งาน Worldwide Developers Conference 2022 (WWDC22) ของ “แอปเปิล (Apple)” เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 2022 ที่ผ่านมา เต็มไปด้วยการประกาศต่าง ๆ มากมาย ทั้งฟีเจอร์ฟังก์ชันไปจนถึงผลิตภัณฑ์ชวนตื่นตาตื่นใจใหม่ ๆ
ตัวอย่าง “ของใหม่” ของแอปเปิล ได้แก่ MacBook Air ที่ออกแบบขึ้นใหม่หมด และ MacBook Pro 13 นิ้ว รุ่นอัปเดต ซึ่งทั้งคู่ต่างใช้ชิป M2 ยกระดับความสามารถในการทำงาน ยังมีคุณสมบัติใหม่ใน iOS 16 เช่น หน้าจอล็อกของ iPhone รูปแบบใหม่ ปรับแต่งได้ตามใจมากขึ้น รวมถึงระบบ CarPlay เวอร์ชันใหม่
MacBook Air ใหม่ กับชิป M2 น่าซื้อแค่ไหน เหมาะกับใคร
“แอปเปิล”เปิดตัวฟีเจอร์ Apple Pay Later ให้ผู้ใช้งานซื้อก่อนผ่อนทีหลัง
แอปเปิลยกเครื่อง CarPlay เตรียมออกเวอร์ชั่นใหม่ปลายปีหน้า
แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่าคือ มีข้อมูลออกมาว่า “การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของผลิตภัณฑ์อุปกรณ์รุ่นต่อไปของแอปเปิล” เท่านั้น หรือเรียกง่าย ๆ ว่าผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวมาใหม่เหล่านี้ เป็นเพียงอาหารเรียกน้ำย่อยของแอปเปิลเท่านั้น ชวนให้สงสัยเลยว่า แล้วอาหารจานหลักที่แอปเปิลยังอุบไว้จะมีอะไรบ้าง?
นักวิเคราะห์ประเมินว่า ระหว่างฤดูใบไม้ร่วงปี 2022 หรือประมาณเดือน ก.ย. ถึงครึ่งแรกของปี 2023 รวมราว ๆ 1 ปีจากนี้ แอปเปิลจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์น่าสนใจใหม่ ๆ ออกมาจำนวนมากจนสาวกแอปเปิลอาจจะตามกันแทบไม่หวาดไม่ไหว
ผลิตภัณฑ์ใหม่จะประกอบด้วย iPhone 14 ที่จะออกมา 4 รุ่น, Apple Watch 3 รุ่น, Mac ที่ใช้ชิป M2 และ M3 หลายรุ่น, ชุดหูฟังแบบ Mixed Reality ตัวแรกของบริษัท, iPad ทั้งระดับเข้าถึงง่ายและระดับไฮเอนด์ รวมถึง Apple TV และ Homepod
iPhone 14 ฟังก์ชันและสเปกใหม่
หนึ่งในโมเดลของ iPhone ที่มีข้อมูลออกมาคือ iPhone 14 Pro ซึ่งจะมีฟังก์ชันพิเศษคือ “จอแสดงผลตลอดเวลา” โดยจะสามารถแสดงวิดเจ็ตที่ให้ข้อมูลสภาพอากาศ ปฏิทิน หุ้น กิจกรรม และข้อมูลอื่น ๆ ในขณะที่หน้าจอยังคงมีความสว่างและเฟรมเรตต่ำ และจะมีการตั้งค่าที่ป้องกันไม่ให้ข้อมูลสำคัญปรากฏบนหน้าจอล็อกสกรีนให้คนอื่นเห็น
