แม้ว่า "เด็กไทย" จะเริ่มเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่อนุบาล แต่ส่วนใหญ่ก็ยังไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว เนื่องจากเด็กส่วนใหญ่ แทบไม่มีโอกาสพูดหรือใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน หรือสนทนากับเจ้าของภาษา ที่สำคัญคือ รูปแบบการเรียนการสอน ที่เน้นให้เด็กเรียนไวยากรณ์ ฝึกเขียน อ่าน ทำให้ทักษะการพูดและฟัง ไม่ดีนัก
ข่าวแนะนำ
จากการจัดอันดับทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ ขององค์กรนานาชาติที่เชี่ยวชาญเรื่องการฝึกอบรมภาษา EF (Education First) ประจำปี 2563 จากการทดสอบผู้ใหญ่จำนวน 2.2 ล้าน ทั่วโลกใน 100 ประเทศและภูมิภาค พบว่า เนเธอร์แลนด์ ถูกจัดให้เป็นอันดับ 1 ที่มีความสามารถทางภาษาอังกฤษสูงที่สุด อับดับ 2. เดนมาร์ก 3. ฟินแลนด์ 4. สวีเดน 5. นอร์เวย์ ขณะที่ "ประเทศไทย" ถูกจัดอันดับอยู่ที่ 89 ถือเป็นกลุ่มประเทศที่มีความเชี่ยวชาญภาษาอังกฤษต่ำมาก สะท้อนปัญหาการใช้ภาษาอังกฤษของเด็กไทย
ดังนั้น ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนควรให้ความสนใจ และสนับสนุน เช่นเดียวกับ โรงเรียนหนองนาเวียง ต.น้ำเกลี้ยง อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ ที่ล่าสุด มีการโพสต์คลิป "น้องเปีย" และ "น้องแก้ว" นักเรียนหญิงชั้น ป.4 ของโรงเรียน สลับกันพูดภาษาอังกฤษ แนะนำตัวเองได้อย่างคล่องแคล่ว ไม่เขินอาย ที่สำคัญสำเนียงยังเป๊ะ จนคนในโลกโซเชียลถึงกับออกปากชม
ด.ญ.ชฏาภัทร อินธิเดช หรือ น้องเปีย เล่าว่า เริ่มเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึงปัจจุบัน สำหรับวิธีการฝึกฝนนั้น ได้จากคุณครูและฝึกฝนด้วยตนเองจากโปรแกรมไดเน็ด (DynEd) ซึ่งเป็นสื่อการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ ที่โรงเรียนนำมาใช้ นอกจากนี้ น้องเปีย ยังเล่าความใฝ่ฝันให้ฟังว่า โตขึ้นอยากเป็นอะไรครู เพราะจะได้สอนเด็กไปเรื่อยๆ
ขณะที่ ด.ญ.หฤทัย นะรากุล หรือ น้องแก้ว อายุ 10 ปี เล่าต่อว่า ที่ผ่านมาเคยสนทนากับชาวต่างชาติ บางครั้งครูจะพาไปนอกสถานที่ เช่น ไปพูดในมหาวิทยาลัย ทำให้มีโอกาสทักทายกับชาวต่างชาติ มีเขินบ้าง แต่ก็พอได้ หลังจากพูดโต้ตอบกันแล้วชาวต่างชาติเองก็ชื่นชม ตัวหนูเองชอบเรียนวิชาภาษาอังกฤษ ซึ่งคุณครูได้นำภาษาอังกฤษไปสอนรวมกับวิชาอื่นๆ ด้วย และในอนาคตอยากเป็นแอร์โฮสเตส เพราะจะได้ท่องเที่ยวไปด้วย และฝึกพูดภาษาอังกฤษมากขึ้น จะได้เก่งกว่านี้
ไม่เรียนพิเศษก็พูดภาษาอังกฤษได้
