วันพุธ ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2565, 06.00 น.
สาวกกล้องถ่ายรูปคลาสสิกระดับตำนาน “ไลก้า” ชวนเติมเต็มประสบการณ์ถ่ายภาพด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลใหม่ล่าสุดของไลก้า ในตระกูล Leica M เมื่อ Leica Camera Thailand (ไลก้า คาเมร่าไทยแลนด์) โดย ดนัย สรไกรกิติกูล เปิดตัวกล้องไลก้ารุ่นใหม่ “Leica M11” (ไลก้าเอ็ม 11) กับการพัฒนาฟังก์ชั่นใหม่หมดจากรุ่นยอดนิยม Leica M10 ที่เปิดตัวอย่างฮือฮาไปเมื่อราว 5 ปีก่อน เปี่ยมด้วยนวัตกรรมการถ่ายภาพสุดล้ำ ผสมผสานประสบการณ์ของการถ่ายภาพดั้งเดิมแบบเรนจ์ไฟน์เดอร์เข้ากับเทคโนโลยีกล้องร่วมสมัย และระบบเมนูที่ปรับเปลี่ยนใหม่ให้เข้าใจง่าย และเพื่อให้เห็นภาพได้ชัดเจนขึ้น งานนี้ได้รับเกียรติจาก 3 ช่างภาพชื่อดังในฐานะ “ไลก้าไทยแลนด์ แอมบาสเดอร์” นำโดย ตุลย์หิรัญญลาวัลย์, “แอ๊ด” พีรพัฒน์วิมลรังครัตน์ และ “ชัช” ชัชวาล จันทโชติบุตรร่วมรังสรรค์ภาพถ่ายสวย ผ่าน Leica M11ในธีม“Legacy of Leica” สุดประทับใจ
ดนัย สรไกรกิติกูล ผู้บริหาร ไลก้าคาเมร่า ไทยแลนด์ เผยว่า ไลก้า เอ็ม 11 ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับการถ่ายภาพดิจิทัล และยังเป็นกล้อง M-System ที่ยืดหยุ่นที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Leicaอีกด้วย โดยจุดเด่นที่เป็นหัวใจของกล้องรุ่นนี้ คือเซ็นเซอร์ BSI CMOS แบบฟูลเฟรมที่มาพร้อมเทคโนโลยี Triple Resolution ทำให้สามารถบันทึกไฟล์ภาพในรูปแบบ DNG และ JPEG ได้ที่ความละเอียด 60, 36 หรือ 18 ล้านพิกเซล โดยใช้เซ็นเซอร์เต็มพื้นที่ตลอดเวลา ตัวเลือกความละเอียดที่ 60 ล้านพิกเซล ให้คุณภาพของภาพในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน ขณะที่ฟิลเตอร์ตัดแสง IR + UV แบบพิเศษประกอบด้วยกระจกบางเฉียบสองแผ่นที่นำมาประกบเข้าด้วยกันจึงสามารถปรับแก้สภาพแสงได้อย่างดีเยี่ยมแม้แต่กับแสงที่ตกกระทบจากมุมเฉียงนอกจากนี้ยังมีชุดฟิลเตอร์สีแบบใหม่ที่ช่วยให้กล้องสามารถถ่ายทอดสีสันได้สมจริงและเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้นด้วย
ที่สำคัญ Leica M11 ยังคงหน้าตาอันเป็นเอกลักษณ์ในแบบฉบับของกล้อง Leica M ไว้เช่นเดิม แต่สิ่งหนึ่งที่ต่างออกไปคือการตั้งใจถอด Base plate กล้องที่เคยมีมาแต่เดิมออก เพื่อให้ช่างภาพสามารถเข้าถึงแบตเตอรี่และช่องใส่การ์ด SD ได้ง่ายและนอกเหนือจากช่องใส่การ์ด SD แล้ว Leica M11 ยังมีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลภายในความจุสูงถึง 64 กิกะไบต์ ทำให้ M11 เป็นกล้องโมเดล M รุ่นแรกที่บันทึกภาพลงบนสื่อจัดเก็บข้อมูลที่ต่างกันสองชนิดได้ ส่วนแบตเตอรี่ 1800mAh นั้นเก็บพลังงานได้มากขึ้น 64% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ซึ่งเมื่อรวมกับการทำงานที่ประหยัดพลังงานยิ่งขึ้นของกล้องรุ่นนี้แล้ว ช่างภาพจึงสามารถใช้กล้องต่อเนื่องได้นานขึ้นมากต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และยังสามารถชาร์จแบตเตอรี่ของกล้องผ่านพอร์ต USB-C อเนกประสงค์ที่เพิ่มมาใหม่ได้โดยใช้ที่ชาร์จ USB-C ทั่วไป
