รวมมือถือ 40 รุ่น หลังใช้งานจริง น่าซื้อ น่าใช้ ครึ่งปีแรกของปี 2022 - iphone-droid.net

แนะนำมือถือ 40 รุ่น รีวิวเจาะลึกทุกฟีเจอร์หลังใช้งานจริง น่าซื้อ น่าใช้ ครึ่งปีแรกของปี 2021 และทุกรุ่นวางขายในไทยแล้ว วันนี้ทีมงาน iphone-droid.net ได้รวบรวมมาไว้ให้แล้วที่นี่ที่เดียว ต้องบอกเลยว่ามาครบทุกค่าย ลองไปเลือกรุ่นที่ถูกใจกันได้เลย

รีวิวมือถือ ใช้งานจริง ครึ่งปีแรกของปี 2022

วิธีเลือกซื้อ มือถือใหม่

ประสิทธิภาพ: หากต้องการใช้งานเพียงแค่การทำงานพื้นฐานทั่วไป เล่นโซเชียล ถ่ายรูป เล่นเกมนิดหน่อย ก็ควรเลือกมือถือที่มีอย่างน้อยๆ RAM 4GB-6GB ก็เพียงพอแล้ว อย่างไรก็ตาม หากต้องการประสิทธิภาพเพื่อการเล่นเกมหนักๆ และถ่ายวิดีโอหรือตัดต่อคลิปมือถือบนมือถือด้วย ก็ควรเลือกรุ่นที่ใช้ชิประดับบน และอย่างน้อย RAM 6GB ขึ้นไป

หน้าจอแสดงผล: สำหรับการใช้งานที่เน้นความบันเทิงผ่านหน้าจอเป็นหลัก เช่น ดูหนัง ดูคลิป รวมไปถึงเล่นเกมที่ต้องการเฟรมเรทที่ลื่นไหล สีสันสดใส ก็ต้องเลือกรุ่นที่มีหน้าจออย่างน้อย FHD รีเฟรชเรท 90Hz ขึ้นไป และถ้าเป็นแผงหน้าจอ OLED ก็จะได้สีสันที่สวยงามมากขึ้นด้วย

กราฟิกและเกม: มือถือใหม่ส่วนใหญ่จะออกแบบมาให้สามารถเล่นเกมทั่วไปได้สบายๆ แต่หากสำหรับเกมที่มีกราฟิกระดับสูง ให้มองหามือถือสำหรับเล่นเกมโดยเฉพาะไปเลยก็ได้ หรือแฟล็กชิปจากทุกค่ายก็เล่นได้เต็มที่ไม่มีหัวร้อน

ขนาดตัวเครื่อง: เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่หลายคนอาจมองข้ามในตอนแรก แต่หลังจากใช้งานแล้วก็มองว่าเป็นเรื่องสำคัญ การเลือกขนาดที่เหมาะกับขนาดมือ จับถนัด หรือการถือใช้งานนานๆ แล้วไม่เมื่อย ก็ลองไปจับเครื่องจริงก่อนซื้อได้

รีวิวมือถือ Samsung

Samsung Galaxy M33 5G

Samsung Galaxy M33 5G สมาร์ทโฟนตระกูลที่อัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์และเทคโนโลยีขั้นสูงสำหรับสมาร์ทโฟนระดับกลาง ไม่ว่าจะเป็นจอใหญ่ 6.6 นิ้ว แบบ 120Hz พร้อมขุมพลังตัวใหม่อย่าง Exynos 1280 ขนาด 5nm แบตเตอรี่อึดถึง 5000mAh และกล้องหลัง 4 เลนส์

• หน้าจอแสดงผล TFT ขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2408 x 1080 พิกเซล), Refresh Rate 120Hz
• หน่วยประมวลผล : Exynos 1280 Octa-core ความเร็ว 2.4GHz
• RAM : 8GB
• ROM : 128GB รองรับการใส่ MicroSD Card สูงสุด 1TB
• กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 4 เลนส์ ดังนี้
  • เลนส์หลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8
  • เลนส์ Ultra-Wide Angle ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 มุมกว้าง 123 องศา
  • เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ระยะโฟกัส 4 ซม.
  • เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
• กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
• ระบบปฏิบัติการ Android 12 ครอบทับด้วย One UI 4.1
• รองรับ 5G
• รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac 2.4G+5GHz, Bluetooth 5.1, พอร์ต USB Type-C และช่องเสียบชุดหูฟังขนาด 3.5 มม.
• แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh รองรับ 25W Fast Charge

Samsung Galaxy A23

Galaxy A23 สมาร์ทโฟนน้องเล็กใหม่จาก Samsung ที่เก่งไม่กั๊ก เร็วแรงด้วยชิป Snapdragon 680 กล้องคมชัด 50MP พร้อมเลนส์กันสั่น OIS แต่ราคาเบา ๆ เพียง 7,999 บาทเท่านั้น เรียกว่าคุ้มค่าเหมาะกับทุกการใช้งานในราคาสบายกระเป๋าจริง ๆ

• หน้าจอ : TFT Inifinity-V ขนาด 6.6″ ความละเอียด FHD+ refresh rate 90Hz
• CPU : Snapdragon 680 Octa-Core 2.4GHz (6nm)
• GPU : Adreno 610
• RAM : 6GB
• ROM : 128GB
• micro-SD : รองรับสูงสุด 1TB
• แบตเตอรี่ : 5000mAh
• ระบบชาร์จ : รองรับชาร์จไว Fast Charge 25W
• กล้องหน้า : 8MP f/2.0
• กล้องหลัง : 4 ตัว
  • 50MP กล้องหลัก f/1.8 OIS
  • 5MP กล้อง Ultra Wide f/2.2
  • 2MP กล้อง macro f/2.4
  • 2MP กล้อง Depth f/2.4
• การเชื่อมต่อ : รองรับ 802.11 a/b/g/n/ac, 2.4GHz + 5GHz, Bluetooth 5.0
• ระบบปฏิบัติการ : Android 12 (One UI 4.1)

Samsung Galaxy S22 Ultra

Samsung Galaxy S22 Ultra เรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดของ Samsung รอบนี้เขาบอกว่าเป็นการรวมตัวของ S + Note เข้าด้วยกัน ยกเอาความสามารถเรื่องกล้องที่ S เด่นมาตลอดกับปากกา S Pen ที่ Note มีมารวมเป็นจุดเด่นของรุ่นนี้ พร้อมสเปคที่จัดเต็มในแบบ Ultra อีกเช่นเคย ทั้งหน้าจอ QHD+ 120Hz ชิปเซ็ตที่แรงที่สุด Snapdragon 8 Gen 1 แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh พร้อมชาร์จไว 45W และกล้องระดับโปรถึง 4 ตัว

• หน้าจอ : Dynamic AMOLED 2x ขนาด 6.8”
• ความละเอียด : WQHD+ (3080 x 1440 พิกเซล) Refresh Rate 120Hz
• ชิปเซ็ต : Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1 Octa-core (4nm)
• GPU : Adreno 730
• RAM : 8GB/12GB
• ROM : 128GB/256GB/512GB
• แบตเตอรี่ : 5000mAh
• ระบบชาร์จไว : 45W
• กล้องหน้า : 40MP f/2.2
• กล้องหลัง : 4 ตัว
  • 108MP กล้องหลัก f/1.8 OIS
  • 12MP กล้อง Ultra Wide f/2.2
  • 10MP กล้อง Tele 3X f/2.4 OIS
  • 10MP กล้อง Periscope 10X f/4.9 OIS
• ระบบปฏิบัติการ Android 12 ครอบทับด้วย One UI 4
• รองรับเครือข่าย 5G
• รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6E, Bluetooth 5.2, NFC และใช้พอร์ต USB Type-C
• รองรับ S Pen
• กันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP68

Samsung Galaxy A53 5G

Samsung Galaxy A53 5G สมาร์ทโฟน “Awesome is for Everyone” เก่งไม่กั๊ก กล้องกันสั่น OIS ถ่ายชัดไม่กลัวเบลอด้วยกล้องคมชัดสูง 64 ล้านพิกเซล พร้อมชิปตัวใหม่ Exynos 1280 รองรับ 5G และเทคโนโลยีที่ครบครันเพื่อการใช้งานด้านความบันเทิงและตอบโจทย์รอบด้าน

• หน้าจอแสดงผล Super AMOLED แบบ Infinity-O ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล), Refresh Rate 120Hz และครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5
• หน่วยประมวลผล : Exynos 1280 Octa-core ความเร็ว 2.4GHz
• RAM : 8GB
• ROM : 128GB รองรับการใส่ MicroSD Card สูงสุด 1TB
• กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 4 เลนส์ ดังนี้
  • เลนส์หลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 รองรับเทคโนโลยีกันสั่น OIS
  • เลนส์ Ultra-Wide Angle ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 มุมกว้าง 123 องศา
  • เลนส์ Macro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ระยะโฟกัส 3-5 ซม.
  • เลนส์ Depth ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
• กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
• ระบบปฏิบัติการ Android 12 ครอบทับด้วย One UI 4.1
• รองรับ 5G
• รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.1, ลำโพงคู่ระบบ Dolby ATMOS และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh รองรับ 25W Super Fast Charging

