มาพร้อมการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ เรียบหรู ทันสมัย ใช้วัสดุพรีเมียม แข็งแรง ทนทานแต่มีน้ำหนักเบา ตัวเครื่องบางมีความหนาเพียง 7.8 มม. เพื่อให้ผู้ใช้งานพกพาสะดวก จับถนัดมือ และ พึงพอใจมากที่สุด โดยสีที่วางจำหน่ายในประเทศไทยมีให้เลือกหลากหลาย โดย NOTE 12 PRO มีทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีเทา (Volcanic Grey) สีฟ้า (Tuscany Blue) และ NOTE 12 PRO 5G มีทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีดำ (Force Black) สีขาว (Snow Fall) เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างลงตัวมากที่สุด

แฟนๆ Infinix หรือผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ตโฟนที่ตอบโจทย์การเล่นเกมและความบันเทิงในราคาคุ้มค่า ห้ามพลาด! กับสมาร์ตรุ่นใหม่ล่าสุด NOTE 12 PRO และ NOTE 12 PRO 5G พร้อมเปิดตัวในประเทศไทยแล้ววันนี้

  • Infinix NOTE 12 PRO รุ่น 8 + 256 GB ราคา 7,999 บาท ราคาช่วงเปิดตัววันที่ 1 – 8 สิงหาคม 2565 เหลือเพียง 6,999 บาท พร้อม Voucher ส่วนลดอีก 200 บาท ราคาจะเหลือเพียง 6,799 บาท
  • Infinix NOTE 12 PRO 5G รุ่น 8 + 128 GB ราคา 8,299 บาท ราคาช่วงเปิดตัวเหลือเพียง 7,299 บาท หากเก็บและใช้ Voucher ส่วนลด 200 บาท ราคาจะเหลือเพียง 7,099 บาท

พิเศษสุด! 600 การสั่งซื้อแรกเท่านั้น สำหรับ NOTE 12 PRO และ NOTE 12 PRO 5G รับฟรีหูฟังบูลทูธ TWS XE 25 มูลค่า 1,199 บาท พร้อมเปิดให้พรีออเดอร์ในวันที่ 1 – 4 สิงหาคม 2565 และจะจำหน่ายเริ่มวันแรกตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคมเป็นต้นไป ในช่องทางออนไลน์ที่ร้าน LazMall บน Lazada เท่านั้น สามารถคลิกสั่งซื้อได้ที่ https://cutt.ly/qZu8MRV ค้นหารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.infinixmobility.com/th

Adblock test (Why?)


Infinix NOTE 12 PRO และ NOTE 12 PRO 5G มาพร้อม Helio G99 รุ่นแรกของโลก ราคา เริ่มต้น 6,799 บาท - Techoffside.com
Read More

Infinix Note 12 Pro และ Note 12 Pro 5G เริ่มต้น 6799 บาท ขาย 1 ส.ค.นี้ - Siamphone

Infinix เปิดตัว Note 12 Pro และ Note 12 Pro 5G ภายใต้สโลแกน ''Arena Grand Master – ที่สุด ทุกสมรภูมิ” ปฏิวัติวงการมือถือเกมมิ่งด้วย  ชิปเช็ตใหม่ล่าสุด MediaTek Helio G99 รุ่นแรกของโลก พร้อมยกระดับการถ่ายภาพด้วยกล้องความละเอียด 108 ล้านพิกเซล และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานด้วยหน่วยพื้นที่ความจำ 256 GB

Infinix Note 12 Pro และ Note 12 Pro 5G เป็นอีกรุ่นใน NOTE 12 Series ที่พัฒนาต่อยอดมาจาก NOTE 12 และยังคงเน้นตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์กลุ่มวัยรุ่นวัยทำงานที่ชื่นชอบการเล่นเกม สำหรับรุ่น Note 12 Pro โดดเด่นด้วยชิปเช็ตทรงพลังใหม่ล่าสุด MediaTek Helio G99 ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่ได้นำซีพียูตัวนี้มาใช้งาน

และรุ่น Note 12 Pro 5G กับประสิทธิภาพที่เหนือกว่าด้วยชิปเซ็ต 6nm MediaTek Dimensity 810 รองรับสัญญาณ 5G โดยทั้งสองรุ่นนี้ได้มอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดสำหรับการใช้งานกล้องบนมือถือด้วยกล้องหลักคุณภาพความละเอียดสูงสุด 108 ล้านพิกเซล พร้อมโหมดถ่ายภาพกลางคืน ที่ทำให้ผู้ใช้งานถ่ายภาพในทุกช่วงเวลาดี ๆ ได้อย่างมืออาชีพในทุกสภาพแสง และเซลฟี่อย่างมั่นใจได้ภาพสวยงาม คมชัด เก็บทุกรายละเอียดด้วยกล้องหน้าความละเอียดถึง 16 ล้านพิกเซล  

สำหรับการดีไซน์ มาพร้อมการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ เรียบหรู ทันสมัย ใช้วัสดุพรีเมียม แข็งแรง ทนทานแต่มีน้ำหนักเบา ตัวเครื่องบางมีความหนาเพียง 7.8 มม. เพื่อให้ผู้ใช้งานพกพาสะดวก จับถนัดมือ และ พึงพอใจมากที่สุด โดยสีที่วางจำหน่ายในประเทศไทยมีให้เลือกหลากหลาย

โดย Note 12 Pro มีทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีเทา (Volcanic Grey) สีฟ้า (Tuscany Blue) และ Note 12 Pro 5G มีทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีดำ (Force Black) สีขาว (Snow Fall) เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างลงตัวมากที่สุด

ห้ามพลาด! กับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด Note 12 Pro และ Note 12 Pro 5G พร้อมเปิดตัวในประเทศไทยแล้ววันนี้ โดย Note 12 Pro รุ่น 8 + 256 GB ราคา 7,999 บาท ราคาช่วงเปิดตัววันที่ 1 - 8 สิงหาคม 2565 เหลือ 6,999 บาท พร้อม Voucher ส่วนลดอีก 200 บาท ราคาจะเหลือเพียง 6,799 บาท และ Note 12 Pro 5G รุ่น 8 + 128 GB ราคา 8,299 บาท ราคาช่วงเปิดตัวเหลือเพียง 7,299 บาท หากเก็บและใช้ Voucher ส่วนลด 200 บาท ราคาจะเหลือ 7,099 บาท 

พิเศษสุด! 600 การสั่งซื้อแรกเท่านั้น สำหรับ Note 12 Pro และ Note 12 Pro 5G รับฟรีหูฟังบูลทูธ TWS XE 25 มูลค่า 1,199 บาท พร้อมเปิดให้พรีออเดอร์ในวันที่ 1 – 4 สิงหาคม 2565 และจะจำหน่ายเริ่มวันแรกตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคมเป็นต้นไป ในช่องทางออนไลน์ที่ร้าน LazMall บน Lazada เท่านั้น ค้นหารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.infinixmobility.com/th

Adblock test (Why?)