คุณสมบัติใหม่อื่น ๆ ของ iPhone 14 Pro ได้แก่ กล้องหน้าที่จะได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นมาก ส่วนระบบกล้องหลังแบบใหม่จะมีเซ็นเซอร์ 48 ล้านพิกเซล กรอบที่บางลง ชิป A16 ที่เร็วขึ้น และรอยบากที่ออกแบบใหม่พร้อมช่องเจาะสำหรับเลนส์สแกนใบหน้า และอีกรูเจาะสำหรับใส่กล้องหน้า
ในขณะที่ iPhone 14 รุ่นปกติที่ไม่ใช่ Pro นั้น จะมีคุณสมบัติรองลงมา โดยจะใช้ชิป A15 แบบเดียวกับ iPhone 13
iPhone ใหม่ทั้งหมดที่จะออกมาในช่วง 1 ปีนี้ คาดว่าจะยังคงใช้สายชาร์จไลต์นิง (Lightning) โดยอาจเปลี่ยนไปใช้สายชาร์จแบบ USB-C ในปี 2023
iPad ที่รองรับชิป M2
ในส่วนของ iPad คาดว่า ในฤดูใบไม้ร่วงนี้ จะมีการเปิดตัว iPad รุ่นย่อมเยารุ่นใหม่ ซึ่งจะใช้ชิป A14 และรองรับสัญญาณอินเทอร์เน็ต 5G
และที่หลายคนน่าจะรอคอย คือในปลายปีนี้ แอปเปิลจะเปิดตัว iPad รุ่นใหม่ขนาด 11 นิ้วและ 12.9 นิ้วที่ใช้ชิป M2 ซึ่งจะใช้งานได้กับฟังก์ชัน “Stage Manager” ใน iPadOS 16 เป็นฟีเจอร์ที่ให้ผู้ใช้ iPad สามารถวางหน้าต่างแอปพลิเคชันซ้อนทับกันได้หลายแอปฯ เพื่อให้ผู้ที่ใช้งาน iPad สามารถทำอะไรได้หลายอย่างพร้อมกันโดยไม่ต้องคอยสับเปลี่ยนจอให้วุ่นวาย
ตระกูล Mac กับชิป M2 และ M3
ขณะที่ทางด้านของอุปกรณ์ตระกูล Mac นั้น มีรายงานว่า ผลิตภัณฑ์หลังจากนี้ จะใช้ชิป M2 เป็นแกนกลางในการพัฒนาเป็นส่วนใหญ่ เพื่อยกระดับความสามารถของ Mac รุ่นต่าง ๆ โดยประเดิมนำมาใช้ใน MacBook Air (รุ่นออกแบบใหม่) และ MacBook Pro 13 นิ้ว (รุ่นออกแบบใหม่) ที่ประกาศในงาน WWDC22 ก่อน
นอกจาก Mac 2 รุ่นดังกล่าวแล้ว มีรายงานว่า Mac ที่จะได้ใช้ชิป M2 ประกอบด้วย
- M2 Mac mini
- M2 Pro Mac mini
- MacBook Pro รุ่น M2 Pro และ M2 Max ขนาด 14 นิ้ว และ 16 นิ้ว
- M2 Ultra และ M2 Extreme Mac Pro
ยังมีข่าวว่า ชิป M2 จะไม่ได้มีอยู่แค่ใน Mac เท่านั้น แต่จะถูกนำมาใช้กับชุดหูฟัง Mixed-Reality ด้วย
สื่อต่างประเทศได้รับแจ้งว่า ภายในของชุดหูฟังดังกล่าว จะใช้ชิป M2 เป็นแกน พร้อมกับ RAM ขนาด 16 กิกะไบต์
นอกจากชิป M2 แล้ว แอปเปิลยังกำลังพัฒนาชิป M3 ด้วย ซึ่งแน่นอนว่าสเปกและศักยภาพในการทำงานน่าจะต้องเหนือกว่าชิปรุ่นก่อนหน้าอย่างแน่นอน
โดยแอปเปิลวางแผนที่จะใช้ชิปดังกล่าวในต้นปีหน้า โดยจะใช้ใน MacBook Air 13 รุ่นอัปเดตใหม่, MacBook Air 15 นิ้ว, iMac รุ่นใหม่ และอาจถูกนำไปใช้ในแล็ปท็อปขนาด 12 นิ้วที่ยังอยู่ในระหว่างการพัฒนาด้วย
Apple Watch Series 8 ลือยังใช้ชิปเดิม