Samsung Galaxy S21 FE

Galaxy S21 FE ก็เปรียบเหมือนลูกหลงที่ตามพี่ ๆ อย่าง S21+ หรือ S21 Ultra มาได้ทันใช้ในปี 2022 พอดี หลายอย่างถูกส่งต่อมาจากรุ่นพี่จากปีที่แล้วมาอย่างครบถ้วน ทั้งหน้าจอ Dynamic AMOLED 2X ที่ทำงานได้อย่างลื่นไหล สีสันสวยงามสมกับเป็นเรือธงของ Samsung

ชิปเซ็ต Exynos 2100 แบบ 5nm ที่ตอบโจทย์ในการใช้งานไม่ว่าจะทั่วไปหรือจะเล่นเกมหนัก ๆ ก็เอาอยู่ มีกล้องหน้า-หลังระดับโปรที่ใช้งานง่ายได้ภาพสวยถูกใจ มอบประสบการณ์การใช้งานแบบเรือธงที่ครบถ้วน แต่มาในราคาที่จับต้องได้มากขึ้น แฟน Samsung หรือใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟน Galaxy S ในราคา 20,000 ต้น ๆ Galaxy S21 FE คือตัวเลือกที่น่าสนใจที่สุดในนาทีนี้เลยก็ว่าได้ครับ สมกับชื่อรุ่น Fan Edition จริง ๆ

• หน้าจอ : Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.4″ ความละเอียด FHD+ refresh rate 120Hz
• CPU : Exynos 2100 Octa-core 2.9GHz (5nm)
• GPU : Mali-G78 MP14
• RAM : 8GB
• ROM : 128GB/256GB
• แบตเตอรี่ : 4500mAh
• ระบบชาร์จ : ชาร์จไว 25W Super Fast Charge
• กล้องหน้า : 32MP f/2.2
• กล้องหลัง : 3 ตัว
  • 12MP กล้องหลัก f/1.8
  • 12MP กล้อง Ultra Wide f/2.2
  • 8MP กล้อง Tele 3X f/2.4
• การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, Bluetooth 5.0
• ระบบปฏิบัติการ : Android 12 (One UI 4.0)

รีวิวมือถือ OPPO

OPPO A96

OPPO A96 สมาร์ทโฟน A-Series รุ่นล่าสุดที่มาพร้อมสโลแกนสนุก ๆ “เพิ่มความจุ เติมความจอย” เพราะว่ารุ่นนี้มาพร้อมความจุภายในสูงถึง 256GB ใช้งานได้อย่างจุใจไม่ต้องคอยลบอีกต่อไป นอกจากนี้ยังได้ดีไซน์สวย ๆ OPPO Glow พร้อมสีสันใหม่อย่าง Pearl Pink และสเปคที่ไม่ธรรมดาตั้งแต่ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 680 4G แรม 8GB แบตเตอรี่ 5000mAh ชาร์จไว 33W SUPERVOOC

• หน้าจอ : LCD ขนาด 6.59” ความละเอียด FHD (2412 x 1080 พิกเซล)
• refresh rate : 90Hz, Touch Sampling rate 180Hz
• CPU : Snapdragon 680 Octa-Core 2.4GHz (6nm)
• GPU : Adreno 610
• RAM : 8GB (พร้อม RAM Expansion + 5GB)
• ROM : 256GB
• แบตเตอรี่ : 5000mAh
• ระบบชาร์จ : 33W SUPERVOOC
• กล้องหน้า : 16MP f/2.0
• กล้องหลัง : 2 ตัว
  • 50MP กล้องหลัก f/1.8
  • 2MP กล้อง Bokeh f/2.4
• การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.0 และพอร์ต USB Type-C
• ระบบปฏิบัติการ : ColorOS 11.1 บน Android 11

OPPO Find X5 Pro 5G

OPPO Find X5 Pro 5G สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นล่าสุดจาก OPPO ที่เขายกให้เป็นแฟล็กชิพที่ถ่ายวิดีโอกลางคืนได้ดีที่สุดด้วย 4K Ultra Night Video ขับเคลื่อนโดย MariSilicon X และการร่วมมือกับ Hasselblad แบรนด์กล้องระดับตำนานในด้านของสีและฟีเจอร์ที่น่าสนใจ ยกระดับการถ่ายภาพและวิดีโอใหม่ให้กับวงการสมาร์ทโฟนอีกครั้ง นอกจากนี้ในเรื่องดีไซน์ยังโดดเด่นจากแรงบันดาลใจแห่งโลกอนาคต มีสเปคที่สูงสุดทั้งชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 1 แบตเตอรี่ 5000mAh พร้อมระบบชาร์จไว 80W SUPERVOOC อีกต่างหาก

• หน้าจอ : AMOLED ขนาด 6.7” ความละเอียด QHD+ , Dynamic refresh rate 1Hz – 120Hz, รองรับ HDR10+, ความสว่างสูงสุด 1300 nits
• CPU : Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1 แบบมัลติคอร์ (4nm)
• GPU : Adreno 730
• RAM : 12GB (LPDDR5)
• ROM : 256GB (UFS 3.1)
• แบตเตอรี่ : 5000mAh
• ระบบชาร์จ : 80W SUPERVOOC (แบบสาย) 50W AIRVOOC (ไร้สาย)
• กล้องหลัง : 3 ตัว
  • 50MP กล้องหลัก เซ็นเซอร์ Sony IMX766 f/1.7 ระบบกันสั่น 5-axis ระดับ DSLR Glass Element
  • 50MP กล้อง Ultra Wide เซ็นเซอร์ Sony IMX766 f/2.2 มุมกว้าง 110 องศา
  • 13MP กล้อง Tele 2x f/2.4 รองรับ Hybrid Zoom 5x และ Digital Zoom 20x
• กล้องหน้า : 32MP f/2.4 
• รองรับการเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac/6, Bluetooth 5.2, NFC และพอร์ต USB Type-C
• ระบบปฏิบัติการ : Android 12 (ColorOS 12.1)

OPPO Reno7 Z 5G

OPPO Reno7 Z 5G สมาร์ทโฟนรุ่นน้องเล็กจาก OPPO Reno7 Series 5G ที่มาตอกย้ำจุดยืน The Portrait Expert ในราคาที่จับต้องได้มากขึ้นไปอีก รุ่นนี้มาพร้อมความสามารถด้านการถ่ายภาพไม่แพ้รุ่นพี่เลยด้วยฟีเจอร์ Bokeh Flare Portrait, Selfie HDR และอีกเพียบ

• หน้าจอ : AMOLED ขนาด 6.4″ ความละเอียด FHD+ 
• refresh rate : 60Hz
• CPU : Qualcomm Snapdragon 695 5G (6nm)
• RAM : 8GB (+ 5GB RAM Expansion)
• ROM : 128GB
• แบตเตอรี่ : 4500mAh
• ระบบชาร์​จ : ชาร์จไว 33W SUPERVOOC
• กล้องหน้า : 16MP
• กล้องหลัก : 3 ตัว
  • กล้องหลัก 64MP
  • กล้อง Depth 2MP
  • กล้อง macro 2MP
• ระบบปฏิบัติการ : Android 11 ครอบทับด้วย ColorOS 12

OPPO Reno7 5G

OPPO Reno7 5G สมาร์ทโฟนสาย Portrait รุ่นใหม่ที่ออกมาเสริมความครบเครื่องเข้าไปอีกขั้น ด้วยฟีเจอร์กล้องที่ปรับแต่งมาให้น่าใช้งานมากขึ้น ความเก่งกาจของ AI ที่ชวนให้เราทึ่งจากการถ่ายภาพ Portrait ทั้งการปรับระดับความเบลอฉากหลังได้สมจริง โหมด Bokeh Flare Portrait บนภาพนิ่งและวิดีโอที่เนียนตาจนคิดว่าใช้กล้อง DSLR

รูปลักษณ์ก็ยังทำได้น่าตื่นตาสมกับเป็น OPPO ด้วยเทคนิค OPPO Glow พร้อมกับ Laser Direct Imaging (LDI) บนสี Startrails Blue เป็นอีกหนึ่งดีไซน์ที่เราชอบมาก ๆ เลยทีเดียว ส่วนสเปคโดยรวมของรุ่นนี้ก็แทบจะไม่มีจุดต้องติเลย ทั้งหน้าจอ AMOLED 90Hz ที่ลื่นไหล ชิปเซ็ต Mediatek Dimensity 900 5G ที่เร็วแรงตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี ความจุที่ให้มาล้นเหลือ 8GB + 256GB และสามารถขยาย RAM ได้อีก มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4500mAh พร้อมชาร์จไว 65W SUPERVOOC อีกต่างหาก