Infinix Note 12 Pro และ Note 12 Pro 5G เริ่มต้น 6799 บาท ขาย 1 ส.ค.นี้ - Siamphone
Read More

การแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียม! Fullmetal Alchemist Mobile จะมาแล้ว แต่เปิดแค่ญี่ปุ่นก่อน! - แอพดิสคัส (APPDISQUS)

Fullmetal Alchemist อนิเมะที่ได้รับความนิยมมาก ที่ว่าด้วยเรื่องของสองพี่น้อง เอลริก ในโลกที่เต็มไปด้วย นักเล่นแร่แปรธาตุ พวกเขาต้องออกเดินทางเพื่อหา ศิลานักปราชญ์ เพื่อจะคืนร่างกายของตนเองที่เสียไปในการพยายามฟื้นคืนชีบ แม่ของตนเอง

Fullmetal-Alchemist-Mobile 2021 12-17-21 001

ในตอนนี้อนิเมะ สุดยอดนี้กำลังจะกลายเป็นเกมแนวกาชา เพื่อจะฉลองครบรอบ 20 ปี ลงในทรศ สร้างโดย Square Enix เป็นแนว Turn Base , RPG  จากมุมบน ซึ่งกำลังจะเปิดให้บริการณ์ ใน 4 ส.ค. นี้ แต่ว่าเปิดแค่ในญี่ปุ่นเท่านั้น! โดยจะเป็น Free To Play แต่มี In-app Purchase และ ลงใน Andriod และ IOS

1626150523

Adblock test (Why?)


การแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียม! Fullmetal Alchemist Mobile จะมาแล้ว แต่เปิดแค่ญี่ปุ่นก่อน! - แอพดิสคัส (APPDISQUS)
Read More

Valorant Patch Note 5.03 (PBE) ถึงเวลาสักที !! ทีมงานประกาศ Nerf ความสามารถของ Chamber ภายใน Patch 5.03 แบบจัดเต็ม - 4Gamers Thailand

Friday, July 29, 2022

สรุป vivo V25 Series ปังสุดกล้อง OIS สวยแบบสับ มาชัวร์ !! - papayatop.com

ถึงเวลาอัพเกรดอีกครั้ง vivo V25 Series ต้อนรับเดือนวันแม่ ชุดใหญ่ ออฟชั่นแน่น อัพเกรดกล้องหลัก OIS กันสั่นถ่าย 4K กล้องหน้า 50MP ดีไซน์ใหม่หรูหราแบบสับ จอ AMOLED 90Hz อันนี้แค่รุ่น V25 5G นะครับ ยังมีรุ่น Pro ต่อคิวเปิดตัวอีก เอาล่ะ มีอะไรอีกบ้างมาชมกัน

vivo v25 series 5g

สเปค vivo V25 5G

  • หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว (FHD+), รองรับการแสดงผล 90Hz HDR10
  • ความจุ 128GB UFS 2.2
  • ชิพประมวลผล Mediatek Dimensity 900 5G + แรม 8GB
  • ระบบ Android 12 (Funtouch OS)
  • กล้องหลัก 64MP F1.9 OIS + Ultra-Wide, Macro
  • กล้องหน้า 50MP F2.0
  • แบตเตอรี่ 4500 mAh (ชาร์จเร็วสูงสุด 44W)

** สเปควางจำหน่ายจริง รออัพเดทอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

vivo v25 series 5g
vivo v25 series 5g

การออกแบบต่างจาก vivo V23 5G แม้ขอบเหลี่ยม แต่ฝาหลังมีความโค้งมน แอบคล้าย vivo T1 5G เหมือนกัน งานบอดี้ วัสดุดีกว่า หน้าจอ AMOLED 90Hz ขนาดใหญ่ คงติ่งกล้องหน้า 50MP ให้อภัยเพราะ Selfie สวยตายวัวหายควายล้ม แถม Auto-Focus ด้วย ทำหน้าชัดหลังเบลอ DOF เนียนกว่าที่เคย

vivo v25 series 5g

กล้องหลัก 64MP OIS ถ่ายภาพนิ่ง – วิดิโอดีกว่าเดิม เสียดายรุ่นก่อน (V23 5G) ตัดออกเสียดายตรงนี้ ถ่าย Vlog สบายกว่า พร้อมลูกเล่นด้าน Beauty สาวเอเชียต้องหลงรัก จบหลังกล้องได้เลย

vivo v25 series 5g

อ้างอิงจากพี่จีน บอดี้มี 3 สีสันคือ ดำ, ทอง, ฟ้า คล้ายกับ vivo V23 5G ขายปัจจุบัน ผิวฝาหลังเหมือนเดิม สวยครับ

vivo v25 series 5g

สำหรับประเทศไทย vivo V25 Series นำเข้ามา 2 รุ่นย่อย (V25, V25 Pro) ทยอยเปิดตัววางจำหน่าย ช่วงเดือนสิงหาคม 2565 แน่นอน มีพรีเซ็นเตอร์ด้วย สเปคเครื่อง(ของจริง) เป็นอย่างไร ราคาเท่าไหร่ ไม่นานเกินรอแน่นอน

ติดตาม vivo Official Store ผ่าน 3 ช่องทางหลัก
• Shopee – https://shope.ee/AUHDFpG3cm
• Lazada – https://s.lazada.co.th/l.0Vqe
• JD Central – https://bit.ly/3S99LLF

Adblock test (Why?)