นางกัญญา อินธิเดช อายุ 40 ปี แม่ของน้องเปีย กล่าวว่า หลังจากลูกกลับมาจากโรงเรียน จะพยายามให้เขาฝึกพูด ถามคุณครูสอนให้พูดภาษาอังกฤษคำว่าอะไรบ้าง ให้ลูกพูดให้เราฟัง ซึ่งตนก็ไม่ค่อยรู้ภาษาอังกฤษมาก รู้แค่บางคำ และไม่ได้ให้ลูกเรียนพิเศษ ภูมิใจที่ลูกมีความสามารถ ขอบคุณครูที่โรงเรียนที่ช่วยสอนความรู้เพื่ออนาคตในวันข้างหน้าต้องใช้ภาษาอังกฤษในการทำงาน
ด้าน น.ส.นันทนิจ กันเทพา นางประมิล กันเทพา แม่และยายของ น้องแก้ว เปิดเผยว่า ตนเองจะสอนให้ลูกอ่านหนังสือบ่อยๆ เวลาอยู่บ้านจะฝึกพูดกับลูกเป็นภาษาอังกฤษ ไม่เคยให้ลูกเรียนพิเศษ เนื่องจากโรงเรียนช่วยสนับสนุน
โรงเรียนเล็กๆ แต่ไม่แพ้โรงเรียนนานาชาติ
นางสาวพยัตติกา ห้วยจันทร์ ผอ.โรงเรียนหนองนาเวียง เปิดเผยว่า เดิมทีโรงเรียนของเราไม่มีโอกาสได้เรียนภาษาอังกฤษอย่างจริงจัง กระทั่ง นายวิทยา วิรารัตน์ อดีตประธานหอการค้าจังหวัดศรีสะเกษ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดศรีสะเกษ ให้การสนับสนุนโปรแกรม DynEd ทำให้เด็กนักเรียนสามารถเรียนรู้ได้จากโปรมแกรม
หลังจากนั้นครูจะจัดกิจกรรมส่งเสริม ประกอบนโยบายของโรงเรียนจะเน้นให้ฟังพูดเป็นภาษาอังกฤษ เหมือนกับโรงเรียนนานาชาติ และนำภาษาอังกฤษไปบูรณาการกับวิชาอื่นๆ
ผอ.โรงเรียนหนองนาเวียง กล่าวอีกว่า เด็กนักเรียนที่นี่สามารถสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษขั้นพื้นฐานได้ทุกคน แต่หากสื่อสารในระดับที่สูงขึ้นมา ก็จะคิดเป็นร้อยละ 50 ของเด็กทั้งหมด เราเน้นตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลจนถึงชั้นประถามศึกษาปีที่ 6
ทำไม "เด็กไทย" มีปัญหาการใช้ภาษาอังกฤษ
ผอ.โรงเรียนหนองนาเวียง กล่าวว่า ปัญหาที่ทำให้เด็กไม่สามารถสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษคิดว่าเกิดจากหลักสูตร ซึ่งโปรแกรม DynEd ที่โรงเรียนนำมาใช้ เด็กจะเรียนรู้ภาษาอังกฤษโดยวิธีธรรมชาติ เริ่มจาก ฟัง พูด ก่อน จากนั้นจึงอ่าน เขียน เราจะเน้นที่โฟนิกส์ (Phonics) ให้เด็กออกเสียงชัดเจนตรงกับเจ้าของภาษามากที่สุด ทำให้เด็กฟังเจ้าของภาษารู้เรื่อง และเจ้าของภาษาฟังเด็กรู้เรื่อง
วิธีการแก้ให้เด็กพูดได้ชัด คือให้เด็กเข้าไปฟังบ่อยๆ พูดบ่อยๆ สิ่งที่สำคัฐมากคือการให้เด็กฝึกฝน แสดงออก ออกเสียง ใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าเด็กจะเรียนวิชาอะไร เช่น วิชาเกษตร ก็จะพยายามสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษทั้งโรงเรียน เร่ิมจากทักทายตั้งแต่เช้า Good morning สนับสนุนให้เด็กตอบเป็นธรรมชาติ.
ผู้เขียน : J. Mashare
กราฟิก : Theerapong Chaiyatep
"น้องเปีย-น้องแก้ว" ป.4 พูดอังกฤษ สำเนียงเป๊ะ โรงเรียนปฏิวัติหลักสูตร เริ่มจากฟัง พูด - ไทยรัฐ
Read More
No comments:
Post a Comment