• หน้าจอ : AMOLED ขนาด 6.4″ ความละเอียด FHD+ refresh rate 90Hz
• CPU : MediaTek Dimensity 900 5G Octa-core2.4GHz (6nm)
• GPU : Mali-G68 MC4
• RAM : 8GB มาพร้อม RAM Expansionสูงสุดถึง 5GB
• ROM : 256GB
• แบตเตอรี่ : 4500mAh
• ระบบชาร์​จ : ชาร์จไว 65W SUPERVOOC
• กล้องหน้า : 32MP Selfie Camera f/2.4
• กล้องหลัก : 3 ตัว
  • 64MP กล้องหลัก f/1.8
  • 8MP กล้อง Ultra Wide Angle f/2.2
  • 2MP กล้อง macro f/2.4
• ระบบปฏิบัติการ : Android 11 ครอบทับด้วย ColorOS 12

รีวิวมือถือ realme

realme GT NEO 3T

realme GT NEO 3T มาพร้อมหน้าจอแสดงผล Samsung E4 AMOLED ขนาด 6.62 นิ้ว ความละเอียด FHD+ กล้องหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 870 5G และแบตเตอรี่ความจุ 5000mAh รองรับ 80W SuperDart Charge

• หน้าจอแสดงผล Samsung E4 AMOLED ขนาด 6.62 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) รองรับ Refresh Rate สูงสุด 120Hz, Touch Sampling Rate 360Hz, HDR10+, Contrast Ratio 5,000,000:1, ความสว่างสูงสุด 1,300 นิต และสัดส่วนพื้นที่ต่อหน้าจอ 92.6%
• หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 870 5G Octa-core ความเร็ว 3.2GHz
• GPU : Adreno 650
• RAM : 6/8GB LPDDR5
• ROM : 128/256GB UFS 3.1
• กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 3 เลนส์ ดังนี้
  • เลนส์หลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.79
  • เลนส์ Ultra-Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.25 มุมกว้าง 119 องศา
  • เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ระยะโฟกัส 4 มม.
• กล้องหน้า In-display Selfie ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.45
• ระบบปฏิบัติการ Android 12 ครอบทับด้วย realme UI 3.0
• รองรับ 5G SA/NSA
• รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6, Bluetooth 5.2, ลำโพงคู่ระบบ Dolby ATMOS และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh รองรับ 80W SuperDart Charge

realme GT NEO 3

realme GT NEO 3 โดดเด่นด้วยดีไซน์จากลวดลายของรถแข่ง (Racing Stripe Design) มีหน้าจอแสดงผล 120Hz Reality Display ชนิด AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว มาพร้อมชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 8100 5G และแบตเตอรี่ความจุ 5000mAh รองรับ 80W SuperDart Charge

• หน้าจอแสดงผล 120Hz Reality Display ชนิด AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2412 x 1080 พิกเซล), แสดงผลแบบ 10-bit (1.07 พันล้านสี) รองรับ Refresh Rate สูงสุด 120Hz, HDR10+, Contrast Ratio 5,000,000:1 และครอบทับด้วย Corning Gorilla Glass 5
• หน่วยประมวลผล : MediaTek Dimensity 8100 5G Octa-core ความเร็ว 2.85GHz
• GPU : ARM Mali-G610 MC6
• RAM : 8/12GB LPDDR5
• ROM : 128/256GB UFS 3.1
• กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 3 เลนส์ 50MP AI Triple Camera ดังนี้
  • เลนส์หลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.88 รองรับเทคโนโลยีกันสั่น OIS เซ็นเซอร์ Sony IMX766
  • เลนส์ Ultra-Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.25 มุมกว้าง 119 องศา
  • เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ระยะโฟกัส 4 มม.
• กล้องหน้า In-display Selfie ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.45
• ระบบปฏิบัติการ Android 12 ครอบทับด้วย realme UI 3.0
• รองรับ 5G SA/NSA
• รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6, Bluetooth 5.3, ลำโพงคู่ระบบ Dolby ATMOS และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh รองรับ 80W SuperDart Charge

realme 9

realme 9 สมาร์ทโฟนระดับ Mid-Range ราคาสุดประหยัดแต่ได้สเปคที่สุดคุ้มมากๆ โดยมาในสโลแกน Capture The Spark ที่ได้กล้องหลังถึง 108 ล้านพิกเซล ใช้ชิป Snapdragon 680 และจอสุดลื่นระดับ 90Hz Super AMOLED อีกด้วย

• หน้าจอแสดงผล 90Hz Ultra Smooth Display ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) รองรับ Refresh Rate 90Hz, 360Hz Touch Sampling Rate, Touch Sampling Rate 360Hz และสัดส่วนพื้นที่หน้าจอที่ 90.8%
• หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 680 Octa-core ความเร็ว 2.4GHz
• GPU : Adreno 610
• RAM : 6/8GB LPDDR4X
• ROM : 128GB UFS2.1 เพิ่ม MicroSD Card สูงสุด 256GB
• กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 3 เลนส์ ดังนี้
  • เลนส์หลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.75 เซ็นเซอร์ Samsung HM6
  • เลนส์ Super-wide Camera ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มุมกว้าง 119 องศา รูรับแสง f/2.2
  • เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ระยะโฟกัส 4 ซม.
• กล้องหน้า AI Beauty Selfie ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.45
• ระบบปฏิบัติการ Android 12 ครอบทับด้วย realme UI 3.0
• รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, 2.4G/5G, Bluetooth 5.1 และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh รองรับชาร์จไว 33W Dart Charge

realme 9 Pro+ Free Fire Limited Edition

realme 9 Pro+ Free Fire Limited Edition สมาร์ทโฟนรุ่นพิเศษที่เกิดจากความร่วมมือกันระหว่าง realme และเกมยอดฮิตอย่าง Free Fire พร้อมสโลแกนสุดเท่อย่าง “Dare to BOOYAH!” ซึ่งความพิเศษของรุ่นนี้มีมากมายตั้งแต่แพ็กเกจ ดีไซน์ตัวเครื่องและซอฟต์แวร์ภายในอีกด้วย เชื่อว่าแฟน ๆ Free Fire ที่ได้เห็นต้องอยากได้แน่นอน

• หน้าจอ : Super AMOLED Display 6.4″ ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล)
• refresh rate : 90Hz, Touch sampling rate 360Hz
• CPU : MediaTek Dimensity 920 5G Octa-core 2.5GHz (6nm)
• GPU : ARM Mali-G68
• RAM : 8GB
• ROM : 128GB
• แบตเตอรี่ : 4500mAh
• ระบบชาร์จไว : 60W SuperDart Charge
• กล้องหน้า : In-display Selfie 16MP f/2.4
• กล้องหลัง : 3 ตัว
  • 50MP กล้องหลักเซ็นเซอร์ Sony IMX 766 f/1.8 พร้อมระบบกันสั่น OIS+EIS
  • 8MP กล้อง Ultra Wide Angle f/2.2 มุมกว้าง 119º
  • 2MP กล้อง Macro f/2.4 ระยะโฟกัส 4 ซม.
• รองรับการใช้งานเครือข่าย 5G+5G Dual Mode
• รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax (Wi-Fi 6), Bluetooth 5.2 และพอร์ต USB Type-C
• ระบบปฏิบัติการ Android 12 ครอบทับด้วย realme UI 3.0

realme narzo 50

realme narzo 50 มาพร้อมดีไซน์ที่โดดเด่น ฝาหลังมีลวดลายเคฟล่าร์ที่สื่อถึงความเร็ว ได้แรงบันดาลใจมาจากรถแข่ง มาพร้อมหน้าจอ LCD ขนาด 6.6″ ความละเอียด FHD+ (2412 x 1080 พิกเซล) ใช้ดีไซน์แบบ Punch Hole Display แสดงผลได้ดีทีเดียว สีสันและความคมชัดอยู่ในระดับที่น่าพอใจเลยล่ะครับ

• หน้าจอ : LCD ขนาด 6.6″ความละเอียด FHD+ (2412 x 1080 พิกเซล)
• refresh rate : 120Hz
• CPU : MediaTek Helio G96 Octa-core 2.05GHz (12nm)
• GPU : Mali-G57 MC2
• RAM : 4GB/6GB
• ROM : 64GB/128GB
• รองรับ micro-SD : 1TB
• แบตเตอรี่ : 5000mAh
• ระบบชาร์จ : ชาร์จไว 33W Dart Charge
• กล้องหน้า : 16MP f/2.05
• กล้องหลัก : 3 ตัว
  • กล้องหลัก 50MP f/1.8
  • กล้อง macro 2MP f/2.4
  • กล้อง B&W 2MP f/2.8
• ระบบปฏิบัติการ : Android 11 ครอบทับด้วย realme UI 2.0

realme GT 2 Pro 5G

realme GT 2 Pro 5G สมาร์ทโฟนระดับท็อปสุดของแบรนด์ในตอนนี้ครับ ไม่ว่าจะเป็นขุมพลัง Snapdragon 8 Gen 1, หน้าจอ 2K AMOLED แบบ 120Hz ทั้งยังมีกล้องหลังคมชัดสูงสุด 50 ล้านพิกเซลถึง 2 เลนส์ และมีฟีเจอร์กล้องต่างๆ ที่ไม่ซ้ำใครอีกด้วย