สรุป vivo V25 Series ปังสุดกล้อง OIS สวยแบบสับ มาชัวร์ !! - papayatop.com
Read More

Garmin อัปเกรด “ซอฟต์แวร์ตัวใหม่ล่าสุด” ยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้งาน - AV Tech Guide

กรุงเทพฯ (29 ก.ค. 65) – Garmin อัปเกรดซอฟต์แวร์ใหม่ล่าสุดสำหรับสมาร์ทวอทช์การ์มิน ครอบคลุมตั้งแต่การเพิ่มขีดความสามารถของการติดตามสุขภาพกับการแสดงผลข้อมูลที่ละเอียดขึ้น อาทิ เพิ่มเสตจของการนอน และการแสดงผลในรูปแบบกราฟ ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย และการเพิ่มโปรไฟล์กิจกรรมที่หลากหลายครอบคลุมไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น

รวมถึงยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้งาน (UX) ให้สามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ข้อมูลด้านสุขภาพของการ์มินควบรวมการเก็บข้อมูลจากระบบ Firstbeat Analytics บนสมาร์ทวอทช์ เข้ากับการวิเคราะห์ขั้นสูง เพื่อติดตามสุขภาพ และขีดความสามารถของร่างกาย

โดยผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลสุขภาพต่าง ๆ จากบนข้อมือได้สะดวก ง่ายดาย ผ่านข้อมูลที่ครบครันเพียงปลายนิ้วสัมผัส และเก็บข้อมูลได้อย่างต่อเนื่อง ผู้ใช้จึงสามารถรับรู้แนวโน้มด้านสุขภาพของตัวเอง ปรับปรุงการฝึกซ้อม และที่สำคัญที่สุดคือ ยังทำให้เข้าใจร่างกายและสุขภาพได้ดียิ่งขึ้น

คุณสกาย เชน ผู้อำนวยการ การ์มิน ประเทศไทย กล่าวว่า “การ์มินมุ่งยกระดับขีดความสามารถของผลิตภัณฑ์ พร้อมตั้งใจพัฒนากระบวนการต่าง ๆ เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้อย่างสม่ำเสมอ ครั้งนี้เราได้รวบรวมข้อมูลความคิดเห็นเกี่ยวกับประสบการณ์การใช้งานของลูกค้า เพื่อหาแนวทางในการเพิ่มประสิทธิภาพของซอฟต์แวร์ เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ของเราได้แบบไม่ติดขัด

รวมถึงยืดระยะเวลาการใช้งานได้ยาวนานขึ้น เอื้อต่อการติดตามสุขภาพอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมงในทุก ๆ วัน รวมถึงการติดตามการนอนหลับ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าผู้ใช้จะเพลิดเพลินกับการใช้งานผลิตภัณฑ์ของเราในชีวิตประจำวันได้อย่างสูงสุด

พร้อมกันนี้การ์มินยังได้จัดโปรโมชั่นพิเศษกับสินค้าซีรีย์ยอดฮิตอย่าง FENIX 6 ที่ได้รับการอัพเกรดให้สามารถใช้ฟีเจอร์ ADVANCED STRENGTH TRAINING ในการดูภาพกราฟิกแสดงกลุ่มกล้ามเนื้อที่กำลังใช้งานเมื่อออกกำลังกายได้จากหน้าปัดสมาร์ทวอทช์ ภายใต้ชื่อโปรโมชั่น ดับเบิ้ล โบนัส (Double Bonus) คุ้มสองเด้ง ได้ทั้งสมาร์ทวอทช์พร้อมซอฟต์แวร์ใหม่ และส่วนลดสูงสุดถึง 20% สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเป็นเจ้าของได้แล้วตั้งแต่ 28 ก.ค. – 11 ส.ค. 2565 นี้เท่านั้น ผ่านช่องทาง https://bit.ly/3za2XVc

Garmin software update

โดยการอัปเกรดซอฟต์แวร์ล่าสุด มีดังนี้

การติดตามด้านสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น
• การติดตามการนอนหลับ – พัฒนาการตรวจจับการนอนหลับผ่านอุปกรณ์และเพิ่มเสตจการนอนแบบกระสับกระส่าย (restlessness) ทั้งยังเพิ่มกราฟให้สามารถเข้าใจข้อมูลได้ง่ายขึ้น

• อัปเดตวิดเจ็ต Intensity Minutes – ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบระดับ Intensity Minutes ได้ในแต่ละวัน

• การฝึกหายใจและวิดเจ็ต Respiration – เพิ่มรูปแบบการฝึกหายใจ และช่องแสดงข้อมูลอัตราการหายใจ

พร้อมปรับแต่งวิดเจ็ตอัตราการหายใจที่ในสมาร์ทวอทช์ซีรีย์ INSTINCT 2
• อัปเดตอัลกอริทึม Body Battery – ปรับปรุงอัลกอริทึมในสมาร์ทวอทช์ซีรีย์ INSTINCT 2

• การแสดงผล Fitness Age – เพิ่มฟีเจอร์การวัดอายุสุขภาพ (fitness age) ในการตั้งค่าโปรไฟล์ผู้ใช้งาน

การปรับปรุงฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย
• อัปเดตการตรวจจับเหตุการณ์ฉุกเฉินในกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเดิน การปีนเขา และการใช้งานทั่วไป (ในรุ่นที่กำหนด)

• อัปเดตประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ด้านความปลอดภัยและการติดตาม ส่งข้อความกับตำแหน่งปัจจุบันของผู้ใช้ได้อย่างง่ายดาย ด้วยรายชื่อติดต่อที่เลือกไว้ล่วงหน้า และกำหนดรายชื่อติดต่อฉุกเฉินเพื่อให้นาฬิกาของคุณสามารถขอความช่วยเหลือได้ทันทีในกรณีฉุกเฉิน

*เมื่อจับคู่กับสมาร์ทโฟนที่รองรับ ดูข้อกำหนดและข้อจำกัดของคุณลักษณะด้านความปลอดภัยและการติดตาม

กิจกรรมกีฬาที่เพิ่มขึ้น
• เพิ่มกิจกรรมกีฬาใหม่ ๆ เข้ามา ทั้งการขี่ม้า เทนนิส กระโดดเชือก (ในรุ่นที่กำหนด)
* ฟีเจอร์กระโดดเชือกสามารถดาวน์โหลดได้ผ่าน Connect IQ

