หลังจากที่ประสบความสำเร็จในตลาดสมาร์ทโฟนและสินค้าไอทีหลาย ๆ รายการไปแล้ว ตลาดสินค้าเครื่องเสียงก็เป็นสินค้าที่กลุ่มหนึ่งที่เสียวหมี่ (Xiaomi) ดูเหมือนจะมิได้มองข้ามไป
ล่าสุดทางแบรนด์ได้เปิดตัว Xiaomi Flipbuds Pro (เสียวหมี่ ฟลิปบัดส์ โปร) หูฟังไร้สาย true wireless รุ่นใหม่ล่าสุด จัดอยู่ในกลุ่มหูฟังไร้สายระดับพรีเมียมของเสียวหมี่ที่มาพร้อมจุดเด่นทั้งในแง่ของดีไซน์และฟังก์ชัน
คุณสมบัติและการออกแบบ
Xiaomi Flipbuds Pro ออกแบบเป็นหูฟังไร้สาย true wireless แบบอินเอียร์ที่มาพร้อมกับฟังก์ชันตัดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟ (ANC) ชูจุดเด่น ‘Hybrid ANC’ สามารถลดทอนเสียงรบกวนได้ถึง 40dB
โดย Hybrid ANC ในหูฟังรุ่นนี้อาศัยไมโครโฟนในตัวหูฟัง ซึ่งแต่ละข้างมีถึง 3 ตัว ตัวหนึ่งทำหน้าที่ตรวจจับสัญญาณ feed-forward อีกตัวหนึ่งทำหน้าที่ตรวจจับสัญญาณ feed-back สำหรับใช้ในการตัดเสียงรบกวน สำหรับไมโครโฟนอีกตัวหนึ่งออกแบบให้ใช้รับเสียงในเวลาพูดคุยสนทนา
หัวใจสำคัญในวงจรอิเล็กทรอนิกส์ของ Xiaomi Flipbuds Pro มีตั้งแต่ตัวชิปเซ็ตระดับแฟลกชิป Qualcomm QCC5151 ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Qualcomm aptX™ Adaptive ซึ่งโดดเด่นในแง่ของการเชื่อมต่อ คุณภาพเสียง และประสิทธิภาพการใช้พลังงาน
เชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth 5.2 พร้อมคุณสมบัติ ‘Dual Device Connection’ ซึ่งเปิดโอกาสให้สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้ 2 เครื่องพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์อื่น ๆ
อีกหนึ่งส่วนสำคัญที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพเสียงโดยตรงอย่างไดรเวอร์หรือตัวขับเสียง ในหูฟัง Xiaomi Flipbuds Pro เลือกใช้ตัวขับเสียงแบบไดนามิกขนาด 11mm ที่คุยว่าเป็นดีไซน์ ‘super balanced speaker’ ซึ่งออกแบบและปรับแต่งโดย Xiaomi Sound Lab โดยตั้งใจให้สามารถถ่ายทอดรายละเอียดของเสียงได้ครบถ้วนทุกย่านความถี่และมีความเพี้ยนต่ำ
Xiaomi Flipbuds Pro มาพร้อมกับแบตเตอรี่ในตัวที่ใช้งานได้นานสูงสุด 7 ชั่วโมง เมื่อใช้งานร่วมกับเคสชาร์จเวลารวมในการใช้งานทั้งหมดจะเป็น 28 ชั่วโมง เมื่อปิดโหมด ANC
หากว่ามีการเปิดใช้งานโหมด ANC แบตเตอรี่ในตัวสามารถใช้งานได้นานสูงสุด 5 ชั่วโมง และเมื่อใช้งานร่วมกับเคสชาร์จเวลารวมในการใช้งานทั้งหมดจะเป็น 22 ชั่วโมง
ตัวเคสชาร์จรองรับการชาร์จไฟแบบไร้สาย และการชาร์จไฟแบบเสียบสายทางพอร์ต USB-C ซึ่งรองรับการชาร์จเร็ว ใช้เวลาชาร์จเพียง 10 นาทีก็สามารถใช้งานได้ถึง 3 ชั่วโมง
แกะกล่องลองใช้งาน
หูฟังไร้สาย Xiaomi Flipbuds Pro มาพร้อมกับเคสชาร์จ และจุกซิลิโคน 3 คู่ 3 ขนาดให้เลือกใช้ และสายชาร์จ USB-A to USB-C เส้นยาวอีก 1 เส้น ตัวหูฟังและเคสชาร์จมีสีเดียวคือสีดำ Obsidian Black ที่มีพื้นผิวเงางาม ดูหรูหราน่าสัมผัส ซึ่งได้มาจากกระบวนการเคลือบผิวที่เรียกว่า ‘high-gloss nano-NCVM coating process’ อาจสะสมรอยนิ้วมือได้ง่ายหน่อย แต่ก็สามารถเช็ดออกได้ง่ายเช่นกัน