• หน้าจอแสดงผล Super Reality แบบ 2K AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด WQHD+ (3216 x 1440 พิกเซล),525 PPI, รองรับ Refresh Rate 1-120Hz ควบคู่ 1000Hz Touch Sampling Rate, Contrast Ratio 5,000,000:1 มีความสว่างสูงสุด 1,400 นิต และครอบทับด้วย Corning Gorilla Glass Victus
• หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1 Octa-core ความเร็ว 3.0GHz
• RAM : 8/12GB LPDDR5
• ROM : 128/256/512GB UFS 3.1
• กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 3 เลนส์ ดังนี้
  • เลนส์หลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 รองรับเทคโนโลยีกันสั่น OIS เซ็นเซอร์ Sony IMX 766
  • เลนส์ Ultra-Wide Angle ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 มุมกว้าง 150 องศา เซ็นเซอร์ Samsung ISOCELL JN1
  • เลนส์ Ultra-macro ระยะโฟกัส 4.7 มม.
• กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 เซ็นเซอร์ IMX615
• ระบบปฏิบัติการ Android 12 ครอบทับด้วย realme UI 3.0
• รองรับ 5G SA/NSA
• รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6, Bluetooth 5.2, ลำโพงคู่ระบบ Dolby ATMOS และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh รองรับ 65W SuperDart Charge

realme C35

รีวิว realme C35 แม้จะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นเล็ก แต่ดีไซน์ก็ได้ความสวยงามตั้งแต่ขอบแบบ 2D แล้ว ซึ่งหาแทบไม่ได้ในสมาร์ทโฟนราคาใกล้เคียงกันครับ และสิ่งที่ชอบในรุ่นนี้มากๆ เลยคือกล้องหลัง 50 ล้านพิกเซล ที่ทำได้ดีมากๆ ใครใช้ถ่ายภาพตอนไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ เพื่ออัปลงโซเชียลทั่วไปรับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน แทบไม่ต้องมาปรับอะไรเพิ่มแล้ว

การใช้งานทั่วไป ชิป Unisoc T616 เพียงพอต่อการใช้งานรวมถึงการเล่นเกมที่กราฟิกไม่ได้สูงก็ทำได้ไหลลื่นเหมือนกัน และรุ่นนี้จอใหญ่ 6.6 นิ้ว คมชัด FHD+ โดยยังมีอัตราส่วนหน้าจอสูงถึง 90.7% ซึ่งน่าจะถูกใจคนที่เน้นความบันเทิงเป็นหลักแน่นอนครับ

• หน้าจอแสดงผล LCD ขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2408 x 1080 พิกเซล) พร้อมสัดส่วนพื้นที่หน้าจอ 90.7%
• หน่วยประมวลผล : Unisoc T616 Octa-core ความเร็วสูงสุด 2.0GHz
• RAM : 4GB
• ROM : 64/128GB เพิ่ม microSD Card ได้สูงสุด 256GB
• กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 3 เลนส์ ดังนี้
  • เลนส์หลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8
  • เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ระยะโฟกัส 4 ซม.
  • เลนส์ B&W ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.8
• กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX355
• ระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย realme UI R Edition
• รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.0 และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh รองรับ 18W Fast Charge

realme 9i

realme 9i เป็นรุ่นที่สมราคากับคำว่า “ขุมพลังเหนือระดับ” ตามสโลแกนของรุ่นนี้เลยครับ ได้ทั้งความเร็วตั้งแต่หน้าจอที่ไหลลื่นแบบ 90Hz, ขุมพลัง Snapdragon 680 ที่เป็นชิปตัวกลางที่มีความแรงพอตัว เล่นเกมหลายเกมได้แบบสบายมากๆ แถมเฟรมเรทก็นิ่งอีกด้วย

กล้องที่มีให้ใช้กันหลากหลายฟีเจอร์ ความละเอียดสูงสุดถึง 50 ล้านพิกเซล รองรับเทคโนโลยี AI ที่จะมีการแบ่งแยกหมวดหมู่ได้แม่นยำ ซึ่งเพียงพอกับคนที่ใช้เพื่อถ่ายภาพเวลาไปเที่ยวได้แบบครบถ้วน และที่ขาดไปไม่ได้เลยคือดีไซน์ที่ดูเกินราคาพร้อมงานประกอบที่แข็งแรงมากๆ ครับ

• หน้าจอแสดงผล LCD ขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2412 x 1080 พิกเซล) 401PPI, Refresh Rate 90Hz, Touch Sampling Rate 180Hz และความสว่าง 480 นิต
• หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 680 Octa-core
• RAM : 6GB
• ROM : 128GB รองรับการใส่ MicroSD Card สูงสุด 1TB
• กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 3 เลนส์ ดังนี้
  • เลนส์หลัก Ultra HD ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8
  • เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ระยะโฟกัส 4 ซม.
  • เลนส์ B&W Portrait ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
• กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
• ระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย realme UI 2.0
• รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.1 และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh รองรับ Dart Charge 33W

รีวิวมือถือ HUAWEI

HUAWEI P50

HUAWEI P50 สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นน้องใน P50 Series ที่ตามรอยรุ่นพี่มาแบบติด ๆ แม้รุ่นนี้จะไม่มีชื่อ Pro ตามท้าย แต่ในเรื่องความสามารถที่ได้มาก็ไม่ได้ด้อยลงไปเลย ทั้งในเรื่องกล้องที่ได้การพัฒนาร่วมกับ LEICA เหมือนกัน มีหน้าจอ True-Chroma Display 6.5″ ใช้ชิปเซ็ตระดับเรือธง Snapdragon 888 4G และได้ระบบชาร์จไว 66W อีกอื่น ๆ อีกเพียบ

• หน้าจอ : OLED 10-Bit 10.7 พันล้านสี ขนาด 6.5” ความละเอียด 2700 x 1224 พิกเซล
• refresh rate : 90Hz
• CPU : Snapdragon 888 4G Octa-core 2.84GHz (5nm)
• GPU : Adreno 660
• RAM : 8GB
• ROM : 256GB
• แบตเตอรี่ : 4100mAh
• ระบบชาร์จ : HUAWEI SuperCharge 66W
• กล้องหลัง : 3 ตัว
  • 50MP กล้องหลัก True-Colour f/1.8, OIS
  • 13MP กล้อง Ultra-Wide Angle f/2.2
  • 12MP กล้อง Periscope 5X f/3.4, OIS
• กล้องหน้า : 13MP f/2.4 มุมกว้าง 100º
• ระบบปฏิบัติการ : EMUI 12

HUAWEI nova 9 SE

HUAWEI nova 9 SE สมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับนวัตกรรมกล้องหลัง 108 ล้านพิกเซลรุ่นแรกของ HUAWEI โดยรุ่นนี้เป็นรุ่นที่เน้นการกล้องเป็นพิเศษที่ให้ความคมชัดสูง รวมถึงสเปคที่ใช้งานได้ไหลลื่น และชาร์จเร็ว 66W HUAWEI SuperCharge

• หน้าจอแสดงผล HUAWEI FullView Display ชนิด IPS LCD ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2388 x 1080 พิกเซล), 387PPI รองรับ Refresh Rate 90Hz, 270Hz Touch Sampling Rate, P3 Wide Color Gamut และมีสัดส่วนพื้นที่หน้าจอที่ 94.85%
• หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 680 Octa-core
• RAM : 8GB
• ROM : 128GB
• กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 4 เลนส์ AI Quad Camera ดังนี้
  • เลนส์หลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.9
  • เลนส์ Ultra-Wide Angle มุมกว้าง 112 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
  • เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ระยะโฟกัส 4 ซม.
  • เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
• กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 มุมกว้าง 90 องศา
• ระบบปฏิบัติการ EMUI 12.0.1
• รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.1 และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่ความจุ 4000mAh รองรับ 66W HUAWEI SuperCharge

HUAWEI P50 Pocket Premium Edition

HUAWEI P50 Pocket เป็นสมาร์ทโฟนฝาพับที่หรูหราสมการรอคอยสำหรับแฟน ๆ ยิ่งเป็นรุ่น Premium Edition ที่เราได้มารีวิวเป็นสีทอง Premium Gold พร้อมลวดลาย 3D ที่ออกแบบโดยดีไซเนอร์ชื่อดังแล้วด้วย เรื่องรูปลักษณ์ดีไซน์ ไม่เป็นรองใครแน่นอน แถมยังได้รูปแบบบานพับแบบใหม่ที่ออกแบบมาพิเศษลดรอยพับไม่ให้เด่น แถมเวลาพับก็แนบสนิทอีก ยิ่งเสริมความสมบูรณ์แบบเข้าไปอีก

