มาแล้วครับสำหรับรีวิวฉบับเต็มของ HUAWEI WATCH D สมาร์ทโฟนที่จัดเต็มในเรื่องสุขภาพพร้อมเทคโนโลยีอันชาญฉลาดในการตรวจจับสุขภาพอย่างเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะการตรวจวัดความดันโลหิตและตรวจวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) ที่ทำได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงฟีเจอร์อื่นๆ และโหมดการออกกำลังกายที่มีมาให้กว่า 70 แบบเลยทีเดียวครับ โดยแต่ละฟีเจอร์จะมีอะไรบ้าง ทางทีมงาน iphone-droid.net จะพามาชมกันครับ
สรุปสเปค HUAWEI WATCH D
- ขนาดตัวเครื่อง : 51 x 38 x 13.6 มม.
- ขนาดยาวสาย : 133 x 30 มม.
- น้ำหนัก : 40.9 กรัม
- หน้าจอแสดงผล AMOLED ขนาด 1.64 นิ้ว ความละเอียด 456 x 280 พิกเซล พร้อม 326 PPI
- ระบบการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.1, NFC และ GPS
- เซ็นเซอร์
- เซ็นเซอร์จับการเคลื่อนไหว (Accelerometer Sensor)
- ตรวจจับการหมุน (Gyroscope Sensor)
- วัดอัตราการเต้นของหัวใจ (Optical Heart Rate Sensor)
- เซ็นเซอร์วัดแสง (Ambient Light Sensor)
- ตรวจจับอุณหภูมิ (Temperature Sensor)
- วัดความดัน (Differential pressure Sensor)
- รองรับระบบปฏิบัติการ Android 6.0, HarmonyOS 2 หรือ iOS 12.0 ขึ้นไปเท่านั้น
- กันน้ำ-ฝุ่นระดับ IP68 (ไม่สามารถใส่ว่ายน้ำได้)
- แบตเตอรี่ความจุ 451mAh ใช้งานได้นานสุด 7 วัน
อุปกรณ์ภายในกล่อง
- ตัวเรือน HUAWEI Watch D พร้อมสายรัดและถุงลม (Airbag) ไซส์ L
- ฝาครอบอิสระ
- ถุงลมไซส์ M
- สายรัดไซส์ M
- ผ้าถุงลมไซส์ L และ M (อะไหล่)
- แท่นชาร์จไร้สาย
- เทปวัดเส้นรอบวงข้อมือ
- คู่มือการใช้งานเบื้องต้น
- คู่มือการสวมใส่
- ใบรับประกันสินค้า
ดีไซน์พรีเมี่ยมพร้อมวัสดุแข็งแรง
เริ่มกันด้วยดีไซน์ของ HUAWEI WATCH D ที่มาพร้อมตัวเรือนที่มีความพรีเมียมสวยงามสุดๆ ด้วยสีดำแกรไฟต์ (Graphite Black) วัสดุอลูมิเนียมผิวด้านช่วยป้องกันรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดี โดยที่ขอบตัวเรือนก็มาแบบแบนเรียบผสานกับหน้าจอและฝาหลังที่มีความโค้งช่วยให้ทุกอย่างนั้นดูลงตัวสุดๆ
ทั้งนี้ สายรัดจะมาแบบยางสังเคราะห์ Fluoroelastomer ที่มีความแข็งแรงพอสมควรเลยครับ ซึ่งในรุ่นนี้จะมี 2 ขนาดให้เลือกเป็นขนาด M และ L จะข้อมือเล็กอย่างผู้หญิงหรือข้อมือที่ใหญ่ของผู้ชายก็ใช้งานได้ทั้งหมดครับ
วิธีการใส่สายรัดก่อนการใช้งานจริง
ก่อนที่จะนำมาใส่เราจำเป็นต้องวัดขนาดข้อมือของเราก่อนเพื่อเวลาที่จะวัดสุขภาพด้วยฟีเจอร์ต่างๆ จะทำให้วัดได้แม่นยำและไม่เกิดข้อผิดพลาดครับ ซึ่งสามารถทำได้ดังนี้
- ใช้เทปวัดเส้นรอบวงข้อมือเพื่อดูว่าข้อมือของเราอยู่เบอร์ที่เท่าไหร่ (เช่น เลข 12 จะเป็นสายรัดขนาด L อยู่แล้ว เป็นต้น)
- ให้เลื่อนตัวเลื่อนที่อยู่บนสายรัดไปบังที่เลข 13 (เพื่อให้ตรงขนาดที่ 12 พอดี) โดยที่ด้านหลังของสายจะมีตัวเลขบอกไว้ครับ จากนั้นให้ล็อกตัวล็อกกับสายรัดไว้
- ล็อกถุงลม (Airbag) กับสายรัดไว้ทั้ง 2 ด้านบนและล่างสุดเพื่อให้มีความแน่นครับ
