ถึงเวลา Beat By Dr.Dre เปิดตัวหูฟัง TWS พร้อมโหมดตัดเสียงรบกวนกันบ้าง โดยเป็น Beat Studio Buds แน่นอนว่าแบรนด์นี้คุณภาพเสียงถูกคัดสรรมาอย่างดี และยังได้โหมด ANC (Active Noise Cancelling) เพื่อตัดเสียงรบกวนภายนอก พร้อมกับ Transparency Mode ที่จะฟังเสียงภายนอกได้สะดวกแบบไม่ต้องถอดหูฟังออก
Beat Studio Buds มีดีไซน์แบบหูฟังไร้สาย แบ่งเป็น 2 ข้างซ้าย และขวา ได้มาตรฐานกันน้ำ IPX4 ส่วนเคสใส่หูฟังจะเป็นแบบทรงกลมสนับสนุนพอร์ต USB Type-C ลวดลายข้างหูฟังทั้ง 2 ข้าง และตัวเคสจะมีสัญลักษณ์ตัว "b" ซึ่งเป็นโลโก้ของแบรนด์ Beat By Dr.Dre นอกจากนี้ Beat Studio Buds ไม่ได้ถูกปรับแต่งจาก Apple silicon เหมือนกับ Beat By Dr.Dre โมเดลอื่นๆ
ด้านคุณภาพเสียงของ Beat Studio Buds จะเป็นตามฉบับ Beat By Dr.Dre ที่ให้พลังเสียงตามแบบที่ศิลปินตั้งใจสร้างสรรค์ และผ่านการปรับแต่งจากวิศวกรรมเพื่อให้เสียงออกมาทรงพลัง โดยเสียงเป็นแบบ Stereo แบ่งช่องเสียงข้างซ้ายขวา และมีไมโครโฟนภายในทันที แต่จะไม่มีชิป W1 หรือ H1ที่สนับสนุนการฟังเพลงแบบ Spatila Audio ใน Apple Music
ฟีเจอร์อื่นๆ จะสนับสนุนระบบตัดเสียงรบกวน ANC (Active Noise Cancelling) ทำให้ฟังเพลงได้แบบเต็มๆ ไม่มีเสียงรบกวนภาพนอกมากวนระหว่างฟังเพลง และยังมีโหมด Transparency Mode เพื่อช่วยให้ได้ยินเสียงคนรอบข้าง โดยไม่ต้องถอดหูฟังออก ส่วนการเชื่อมต่อจะจับคู่ได้ทั้ง iOS และ Android ผ่านแอพพลิเคชั่น Bests App ในขณะที่การอัปเดตฝั่ง Android จะต้องมีแอพฯ Beats เพื่้อช่วยในการอัปเดตเฟิร์มแวร์ แต่ iOS จะอัปเดตให้ง่ายๆ ผ่าน OS
Beat Studio Buds สามารถสั่งการด้วยเสียงผ่านผู้ช่วยอัจฉริยะอย่าง Siri ด้วยการออกคำสั่ง "Hey Siri" แต่ฝั่ง Android ต้องมีแอพฯ เพื่อเปิดการสั่งการด้วยเสียง ส่วนแบตเตอรี่ของ Beat Studio Buds จะอยู่ได้นาน 8 ชั่วโมง แต่หากเปิดโหมด ANC หรือ Transparency Mode จะอยู่ได้ 5 ชั่วโมง ถ้าหากชาร์จกับเคสก็จะใช้งานได้เต็มๆ 24 ชั่วโมง และยังสนับสนุนการชาร์จแบบ Fast Fuel เพียงชาร์จ 5 นาทีก็นำมาฟังเพลงได้ถึง 1 ชั่วโมง
ในตอนนี้ Beat Studio Buds มีขายแล้วใน Apple Store (ในประเทศไทยก็มาแล้วเช่นกัน) โดยมีราคาอยู่ที่ 5,500 บาท มีให้เลือก 3 สีคือ สีขาว, สีดำ, และสีแดง สามารถเข้าไปดูได้ตามลิ้งค์นี้เลย https://apple.co/3vnordj
Beat Studio Buds หูฟังไร้สาย TWS มีโหมดตัดเสียงรบกวน และ Transparency Mode - Siamphone
Read More
No comments:
Post a Comment