เรื่องสเปคก็จัดเต็มมาแบบไม่มีกั๊กทั้งหน้าจอ OLED 6.9″ ระดับ 10 bit ที่สีสันสวยงาม คมชัดสุด ๆ ชิปเซ็ตระดับแนวหน้าอย่าง Snapdragon 888 ความจุระดับ 12GB + 512GB และที่ขาดไม่ได้คือแบตเตอรี่ที่จุเยอะถึง 4000mAh พร้อมชาร์จไว 40W เรียกว่าสูงที่สุดในกลุ่มสมาร์ทโฟนฝาพับเลยทีเดียว แต่แน่นอนว่ารุ่นนี้ก็ยังมีจุดสังเกตที่น่าพิจารณาอยู่บ้างคือเรื่องเครือข่ายที่รองรับแค่ 4G การใช้งาน HMS ที่อาจจะยังไม่สะดวก 100% สำหรับผู้ใช้ที่ไม่ต้องการความซับซ้อนในการโหลดแอปและเรื่องความร้อนแล้วใช้งานกล้องได้ติดขัดอยู่บ้าง แต่ถ้ามองข้าม 3 สิ่งนี้ไปได้ HUAWEI P50 Pocket รุ่นนี้ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสมาร์ทโฟนฝาพับที่เราแนะนำเลยจริง ๆ ครับ

• หน้าจอ : OLED 10-Bit 10.7 พันล้านสี ขนาด 6.9” ความละเอียด 2790 x 1188 พิกเซล refresh rate 120Hz, Touch Sampling rate 300Hz
• CPU : Snapdragon 888 4G Octa-core 2.84GHz (5nm)
• GPU : Adreno 660
• RAM : 12GB
• ROM : 512GB
• แบตเตอรี่ : 4000mAh
• ระบบชาร์จ : HUAWEI SuperCharge 40W
• กล้องหลัง : 3 ตัว
  • 40MP กล้องหลัก True-Chroma f/1.8
  • 13MP กล้อง Ultra-Wide Angle f/2.2
  • 32MP กล้อง Ultra Spectrum f/1.8
• กล้องหน้า : 10.7MP f/2.2
• ระบบปฏิบัติการ : EMUI 12 บน Android 11 (บริการ HMS)

HUAWEI P50 Pro

HUAWEI P50 Pro ก็เป็นอีกหนึ่งเรือธงที่ชูเรื่องกล้องมาเป็นที่ 1 และก็ทำได้ดีตามมาตรฐานครับ ทั้งภาพนิ่งที่ยังเก่งเหมือนเดิม มีเทคโนโลยีใหม่ ๆ มากมายที่ทำให้ภาพสวยและสมจริงขึ้น การกลับมาของกล้อง Mono ก็ช่วยให้เราสนุกไปกับการถ่ายภาพขาว-ดำอีกครั้ง ระยะต่าง ๆ ของเลนส์ก็ให้มาครบแม้ช่วงซูมจะไม่หวือหวาเท่ารุ่นก่อน ๆ แต่ก็ยังทำได้น่าประทับใจ

เรื่องสำคัญอย่างซอฟต์แวร์ที่ต้องทำงานผ่าน HMS ก็ดูจะค่อย ๆ ปรับแก้ให้ดีขึ้นได้ด้วย Petal Search และ G Space จนเพียงพอต่อการใช้งานได้เยอะแล้ว อีกทั้งฮาร์ดแวร์งานประกอบตัวเครื่องที่หรูหรา หน้าจอ OLED ที่สวยสมจริง แบตเตอรี่ใช้งานได้ดีพร้อมชาร์จไว 66W ก็ยังเป็นรุ่นที่เราเชื่อว่าแฟน ๆ HUAWEI หลายคนคงตกหลุมรักได้ไม่ยากจริง ๆ ครับ

• หน้าจอ : OLED 10-Bit 10.7 พันล้านสี ขนาด 6.6” ความละเอียด 2700 x 1228 พิกเซล refresh rate 120Hz, Touch Sampling rate 300Hz
• CPU : Snapdragon 888 4G Octa-core 2.84GHz (5nm)
• GPU : Adreno 660
• RAM : 8GB
• ROM : 256GB
• แบตเตอรี่ : 4360mAh
• ระบบชาร์จ : HUAWEI SuperCharge 66W
• กล้องหลัง : 4 ตัว
  • 50MP กล้องหลัก True-Colour f/1.8, OIS
  • 40MP กล้อง Mono True-Colour f/1.6
  • 13MP กล้อง Ultra-Wide Angle f/2.2
  • 64MP กล้อง SuperZoom f/3.5, OIS รองรับ AF
• กล้องหน้า : 13MP f/2.4 มุมกว้าง 100º
• ระบบปฏิบัติการ : EMUI 12

รีวิวมือถือ vivo

vivo X80 5G

vivo X80 5G โดดเด่นด้วยกล้องหลังดีไซน์แบบ Ceramic Cloud Window เพื่อเน้นกล้องแบบจริงจังขึ้นไปอีก และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือโลโก้ ZEISS T* Coating ที่บ่งบอกถึงการร่วมมือกันอีกครั้งของแบรนด์สมาร์ตโฟนชั้นนำอย่าง vivo และแบรนด์กล้องระดับแถวหน้าอย่าง ZEISS ครับ

• หน้าจอ : AMOLED ขนาด 6.78″ ความละเอียด FHD+
• refresh rate : 120Hz
• CPU : Dimensity 9000 Octa-core 3.05GHz (4nm)
• GPU : Mali-G710 MC10
• RAM : 12GB
• ROM : 256GB
• แบตเตอรี่ : 4500mAh
• ระบบชาร์จไว : 80W Flash Charge 
• กล้องหน้า : 32MP f/2.45
• กล้องหลัก : 3 ตัว
  • กล้องหลัก 50MP f/1.79
  • กล้อง Ultra Wide Angle 12MP f/1.98
  • กล้อง Tele 2X 12MP f/2.0
• ระบบปฏิบัติการ : Android 12 ครอบทับด้วย Funtouch OS 12
• การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac/6, Bluetooth 5.2 และพอร์ต USB Type-C

vivo X80 Pro 5G

ทั้ง vivo X80 5G และ vivo X80 Pro 5G ก็เป็นสองสมาร์ตโฟนเรือธงเพื่อการถ่ายภาพที่ยกเครื่องใหม่ได้น่าสนใจมาก ๆ ทั้งการถ่ายภาพที่เก่งขึ้น ถ่ายสนุกขึ้นด้วยฟีเจอร์จาก ZEISS Portrait Style และวิดีโอที่เปลี่ยนนิยามไปด้วย ZEISS Cinematic Video เรียกว่าครบจบสำหรับสายกล้องเทพอย่างแท้จริง

• หน้าจอ : AMOLED ขนาด 6.78″ ความละเอียด WQHD+
• refresh rate : 120Hz
• CPU : Snapdragon 8 Gen 1 Octa-core 3GHz (4nm)
• GPU : Adreno 730
• RAM : 12GB
• ROM : 256GB
• แบตเตอรี่ : 4700mAh
• ระบบชาร์จไว : 80W Flash Charge 
• กล้องหน้า : 32MP f/2.45
• กล้องหลัก : 4 ตัว
  • กล้องหลัก 50MP f/1.57
  • กล้อง Ultra Wide 48MP f/2.2
  • กล้อง Tele 2X 12MP f/1.85
  • กล้อง Periscope 5X 8MP f/3.4
• ระบบปฏิบัติการ : Android 12 ครอบทับด้วย Funtouch OS 12
• การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac/6, Bluetooth 5.2 และพอร์ต USB Type-C

vivo T1 5G

vivo T1 5G มาพร้อม Turbo Design ที่มีทั้งความทันสมัย และความโดดเด่นที่น่าสัมผัสมาก ๆ ด้วยเทคโนโลยี AG ทำให้ได้สัมผัสแสนสบาย ไร้รอยนิ้วมือ และหน้าจอ 6.44 นิ้ว 90Hz ใช้ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 778G 5G และแบตเตอรี่ชาร์จไว 66W vivo Flash Charge

• หน้าจอ : AMOLED ขนาด 6.44″ ความละเอียด FHD+
• refresh rate : 90Hz
• CPU : Qualcomm Snapdragon 778G 5G (6nm)
• RAM : 8GB + 4GB Extended RAM
• ROM : 128GB
• แบตเตอรี่ : 4700mAh
• ระบบชาร์​จ : ชาร์จไว 66W vivo Flash Charge
• กล้องหน้า : 16MP
• กล้องหลัง : 3 ตัว
• กล้องหลัก 64MP f/1.79
• กล้อง Ultra Wide 8MP f/2.2
• กล้อง macro 2MP f/2.4
• ระบบปฏิบัติการ : Android 11 ครอบทับด้วย Funtouch OS 12

vivo T1x

vivo T1x ยังคงความพรีเมี่ยมไม่แพ้รุ่นพี่ (T1 5G) ใช้ฝาหลังผิวด้านที่ให้สัมผัสที่เนียนมือและไม่เก็บคราบรอยนิ้วมือจนเกินไป มาพร้อมหน้าจอ LCD In-Cell ขนาด 6.58″ พร้อมความละเอียดสูง FHD+ ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 680 และแบตเตอรี่ 5000mAh ชาร์จไว 18W Fast Charge

