Rechercher dans ce blog

Wednesday, February 23, 2022

รีวิว Redmi Note 11 Pro 5G ก้าวสู่ความท้าทายไปกับกล้องโปร 108 ล้านพิกเซล, จอ 120Hz และชาร์จเร็ว 67W Turbo Charging - mobileocta

เปิดตัวอย่างเป็นทางการในบ้านเราเป็นที่เรียบร้อย สำหรับ Redmi Note 11 Pro 5G สมาร์ตโฟนซีรีส์ Note รุ่นล่าสุดจากค่าย Xiaomi ที่มอบประสบการณ์การใช้งานสุดประทับใจภายใต้คอนเซ็ปต์ “Rise to the challenge” โดยมาพร้อมความโดดเด่นด้วยกล้องหลักความละเอียดสูงถึง 108MP และจัดเต็มด้วยแบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh ที่มาพร้อมเทคโนโลยีเทอร์โบชาร์จ 67W ผ่านการขับเคลื่อนด้วยชิปเซต Snapdragon 695 ที่รองรับ 5G ในแบบ SA

อีกทั้งยังตอบโจทย์ด้านความบันเทิงได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยหน้าจอ AMOLED DotDisplay ขนาด 6.67”  ให้ความคมชัดระดับ FHD+ พร้อมรีเฟรชเรต 120Hz ผสานด้วยลำโพง Super Linear สองตัวที่ด้านบนและด้านล่าง ส่งมอบเสียงสเตอริโอแบบสมจริง ที่เต็มอิ่มทุกอรรถรสไม่ว่าจะเล่นเกมหรือดูวิดีโอ

สำหรับฟีเจอร์และความน่าสนใจอื่น ๆ ของ Redmi Note 11 Pro 5G จะมีอะไรบ้าง ขอเชิญติดตามรับชมรีวิวไปพร้อม ๆ กันได้เลยครับ

สเปกเบื้องต้น Redmi Note 11 Pro 5G

ขนาด 164.19 x 76.1 x 8.12 มม.
น้ำหนัก 202 กรัม
หน้าจอ หน้าจอแสดงผล DotDisplay แบบ AMOLED ความละเอียด FHD+ 2400 x 1080 พิกเซล (395 ppi) ขนาด 6.67 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9, อัตรารีเฟรชสูงสุด 120Hz คอนทราสต์: 4,500,000:1 ความสว่างสูงสุด 1000 nits, รองรับ DCI-P3 และครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 5
หน่วยประมวลผล ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.2GHz โดยใช้ชิปเซ็ต Qualcomm SM6375 Snapdragon 695 5G (6 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 619
RAM 6GB/8GB (LPDDR4X)
หน่วยความจำภายในเครื่อง 64GB/128GB ( UFS 2.2 )
microSD Card สูงสุด 1TB
ระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย MIUI 13
เชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot
Bluetooth 5.1, A2DP, LE
Infrared Port
GPS L1 | Glonass G1 | BDS B1 | Galileo E1
USB Type-C
กล้องถ่ายภาพ
กล้องหลัง 3 เลนส์ AI Triple Camera พร้อมไฟแฟลช LED

– กล้องหลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซล  เซนเซอร์ Samsung HM2 รูรับแสง f/1.9
– กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ถ่ายมุมกว้างได้ 118 องศา
– กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4

กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4

รองรับเครือข่าย 5G: n1/3/5/7/8/20/28/38/40/41/66/77/78
4G: LTE FDD 1/2/3/4/5/7/8/12/13/17/18/19/20/26/28/32/66
4G: LTE TDD 38/40/41
3G: WCDMA 1/2/4/5/8/19
2G: GSM 850 900 1800 1900MHz
แบตเตอรี่ 5000mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว เทอร์โบชาร์จ 67W
สี Graphite Gray, Polar White, Atlantic Blue
ราคา RAM 8GB+128GB ราคา 10,999 บาท

บรรจุภัณฑ์ / อุปกรณ์ภายในกล่อง

รูปภาพนี้มี Alt แอตทริบิวต์เป็นค่าว่าง ชื่อไฟล์คือ รีวิว-Redmi-Note-11-Pro-5G-18-1024x686.jpg

ตัวกล่องมาในโทนสีขาวสะอาดตา ด้านหน้าจะโชว์โลโก้ ชื่อรุ่นและรูปตัวเครื่อง Redmi Note 11 Pro 5G ขนาดใหญ่เห็นได้ชัดสะดุดตา ส่วนด้านล่างจะบอกรายละเอียดต่าง ๆ ทั้งชื่อรุ่นและสี,  ขนาด ROM/RAM, เลขอีมี่, หมายเลขประจำเครื่องและข้อมูลของผู้ผลิต 

รูปภาพนี้มี Alt แอตทริบิวต์เป็นค่าว่าง ชื่อไฟล์คือ 1S8A8712-1024x686.jpg

เมื่อเปิดกล่องออกมาจะพบตัวเครื่อง Redmi Note 11 Pro 5G ในสี Graphite Gray ซึ่งติดฟิลม์กันรอยมาให้เรียบร้อย ส่วนอุปกรณ์ภายในกล่องมีดังนี้

  • อแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 67W
  • สายดาต้าลิงค์แบบ USB Type-C
  • อุปกรณ์เปิดถาดซิมการ์ด
  • Soft Case TPU แบบใส
  • คู่มือการใช้งานฉบับย่อ, คู่มือความปลอดภัย และใบรับประกันสินค้า 

รูปลักษณ์ดีไซน์ / การออกแบบ

Redmi Note 11 Pro 5G มาพร้อมกับรูปลักษณ์สวยงามทันสมัย โดดเด่นด้วยการออกแบบที่มอบความกระชับด้วยดีไซน์ขอบแบนและบางให้สัมผัสที่พอดีมือ ตัวเครื่องมาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่และแบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh ที่มีความหนาเพียง 8.12 มิลลิเมตรเท่านั้น โดยตัวเครื่องมีให้เลือกทั้งหมดสามสีได้แก่ Graphite Gray, Polar White และ Atlantic Blue

สำหรับสีที่ทางทีมงานได้มารีวิวในครั้งนี้ก็คือ Graphite Gray ซึ่งในภาพรวม Redmi Note 11 Pro 5G ยังคงให้ฟิลลิ่งที่ดูเรียบง่าย แต่แฝงความหรูหราพรีเมี่ยมไว้ภายใน โดดเด่นด้วยการออกแบบที่มีความเพรียวบาง พร้อมมอบความกระชับด้วยการออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์ ช่วยให้จับได้ถนัดมือกระชับแม้จะเป็นการถือด้วยมือเดียวก็ตาม

Redmi Note 11 Pro 5G

Redmi Note 11 Pro 5G พร้อมมอบประสบการณ์ใช้งานหน้าจอแบบลื่นไหลสะดวกสบายด้วยหน้าจอขนาด 6.67 นิ้ว FHD+ AMOLED DotDisplay ให้การแสดงผลและหน้าจอสัมผัสสุดราบรื่นเพลิดเพลินกับคอนเทนต์ บนอัตรารีเฟรชอันราบรื่นที่สูงถึง 120Hz (360Hz touch sampling rate) เลื่อนดูหน้าฟีดโซเชียลมีเดียได้ลื่นไหล มอบสัมผัสประสบการณ์เล่นเกมสุดแรงและตอบสนองฉับไว

ในขณะเดียวกันก็มาพร้อมกับระบบสัมผัสที่แม่นยำมากยิ่งขึ้นพร้อมด้วยฟีเจอร์ DCI-P3 Wide Color Gamut ที่ให้ภาพและสีคมชัด ที่มีค่าความสว่างมากถึง 1000 nit เพื่อให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ว่าหน้าจอยังคงมองเห็นชัดแม้อยู่ท่ามกลางแสงแดด นอกจากนี้ ยังมีลำโพงทรงพลัง 2 ตัวติดตั้งอยู่ที่ด้านบนและด้านล่างของตัวเครื่องที่จะสามารถทำให้ผู้ใช้งานได้ดื่มด่ำไปกับการเล่นเกมหรือดูหนังแบบไม่ติดขัด 

ลำโพงสนทนามีขนาดเล็กและจัดวางอยู่ในขอบของตัวเครื่องซึ่งช่วยเพิ่มพื้นที่แสดงผลได้อีกทางหนึ่งด้วย สำหรับกล้องหน้าเซลฟี่ออกแบบให้มีขนาดเล็ก โดยจัดวางเลย์เอาท์ไว้อยู่ตรงกลางของจอแสดงผล ซึ่งจากการใช้งานจริงให้ความรู้สึกกลมกลืนไม่รบกวนสายตา แต่ยังคงให้คุณภาพมาแบบเต็มเปี่ยม โดยมาพร้อมความละเอียดที่ 16 ล้านพิกเซล  พร้อมฟีเจอร์ในการถ่ายเซลฟี่ที่ตอบโจทย์การใช้งานในยุคนี้ได้อย่างลงตัว

กล้องหลัง 3 เลนส์ AI Triple Camera ที่ให้มาครบทุกระยะการใช้งาน โดดเด่นด้วยเลนส์หลักมาพร้อมความละเอียดสูงถึง 108 พิกเซล ตัวเลนส์จัดวางในโมดูลรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า พร้อมล้อมคาดด้วยขอบโลหะเพิ่มความพรีเมี่ยม สำหรับรายละเอียดของเลนส์ทั้ง 3 ตัว มีรายละเอียดดังนี้ 

– กล้องหลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซล  เซนเซอร์ Samsung HM2 รูรับแสง f/1.9
– กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ถ่ายมุมกว้างได้ 118 องศา
– กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4

ฝั่งขวามือของตัวเครื่องจะมีปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียงและปุ่มพาวเวอร์ โดยตัวปุ่มพาวเวอร์จะมีการฝั่งเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบ  Arc side fingerprint sensor  ที่ปลดล็อกได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ส่วนฝั่งซ้ายจะเรียบ ๆ ไม่มีปุ่มหรือพอร์ตใด ๆ 