ตัวเคสชาร์จมีไฟ LED แสดงผล 2 จุด ด้านนอกตัวเคสและด้านในตัวเคส ใกล้ ๆ พอร์ต USB-C มีปุ่มฟังก์ชันสำหรับกดค้างเพื่อเข้าโหมดจับคู่อุปกรณ์ใหม่ หรือรีเซ็ตการทำงานของตัวหูฟัง โดยสังเกตการรับคำสั่งจากสถานะของไฟ LED ที่อยู่ด้านในตัวเคสชาร์จ ตัวหูฟังสามารถใช้งานแยกเดี่ยวได้ทั้ง 2 ข้าง และมีเซ็นเซอร์ตรวจจับการสวมใส่ เมื่อถอดหูฟังอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่จะหยุดเล่นเอง เมื่อใส่หูฟังก็จะกลับมาเล่นใหม่โดยอัตโนมัติ
ที่ตัวหูฟังออกแบบให้สามารถควบคุมสั่งงานได้โดยการบีบที่ก้านของหูฟัง เช่น บีบ 1 ครั้งเพื่อเล่น/หยุดเล่นหรือรับ/วางสาย, บีบ 2 ครั้งเพื่อข้ามการเล่นคอนเทนต์ไปข้างหน้าหรือปฏิเสธการรับสาย และบีบ 3 ครั้งเพื่อย้อนการเล่นคอนเทนต์ไปก่อนหน้า
นอกจากโหมดตัดเสียงรบกวน (ANC) แล้ว Xiaomi Flipbuds Pro ยังมีโหมดเปิดฟังเสียงแวดล้อม (transparency mode) การเลือกโหมดก็ทำได้ง่าย ๆ ด้วยการบีบที่ตัวก้านหูฟังข้างใดข้างหนึ่ง โดยบีบค้างประมาณ 1-2 วินาที เพื่อสลับการทำงานระหว่างโหมด ANC และ transparency mode
ผมยอมรับว่าในโหมดตัดเสียงรบกวนหูฟังรุ่นนี้ตัดเสียงรบกวนได้เงียบสงัดมาก เรียกได้ว่าเทียบเท่าหูฟังไร้สายระดับพรีเมียมที่มีอยู่ในตลาดเวลานี้ ขณะที่โหมดเปิดฟังเสียงแวดล้อมก็มีความเป็นธรรมชาติดีเช่นกัน ระบบไมโครโฟนถือว่าใช้คุยสนทนาได้ชัดเจนดีไม่มีปัญหา
อย่างไรก็ดีผมทราบมาว่าฟังก์ชัน ANC ในหูฟังรุ่นนี้สามารถปรับเปลี่ยนการทำงานได้ถึง 3 โหมดด้วยกันคือ Office Mode, Daily Mode และ Airplane Mode ซึ่งเข้าใจว่าน่าจะหมายถึงปริมาณการลดทอนเสียงรบกวนให้เหมาะสมสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน
แต่ในรีวิวนี้ผมไม่ได้ทดสอบการใช้งาน ANC ในโหมดที่แตกต่างกันนี้ เนื่องจากข้อมูลจากเสียวหมี่ระบุว่าโหมด ANC Office และ ANC Airplane รองรับการทำงานบนสมาร์ทโฟนเสียวหมี่ที่ติดตั้ง MIUI 12.5.5 หรือใหม่กว่าเท่านั้น
ขณะเดียวกันผมพบว่าการเปลี่ยนโหมด ANC ในที่นี้ (รวมถึงฟังก์ชันบางอย่าง) จำเป็นต้องตั้งค่าผ่านแอปฯ XiaoAI ตามข้อมูลที่ปรากฏในรีวิวของต่างประเทศ และแอปฯ นี้สามารถใช้งานได้เฉพาะสมาร์ทโฟนที่เป็นเวอร์ชันจำหน่ายในประเทศจีนเท่านั้น ดังนั้นในรีวิวนี้ผมจึงไม่ได้ลองใช้งานในส่วนนี้
คุณภาพเสียง
เพื่อให้สอดคล้องกับการใช้งานที่หลากหลายและสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้คนทั่วไป ผมได้ทดสอบคุณภาพเสียงเบื้องต้นด้วยคลิปใน YouTube จำนวนหนึ่งที่ได้คัดสรรค์เอาไว้แล้ว
เมื่อเทียบกับหูฟังไร้สายอื่น ๆ ในระดับราคาใกล้เคียงกัน Xiaomi Flipbuds Pro จัดว่าเป็นหูฟังรุ่นหนึ่งที่ให้เสียงกระหึ่มหนักแน่น ฟังสนุกคึกคัก แม้ว่าสมดุลเสียงในภาพรวมค่อนข้างเปิดเผยแต่เป็นลักษณะที่เน้นเนื้อเสียงมากกว่าการแจกแจงรายละเอียด ดุลเสียงในย่านกลางต่ำและเสียงทุ้มต้นมีลักษณะค่อนข้างเด่นออกมามากกว่าย่านเสียงอื่น ๆ