• เพิ่มการรองรับ Green Contours ในกีฬากอล์ฟ โดยจับคู่กับแอป Garmin Golf เพื่อดูทิศทางและระดับความชันของสนามกอล์ฟจากนาฬิกาของคุณ

• พัฒนาการตรวจจับกิจกรรมการวิ่ง/เดิน/ยืนให้ดียิ่งขึ้น ผ่านอัลกอริทึมเวอร์ชั่นใหม่เพื่อตรวจจับการหยุดระหว่าง การทำกิจกรรมต่าง ๆ และเพิ่มการตรวจจับการวิ่ง/เดิน/ยืน ในหน้าสรุปกิจกรรมสำหรับการเล่นกีฬา

• อัปเดต Up Ahead ให้รองรับไฟล์ GPX (สำหรับสมาร์ทวอทช์เอาท์ดอร์รุ่นล่าสุด)

การปรับปรุงอินเทอร์เฟซผู้ใช้
• คีย์บอร์ดการตั้งค่าแบบเรียลไทม์บนแอป Garmin Connect เพิ่มฟีเจอร์เพื่อปรับปรุงการตั้งค่าในแอป Garmin Connect บนมือถือ (สำหรับสมาร์ทวอทช์เอาท์ดอร์รุ่นล่าสุด)

• เพิ่มตัวชี้วัดในข้อมูลหลังทำกิจกรรม – เพิ่มตัวชี้วัดหลังการทำกิจกรรม ได้แก่ การปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อม อัตราการก้าว ความเร็วโดยละเอียด การปีนผา ความแข็งแกร่ง และการปีนหน้าผาจำลอง

Adblock test (Why?)


Garmin อัปเกรด “ซอฟต์แวร์ตัวใหม่ล่าสุด” ยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้งาน - AV Tech Guide
Read More

Garmin อัปเกรด “ซอฟต์แวร์ตัวใหม่ล่าสุด” ยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้งาน - AV Tech Guide

กรุงเทพฯ (29 ก.ค. 65) – Garmin อัปเกรดซอฟต์แวร์ใหม่ล่าสุดสำหรับสมาร์ทวอทช์การ์มิน ครอบคลุมตั้งแต่การเพิ่มขีดความสามารถของการติดตามสุขภาพกับการแสดงผลข้อมูลที่ละเอียดขึ้น อาทิ เพิ่มเสตจของการนอน และการแสดงผลในรูปแบบกราฟ ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย และการเพิ่มโปรไฟล์กิจกรรมที่หลากหลายครอบคลุมไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น

รวมถึงยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้งาน (UX) ให้สามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ข้อมูลด้านสุขภาพของการ์มินควบรวมการเก็บข้อมูลจากระบบ Firstbeat Analytics บนสมาร์ทวอทช์ เข้ากับการวิเคราะห์ขั้นสูง เพื่อติดตามสุขภาพ และขีดความสามารถของร่างกาย

โดยผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลสุขภาพต่าง ๆ จากบนข้อมือได้สะดวก ง่ายดาย ผ่านข้อมูลที่ครบครันเพียงปลายนิ้วสัมผัส และเก็บข้อมูลได้อย่างต่อเนื่อง ผู้ใช้จึงสามารถรับรู้แนวโน้มด้านสุขภาพของตัวเอง ปรับปรุงการฝึกซ้อม และที่สำคัญที่สุดคือ ยังทำให้เข้าใจร่างกายและสุขภาพได้ดียิ่งขึ้น

คุณสกาย เชน ผู้อำนวยการ การ์มิน ประเทศไทย กล่าวว่า “การ์มินมุ่งยกระดับขีดความสามารถของผลิตภัณฑ์ พร้อมตั้งใจพัฒนากระบวนการต่าง ๆ เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้อย่างสม่ำเสมอ ครั้งนี้เราได้รวบรวมข้อมูลความคิดเห็นเกี่ยวกับประสบการณ์การใช้งานของลูกค้า เพื่อหาแนวทางในการเพิ่มประสิทธิภาพของซอฟต์แวร์ เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ของเราได้แบบไม่ติดขัด

รวมถึงยืดระยะเวลาการใช้งานได้ยาวนานขึ้น เอื้อต่อการติดตามสุขภาพอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมงในทุก ๆ วัน รวมถึงการติดตามการนอนหลับ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าผู้ใช้จะเพลิดเพลินกับการใช้งานผลิตภัณฑ์ของเราในชีวิตประจำวันได้อย่างสูงสุด

พร้อมกันนี้การ์มินยังได้จัดโปรโมชั่นพิเศษกับสินค้าซีรีย์ยอดฮิตอย่าง FENIX 6 ที่ได้รับการอัพเกรดให้สามารถใช้ฟีเจอร์ ADVANCED STRENGTH TRAINING ในการดูภาพกราฟิกแสดงกลุ่มกล้ามเนื้อที่กำลังใช้งานเมื่อออกกำลังกายได้จากหน้าปัดสมาร์ทวอทช์ ภายใต้ชื่อโปรโมชั่น ดับเบิ้ล โบนัส (Double Bonus) คุ้มสองเด้ง ได้ทั้งสมาร์ทวอทช์พร้อมซอฟต์แวร์ใหม่ และส่วนลดสูงสุดถึง 20% สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเป็นเจ้าของได้แล้วตั้งแต่ 28 ก.ค. – 11 ส.ค. 2565 นี้เท่านั้น ผ่านช่องทาง https://bit.ly/3za2XVc

Garmin software update

โดยการอัปเกรดซอฟต์แวร์ล่าสุด มีดังนี้

การติดตามด้านสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น
• การติดตามการนอนหลับ – พัฒนาการตรวจจับการนอนหลับผ่านอุปกรณ์และเพิ่มเสตจการนอนแบบกระสับกระส่าย (restlessness) ทั้งยังเพิ่มกราฟให้สามารถเข้าใจข้อมูลได้ง่ายขึ้น

• อัปเดตวิดเจ็ต Intensity Minutes – ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบระดับ Intensity Minutes ได้ในแต่ละวัน

• การฝึกหายใจและวิดเจ็ต Respiration – เพิ่มรูปแบบการฝึกหายใจ และช่องแสดงข้อมูลอัตราการหายใจ