ไม่ใช้ถุงลมก็ถอดออกได้เหมือนกันนะ
เวลาที่เราออกไปข้างนอก ก็อาจจะไม่สะดวกในการใส่ถุงลมออกไปด้วย ดังนั้น เราก็สามารถดึงออกได้ทันที โดยสามารถกดที่ตัวล็อกถุงลมที่อยู่ด้านหลังตัวเรือนเพื่อนำถุงลมออกไป จากนั้นเราก็นำฝาครอบอิสระมาปิดแทนที่ช่องว่างที่เหลืออยู่ก็เป็นอันเรียบร้อยครับ
หน้าจอแสดงผลคมชัดพร้อมความโค้ง 2.5D
HUAWEI WATCH D มาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบสัมผัสที่ให้ความคมชัดสูงที่ความละเอียด 456 x 280 พิกเซล, 326 PPI ทั้งยังมีสีสันที่สดใสผ่านพาเนลแบบ AMOLED และมีขนาดใหญ่ขนาด 1.64 นิ้วทำให้ใช้งานได้ชัดเจนแน่นอน
กันน้ำมาตรฐาน IP68
สำหรับตัวเรือนของ HUAWEI WATCH D มาพร้อมมาตรฐานกันน้ำและฝุ่น IP68 โดยใช้เพื่อป้องกันน้ำและฝุ่นตามมาตรฐานทั่วไปเท่านั้นครับ ไม่สามารถใส่ว่ายน้ำหรือกิจกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการโดนน้ำเต็มๆ ได้ทั้งหมดครับ
พาชมรอบตัวเรือน
ที่ด้านหน้าจะเป็นหน้าจอแสดงผลตามปกติครับ
ส่วนฝั่งขวาจะมี 2 ปุ่ม โดยปุ่มบนจะเป็นปุ่ม Home เพื่อเข้าสู่หน้าหลัก ส่วนปุ่มด้านล่างจะเป็นปุ่ม Health (รวม Electrode) ที่จะเป็นปุ่มด่วนเพื่อเข้าฟีเจอร์ต่างๆ ทันที เช่น ความดันโลหิต, SpO2, ออกกำลังกาย, การนอน และอื่นๆ เป็นต้น ทั้งนี้ที่ปุ่ม Health ยังสามารถใช้วัดค่า ECG ได้อีกด้วย
ส่วนด้านหลังจะมีการรวมเซ็นเซอร์ต่างๆ พร้อมแม่เหล็กเพื่อติดกับแท่นชาร์จครับ
วิธีการเชื่อมต่อ
ในการเชื่อมต่อกับ HUAWEI Watch D จะรองรับกับระบบปฏิบัติการ Android 6.0, HarmonyOS 2 หรือ iOS 12.0 ขึ้นไปเท่านั้นครับ แต่ถ้าจะให้ดีแบบมีฟีเจอร์ครบๆ 100% ให้ใช้สมาร์ทโฟนของ HUAWEI จะดีที่สุดครับ โดยสามารถใช้งานได้ผ่านแอปพลิเคชั่น HUAWEI Health ได้เลย
หน้าปัดมีให้เลือกกว่า 50 แบบ
ใครที่ชอบปรับแต่งหน้าปัดของสมาร์ทวอทช์น่าจะได้ปวดหัวกันบ้างครับ เพราะมีให้เลือกเยอะเลยทีเดียวผ่านแอป HUAWEI Health ซึ่งจะมีทั้งแบบฟรีๆ และเสียเงิน ส่วนไม่อยากเลือกในแอป ก็ให้เลือกในตัวเรือนได้เลยครับ เพราะมีมาให้แล้ว 10 แบบ
ฟีเจอร์ด้านสุขภาพใช้มาครบถ้วน
สำหรับฟีเจอร์ด้านสุขภาพของนั้นมีให้เยอะมาก ซึ่งจะมีฟีเจอร์หลักเป็นวัดความดันโลหิต, คลื่นไฟฟ้าหัวใจ และอุณหภูมิผิวหนังครับ แต่ฟีเจอร์หลักอื่นๆ ก็มีเหมือนเดิมครับ แต่เราขอบอไว้ก่อนว่า ผลการวัดมีไว้เพื่อการอ้างอิงเท่านั้น ไม่ได้มีไว้เพื่อใช้เป็นพื้นฐานสำหรับการวินิจฉัยทางการแพทย์
ตรวจวัดความดันโลหิตได้ทุกที่ทุกเวลา
HUAWEI WATCH D มาพร้อมกับการพลิกโฉมของวงการสมาร์ทวอทช์เพื่อให้เราได้วัดความดันของเลือดได้ทุกที่ทุกเวลาเลยครับ โดยใช้เทคโนโลยีของถุงลม (Airbag) และปั๊มลมขนาดเล็กในตัว ซึ่งการออกแบบนี้ทำเพื่อฟีเจอร์นี้โดยเฉพาะ ทั้งยังมีความแม่นยำในพื้นที่ที่มีความจำกัดด้วย
