Rechercher dans ce blog

Wednesday, May 26, 2021

รีวิวสาย Apple Watch แบบ Braided Solo Loop รุ่น Pride Edition มาพร้อมหน้าปัดใหม่ Pride พลิ้ว – Flashfly Dot Net - Flashfly

กลายเป็นธรรมเนียมของ Apple ไปแล้วก็ว่าได้ ที่ในช่วงเดือนพฤษภาคมของทุกปี จะมีส่วนร่วมกับกลุ่ม LGBTQ และในสัปดาห์ที่ผ่านมาก็มีการเปิดตัวสาย Apple Watch รุ่น Pride Edition ใหม่ ซึ่งมีให้เลือก 2 แบบ ได้แก่ สายแบบ  Braided Solo Loop  และ สาย  Nike Sport Loop  ทั้งคู่มาพร้อมสีสันจากลายธง Pride ที่เป็นสีรุ้ง โดยทีมงาน @flashfly เลือกสาย Apple Watch แบบ Braided Solo Loop รุ่น Pride Edition มารีวิวให้ชม

สาย Apple Watch รุ่น Pride Edition เป็นการแสดงให้เห็นว่า Apple มีความตั้งใจในการสนับสนุนกลุ่ม LGBTQ ซึ่งพนักงานบางส่วนของ Apple ก็เป็นสมาชิกในกลุ่มนี้ด้วยเช่นกัน ดังนั้น รายได้ส่วนหนึ่งจากสาย Apple Watch รุ่น Pride Edition จะถูกนำไปมอบให้กับกลุ่ม LGBTQ ต่างๆ เพื่อใช้ในการจัดทำกิจกรรมและเรียกร้องความเท่าเทียมขององค์กร 

บางส่วนขององค์กร LGBTQ ที่ Apple ให้การสนับสนุน ได้แก่ Encircle, Equality North Carolina, Gender Spectrum, GLSEN, Human Rights Campaign, PFLAG, National Center for Transgender Equality, SMYAL และ The Trevor Project ในสหรัฐอเมริกา รวมถึง ILGA World ในระดับสากล

ครั้งแรกกับสาย Pride แบบ Braided Solo Loop

สาย Apple Watch แบบ Braided Solo Loop รุ่น Pride Edition ได้รับการออกแบบและใช้วัสดุแบบเดียวกับสายแบบ  Braided Solo Loop ซึ่งเป็นสายแบบใหม่ที่เปิดตัวพร้อมกับ Apple Watch Series 6 เมื่อปลายปีที่ผ่านมา โดยสร้างความแตกต่างด้วยสีรุ้ง ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากธง Pride

สายแบบ Braided Solo Loop ผลิตจากโพลีเอสเตอร์ ซึ่งทำมาจากเส้นใยที่มีความยาวพิเศษกว่า 16,000 เส้น และผ่านกระบวนการรีไซเคิล 100% จากนั้นนำมาถักเข้ากับด้ายซิลิโคนเส้นบาง โดยใช้เครื่องถักที่ทันสมัย ก่อนจะนำมาตัดด้วยเลเซอร์ เพื่อให้ได้ความยาวตรงตามที่ต้องการ 

สายแบบ Braided Solo Loop ถูกผลิตออกมาให้สวมใส่กับข้อมือได้โดยไม่มีหัวล็อค มีผิวสัมผัสที่อ่อนนุ่ม กระชับพอดี สามารถยืดได้ จึงสวมใส่ได้อย่างง่ายดาย สบายข้อมือ และง่ายในการถอดออก นอกจากนี้ ยังสามารถทนเหงื่อและน้ำ จึงสามารถสวมใส่ในขณะออกกำลังกายได้