พร้อมปรับแต่งวิดเจ็ตอัตราการหายใจที่ในสมาร์ทวอทช์ซีรีย์ INSTINCT 2
• อัปเดตอัลกอริทึม Body Battery – ปรับปรุงอัลกอริทึมในสมาร์ทวอทช์ซีรีย์ INSTINCT 2

• การแสดงผล Fitness Age – เพิ่มฟีเจอร์การวัดอายุสุขภาพ (fitness age) ในการตั้งค่าโปรไฟล์ผู้ใช้งาน

การปรับปรุงฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย
• อัปเดตการตรวจจับเหตุการณ์ฉุกเฉินในกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเดิน การปีนเขา และการใช้งานทั่วไป (ในรุ่นที่กำหนด)

• อัปเดตประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ด้านความปลอดภัยและการติดตาม ส่งข้อความกับตำแหน่งปัจจุบันของผู้ใช้ได้อย่างง่ายดาย ด้วยรายชื่อติดต่อที่เลือกไว้ล่วงหน้า และกำหนดรายชื่อติดต่อฉุกเฉินเพื่อให้นาฬิกาของคุณสามารถขอความช่วยเหลือได้ทันทีในกรณีฉุกเฉิน

*เมื่อจับคู่กับสมาร์ทโฟนที่รองรับ ดูข้อกำหนดและข้อจำกัดของคุณลักษณะด้านความปลอดภัยและการติดตาม

กิจกรรมกีฬาที่เพิ่มขึ้น
• เพิ่มกิจกรรมกีฬาใหม่ ๆ เข้ามา ทั้งการขี่ม้า เทนนิส กระโดดเชือก (ในรุ่นที่กำหนด)
* ฟีเจอร์กระโดดเชือกสามารถดาวน์โหลดได้ผ่าน Connect IQ

• เพิ่มการรองรับ Green Contours ในกีฬากอล์ฟ โดยจับคู่กับแอป Garmin Golf เพื่อดูทิศทางและระดับความชันของสนามกอล์ฟจากนาฬิกาของคุณ

• พัฒนาการตรวจจับกิจกรรมการวิ่ง/เดิน/ยืนให้ดียิ่งขึ้น ผ่านอัลกอริทึมเวอร์ชั่นใหม่เพื่อตรวจจับการหยุดระหว่าง การทำกิจกรรมต่าง ๆ และเพิ่มการตรวจจับการวิ่ง/เดิน/ยืน ในหน้าสรุปกิจกรรมสำหรับการเล่นกีฬา

• อัปเดต Up Ahead ให้รองรับไฟล์ GPX (สำหรับสมาร์ทวอทช์เอาท์ดอร์รุ่นล่าสุด)

การปรับปรุงอินเทอร์เฟซผู้ใช้
• คีย์บอร์ดการตั้งค่าแบบเรียลไทม์บนแอป Garmin Connect เพิ่มฟีเจอร์เพื่อปรับปรุงการตั้งค่าในแอป Garmin Connect บนมือถือ (สำหรับสมาร์ทวอทช์เอาท์ดอร์รุ่นล่าสุด)

• เพิ่มตัวชี้วัดในข้อมูลหลังทำกิจกรรม – เพิ่มตัวชี้วัดหลังการทำกิจกรรม ได้แก่ การปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อม อัตราการก้าว ความเร็วโดยละเอียด การปีนผา ความแข็งแกร่ง และการปีนหน้าผาจำลอง

Adblock test (Why?)


Garmin อัปเกรด “ซอฟต์แวร์ตัวใหม่ล่าสุด” ยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้งาน - AV Tech Guide
Read More

Thursday, July 28, 2022

Samsung Galaxy A13 5G Archives - AV Tech Guide

ซัมซุงเปิดตัว Galaxy A13 5G รุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับ 5G ที่เร็วแรง สเปคคุ้มทุกการใช้งาน กล้องจัดเต็ม ที่ให้มาครบทุกเลนส์ ถ่ายสวยทุกมุม พร้อมด้วยหน้าจอ 6.5 นิ้ว สีสด คมชัด ทัชได้อย่างไหลลื่น ด้วยความละเอียด HD+ รีเฟรชเรท 90Hz ถือว่าเป็นมือถือ 5G ที่ราคาดีที่สุดในเวลานี้ !

อ่านต่อ

Adblock test (Why?)


Samsung Galaxy A13 5G Archives - AV Tech Guide
Read More

หัวเว่ยจัดงาน HUAWEI APAC Smart Office Launch 2022 เผยไลน์อัปเด่น "แล็ปท็อป-แท็บเล็ต-หูฟังไร้สาย" - Whatphone.net

เปิดตัว Sherlock Holmes The Awakened - GamingDose

© 2022 GamingDose All Rights Reserved

Adblock test (Why?)


เปิดตัว Sherlock Holmes The Awakened - GamingDose
Read More

อดีตทีมงาน CD Projekt Red ก่อตั้งสตูดิโอแห่งใหม่ ซึ่งกำลังทำเกมที่มีฉากหลังเป็นญี่ปุ่นยุคศักดินา - GamingDose

เปิดตัว “Dark Passenger” สตูดิโอเกมแห่งใหม่ ก่อตั้งโดยเหล่าอดีตนักพัฒนาจาก CD Projekt Red ซึ่งกำลังทำเกมที่มีฉากหลังอยู่ในญี่ปุ่นยุคศักดินา เป็นเกมแรกของพวกเขา

ปัจจุบันทางสตูดิโอกำลังเปิดรับสมัครพนักงานใหม่หลากหลายตำแหน่ง เพื่อฟอร์มทีมให้แข็งแกร่งขึ้นโดยเร็ว ซึ่งในประกาศรับสมัครก็เปิดเผยถึงข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับเกมแรกของพวกเขาด้วย

สำหรับเกมดังกล่าว จะพัฒนาด้วย Unreal Engine 5 รองรับการเล่นทั้งแบบ Co-op, PVP และ PVE โดยมีเรื่องราวเกี่ยวข้องกับญี่ปุ่นที่ถูกศัตรูกลุ่มหนึ่งเข้ามารุกรานและโค่นล้มบัลลังก์โชกุน จากนั้นก็ขึ้นเถลิงอำนาจปกครองดินแดนแห่งนี้แทน

