สำหรับราคา iPhone 13 นั้นเป็นสิ่งที่หลายคนอยากทราบกันมากที่สุดเลยก็ว่าได้ ก็มีการคาดการณ์ว่าจะไม่ต่างไปจาก iPhone 12 โดยมีให้เลือก 4 รุ่นเหมือนเดิม และรองรับ 5G ทุกรุ่น
ราคา iPhone 12 mini ในไทย
- iPhone 12 mini ความจุ 64GB ราคา 25,900 บาท
- iPhone 12 mini ความจุ 128GB ราคา 27,900 บาท
- iPhone 12 mini ความจุ 256GB ราคา 31,900 บาท
ราคา iPhone 12 ในไทย
- iPhone 12 ความจุ 64GB ราคา 29,900 บาท
- iPhone 12 ความจุ 128GB ราคา 31,900 บาท
- iPhone 12 ความจุ 256GB ราคา 35,900 บาท
ราคา iPhone 12 Pro ในไทย
- iPhone 12 Pro ความจุ 128GB ราคา 36,900 บาท
- iPhone 12 Pro ความจุ 256GB ราคา 40,900 บาท
- iPhone 12 Pro ความจุ 512GB ราคา 48,900 บาท
ราคา iPhone 12 Pro Max ในไทย
- iPhone 12 Pro Max ความจุ 128GB ราคา 39,900 บาท
- iPhone 12 Pro Max ความจุ 256GB ราคา 43,900 บาท
- iPhone 12 Pro Max ความจุ 512GB ราคา 51,900 บาท
หากราคา iPhone 13 นั้นเท่าเดิมหรือใกล้เคียงกับ iPhone 12 ที่เปิดตัวไปแล้วนั้น ก็จะมีราคาดังนี้
- คาดการณ์ราคา iPhone 13 mini เริ่มต้นราว 25,900 บาท
- คาดการณ์ราคา iPhone 13 เริ่มต้นราว 29,900 บาท
- คาดการณ์ราคา iPhone 13 Pro เริ่มต้นราว 36,900 บาท
- คาดการณ์ราคา iPhone 13 Pro Max เริ่มต้นราว 39,900 บาท
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีใครสามารถยืนยันข้อมูล iPhone รุ่นใหม่ในปีนี้ได้ถูกต้อง โดยยังถือว่าเป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น จนกว่าจะมีการประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการจาก Apple
ไปดูกันว่ามีเหตุอะไรบ้างที่เราควรรอ iPhone 13 รุ่นใหม่
1. หน้าจอแสดงผลที่ดีขึ้น
แม้ว่าในตอนนี้ iPhone 12 Series จะมาพร้อมเทคโนโลยีการแสดงผลที่ดีเยี่ยมจากการให้คะแนนของบริษัทชั้นนำ แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะยังไม่มีการนำเทคโนโลยี ProMotion มาใช้งานตามที่ลือกันว่าจะรองรับอัตรารีเฟรช 120Hz และมีความเป็นไปได้ว่า iPhone 13 Series จะเป็นรุ่นแรกที่มีฟีเจอร์นี้
2. กล้องที่ดีกว่า
Apple ได้อัปเกรดกล้องครั้งใหญ่เลยกว่าได้ในปี 2020 แต่เราก็ยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญอย่างการพัฒนาด้านฮาร์ดแวร์เกี่ยวกับเลนส์ Periscope ซึ่งล่าสุดพบว่าบริษัทมีการจดสิทธิบัตรในเรื่องนี้แล้ว ก็ต้องรอลุ้นกันว่าในปีนี้เราจะได้เห็นการอัปเกรดครั้งใหญ่เท่าที่เคยมีมาหรือไม่ หรืออย่างน้อยๆ ก็น่าจะมีการเพิ่มขนาดความละเอียดกล้องที่เพิ่มจากเดิม 12 ล้านพิกเซล
3. รอยบากเล็กลง
ตามรายงานอ้างข้อมูลจากบล็อกชื่อดังในญี่ปุ่น MacOtakara แหล่งข่าวที่เคยออกมาให้ข้อมูลหลุดเกี่ยวกับ iPhone ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการมาแล้วหลายรุ่น โดยในปีนี้ iPhone 13 จะยังคงมีดีไซน์ตัวเครื่องเหมือนเดิม หนาขึ้นเล็กน้อยประมาณ 0.26 มม. และจะลดขนาดรอยบากเนื่องจากมีการเปลี่ยนตำแหน่งของตัวรับสัญญาณด้านบน
4. รอ 5G ครอบคลุม
หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ผู้ใช้งาน iPhone รุ่นก่อนหน้า เลือกอัปเกรดมาใช้งาน iPhone 12 Series ก็เพราะรองรับเครือข่าย 5G แต่ก็ต้องยอมรับว่าแต่ละประเทศนั้นยังไม่เปิดใช้งานครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ และปลายปีนี้เมื่อ iPhone 13 Series เปิดตัว ผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือก็น่าจะขยายพื้นที่ครอบคลุมมากขึ้นแล้ว อีกทั้งจากข้อตกลง Apple และ Qualcomm มีแผนจะใช้โมเด็ม Snapdragon X60 ในผลิตภัณฑ์ใหม่ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน 2021 ถึง 31 พฤษภาคม 2022 ซึ่งชี้ให้เห็นถึงการเปิดตัวควบคู่ไปกับ iPhone 13 Series นั่นเอง
5. รอ Wi-Fi 6E
นักวิเคราะห์ได้ออกมาให้ข้อมูลว่า iPhone 13 Series จะรองรับมาตรฐาน Wi-Fi 6E ซึ่งคล้ายกับ Wi-Fi 6 แต่มาตรฐานใหม่นั้นจะขยายไปในย่านความถี่ 6GHz อีกทั้งคู่แข่งอย่าง Galaxy S21 Ultra เรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดของ Samsung ก็รองรับ Wi-Fi 6E ดังนั้นจึงเป็นเหตุสมผลที่น่าจะทำให้ Apple อัปเกรด iPhone ปี 2021
6. รอ Touch ID
Blaine Curtis นักวิเคราะห์จาก Barclays ได้ออกมาให้ข้อมูลน่าสนใจเกี่ยวกับ Touch ID ใน iPhone รุ่นใหม่ โดยเป็นการฝังเซ็นเซอร์อ่านลายนิ้วมือไว้ใต้กระจกหน้าจอและอาจเป็นครั้งแรกที่ตัวอ่านลายนิ้วมือจะเป็นแบบเต็มหน้าจอ แตะสแกนลายนิ้วมือบริเวณใดก็ได้บนหน้าจอ ซึ่งก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในขณะที่ Ming-Chi Kuo ที่เชื่อว่า Apple กำลังพัฒนา iPhone 13 รุ่นที่มี Touch ID ฝังอยู่ในปุ่มเปิดปิดซึ่งคล้ายกับปุ่มเปิดปิดบน iPad Air รุ่นล่าสุด
7. ประสิทธิภาพดีขึ้น
ในเรื่องของประสิทธิภาพอาจไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดและอาจเห็นผลที่ไม่ชัดเจนมากนักเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าสำหรับ iPhone แต่ตามรายงานจาก TrendForce บริษัทวิจัยในไต้หวันเปิดเผยว่า Apple กำลังวางแผนที่จะใช้ชิปเซ็ตที่มีการบวนการผลิต 5nm+ รุ่นต่อไปของ TSMC มาใช้งาน iPhone 13 ซึ่งตามข่าวลือคาดว่าเป็นชิป A15
8. ไม่อยากใช้สายชาร์จ
หากใครที่ชอบการชาร์จไร้สายและไม่อยากใช้สายชาร์จก็อาจต้องรอ iPhone 13 เพราะมีข่าวลือว่า iPhone ที่ไม่มีพอร์ตจะเปิดตัวในปี 2021 แต่ก็ยังไม่ชัดเจนว่ารุ่นใดจะใช้พอร์ตน้อยลงและ iPhone 13 รุ่นใดจะยังคงใช้มาตรฐานพอร์ต Lightning
9. พื้นที่จัดเก็บที่มากขึ้น
สำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการพื้นที่จัดเก็บมากกว่า 512GB ที่มีให้เลือกในปัจจุบัน ก็อาจจะต้องรอรุ่นถัดไป หลังจากแหล่งข่าวชื่อดัง Jon Prosser ได้ทวีตข้อมูลว่า Apple จะเพิ่มความจุภายในเครื่องสูงสุด 1TB ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด
10. รอข้อมูลที่ชัดเจนอีกสักหน่อย
ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปหรือยืนยันเกี่ยวกับฟีเจอร์ใหม่ของ iPhone 13 แต่อดใจรอกันอีกสักพัก เมื่อเข้าใกล้ช่วงวันเปิดตัวตอนปลายปีนี้ ก็น่าจะมีข้อมูลหลุดออกมาที่ชัดเจนมากขึ้นเหมือนเช่นในทุกปีที่ผ่านมา
กำหนดการเปิดตัว iPhone 13 หรือ iPhone 12S คาดว่าจะมีขึ้นในช่วงเดือนกันยายนหรือตุลาคมปีนี้ หากมีความคืบหน้าทางทีมงานจะมาอัปเดทให้ทราบต่อไปครับ
Up Next Apple เตรียมสั่งชิพขนาด 4 นาโนมเตร ใช้ใน Mac รุ่นใหม่ - iphone-droid.net
Read More
No comments:
Post a Comment