ทำให้รายละเอียดเสียงที่มีความเปิดเผยนั้นยังแฝงเอาไว้ด้วยความหนาอบอุ่นเจืออยู่ ทำให้เสียงในภาพรวมไม่ค่อยมีปัญหากับคุณภาพการบันทึกเสียงหรือคุณภาพของการสตรีมมากนัก ค่อนข้างประนีประนอมมากกว่าจะสะท้อนความไม่สมบูรณ์เหล่านั้น (โดยเฉพาะในย่านความถี่กลางสูงถึงความถี่สูง) ออกมาตรง ๆ เหมือน Panasonic RZ-S500W หรือ Samsung Galaxy Buds Pro
เมื่อฟังเพลง K-POP สมัยใหม่ที่จัดเต็มไปด้วยดนตรีอิเล็กทรอนิกส์สมัยใหม่ Xiaomi Flipbuds Pro สามารถสอบผ่านได้สบายด้วยรายละเอียดที่คมชัด ไดนามิกเสียงที่ฉะฉานในทุกย่านความถี่เสียงคือไปทางฟังสนุกคึกคักเลย มิติเสียงกว้างขวาง โปร่งโล่งไม่มีคำว่าอุดอู้หรือเสียงจมทึบ
ในโหมดของการฟังที่จริงจังกับเรื่องของคุณภาพเสียงมากขึ้น เช่น ฟังจากสตรีมมิงคุณภาพสูงเช่น Apple Music (Lossless, Hi-Res Lossless) หรือ TIDAL (Lossless) คุณภาพเสียงที่ได้จาก Xiaomi Flipbuds Pro นั้นดีขึ้นกว่าตอนที่ฟังจาก YouTube มาก ๆ
เมื่อลองฟังกับเพลย์ลิสต์ที่ใช้ตอนผมรีวิว Sony WF-1000XM3 (https://tidal.com/browse/playlist/17176c7d-5859-4240-be6a-7e7988b6167b) พบว่า Xiaomi Flipbuds Pro ฟังได้เนื้อหาสาระ ฟังได้เพลินหูดีกับเพลงและดนตรีหลากหลายแนวเหล่านั้น
จะเป็นเพลงร้องดนตรีน้อยชิ้น, วงซิมโฟนีออเคสตร้าหรือว่าเพลงจากเพลย์ลิสต์เฮฟวี่เมทัลใน Apple Music (https://music.apple.com/th/playlist/heavy-metal/pl.u-r20kCRm3x7M) การถ่ายทอดรายละเอียดเสียงจากหูฟังไร้สายของเสียวหมี่ก็หาได้มีปัญหาติดขัดหรือไม่ชัดเจนในการรับฟังแต่อย่างใด
อย่างในเพลง ‘People and Fighters Unite’ (https://tidal.com/browse/track/79569702) นอกจาก Xiaomi Flipbuds Pro สามารถถ่ายทอดรายละเอียดเสียงได้ดีเกินคาดแล้ว ยังตอบสนองต่อไดนามิกเสียงได้ดีไม่เป็นรองกัน มิติเสียงที่ได้ยินอาจพูดได้ว่าคุ้มเกินค่าตัวของมันไปแล้วล่ะครับ
Xiaomi FlipBuds Pro เหมาะกับใคร ?
นอกจากความเสียดายระคนความสงสัยว่ามีเหตุผลอันใดที่ทำให้ผู้ใช้งานนอกประเทศจีนไม่สามารถใช้งานแอปฯ XiaoAI ร่วมกับหูฟังรุ่นนี้ได้ ก็ชัดเจนว่า Xiaomi Flipbuds Pro เป็นหูฟัง true wireless ที่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยความตั้งใจให้ชูจุดเด่นในคุณภาพที่ดี ‘Quality First’ มากกว่าจะมาเน้นแข่งขันเรื่องราคา และเป็นหูฟังไร้สายที่ ‘เสียงดีที่สุด’ ของเสียวหมี่ตั้งแต่ที่ผมเคยได้ลองฟังมา
สำหรับคนที่มองหาหูฟังที่ตัดเสียงรบกวนได้เงียบสงัด ใช้สำหรับดูหนัง-ฟังเพลง หรือสามารถใช้คุยสนทนาในชีวิตประจำวันได้อย่างคล่องตัวและได้รับความเพลิดเพลินในระหว่างการใช้งาน หูฟังรุ่นนี้คือ อีกหนึ่งทางเลือกที่ ‘ใช่’ ในงบประมาณที่ไม่รบกวนกระเป๋าสตางค์มากเกินไป
Xiaomi FlipBuds Pro พร้อมวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน 2564 เป็นต้นไป ในราคา 5,699 บาท สำหรับลูกค้าที่สั่งซื้อสินค้าก่อนวันที่ 26 กันยายน 2564 สามารถซื้อได้ในราคาพิเศษเพียง 5,199 บาท ตามช่องทางต่าง ๆ ที่แนะนำไว้ที่นี่ (https://www.mi.com/th/service/wheretobuy/)
รีวิว Xiaomi : FlipBuds Pro “หูฟังไร้สายที่ให้เสียงฟังสนุก เก็บทุกรายละเอียด ตัดเสียงรบกวนดี ฟีเจอร์แน่น” - AV Tech Guide
Read More
No comments:
Post a Comment