หากอ้างอิงจากเว็บไซต์ของสตูดิโอ ตัวเกมก็จะให้รับบทเป็นนินจาที่ต้องเผชิญหน้ากับกลุ่มผู้รุกรานดังกล่าว โดยผู้เล่นสามารถปีนป่ายไปตามอาคาร, วิ่งบนหลังคา หรือลอบเร้นไปตามวัดและวิหารต่าง ๆ ได้, มีอาวุธให้เลือกใช้หลากหลาย ทั้งดาบคาตานะ, ทันโตะ, ชูริเคน นอกจากนี้ก็มีระบบสร้างโรงฝึกของตัวเอง เพื่อชวนผู้เล่นคนอื่นมาฝึกฝนไปด้วยกัน

ทางทีมงาน Dark Passenger ใช้เวลาเตรียมตัวกับเกมนี้มาแล้ว 2 ปี และคาดว่าอาจต้องรอกันอีกสักพักกว่าเราจะได้เห็นโฉมแรกอย่างเป็นทางการ โดยสำหรับเกมดังกล่าวก็มีแผนจะลงให้ทั้งบน PC (Steam, Epic Games Store), PlayStation 5 และ Xbox Series X|S

Adblock test (Why?)


อดีตทีมงาน CD Projekt Red ก่อตั้งสตูดิโอแห่งใหม่ ซึ่งกำลังทำเกมที่มีฉากหลังเป็นญี่ปุ่นยุคศักดินา - GamingDose
Read More

อดีตทีมงาน CD Projekt Red ก่อตั้งสตูดิโอแห่งใหม่ ซึ่งกำลังทำเกมที่มีฉากหลังเป็นญี่ปุ่นยุคศักดินา - GamingDose

เปิดตัว “Dark Passenger” สตูดิโอเกมแห่งใหม่ ก่อตั้งโดยเหล่าอดีตนักพัฒนาจาก CD Projekt Red ซึ่งกำลังทำเกมที่มีฉากหลังอยู่ในญี่ปุ่นยุคศักดินา เป็นเกมแรกของพวกเขา

ปัจจุบันทางสตูดิโอกำลังเปิดรับสมัครพนักงานใหม่หลากหลายตำแหน่ง เพื่อฟอร์มทีมให้แข็งแกร่งขึ้นโดยเร็ว ซึ่งในประกาศรับสมัครก็เปิดเผยถึงข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับเกมแรกของพวกเขาด้วย

สำหรับเกมดังกล่าว จะพัฒนาด้วย Unreal Engine 5 รองรับการเล่นทั้งแบบ Co-op, PVP และ PVE โดยมีเรื่องราวเกี่ยวข้องกับญี่ปุ่นที่ถูกศัตรูกลุ่มหนึ่งเข้ามารุกรานและโค่นล้มบัลลังก์โชกุน จากนั้นก็ขึ้นเถลิงอำนาจปกครองดินแดนแห่งนี้แทน

หากอ้างอิงจากเว็บไซต์ของสตูดิโอ ตัวเกมก็จะให้รับบทเป็นนินจาที่ต้องเผชิญหน้ากับกลุ่มผู้รุกรานดังกล่าว โดยผู้เล่นสามารถปีนป่ายไปตามอาคาร, วิ่งบนหลังคา หรือลอบเร้นไปตามวัดและวิหารต่าง ๆ ได้, มีอาวุธให้เลือกใช้หลากหลาย ทั้งดาบคาตานะ, ทันโตะ, ชูริเคน นอกจากนี้ก็มีระบบสร้างโรงฝึกของตัวเอง เพื่อชวนผู้เล่นคนอื่นมาฝึกฝนไปด้วยกัน

ทางทีมงาน Dark Passenger ใช้เวลาเตรียมตัวกับเกมนี้มาแล้ว 2 ปี และคาดว่าอาจต้องรอกันอีกสักพักกว่าเราจะได้เห็นโฉมแรกอย่างเป็นทางการ โดยสำหรับเกมดังกล่าวก็มีแผนจะลงให้ทั้งบน PC (Steam, Epic Games Store), PlayStation 5 และ Xbox Series X|S

Adblock test (Why?)


อดีตทีมงาน CD Projekt Red ก่อตั้งสตูดิโอแห่งใหม่ ซึ่งกำลังทำเกมที่มีฉากหลังเป็นญี่ปุ่นยุคศักดินา - GamingDose
Read More

Apex Legends: Teaser ใหม่ของ Apex Legends ได้แสดงให้เห็นแอปพลิเคชั่น Apex Games ของ Vantage - 4Gamers Thailand

แนะนำ 3 สมาร์ตโฟน Nokia ราคาคุ้มค่า น่าใช้ - iPhoneMod

ในยุคที่เศรษฐกิจฝืดเคือง ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ทั้งสินค้าอุปโภคบริโภค หรือราคาน้ำมันต่างขึ้นราคาสูง ใครที่กำลังต้องการหาซื้อสมาร์ตโฟนราคาเป็นมิตร สเปกดี ทนทาน วันนี้เราขอแนะนำ 3 สมาร์ตโฟน Nokia ราคาคุ้มค่า น่าใช้ มาเป็นตัวเลือกให้พิจารณากัน2

แนะนำ สมาร์ตโฟน Nokia 3 รุ่น ราคาคุ้มค่า น่าใช้

ปรากฏการณ์เงินเฟ้อในประเทศพุ่งแตะ 7.1% เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 13 ปีนับจากปี 2551 โดยเฉพาะค่าเชื้อเพลิง กระทบราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นรายวัน รวมไปถึงเหล่าสินค้าเครื่องอุปโภคและบริโภคที่จำเป็นทยอยปรับขึ้นราคาไม่หยุดหย่อน

เราจึงต้องเพิ่มความระมัดระวังในการใช้จ่าย สวนทางกับโลกที่กำลังหมุนไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วด้วยเทคโนโลยี เช่นสมาร์ตโฟนนั้นเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญ สำหรับการใช้ชีวิตของคนในสังคม

ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การเรียน ความบันเทิง คลังความรู้ กระเป๋าเงินออนไลน์ ส่งผลให้หลายคนมองหาสมาร์ตโฟนราคาที่เป็นมิตรกับกระเป๋า แต่ยังได้สเปกดีทนทานมาใช้งานในยุคเศรษฐกิจฝืดเคือง