• หน้าจอ : LCD In-Cell ขนาด 6.58″ ความละเอียด FHD+
• refresh rate : 90Hz
• CPU : Qualcomm Snapdragon 680 (6nm)
• RAM : 4GB + 1GB Extended RAM
• ROM : 64GB
• แบตเตอรี่ : 5000mAh
• ระบบชาร์​จ : ชาร์จไว 18W Fast Charge
• กล้องหน้า : 8MP
• กล้องหลัง : 3 ตัว
• กล้องหลัก 50MP f/1.8
• กล้อง macro 2MP f/2.4
• กล้อง Depth 2MP f/2.4
• ระบบปฏิบัติการ : Android 11 ครอบทับด้วย Funtouch OS 12

vivo Y33T

vivo Y33T สมาร์ตโฟนสุดคุ้มรุ่นใหม่จากแบรนด์ vivo รุ่นนี้มาพร้อมชิปเซ็ต Snapdragon 680, กล้องหลัง 50MP, หน้าจอขนาดใหญ่ 6.58″, พร้อมแบตเตอรี่ 5000mAh และดีไซน์ที่สวยเด่นไม่เหมือนใคร

• หน้าจอ : LCD ขนาด 6.58” ความละเอียด FHD+ (2408 x 1080 พิกเซล) refresh rate 90Hz
• CPU : Snapdragon 680 Octa-Core 2.4GHz (6nm)
• GPU : Adreno 610
• RAM : 8GB (พร้อมฟีเจอร์ Extend RAM 2.0 + 4GB)
• ROM : 128GB
• แบตเตอรี่ : 5000mAh
• ระบบชาร์จ : 18W Fast Charge
• กล้องหน้า : 16MP f/2.0
• กล้องหลัง : 3 ตัว
  • 50MP กล้องหลัก f/1.8
  • 2MP กล้อง Bokeh f/2.4
  • 2MP กล้อง macro f/2.4
• การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.0 และพอร์ต USB Type-C
• ระบบปฏิบัติการ : FunTouch OS 12 บน Android 11
• สีสัน : สีดำ Mirror Black, สีทอง Starry Gold

vivo Y21T

vivo Y21T นับว่าเป็นหนึ่งในสมาร์ตโฟนระดับกลางที่คุ้มค่ามากๆ ในการใช้งานแบบครบเครื่องครับ ไม่ว่าจะเป็นคนที่ใช้เพื่อทำงานส่งเมลหรือถ่ายภาพที่ได้กล้องความละเอียดสูง 50MP หรือจะสายโซเชียลเล่น Facebook, YouTube หรือดูซีรี่ย์ต่างๆ ที่การใช้งานเหล่านี้ทำได้รวดเร็ว

ตัวเครื่องมาพร้อมชิป Snapdragon 680 ควบคู่กับ RAM 6GB เข้ามาช่วยให้ไหลลื่นมากขึ้น ที่สำคัญสเปคนี้ก็สามารถเล่นเกมชื่อดังต่างๆ ได้ดี และเครื่องก็ไม่ร้อนจนเกินไปเมื่อเล่นเป็นเวลานานครับ และที่ชอบสุดๆ เลยคือแบตเตอรี่ 5000mAh ที่อึดมากจริงๆ ครับ

• หน้าจอแสดงผล LCD ขนาด 6.51 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1600 x 720 พิกเซล) อัตราส่วน 20:9 มีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องอยู่ที่ 89%
• หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 680 Octa-core ความเร็วสูงสุด 2.4GHz
• RAM : 6GB (+ 2GB Extended RAM)
• ROM : 128GB รองรับการใส่ MicroSD Card สูงสุด 1TB
• กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 3 เลนส์ ดังนี้
  • เลนส์หลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8
  • เลนส์ Super Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
  • เลนส์ Super Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ระยะโฟกัส 4 ซม.
• กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8
• ระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย Funtouch OS 12
• รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.0 และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh รองรับ 18W FastCharge

vivo V23 5G

vivo V23 5G เป็นสมาร์ตโฟนที่ออกมาตอบโจทย์สายเซลฟี่อย่างแท้จริงด้วยกล้องหน้าคู่ 50MP AF คุณภาพเยี่ยมมาก เซลฟี่ได้เหนือระดับพร้อมเทคโนโลยีมากมายแถมยังมีกล้อง Wide angle มุมกว้าง 105º ที่ช่วยให้เราเก็บภาพเซลฟี่ได้กว้างกว่าที่เคย

อีกจุดที่เราชอบมาก ๆ บนรุ่นนี้ก็คือดีไซน์ที่สวยงามอลังงานด้วยบอดี้กระจกพร้อมกรอบอลูมิเนียมสุดหรูพร้อมฟีเจอร์ฝาหลังเปลี่ยนสี Color-Changing Glass ที่สร้างสรรค์และเปลี่ยนดีไซน์ในแบบเดิม ๆ ได้เป็นอย่างดี แค่ 2 อย่างเรื่องกล้องหน้าและดีไซน์นี้ก็น่าจะดึงดูดแฟน ๆ ได้ไม่ยากแล้ว ในเรื่องสเปคภายใน vivo V23 5G ก็ไม่น้อยหน้าทั้งชิปเซ็ต Dimensity 920 (6nm) หน้าจอ AMOLED 6.44″ 90Hz ความจุเยอะถึง 12GB + 256GB แบตเตอรี่ใหญ่ 4200mAh ชาร์จไว 44W จะมีจุดสังเกตอยู่นิดหน่อยก็คงเป็นเรื่องลำโพงของตัวเครื่องที่เป็นแบบ mono เท่านั้น นอกนั้นถือว่าสมบูรณ์แบบเลยล่ะครับ

• หน้าจอ : AMOLED ขนาด 6.44” ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) refresh rate 90Hz
• CPU : MediaTek Dimensity 920 Octa-core 2.5GHz (6nm)
• GPU : Mali-G68 MC4
• RAM : 12GB (พร้อมฟีเจอร์ Extend RAM 2.0 + 4GB)
• ROM : 256GB
• แบตเตอรี่ : 4200mAh
• ระบบชาร์จ : 44W vivo FlashCharge
• กล้องหน้า : 2 ตัว
  • 50MP กล้องหลัก AF f/2.0
  • 8MP กล้อง Wide-angle f/2.28
• กล้องหลัง : 3 ตัว
  • 64MP กล้องหลัก f/1.89
  • 8MP กล้อง Ultra-Wide Angle f/2.2
  • 2MP กล้อง macro f/2.4
• ระบบปฏิบัติการ : FunTouch OS 12 บน Android 12
• การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.2 และพอร์ต USB Type-C

รีวิวมือถือ OnePlus

OnePlus 10 Pro 5G

OnePlus 10 Pro 5G จัดว่าเป็นหนึ่งสมาร์ทโฟนเรือธงที่ลงตัวมากจากที่เคยใช้งานมา ดีไซน์ทำได้พรีเมี่ยมควบคู่กับการได้สัมผัสฝาหลังที่แตกต่างแบบชัดเจน มีความเบาบางแม้ตัวเครื่องจะได้หน้าจอใหญ่ก็ตามครับ ส่วนเทคโนโลยีที่ได้ในรุ่นนี้ก็ครบถ้วนสุดๆ แล้ว

รุ่นนี้มีหน้าจอ Fluid AMOLED แบบ 120Hz ที่มาแบบ LTPO 2.0 ปรับได้เองเพื่อประหยัดพลังงาน คมชัดระดับ QHD+ ไปอีก, ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 1 ที่เรื่องความแรงนั้นเป็นที่ 1 ใน Android อยู่แล้ว และที่ขาดไม่ได้เลยคือกล้องหลัง 3 เลนส์ที่มีการพัฒนาร่วมกับทาง Hasselblad ที่ไม่ว่าจะเป็นคุณที่ชอบถ่ายรูปอยู่แล้วหรือผู้ใช้งานทั่วไปจะต้องหลงรักกับเอกลักษณ์นี้แน่นอน

• หน้าจอแสดงผล 120Hz Fluid AMOLED พร้อม LTPO 2.0 ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด QHD+ (3216 x 1440 พิกเซล), 525 PPI, อัตราส่วน 20.1:9, รองรับ Refresh Rate 1-120Hz, แสดงผลสี 10-bit และครอบทับด้วย Corning Gorilla Glass Victus
• หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1 Octa-core ความเร็ว 3.0GHz
• GPU : Adreno 730
• RAM : 12GB LPDDR5
• ROM : 1256GB UFS 3.1 2-LANE
• กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 3 เลนส์ที่พัฒนาร่วมกับ Hasselblad ดังนี้
  • เลนส์หลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 รองรับเทคโนโลยีกันสั่น OIS เซ็นเซอร์ Sony IMX789
  • เลนส์ Ultra-Wide Angle ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล มุมกว้าง 150 องศา, เซ็นเซอร์ JN1
  • เลนส์ Telephoto 3.3x ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 รองรับเทคโนโลยีกันสั่น OIS
• กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รองรับเทคโนโลยีกันสั่น EIS และเซ็นเซอร์ IMX615
• ระบบปฏิบัติการ Android 12 ครอบทับด้วย OxygenOS 12
• รองรับ 5G SA/NSA
• รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6, Bluetooth 5.2, ลำโพงคู่ระบบ Dolby ATMOS, NFC และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh รองรับ 80W SUPERVOOC, 50W AIRVOOC และชาร์จย้อนกลับ