ใช้ได้กับ Apple Watch SE ,Series 4, Series 5 และ Series 6

สาย Apple Watch แบบ Braided Solo Loop รุ่น Pride Edition ผลิตออกมาสำหรับ Apple Watch SE ,Apple Watch Series 4, Apple Watch Series 5 และ Apple Watch Series 6 ทั้งขนาดตัวเรือน 40 มม. และ 44 มม. อีกทั้งยังมีสายให้เลือกอีก 9 ขนาด จึงต้องเลือกขนาดสายให้พอดี ถ้าหากซื้อผ่านเว็บไซต์ทางการของ Apple ก่อนกดสั่งซื้อ จะพบกับคำแนะนำในการวัดขนาด สามารถพิมพ์ตัวอย่างออกมาเทียบขนาดข้อมือได้ หรือ ถ้าไปซื้อที่ร้านค้าโดยตรง ก็แนะนำให้ลองเทียบขนาดก่อนซื้อ

นอกจากนี้ สายแบบ Braided Solo Loop ยังรองรับ Apple Watch Series 3 ด้วย โดยตัวเรือน 38 มม. แนะนำให้ใช้สาย 40 มม. และ ตัวเรือน 42 มม. แนะนำให้ใช้สาย 44 มม.เนื่องจากสาย Braided Solo Loop จะมีการขยายเล็กน้อยเมื่อผ่านการใช้งานไปสักพัก ดังนั้น ควรเลือกสายที่สวมใส่แล้วรู้สึกกระชับ แต่ไม่แน่นจนเกินไป 

หน้าปัด Pride พลิ้ว

นอกจากสาย Apple Watch รุ่น Pride Edition แบบใหม่ Apple ยังออกแบบหน้าปัด Pride ใหม่มีชื่อภาษาไทยว่า Pride พลิ้วมาให้ดาวน์โหลดด้วย ถึง 2 แบบโดยเป็นลวดลายเส้นด้ายหลากหลายสีสัน เพื่อสื่อถึงความแข็งแกร่งและการสนับสนุนซึ่งกันและกันของการเคลื่อนไหวของ LGBTQ 

หน้าปัด Pride ใหม่ มีจุดเด่นที่สามารถพริ้วไหวได้อย่างไม่มีสิ้นสุด ไปตามการหมุนปุ่ม Digital Crown และยังขยับเมื่อยกข้อมือ (สามารถดาวน์โหลดหน้าปัด Pride ใหม่ได้ฟรี!! ผ่าน iPhone ที่จับคู่กัน)

วางจำหน่ายแล้วในราคา 3,100 บาท

สาย Apple Watch แบบ Braided Solo Loop รุ่น Pride Edition ใช้วัสดุและดีไซน์เหมือนกับสาย Braided Solo Loop ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ แต่มีสีสันใหม่ที่เป็นสีรุ้ง ซึ่งเป็นสีธง Pride ที่กลุ่ม LGBTQ นำมาใช้ในการเคลื่อนไหวเพื่อให้เกิดความเท่าเทียม ในแง่ของดีไซน์สายแบบ Braided Solo Loop รุ่น Pride Edition ถือว่ามีความโดดเด่น และบ่งบอกตัวตนของผู้สวมใส่ได้ และในด้านจิตใจยังรู้สึกมีความสุข เพราะรายได้ส่วนหนึ่งจะถูกนำไปสนับสนุนการทำงานของกลุ่ม LGBTQ ที่มีหลากหลายองค์กร

สาย Apple Watch แบบ Braided Solo Loop รุ่น Pride Edition วางจำหน่ายแล้วในราคา 3,100 บาท ทั้งขนาด 40 มม. และ 44 มม. นอกจากนี้ ยังมีสาย Nike Sport Loop รุ่น Pride Edition วางจำหน่ายในราคา 1,600 บาท

Adblock test (Why?)


รีวิวสาย Apple Watch แบบ Braided Solo Loop รุ่น Pride Edition มาพร้อมหน้าปัดใหม่ Pride พลิ้ว – Flashfly Dot Net - Flashfly
Read More

No comments:

Post a Comment

รีวิว Death Stranding Director's Cut เล่นบน iPad Pro M2 - iPhoneMod

ในที่สุดสาวก Apple อย่างเราก็ได้เล่นเกม Death Stranding เวอร์ชัน Director’s Cut บนอุปกรณ์ Apple กันแล้ว ใครอยากลองเล่นเข้าไปซื้อเกมใน App S...