จุดเด่นของแบรนด์ Nokia คือ เป็นแบรนด์สมาร์ตโฟนที่มีวัสดุคุณภาพดี อึดถึกทน ดีไซน์ทันสมัย สเปกเกินราคา ใช้งานได้ยาวนาน และที่สำคัญคือการเปรียบเทียบราคาที่คุ้มค่า เหมาะสมในการใช้งาน

Nokia G21

  • แอนดรอยด์ 11 (พร้อมอัพเกรดแอนดรอยด์ 12)
  • หน่วยความจําและที่เก็บข้อมูล RAM/ROM: 4/64GB และ 6/128 GB
  • หน้าจอ 6.5″
  • ความละเอียด HD+
  • Refresh rate 90Hz
  • เลนส์หลัก: AF 50 ล้านพิกเซล
  • เลนส์มาโคร 2 ล้านพิกเซล
  • เลนส์ความลึก 2 ล้านพิกเซล
  • กล้องหน้า: 8 ล้านพิกเซล
  • แบตเตอรี่: 5050 mAh
  • ขนาดตัวเครื่อง: 164.6 x 75.9 x 8.5 มม.
  • น้ำหนัก 190 กรัม
  • ช่องใส่ซิม: นาโนซิม + นาโนซิม + สล็อตไฮบริด MicroSD (3 in 3)
  • ปลดล็อคใบหน้า: ไบโอเมตริกซ์ | Google Key | เสียง OZO (capture)

สมาร์ตโฟนดีไซน์สวยฟังก์ชันการใช้งานครบ ราคาเริ่มเพียง 5,490 บาท โดดเด่นด้วยฟังก์ชันสแกนใบหน้าขณะใส่แมสก์ กล้อง 3 ตัวความละเอียดสูง 50 ล้านพิกเซล หน้าจอขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว

ใช้งานได้อึดทนยาวนานต่อเนื่อง 3 วัน แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5050mAh เสริมด้วย Super Battery Saver โหมดประหยัดพลังงานใหม่เพื่อให้ใช้งานได้นานขึ้น ที่มีเฉพาะโทรศัพท์ในมือถือ Nokia เท่านั้น พร้อมรองรับระบบชาร์จไวสูงสุด 18มีให้เลือก รุ่น กับรุ่น 4+64GB และ 6+128GB

Nokia C21

  • ขนาดตัวเครื่อง: 169.9 x 77.9 X 8.8 มม.
  • น้ำหนัก 195 กรัม
  • หน้าจอ 6.5″
  • กล้องหลัก: AF 8 ล้านพิกเซล
  • กล้องหน้า: 5 ล้านพิกเซล
  • แอนดรอยด์ 11 (Go edition)
  • ซีพียู: SC9863a Octa-core สูงสุด 1.6Ghz
  • หน่วยความจําและที่เก็บข้อมูล: RAM: 2 GB ROM: 32 GB
  • ช่องเสียบการ์ด MicroSD รองรับความจุสูงสุด 256GB
  • แบตเตอรี่: 3000 mAh (ถอดเปลี่ยนได้)
  • เซ็นเซอร์ลายนิ้วมือ | ปลดล็อคด้วยใบหน้า อัปเดตความปลอดภัย 2 ปี
  • ราคาเริ่มต้น 2,990 บาท

สำหรับคนที่มีงบประมาณไม่เกิน 3,000 บาท ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ มีเทคโนโลยี Auto Focus ช่วยจับภาพที่ละเอียดและคมชัดมากขึ้น พร้อมโหมดพาโนรามาเพื่อถ่ายภาพวิว หน้าจอแสดงขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว มีความพรีเมียมด้านดีไซน์ กรอบโลหะโพลีคาร์บอเนต เสริมความหรูหราด้วยกระจกหุ้มที่เน้นความแข็งมากขึ้น

Nokia C2 2nd edition

  • ขนาดตัวเครื่อง: 153.95 x 75.9 x 9.55 มม. น้ำหนัก 180 กรัม
  • ชิปเซ็ตประมวลผล: Quad Core 1.5GHz
  • หน่วยความจำ: RAM ขนาด 2GB
  • หน่วยความจำภายในความจุ: ROM 32GB
  • หน่วยความจำภายนอก MicroSD
  • การเชื่อมต่อ: 4G, WiFi 802.11 N, Bluetooth 5.1, GPS, A-GPS
  • กล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล + LED Flash
  • กล้องหลัง 5 ล้านพิกเซล + LED Flash
  • ระบบปลดล็อค Face Recognition
  • แบตเตอรี่ความจุ: 2400mAh
  • ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 11 (Go Edition)

ราคาประหยัดสุดๆ เหมาะกับผู้ที่ชอบการใช้งานบนสมาร์ทโฟนจอใหญ่ ความคมชัดขนาด 5.7 นิ้ว กล้องหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล กล้องหลังมาพร้อมความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ชิปประมวลผล MediaTek Quad Core 1.5GHz หน่วยความจำ RAM 2 GB / ROM 32 GB ใช้งานเพียงพอสำหรับการรันบน Android Go แบตเตอรี่ 2400mAh ราคาเพียง 2,490 บาท

Adblock test (Why?)


แนะนำ 3 สมาร์ตโฟน Nokia ราคาคุ้มค่า น่าใช้ - iPhoneMod
Read More

Wednesday, July 27, 2022

ฉลอง 50 ปี BMW M สุดยิ่งใหญ่ ในงาน Goodwood Festival Of Speed กับ 5 สุดยอดรถ BMW M ที่ถูกจารึกในหน้าประวัติศาสตร์ - ผู้จัดการออนไลน์



ที่งานเทศกาลแห่งความเร็ว "Goodwood Festival Of Speed" จะมีธรรมเนียมปฏิบัติอยู่อย่างหนึ่ง นั่นคือการจัดแสดงงานประติมากรรมโดยศิลปินชื่อดังชาวอังกฤษ เจอร์รี่ ยูดาห์ (Gerry Judah) ณ บริเวณลาน Central Feature และในปี 2022 นี้ BMW M ได้รับเกียรติให้เป็นธีมหลัก ซึ่งถือเป็นการฉลอง 50 ปี BMW M ไปในตัว โดยรถแข่งที่ถูกนำมาจัดแสดงมีอยู่ด้วยกัน 5 รุ่น ได้แก่ BMW 3.0 CSL , BMW M1 Procar , BMW V12 LMR , BMW E90 320i และ BMW M Hybrid V8 ซึ่งสื่อถึง 5 ทศวรรษแห่งประวัติศาสตร์สำคัญของ BMW M


