ขณะประเทศอื่นแข่งขันกันร้องรำทำเพลง แต่จีนฮิตจัดการแข่งขันการไลฟ์ขายของ ไม่ใช่จัดเล่นๆ ทว่าทำกันเป็นมหกรรมใหญ่ และจัดกันในมากมายหลายเมือง นักไลฟ์มีทั้งระดับประเทศ ระดับเสิ่ง (มณฑล) ระดับเจี้ยวต้าเตอซื่อ (มหานครและเมืองใหญ่) และระดับซื่อ (เมือง) มีสถาบันสอนการแสดงออกหน้ากล้องโดยเฉพาะ ซึ่งผมและพ่อเคยไปดูงานกันมาแล้ว
เดิมคนที่อยู่ห่างไกลจากนครใหญ่มีช่องทางในการทำมาหากินจำกัด แต่เมื่อธุรกิจอีคอมเมิร์ซบูมใน พ.ศ.2555 ผู้คนที่อยู่ในดินแดนแสนไกลก็มีรายได้จากการขายของออนไลน์ ซึ่งในปีนั้นเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซเถาเป่าได้รับความนิยมมากที่สุด
บรรดาคนที่สร้างตัวจนร่ำรวยโดยการขายของในอีคอมเมิร์ซและขายของแบบไลฟ์สด นางหวงเวยประสบความสำเร็จเป็นเบอร์ต้นของจีน เธอใช้นามแฝงว่าเวยย่า เวยย่าเริ่มจากการไปประกวดวาไรตี้ซุปเปอร์ไอดอล จากนั้นก็หันมาทำธุรกิจขายของออนไลน์ในเถาเป่า แล้วก็รับจ้างเป็นนางแบบถ่ายแบบเสื้อผ้าวันละ 100-200 ชิ้น โชคชะตามาพลิกเมื่อ พ.ศ.2559 เวยย่าชนะการแข่งขันไลฟ์สตรีมขายของและได้รับฉายาว่าราชินีนักไลฟ์
เดิมบริษัทใหญ่ของจีนนิยมลงทุนสร้างห้างสรรพสินค้า ต่อมาหันมาลงทุนในการขายของผ่านเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ พ.ศ.2560 หันมานิยมลงทุนในธุรกิจถ่ายทอดสดไลฟ์สตรีมขายของ โดยจ้างนักไลฟ์ที่ชนะการแข่งขันจากเวทีดังมาไลฟ์ รายได้ก็แบ่งกันระหว่างบริษัทที่ลงทุนกับนักไลฟ์ ถ้าขายอาหารและสินค้าทั่วไป นักไลฟ์จะได้ค่าคอมมิชชันร้อยละ 10-20 เครื่องสำอางต่างประเทศได้ร้อยละ 8-15 เครื่องสำอางจีนได้ร้อยละ 10-30 และเครื่องประดับได้ร้อยละ 1-5
เทศกาลคนโสด พ.ศ.2564 เวยย่า ‘คนเดียว’ ขายสินค้าเพียง ‘วันเดียว’ ได้เงินมากถึง 8.2 พันล้านหยวน (4.1 หมื่นล้านบาท) รายได้จากค่าคอมมิชชันของเธอเพียงวันเดียว 1.3 พันล้านหยวน (6.5 พันล้านบาท) ในแต่ละปี เวยย่ามีรายได้ประมาณ 7.5 พันล้านบาท จากการสำรวจคนรวยของจีนในปีนี้ เวยย่าและสามีมีทรัพย์สิน 9 พันล้านหยวน หรือ 4.5 หมื่นล้านบาท
เวยย่าต้องเสียภาษีร้อยละ 45 สรรพากรนครหางโจวตรวจเจอว่าเธอหลบภาษี 640 ล้านหยวนหรือ 3.2 พันล้านบาท จึงสั่งปรับ 1,340 ล้านหยวนหรือ 6.7 พันล้านบาท รวมทั้งระงับบัญชีบนแพลตฟอร์มเวยปั๋ว บัญชีร้านค้าเถาเป่า บัญชีโซเชียลมีเดียโต่วอิน (ติ๊กต็อกเวอร์ชันจีน) และบัญชีไคว่โส่ว หมายความว่านับจากนี้เป็นต้นไป เวยย่าจะไม่มีสิทธิโผล่หน้าออกมาขายของออนไลน์หาสตางค์ได้เหมือนเดิม ช่องทางที่เคยขายของได้ปีหนึ่งเป็นแสนล้านบาทก็หายวับไปกับตา
เขียนเรื่องมนุษย์ 1 คน ยืนพูดหน้าจอขายของได้ปีหนึ่งถึง 1 แสนล้านบาท ผู้อ่านบางท่านอาจจะหาว่าเวอร์ ‘เป็นไปไม่ได้’ ขอเรียนว่า สำหรับประเทศที่มีประชากร 1.4 พันล้านคนอย่างจีน เรื่องนี้เป็นไปได้ครับ พ.ศ.2563 เวยย่าขายของได้ 3.1 หมื่นล้านหยวน (1.55 แสนล้านบาท) ขายตั้งแต่มีดพกกระจกเงากระเป๋าหิ้ว ยันจรวดก็เคยขายกันมาแล้ว
ดาราและคนมีชื่อเสียงของจีนหลายคนหันมาเป็นนักไลฟ์ เพราะนักไลฟ์หาเงินได้มากกว่าการเป็นดาราเป็นร้อยเป็นพันเท่า สมัยก่อนดาราจีนและฮ่องกงมักจะมี 2 สัญชาติ นอกจากสัญชาติจีนแล้ว ยังนิยมถือสัญชาติแคนาดา หลังจากที่รัฐบาลจีนปลุกเรื่องรักชาติ ดาราจีนที่มีสัญชาติอื่นถูกระงับช่องทางโซเชียลมีเดียจีน จนหมดรายได้กันหลายคน ทำให้ดาราจีนที่ยังไม่โดนเล่นงาน ประกาศสละสัญชาติอื่นกันเป็นแถว และหันมาพูดเรื่องความรักแผ่นดินแม่กันมากขึ้น
พ.ศ.2555 ธุรกิจอีคอมเมิร์ซบนแพลตฟอร์มการขายของออนไลน์มาแรงมาก พ.ศ.2559 การขายสินค้าแบบไลฟ์สดบูมตูมตามและสร้างมหาเศรษฐีใหม่มากมาย
มีคนทำนายทายว่า พ.ศ.2565 วิธีการขายของแบบใหม่กำลังจะมา ถ้าใครจับ ‘ช่องทางใหม่’ นี้ได้ก่อนใคร ก็จะกลายเป็นอภิพญามหาเศรษฐีคนใหม่ได้ง่ายเช่นกัน.
มหาเศรษฐีนักไลฟ์ขายของ - ไทยรัฐ
Read More
No comments:
Post a Comment