อีกหนึ่งอุปกรณ์ที่หลายคนติดตามความคืบหน้า อาจจะเป็น Apple Watch Series 8 ซึ่งคาดว่าน่าจะเปิดตัวในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ อย่างแน่นอน โดยคาดว่าจะเปิดตัวใน 3 รุ่น คือ Series 8 มาตรฐาน, Series 8 SE ที่ราคาย่อมเยาลงมา และ Series 8 รุ่นทนทานสำหรับกีฬาเอ็กซ์ตรีม
สำหรับผู้ที่หวังว่าจะได้ชิปที่เร็วขึ้นใน Apple Watch รุ่นใหม่ อาจจะต้องผิดหวัง เพราะมีข่าวลือว่า Series 8 (และอาจรวมถึง Series 8 SE) จะใช้ชิป S8 สเปกเดียวกับ Series 7 และ Series 6 อย่างไรก็ตาม มีข่าวว่า Apple Watch รุ่นที่จะออกปี 2023 หน้าจะได้รับชิปประมวลผลตัวใหม่ทั้งหมด
ในส่วนของระบบปฏิบัติการ Apple Watch นั้น จะมีการเปลี่ยนแปลงระบบติดตามการออกกำลังกาย เป็นการปรับปรุงครั้งใหญ่ที่สุดใน watchOS โดยจะสามารถติดตามการออกกำลังกายแบบมัลติสปอร์ตได้
ดังนั้น Apple Watch จึงน่าจะสามารถติดตามการว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน และวิ่ง รวมถึงติดตามระดับความสูงได้ด้วย คุณสมบัติทั้งหมดเหล่านี้ดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับการเป็นนาฬิกาสำหรับกีฬาเอ็กซ์ตรีมโดยเฉพาะ
Apple TV และ HomePod อัปเกรดด้วย
นอกจากผลิตภัณฑ์หลัก ๆ อย่าง iPhone, iPad, Mac หรือ Apple Watch แล้ว Apple TV และ HomePod เอง ก็จะได้รับการอัปเกรดเช่นกัน
โดย Apple TV รุ่นใหม่กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา มีข่าวว่าจะขับเคลื่อนด้วยชิป A14 จากรุ่นเดิมที่ใช้ชิป A12 และเพิ่ม RAM อีกกิกะไบต์ ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้น่าจะสอดคล้องกับความสามารถในการเล่นเกมของระบบปฏิบัติการ tvOS 16 ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่
ส่วน HomePod รุ่นใหม่ คาดว่าจะมาในปีหน้า จะใช้ชิป S8 ตัวเดียวกับที่ใช้ใน Apple Watch และจะใกล้เคียงกับ HomePod ดั้งเดิมมากขึ้นในแง่ของขนาดและประสิทธิภาพเสียง และจะมีหน้าจออัปเดตอยู่ด้านบน และยังมีข่าวลือเกี่ยวกับฟังก์ชันมัลติทัชอีกด้วย
เรียบเรียงจาก Bloomberg
ภาพจาก AFP / Shutterstock
รีวิว ORA Good Cat GT สปอร์ตอีวี เอาใจสายซิ่ง แรงขึ้นแต่งครบ
วอลโว่ ปรับไลน์อัพโมเดล รถตระกูล 60-90 กลุ่มปลั๊ก-อินไฮบริด
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร Add friend ได้ที่ @PPTVOnline
ตั้งตารอ! ผลิตภัณฑ์ “แอปเปิล” ที่คุณจะได้เห็นภายใน 1 ปีข้างหน้า - PPTVHD36
Read More
No comments:
Post a Comment