"Goodwood Festival Of Speed" เป็นเทศกาลแห่งความเร็วที่จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 1993 หรือเมื่อเกือบ 30 ปีมาแล้วที่ประเทศอังกฤษ เป็นงานที่คนรักความเร็วทุกคนตั้งตารอคอย เพราะนี่คืองานที่รวมสุดยอดยานยนต์ระดับโลกทุกรูปแบบเอาไว้ โดยเฉพาะรถแข่งและรถแรงจากอดีตถึงปัจจุบัน และก็ถือเป็นธรรมเนียม ที่จะต้องมีการจัดแสดงประติมากรรมขนาดใหญ่บริเวณลาน Central Feature


แม้ว่าธีมแต่ละปีจะสลับสับเปลี่ยนกันไป แต่คอนเซ็ปต์หลักคือ การฉลองความเป็นเลิศทางเทคโนโลยีของผู้ผลิตรถยนต์ในรูปแบบของศิลปะ ผ่านการออกแบบของ เจอร์รี่ ยูดาห์ (Gerry Judah) ศิลปินชาวอังกฤษชื่อดัง ที่รับหน้าที่ประติมากรประจำ ที่ทำให้คน "ว้าว" ได้ทุกปีมาตั้งแต่ปี 1997


ปีนี้เป็นคิวของ BMW ซึ่งกำลังฉลอง 50 ปี BMW M อยู่พอดี เจอร์รี่จึงเลือกรถแข่ง BMW M ระดับตำนานจำนวน 5 คัน มาเป็นส่วนหนึ่งของงานประติมากรรมอันน่าทึ่ง ได้แก่

1. BMW 3.0 CSL


BMW 3.0 CSL เป็นรถคันแรกที่ถูกผลิตขึ้นภายใต้โครงการ BMW Motorsport โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการแข่งขันโดยเฉพาะ เข้าร่วมแข่ง European Touring Car Championship (ETCC) เป็นครั้งแรกในปี 1972 และสามารถคว้าแชมป์มาได้ 6 รายการตลอดช่วงทศวรรษ 1970

BMW 3.0 CSL เป็นรถสปรอ์ตคูเป้น้ำหนักเบา มีการใช้เหล็กบางมาทำเป็นบอดี้ เพื่อลดน้ำหนักให้มากที่สุด เพื่อประโยชน์ด้านการแข่งขัน ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบ 3.2 ลิตร 750 แรงม้า และผลิตขึ้นเพียง 1,265 คันเท่านั้น

2. BMW M1 Procar


BMW M1 Procar เป็นรถรุ่นแรกที่ใช้สัญลักษณ์ M ติดบนฝากระโปรง เปิดตัวครั้งแรกในปี 1978 ใช้เครื่องยนต์หัวฉีด 6 สูบ 24 วาล์ว 3.5 ลิตร 273 แรงม้า ถูกส่งเข้าร่วมการแข่งขันวันเมคเรซรายการ BMW M1 Procar Championship ในช่วงปี 1979 - 1980

3. BMW V12 LMR


นี่คือแชมป์ Le Mans ปี 1999 เป็นความสำเร็จสุดยิ่งใหญ่ของ BMW Motorsport และพันธมิตรอย่าง Schnitzer เครื่องยนต์ที่ใช้เป็นเครื่อง V12 รหัส S70 ซึ่งเป็นบล็อกที่ถูกใช้ในรถ McLaren F1 GTR แชมป์ Le Mans ปี 1995 ด้วย เครื่องยนต์ BMW S70 เป็นเครื่องยนต์ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่ายอดเยี่ยมที่สุดแห่งยุค ทั้งแรง ทั้งแกร่ง แถมยังยืดหยุ่น ใช้บนถนนก็ได้ จะใช้แข่งก็ดี เอาชนะคู่แข่งตัวฉกาจอย่าง Mercedes-Benz และ Toyota ไปได้สบาย ๆ

4. BMW 320i E90


จริง ๆ แล้ว จะบอกว่า BMW M มีต้นกำเนิดจากการแข่งทัวริ่งคาร์ก็ว่าได้ BMW 3.0 CSL เป็นแชมป์ ETCC 6 สมัย ขณะที่ BMW M3 E30 คว้าแชมป์ DTM และ TCC อีกหลายสมัยในยุคของตน ดีกรีแชมป์ตกทอดมาสู่ BMW 320i E90 ที่คว้าแชมป์ World Touring Car Championship (WTCC) มาได้อีก 2 สมัยในปี 2006 และ 2007

5. BMW M Hybrid V8


ตัวแข่ง Endurance รุ่นล่าสุด ยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ดังนั้นชื่อ BMW M Hybrid V8 จึงยังเป็นเพียงชื่อชั่วคราว แต่ที่แน่ ๆ คือ นี่คือที่สุดของ BMW Motorsport หลังจากที่ LMR ทำไว้ในปี 1999 มีกำหนดลงแข่งครั้งแรกในรายการ Daytona 24 Hours และ IMSA series ในปีหน้า


ยังมีเรื่องราวดี ๆ อีกมากมายเกี่ยวกับ BMW ติดตามได้ที่เว็บไซต์ BMW Thailand , Facebook : BMW Thailand และ Youtube : BMW Thailand

#BMW #BMWTH #50JahreBMWM #BMWM #BMWMMotorsport #BMWM4GT4 #FOS #Goodwood #GoodwoodEngland #DrivewithJOY #JOYisBMW #สุนทรียภาพแห่งการขับขี่

Adblock test (Why?)


ฉลอง 50 ปี BMW M สุดยิ่งใหญ่ ในงาน Goodwood Festival Of Speed กับ 5 สุดยอดรถ BMW M ที่ถูกจารึกในหน้าประวัติศาสตร์ - ผู้จัดการออนไลน์
Read More

รีวิว Death Stranding Director's Cut เล่นบน iPad Pro M2 - iPhoneMod

ในที่สุดสาวก Apple อย่างเราก็ได้เล่นเกม Death Stranding เวอร์ชัน Director’s Cut บนอุปกรณ์ Apple กันแล้ว ใครอยากลองเล่นเข้าไปซื้อเกมใน App S...