OnePlus Nord CE 2 5G

OnePlus Nord CE 2 5G สมาร์ทโฟนรุ่นเล็กที่ให้มากกว่าที่คิดตามสโลแกน “A little more than you’d expect” ไม่ว่าจะเป็นชาร์จเร็ว 65W SUPERVOOC, กล้องหลัง 3 ตัวผสานด้วย AI, จอ Fluid AMOLED แบบ 90Hz และอื่นๆ อีกเพียบ

• หน้าจอแสดงผล Fluid AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล), 409ppi, อัตราส่วน 20:9 รองรับ Refresh rate 90Hz, HDR10+ และครอบทับด้วย Corning Gorilla Glass 5
• หน่วยประมวลผล : MediaTek Dimensity 900 Octa-core
• RAM : 8GB LPDDR4X
• ROM : 128GB UFS2.2 เพิ่ม MicroSD Card สูงสุด 1 TB
• กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 3 เลนส์ ดังนี้
  • เลนส์หลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.79
  • เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 มุมกว้าง 119
  • เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ระยะโฟกัส 4 ซม.
• กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
• ระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย OxygenOS 11.3
• รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax, 2.4G/5G, Bluetooth 5.2, NFC และพอร์ต USB Type-C
• รองรับ 5G
• แบตเตอรี่ความจุ 4500mAh รองรับชาร์จไว 65W SUPERVOOC

รีวิวมือถือ Xiaomi

Redmi 10A

Redmi 10A มีกล้อง 13 ล้านพิกเซล และแบตเตอรี่พลังอึดถึง 5000mAh ตามสโลแกน “13MP Dual Camera, 5000mAh Battery” ซึ่งรุ่นนี้จัดว่าเป็นหนึ่งในรุ่นที่ราคาประหยัดและตอบโจทย์สำหรับคนที่หาไว้ใช้งานทั่วไปสักรุ่นแน่นอน

• หน้าจอแสดงผล  Dot Drop Display ขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1600 x 720 พิกเซล)
• หน่วยประมวลผล : MediaTek Helio G25 Octa-core ความเร็ว 2.0GHz
• GPU : PowerVR8320 
• RAM : 3GB
• ROM : 64GB เพิ่ม MicroSD Card สูงสุด 1TB
• กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 2 เลนส์ ดังนี้
  • เลนส์หลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
  • เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
• กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
• ระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย MIUI 12.5
• รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g, 2.4G, Bluetooth 5.0 และพอร์ต Micro USB 2.0
• แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh ชาร์จ 10W

Redmi 10 2022

Redmi 10 2022 สมาร์ทโฟนในสโลแกน “Level Up!” ที่ได้ความแรงจากขุมพลัง Helio G88 หน้าจอแสดงผล DotDisplay ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับเทคโนโลยี AdaptiveSync  พร้อมด้วยแบตเตอรี่ใหญ่และชาร์จเร็วอีกด้วย

• หน้าจอแสดงผล DotDisplay ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) รองรับ Refresh Rate 90Hz แบบ AdaptiveSync และครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 3
• หน่วยประมวลผล : MediaTek Helio G88 Octa-core ความเร็ว 2.0GHz
• GPU : Mali-G52 
• RAM : 4GB
• ROM : 128GB เพิ่ม MicroSD Card สูงสุด 512GB
• กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 4 เลนส์ 50MP AI Quad Rear Camera ดังนี้
  • เลนส์หลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8
  • เลนส์ Ultra-Wide Camera ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มุมกว้าง 120 องศา รูรับแสง f/2.2
  • เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ระยะโฟกัส 4 ซม.
  • เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
• กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0
• ระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย MIUI 12.5
• รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, 2.4G/5G, Bluetooth 5.1, IR Blaster, NFC และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh รองรับชาร์จไว 18W Fast Charging

POCO F4 GT

POCO F4 GT มาพร้อมสโลแกน “ที่สุดแห่งขุมพลัง” The apex of power จัดหนักด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 1 พร้อมจอ AMOLED ขนาดใหญ่เต็มตาที่ 6.67 นิ้ว แบบ 120Hz และแบตเตอรี่ความจุ 4700mAh รองรับชาร์จไว 120W HyperCharge

• หน้าจอแสดงผล AMOLED DotDisplay ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) อัตราส่วน 20:9 รองรับ Refresh Rate สูงสุด 120Hz
• หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1 Octa-core ความเร็ว 3.0GHz
• RAM : 8/12GB LPDDR5
• ROM : 128/256GB UFS 3.1
• กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 3 เลนส์ ดังนี้
  • เลนส์หลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.9 เซ็นเซอร์ IMX686
  • เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 มุมกว้าง 120 องศา
  • เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ระยะโฟกัส 4 ซม.
• กล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 เซ็นเซอร์ IMX596
• ระบบปฏิบัติการ Android 12 ครอบทับด้วย MIUI 13 for POCO
• รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax, Wi-Fi 6E (2.4G/5GHz/6GHz), NFC, Bluetooth 5.2, NFC และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่ความจุ 4700mAh รองรับชาร์จไว 120W HyperCharge

Xiaomi 12 Pro

Xiaomi 12 Pro ชูจุเด่นในเรื่องกล้องขึ้นไปอีกระดับด้วยสโลแกน “Master every scene” มีกล้องสามตัวระดับโปรความละเอียดสูง 50MP ชิปเซ็ตตัวแรง Snapdragon 8 Gen 1 หน้าจอสวยคมระดับ 10 bit หรือจะเป็นระบบชาร์จ HyperCharge 120W อีก

• หน้าจอ : AMOLED DotDisplay ขนาด 6.73″ แบบ 10-bit ความละเอียด WQHD+
• ความสว่างสูงสุด : 1500nits
• refresh rate : Dynamic 120Hz LTPO
• CPU : Snapdragon 8 Gen 1 (4nm)
• GPU : Adreno 730
• RAM : 12GB
• ROM : 256GB
• แบตเตอรี่ : 4600mAh
• ระบบชาร์จ : ชาร์จไวแบบสาย 120W HyperCharge, ไร้สาย 50W, Reverse Wireless Charging 10W
• กล้องหน้า : 32MP f/2.45
• กล้องหลัก : 3 ตัว
  • กล้องหลัก 50MP (Sony IMX707) f/1.9
  • กล้อง Ultra Wide-angle 50MP f/2.2
  • กล้อง Tele 2X 50MP f/1.9
• ระบบเสียง : ลำโพง 4 ตัว Stereo ปรับจูนโดย Harman/Kardon
• ระบบปฏิบัติการ : Android 12 ครอบทับด้วย MIUI 13

POCO X4 Pro 5G

POCO X4 Pro 5G เป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจมากๆ สเปคที่ได้มาเทียบเท่ากับเรือธงเลยทีเดียว แต่มาในราคาที่ประหยัดมากๆ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ 120Hz ที่ทำได้ลื่นไหลมากจริงๆ รวมถึงการรองรับ 5G, กล้อง 108 ล้านพิกเซลพร้อมฟีเจอร์อื่นแบบครบถ้วน, แบตก็อึด ชาร์จก็ไวมากๆ และดีไซน์ที่ทำได้ออกมาสะดุดตามากๆ ใครที่มองหาสักรุ่นสเปคดีๆ ราคาจับต้องได้ก็น่าจะเป็นตัวเลือกแรกๆ ที่ไม่ควรมองข้ามเลยครับ

• หน้าจอแสดงผล AMOLED DotDisplay ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) มี Contrast Ratio 4,500,000:1 รองรับ Refresh Rate 120Hz, 360Hz Touch Sampling Rate และครอบทับด้วย Corning Gorilla Glass 5
• หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 695 5G Octa-core ความเร็วสูงสุด 2.2GHz
• RAM : 6/8GB LPDDR4X
• ROM : 128/256GB เพิ่ม microSD Card ได้สูงสุด 1TB
• กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 3 เลนส์ ดังนี้
  • เลนส์หลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.9
  • เลนส์ Ultra-Wide Angle มุมกว้าง 118 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
  • เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ระยะโฟกัส 4 ซม.
• กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
• ระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย MIUI 13 for POCO
• รองรับการใช้งานเครือข่าย 5G Sub-6: n1/3/5/7/8/20/28/38/40/41/77/78
• รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.1 และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh รองรับ 67W Turbo Charging

Redmi Note 11 Pro

Redmi Note 11 Pro มีหน้าจอแสดงผล AMOLED DotDisplay ขนาด 6.67 นิ้ว พร้อมชิปเซ็ต MediaTek Helio G96 รันระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย MIUI 13 และมีเทคโนโลยี LiquidCool ที่เป็นตัวระบายความร้อนด้วยของเหลว ช่วยให้เครื่องไม่ร้อนจนเกินไปเวลาเราใช้งาน

ในเรื่องการถ่ายภาพของ Redmi Note 11 Pro ให้กล้องมาครบทั้งเลนส์หลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซล, Ultra-Wide Angle หรือ Macro รวมไปถึงโหมด Portrait และแบตเตอรี่ความจุ 5000mAh รองรับ 67W Turbo Charging