Redmi Note 11 Pro 5G มาพร้อมลำโพงคู่แบบสเตอริโอ โดยด้านบนของตัวเครื่องจะมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. และลำโพงตัวที่ 1 ถัดไปจะเป็นไมค์ตัดเสียงรบกวนและใช้ในการบันทึกเสียง ปิดท้ายด้วย IR Blaster ที่ใช้ในการควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ได้เหมือนรีโมท

ส่วนด้านล่างจะประกอบด้วย ลำโพงสเตอริโอตัวที่ 2 , ไมค์สนทนา, พอร์ต Type-C  และช่องถาดซิมการ์ด 

ตัวถาดซิมการ์ดจะเป็นแบบ Hybrid Slot  ที่ต้องเลือกระหว่างการใช้งานพร้อมกัน 2 ซิมการ์ด หรือใช้ 1 ซิมร่วมกับ Micro SD Card นั่นเอง

ฟีเจอร์เด่นบน Redmi Note 11 Pro 5G

Redmi Note 11 Pro 5G ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 695 5G ที่ผลิตบนสถาปัตยกรรมขนาด 6 นาโนเมตร พร้อมหน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 619 ให้ประสิทธิภาพการทำงาน การเล่นเกมและการประมวลผลกราฟิกที่ดีขึ้น อีกทั้งยังยกระดับประสิทธิภาพไปอีกขั้นด้วย  RAM แบบ LPDDR4x  ผสานหน่วยความจำแบบ UFS2.2  รวมถึงยังจัดการด้านพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินไปกับการใช้งานยาวนานต่อเนื่องโดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่

นอกจากนี้ Redmi Note 11 Pro 5G ยังมาพร้อมเทคโนโลยีระบายความร้อน LiquidCool มีระบบท่อความร้อนรูปวงแหวนและแผ่นแกรไฟต์หลายเลเยอร์ เทคโนโลยีนี้ช่วยให้ชาร์จไฟได้เร็วขึ้นโดยการระบายความร้อน ผ่านตัวทำระเหย, ตัวทำควบแน่น, รีฟิล, ท่อก๊าซ และท่อของเหลว

ในด้านความปลอดภัย Redmi Note 11 Pro 5G มาพร้อมระบบสแกนลายนิ้วมือด้านข้าง Arc side fingerprint sensor  ที่สามารถปลดล็อคเครื่องได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีสแกนใบหน้า AI face unlock เพื่อปลดล็อกได้อีกด้วย โดยทั้ง 2 ระบบ ตอบสนองการทำงานได้อย่างรวดเร็ว และมีความแม่นยำอยู่ในเกณฑ์ที่น่าประทับใจ และนอกจากจะใช้ในการปลดล็อคหน้าจอแสดงผลแล้ว ยังสามารถใช้ในการปกป้องข้อมูลส่วนตัวและการเข้าถึงแอปพลิเคชันได้อีกทางหนึ่งด้วย

Redmi Note 11 Pro 5G มาพร้อมหน้าจอ AMOLED แบบ Dot Drop ขนาด 6.67 นิ้ว ที่ให้สีสันสวยงามสมจริง บนความละเอียด FHD+ 2400×1080 (395ppi) ในอัตราส่วน 20:9 อัตรารีเฟรชสูง 120Hz (360Hz touch sampling rate) ความสว่างสูงสุด 1000 nits (nits peak ) รองรับขอบเขตสีแบบ DCI-P3 , อัตรา Contrast ratio: 4,500,000:1 ฟีเจอร์ช่วยถนอมสายตา Reading mode 3.0, Sunlight mode 2.0,  และครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 5  เรียกว่าเป็นสมาร์ตโฟนระดับเรือธง ที่มีหน้าจอแสดงผลที่ดีมาก ๆ ในตลาด ณ ขณะนี้ 

Redmi Note 11 Pro 5G ให้แบตเตอรี่ความจุสูงถึง 5,000mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วระดับเรือธงด้วย 67W turbo charging ที่สามารถชาร์จไฟจาก 0 ถึง 100% ได้ภายในเวลาประมาณ 42 นาที  และ 50% ในเวลาเพียง 15 นาที  รองรับการใช้งานได้ตลอดทั้งวัน อีกทั้งยังแถมอะแดปเตอร์ชาร์จเร็ว  67W มาให้ในกล่องด้วย

Facebook Notice for EU! You need to login to view and post FB Comments!

Adblock test (Why?)


รีวิว Redmi Note 11 Pro 5G ก้าวสู่ความท้าทายไปกับกล้องโปร 108 ล้านพิกเซล, จอ 120Hz และชาร์จเร็ว 67W Turbo Charging - mobileocta
Read More

No comments:

Post a Comment

รีวิว Death Stranding Director's Cut เล่นบน iPad Pro M2 - iPhoneMod

ในที่สุดสาวก Apple อย่างเราก็ได้เล่นเกม Death Stranding เวอร์ชัน Director’s Cut บนอุปกรณ์ Apple กันแล้ว ใครอยากลองเล่นเข้าไปซื้อเกมใน App S...