ในส่วนมุมมองของเหล่าช่างภาพชื่อดัง ไลก้า ไทยแลนด์ แอมบาสซาเดอร์ ที่ได้สัมผัส Leica M11 ก่อนใคร ซึ่งแต่ละคนตีโจทย์ภาพถ่ายภายใต้แนวคิด “Legacy of Leica” ได้อย่างน่าสนใจ เริ่มจาก “แอ๊ด” พีรพัฒน์ วิมลรังครัตน์ หรือในวงการช่างภาพต่างรู้จักกันในชื่อ “ADDCANDID” เลือกสะท้อนมุมมองภาพถ่ายผ่านสถาปัตยกรรมไทยที่เต็มไปด้วยสีสันสะดุดตา โดยกล่าวว่า เสน่ห์ของ Leica M11 นอกจากรูปลักษณ์ที่ยังคงความเป็นไลก้า มีขนาดเหมาะมือ แล้วยังอยู่ที่ปุ่มกดที่เป็นฟังก์ชั่นพิเศษช่วยให้การซูมดูภาพได้ง่ายและชัดเจนขึ้น และสามารถปรับแต่งภาพให้มีขนาดใหญ่ขึ้นหรือเล็กลงได้โดยสะดวก ซึ่งกล้องบางตัวมีข้อจำกัดในเรื่องนี้
“โจทย์ถ่ายภาพที่ได้รับมาในเรื่องของความเป็น Legacy หรือตำนานนั้น ผมนำมาตีโจทย์ต่อว่า ศิลปะมีความยืนยาวต่อเนื่อง และสืบทอด อย่างกรุงเทพฯ อะไรคือแรงบันดาลใจตั้งแต่อดีตมาถึงปัจจุบัน ซึ่งสีและความอ่อนช้อยถือเป็นเอกลักษณ์ของงานศิลปะไทย ผมเลือกใช้เลนส์อาร์มาใส่ในบอดี้เอ็ม เก็บภาพบรรยากาศความเป็นรัตนโกสินทร์ในแบบที่ตัวเองชอบ อย่างวัดพระแก้วผมชอบศิลปะการประดับกระจก ซึ่งภาพที่สะท้อนผ่านกระจกสวยงามแปลกตาดี สื่อสารความเป็นอดีตในมุมมองปัจจุบันได้โดยไม่บอกตรงๆ หรืออย่างภาพวัดอรุณถ่ายผ่านซี่กรงรั้วก็เป็นมุมมองส่วนตัว ผมว่าการถ่ายภาพวัดสามารถเป็นได้ทั้งความคลาสสิกและภาพในมุมมองส่วนตัวในแบบร่วมสมัย”
ด้านช่างภาพหนุ่มผู้หลงใหลธรรมชาติ “ชัช” ชัชวาล จันทโชติบุตร กับภาพขาวดำที่เต็มไปด้วยมิติของเงาสะท้อนบนผืนน้ำ โดยเขาเล่าว่า “ผมชอบอยู่กับธรรมชาติ เลยนำสิ่งนี้มาตีความ ตอนอยู่ที่เขาหลัก จังหวัดพังงา ได้ไปเจอซีนหนึ่งเป็นกิ่งก้านไม้แห้งตายและพืชน้ำในทะเลสาบ ทำให้นึกถึงภาพหนึ่งของ René Burri ช่างภาพชาวสวิตเซอร์แลนด์ชื่อ Former Summer Palace. Dead LotusFlowers on Kunming Lake. Bejing, ที่ประเทศจีน ถ่ายไว้ตั้งแต่ปี 1964 ช่างภาพคนนี้ถ่ายภาพด้วยกล้องไลก้ามาตลอด จึงเป็นแรงบันดาลใจให้ผมถ่ายภาพชุดนี้ซึ่งตอบโจทย์ในสองมิติ อย่างแรกพูดถึงตัวกล้องซึ่งเงาสะท้อนอันหนึ่งสื่อถึงไลก้าในอดีต ส่วนเงาสะท้อนอีกอันสื่อถึงไลก้าเอ็ม บางจุดที่น้ำกระเพื่อมก็เกิดความบิดเบี้ยว ผมพยายามสื่อออกมาในแง่มิติที่เป็นตำนานของไลก้ามากกว่าเรื่องกลไกเทคนิคการถ่ายภาพ”
ปิดท้ายที่เซียนภาพถ่ายขาวดำ ตุลย์ หิรัญญลาวัลย์ นายกสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เผยว่า เสน่ห์ของ Leica M นั้นอยู่ที่การเป็นเรนจ์ไฟน์เดอร์ซึ่งแยกกับตัวรับภาพ ระยะห่างจากท้ายเลนส์ถึงเซ็นเซอร์สั้นมาก จึงช่วยลดการเดินทางของแสงไปยังเซ็นเซอร์ได้การสั่นสะเทือนหรือการเคลื่อนของแสงก็น้อยเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ จึงให้ภาพที่ได้ความคมชัดมากกว่า ซึ่งต่อให้สปีดชัตเตอร์ต่ำก็ยังคงความคมชัดอยู่ หรือต่อให้เบลอก็เป็นความเบลอที่เป็นเสน่ห์ของไลก้า และเสน่ห์นี้ก็ยังคงมีอยู่ในตัว Leica M11 อย่างครบถ้วนจึงรู้สึกประทับใจมาก ถ้าอยากเลือกกล้องสักตัวที่จะใช้บันทึกความทรงจำ หรือสิ่งที่อยากให้อยู่ในความทรงจำกับเรา นี่คือกล้องที่ดีที่สุด และนั่นคือนิยามของ Legacy of Leica” ช่างภาพระดับแถวหน้าของเมืองไทย
สัมผัสนวัตกรรมถ่ายภาพสุดล้ำ กับ Leica M11 ได้แล้ววันนี้ ที่ Leica Store สาขา เกษรวิลเลจ ชั้น 2 โทร. 02-6561102 และสาขาดิเอ็มควอเทียร์ ชั้น เอ็ม โทร. 02-0036068 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมทาง Line Official : @leica
ช่างภาพดัง 'ไลก้า ไทยแลนด์ แอมบาสซาเดอร์' รังสรรค์ภาพถ่ายสวย ผ่าน Leica M11 สุดประทับใจ - หนังสือพิมพ์แนวหน้า
Read More
No comments:
Post a Comment