• หน้าจอแสดงผล AMOLED DotDisplay ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) 395 ppi, Refresh Rate 120Hz, 360Hz Touch sampling rate, HDR10+, Contrast Ratio 4,500,000:1 และมีความสว่างสูงสุด 1200 นิต
• หน่วยประมวลผล : MediaTek Helio G96 Octa-core ความเร็วสูงสุด 2.05GHz
• GPU : ARM Mali-G57 MC2
• RAM : 6/8GB LPDDR4X
• ROM : 64/128GB แบบ UFS 2.2 เพิ่ม microSD Card ได้สูงสุด 1TB
• กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 4 เลนส์ ดังนี้
  • เลนส์หลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.9 เซ็นเซอร์ Samsung HM2
  • เลนส์ Ultra-Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 มุมกว้าง 118 องศา
  • เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ระยะโฟกัส 4 ซม.
  • เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
• กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
• ระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย MIUI 13
• รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.1 และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh รองรับ 67W Turbo Charging

Redmi Note 11

Redmi Note 11 บอกเลยว่าน่าจะชอบสำหรับคนที่มองหาสมาร์ทโฟนสักเครื่องที่ราคาไม่แรงจนเกินไปแต่ใช้งานได้ครบเครื่องครับ จริงๆ แค่หน้าจอ AMOLED DotDisplay 90Hz พร้อมกล้อง 50 ล้านพิกเซลก็คุ้มค่าแล้วครับ

นอกจากนี้ยังได้ชิป Snapdragon 680 ที่ช่วยให้สายเล่นเกมได้เล่นกันเพิ่มเติมอีกด้วย (ยังไม่รวมลำโพงคู่มาให้อีกนะ) หรือหากใครที่เคยใช้ Redmi Note Series มาก่อนก็น่าจะรู้ถึงความคุ้มค่าของตระกูลนี้อยู่แล้ว ส่วนเรื่องข้อสังเกตยังไม่มีอะไรที่ยังไม่ประทับใจครับ เพราะด้วยราคาไม่ถึง 7,000 บาท สเปคได้ระดับนี้ก็เกินคุ้มแล้วจริงๆ

• หน้าจอแสดงผล AMOLED DotDisplay ขนาด 6.43 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล), Refresh Rate สูงสุด 90Hz, Touch Sampling rate 180Hz และความสว่างสูงสุด 1,000 นิต
• หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 680 Octa-core ความเร็วสูงสุด 2.4GHz
• RAM : 4/6GB
• ROM : 128GB รองรับการใส่ MicroSD Card สูงสุด 1TB
• กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 4 เลนส์ ดังนี้
  • เลนส์หลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8
  • เลนส์ Ultra-Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 มุมกว้าง 118 องศา
  • เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ระยะโฟกัส 4 ซม.
  • เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
• กล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
• ระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย MIUI 13.0.1
• รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.0, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. และใช้พอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh รองรับ 33W Pro

รีวิวมือถือ Motorola

Moto e40

ตัวเครื่อง Moto e40 มาพร้อม Android 11 ใช้ชิปเซ็ต Unisoc T700 Octa-core กับแรมขนาด 4GB และความจุตัวเครื่อง 64GB เพิ่มได้ด้วย microSD card สูงสุดถึง 1TB

ในเรื่องของการเล่นเกม สามารถเล่นเกมทั่วไปได้ ไม่มีปัญหา เกมที่มีกราฟิกสวยๆ ก็เล่นไหว แต่ก็จะมีบางฉากที่เอฟเฟ็กต์เยอะๆ ก็อาจจะมีภาพกระตุกอยู่บ้าง ซึ่งก็ถือว่ารับได้สำหรับสมาร์ทโฟนราคาระดับนี้

• ขนาดตัวเครื่อง : 168.1 x 75.6 x 9.1 มม.
• น้ำหนัก : 198 ก.
• หน้าจอ : IPS LCD ขนาดจอ 6.5 นิ้ว ความละเอียดจอ 720 x 1600 พิกเซล, 90Hz
• ชิปเซ็ต : Unisoc T700
• GPU : Mali-G52
• ระบบปฏิบัติการ : Android 11
• RAM : 4GB
• ความจุเครื่อง : 64GB ช่องใส่เมม microSD card สูงสุด 1
• กล้องหลัง 3 ตัว
  • กล้องหลัก 48MP, f/2.0
  • กล้อง Depth 2MP, f/2.4
  • กล้อง Macro 2MP, f/2.4
• รองรับรับการเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11 b/g/n, Bluetooth 5.0, GPS, USB Type-C
• สแกนลายนิ้วมือ
• แบตเตอรี่ 5000 mAh ชาร์จ 10W

รีวิวมือถือ Apple iPhone

iPhone SE รุ่นที่ 3

iPhone SE รุ่นที่ 3 ขนาดตัวเครื่องจะมีขนาดเล็กๆ กะทัดรัด ด้านข้างดีไซน์โค้งเว้า เวลาจับถือก็จะกระชับมือ กรอบตัวเครื่องทำมาจากอะลูมิเนียมซีรีส์ 7000 ซึ่งเป็นเกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมอวกาศและสีตัวเครื่องก็จะเป็นสีเดียวกันทั้งเครื่อง ทั้งด้านหน้าและด้านหลังใช้กระจกที่เรียกว่าไอออน ซึ่งก็เป็นกระจกที่มีความแข็งแรง แถมยังเป็นรุ่นเดียวกันกับกระจกด้านหลังของ iPhone 13 และ iPhone 13 Pro ด้วย

• หน้าจอแสดงผล: 4.7 นิ้ว Retina IPS LCD
• หน่วยประมวลผล: Apple A15 Bionic
• GPU: Apple GPU
• RAM: 4GB
• ความจุเครื่อง: 64GB /128GB / 256GB
• ระบบปฎิบัติการ: iOS 15
• กล้องหลัง: 12 ล้านพิกเซล f/1.8
• กล้องหน้า: 7 พิกเซล f/2.2
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth 5.0, NFC และพอร์ต Lightning
• แบตเตอรี่: ชาร์จเร็ว 18W ชาร์จไร้สาย

iPhone 13 Pro Max

iPhone 13 Pro Max สีเขียวอัลไพน์ มาในกล่องสีดำบางเบาเหมือนเดิม ฝากล่องมีภาพตัวเครื่องที่เป็นสีเขียวอัลไพน์ สำหรับตัวเครื่องเป็นโทนสีเขียวแบบอ่อนๆ โดยกระจกด้านหลังเป็นผิวด้าน เวลาจับก็จะให้ความรู้สึกที่จับติดมือ กระชับ ไม่ลื่นหลุดมือ และช่วยลดการเกิดคราบรอยนิ้วมือได้ระดับหนึ่ง

• หน้าจอแสดงผล Super Retina XDR OLED มาพร้อม ProMotion อัตรารีเฟรช 120Hz, HDR10, Dolby Vision ความละเอียด 1284 x 2778 พิกเซล
• หน่วยประมวลผล : Apple A15 Bionic
• RAM 6GB
• ROM 128GB / 256GB / 512GB / 1TB
• ระบบปฎิบัติการ iOS 15
• กล้องถ่ายรูปด้านหลัง
  • กล้องหลัก: 12MP ขนาดพิกเซล 1.9µm เทียบเท่าเลนส์ 26 มม. รูรับแสงกว้าง f/1.5 ระบบกันสั่นแบบ sensor shift OIS และ Dual Pixel AF
  • กล้อง Ultra-wide: 12MP เทียบเท่าเลนส์ 13 มม. รูรับแสง f/1.8 ระบบโฟกัส PDAF และถ่ายมาโครได้ในระยะใกล้สุด 2 ซม.
  • กล้อง Telephoto: 12MP เทียบเท่าเลนส์ 77 มม. รูรับแสง f/2.8 และระบบกันสั่น OIS
  • กล้องเซ็นเซอร์ LiDAR Scanner

• กล้องหน้า 12MP รูรับแสง f/2.2 และ 3D Depth Sensing
• รองรับ 5G
• รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, Bluetooth 5.0, NFC และพอร์ต Lightning
• แบตเตอรี่ชาร์จเร็ว 20W และ Power Delivery 2.0
• ตัวเครื่องกันน้ำได้ IP68 (ความลึกไม่เกิน 6 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที)

เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับ มือถือ 40 รุ่น น่าซื้อ น่าใช้ ที่เปิดตัวและผ่านการทดลองใช้งานจากทีมงานมาแล้วทุกรุ่น ต้องบอกเลยว่าน่าซื้อ น่าใช้ และน่าจะเป็นช่วยให้เพื่อนๆ เลือกรุ่นที่ถูกใจ เหมาะกับการใช้งานได้ อย่าลืมกดติดตามแฟนเพจ @iPhoneDroid.net และทวิตเตอร์ @iPhone_Droid จะได้ไม่พลาดข่าวสารดีๆ ด้วยนะครับ

Adblock test (Why?)

รวมมือถือ 40 รุ่น หลังใช้งานจริง น่าซื้อ น่าใช้ ครึ่งปีแรกของปี 2022 - iphone-droid.net
Read More