มือถือเกมมิ่งตัวแรงสเปคเทพอย่าง Lenovo Legion Phone Duel 2 เปิดตัวไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทำเอาเหล่าเกมเมอร์มือถือเกิดอาการกระเป๋าตังค์สั่นครั่นเนื้อครั่นตัวอยากเปลี่ยนมือถือใหม่กันขึ้นมาเลย…และล่าสุดมือถือรุ่นนี้ก็ได้เดินทางมาถึงประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว ซึ่งค่าตัวเรียกว่าถูกกว่าตอนเปิดตัวโซนยุโรปอยู่เยอะเลยทีเดียว โดยเคาะราคาเริ่มต้นมาที่ 24,990 บาท สำหรับรุ่น 12GB / 256GB
ใครที่ลืมไปแล้วว่า Lenovo Legion Phone Duel 2 มีสเปค และฟีเจอร์ที่เด็ดดวงขนาดไหน เราก็จะมาทบทวนให้อีกทีเป็นการเรียกน้ำย่อย ว่ามือถือรุ่นนี้มันน่าใช้สำหรับเหล่าเกมเมอร์แค่ไหนครับ
จอ AMOLED รีเฟรชเรทสูง 144HZ
Legion Phone Duel 2 ใช้หน้าจอแบบ AMOLED ขนาด 6.92 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับการแสดงผลแบบ HDR10+ และสามารถเร่งแสงสว่างได้สูงสุดถึง 1300 nits มีเซ็นเซอร์สแกนนิ้วมือใต้จอ และครอบด้วยกระจก Gorilla Glass 5 แถมยังพิเศษสุด ๆ ด้วยรีเฟรชเรทที่สูงถึง 144Hz แถมยังมี Touch Sampling สูงลิ่ว 720Hz ช่วยให้การบังคับเกมด้วยหน้าจอสัมผัสมีความแม่นยำสุด ๆ
สเปคสุดโหด แต่เครื่องไม่ร้อนด้วยพัดลมคู่ในตัว
ไม่เสียชื่อมือถือเกมมิ่งด้วยสเปคแรงจัดจ้าน ทั้งชิป Snapdragon 888, RAM LPDDR5 สูงสุด 18GB กับความจุแบบ UFS 3.1 สูงสุด 512GB และไม่ต้องกลัวว่าใช้เล่นเกมยาว ๆ แล้วเครื่องจะร้อนจนกระตุก เพราะมือถือรุ่นนี้ใส่พัดลมระบายอากาศคู่ Twin Turbo-Fan มาให้ในตัวเลย และนอกจากจะใช้พัดลมระบายอากาศแล้วยังมีระบบระบายความร้อนแบบ Vapor Chamber Liquid Cooling เข้ามาช่วยอีกแรง ทำให้หมดห่วงเรื่องเครื่องร้อนจนเฟรมเรทตกไปได้
กล้องเซลฟี่ป๊อปอัพแนวนอน เน้นแคสท์เกม
ไม่เหมือนใครด้วยกล้องหน้าป๊อปอัพแนวนอนที่ออกแบบมาสำหรับการแคสท์เกมโดยเฉพาะ เนื่องจากกล้องจะวางอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ถูกมือบัง และอยู่ในมุมที่เล็งมาตรงหน้าพอดิบพอดี ไม่เอียง ไม่เบี้ยว แถมยังมีความละเอียดสูงถึง 44MP พร้อม AF อีกต่างหาก
ส่วนกล้องหลังมีทั้งหมด 2 ตัว ประกอบด้วยกล้องหลัก 64MP (f/1.9) และกล้อง Ultra Wide ความละเอียด 16MP (f/2.2) รองรับการซูมแบบดิจิทัลสูงสุด 10x
ปุ่มพิเศษสำหรับเล่นเกม 4 ปุ่ม และปุ่มสัมผัสหลังเครื่องอีก 2
ถ้าไม่มีปุ่ม L-R มาด้วยจะเรียกว่าเสียชาติเกิดมือถือเกมมิ่งแน่นอน Legion Phone Duel 2 ก็เลยใส่ปุ่ม L-R มาให้ข้างละ 2 ปุ่ม ไปเลย แต่จะไม่ได้เป็นปุ่มแบบคอนโทรลเลอร์เกมจริง ๆ นะครับ แต่จะเป็นปุ่มแบบสัมผัสแบบ Ultrasonic Sensor แทน ส่วนด้านหลังเครื่องก็เป็นระบบสัมผัสแบบ Capacitive ให้ใช้ตั้งค่าแทนปุ่มต่าง ๆ ในเกมได้…ยังไม่หมด เพราะบนหน้าจอยังมีจุดที่เป้นเหมือนปุ่มให้อีก 2 ปุ่ม โดยเมื่อใช้นิ้วแตะบริเวณดังกล่าวจะมี Haptic Feedback สั่นขึ้นมาให้เรารู้ด้วย
แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ พร้อมชาร์จไว 90W
แบตเตอรี่ให้มามากกว่ารุ่นที่แล้วเล็กน้อย อยู่ที่ 5500 mAh ซึ่ง Lenovo เคลมว่าจากแบตเตอรี่ 100% สามารถเล่นเกมต่อเนื่องได้ถึง 8ชม. และยังรองรับระบบชาร์จไวสูงถึง 90W นอกจากนี้ยังมากับระบบ ชาร์จคู่ ให้เสียบสายชาร์จ USB-C พร้อมกันที่พอร์ตทั้ง 2 ข้างเครื่อง-ท้ายเครื่อง เพื่อชาร์จแบตเตอรี่จาก 0 – 100% ได้ภายในเวลาแค่ 30 นาที
สเปค LENOVO LEGION PHONE DUEL 2
- หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.92 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รีเฟรชเรท 144Hz
- CPU : Snapdragon 888
- GPU : Adreno 660
- RAM (LPDDR5) : 12GB / 16GB
- ความจุ (UFS 3.1) : 256GB / 512GB
- กล้องหลัง : กล้องหลัก 64MP (f/1.9) และกล้อง Ultra Wide ความละเอียด 16MP (f/2.2)
- กล้องหน้าป๊อปอัพ : 44MP (f/2.0)
- ระบบเสียง : ลำโพงสเตอรีโอคู่ด้านหน้าแบบแม่เหล็ก 7 ชิ้น, Dolby Atmos, ไมโครโฟน 4 ตัว พร้อมระบบลดเสียงรบกวน, ไม่มีรูหูฟัง 3.5 มม.
- เซ็นเซอร์ : Fingerprint sensor (ใต้จอ), 3D Motion Sensor, E-Compass, Gyroscope, Proximity, Ambient Light, Quad Ultrasonic Shoulder keys, Dual Capacitance keys, Dual Force Touch Sensor
- แบตเตอรี่ : 5500 mAh (2750 mAh 2 ก้อน) รองรับชาร์จไว 90W
- ระบบ Android 11 ครอบด้วย ZUI 12.5
- ขนาด / น้ำหนัก : 176 x 78.5 x 9.9 มม. (12.56 มม. กลางเครื่อง) / 256 กรัม
ราคา Legion Phone Deul 2
Lenovo Legion Phone Duel 2 จะวางจำหน่ายในประเทศไทยทั้งหมด 2 รุ่น ตามนี้…
- Lenovo Legion Phone Duel 2 (12GB / 256GB) : ราคา 24,990 บาท
- Lenovo Legion Phone Duel 2 (16GB / 512GB) : ราคา 29,990 บาท
พร้อมโปรโมชั่นสำหรับลูกค้า 50 คนแรกจะได้รับของแถมพิเศษรวมมูลค่า 3,590 บาท ไปด้วย
ส่วนช่องทางการจำหน่ายก็มีทั้งแบบหน้าร้าน และร้านออนไลน์ จากตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นเมื่อ ซื้อผ่าน AIS ภายในวันที่ 12 กรกฎาคม 2564 จะได้รับสิทธิ์ซื้อ Lenovo Legion Phone Duel 2 ในราคาเริ่มต้น 18,990 บาท เท่านั้น
เกมเมอร์ทุบกระปุก… Lenovo Legion Phone Duel 2 (Legion 2 Pro) วางจำหน่ายแล้ว ราคาเริ่มต้น 24,990 บาท - Droidsans
Read More
No comments:
Post a Comment