ในการวัดค่าความดันเราควรนั่งพักเฉยๆ อย่างน้อย 5 นาทีเพื่อให้ภาวะของร่างกายปกติ จากนั้นในตอนเริ่มการวัดเราควรนั่งท่าที่ถูกต้อง คือ ยกแขนข้างที่ใส่สมาร์ทวอทช์ขึ้นมาวางบริเวณหน้าอกให้สมาร์ทวอทช์อยู่ในระดับเดียวกับหัวใจ และเอามืออีกหนึ่งข้างประคองข้อศอกที่ใส่สมาร์ทวอทช์ไว้เพื่อรักษาระดับ วางเท้าให้ราบไปกับพื้น นั่งหลังตรงปล่อยตัวตามสบายพิงเก้าอี้ และไม่กดตัวสมาร์ทวอทช์เกินไปเพื่อให้พื้นที่ Airbag ได้พองตัวครับ
การวัดค่าความดันใน HUAWEI Watch D จะได้ค่าที่เหมือนกับความดันทั่วไป โดยมี 2 ค่าบนและล่าง ซึ่งค่าบนจะเป็นค่าความดันโลหิตในหลอดเลือดที่เกิดขึ้นขณะที่หัวใจบีบตัว ส่วนค่าล่างจะเป็นค่าความดันของเลือดที่ขณะที่หัวใจคลายตัว ซึ่งค่าปกติควรอยู่ไม่เกิน 140 (บน) และ 90 (ล่าง) ครับ
สำหรับถุงลมสามารถทำแรงดันได้ถึง 40kPa และวัดความดันโลหิตได้สูงสุดที่ 230mmHg ซึ่งเทียบเท่าเครื่องวัดความดันโลหิตทั่วไปในท้องตลาด
ตรวจวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG Analysis)
นอกจากวัดความดันเลือดได้แล้ว HUAWEI WATCH D ยังมาพร้อมการวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจหรือที่เรียกกันว่า ECG ครับ โดยการบันทึกผล ECG จะเป็นการวัดแบบ Single Lead ซึ่งตัวแอปจะรับสัญญาณคลื่นนาน 30 วินาทีเพื่อวิเคราะห์ได้แบบเรียลไทม์ครับ
ทั้งนี้ผลลัพธ์ของการวัดจะมีทั้งจังหวะไซนัส (ปกติ), ความเสี่ยงของภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะของห้องบน และหัวใจห้องล่างหรือบนที่เต้นก่อนกำหนด
สำหรับ HUAWEI WATCH D รุ่นที่วางขายในประเทศไทยสามารถใช้งานแอปพลิเคชัน ECG ได้แล้ว โดยได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ตามใบรับแจ้งรายการละเอียดที่ 65-2-2-2-0003968
วัดอุณหภูมิผิวหนังได้ทันทีพร้อมแจ้งเตือนมีความผิดปกติ
HUAWEI WATCH D เป็นเพียงสมาร์ทวอทช์เพียงไม่กี่รุ่นที่ใช้วัดอุณหภูมิผิวหนังได้ โดยจะเป็นการวัดอุณหภูมิในจุดที่เรากำลังสวมใส่อยู่ครับ ซึ่งยังมีการแจ้งเตือนเมื่อมีอุณหภูมิสูงหรือลดเร็วกว่าปกติ
วัดค่า SpO2 และอัตราการเต้นของหัวใจ ได้แม่นยำด้วย HUAWEI TruSeen 5.0
ในส่วนของการวัดค่าสุขภาพทั่วไปอย่างค่าความอิ่มตัวของเลือด (SpO2) และการวัดอัตราการเต้นของหัวใจก็มีมาให้เป็นมาตรฐานครับ แต่ใน HUAWEI WATCH D ได้ใช้เทคโนโลยี HUAWEI TruSeen 5.0+ ที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำด้วยโฟโตไดโอด (Photo diodes) จำนวน 8 ตัวเพื่อให้ตัวเรือนได้ได้ส่องแสงมากขึ้น ควบคู่กับฟิล์ม Micro Nano ที่ช่วยให้แสงส่องผ่านได้มากขึ้น ทำให้การวัดค่าเหล่านี้มีความแม่นยำมากขึ้น
ค่าความอิ่มตัวของเลือด
อัตราการเต้นของหัวใจ
วัดคุณภาพการนอนหลับได้ผ่าน HUAWEI TruSleep 2.0
สำหรับ HUAWEI Watch D มาพร้อมกับเทคโนโลยี HUAWEI TruSleep 2.0 ที่ช่วยให้การตรวจจับคุณภาพการนอนเป็นไปได้แม่นยำมากขึ้นครับ โดยในสมาทวอทช์รุ่นนี้จะชัดเป็นช่วงของการนอน ได้แก่ หลับสนิท, หลับฝัน (REM), นอนน้อย และตื่น
ซึ่งนอกจากวัดเวลาการนอนในแต่ละระยะแล้ว ก็ยังตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ, การหายใจระหว่างนอน, ระยะเวลาการนอนทั้งหมด และให้คะแนนการนอนหลับ (เต็ม 100 คะแนน) เพื่อให้เราได้ปรับปรุงการนอนได้ในแต่ละวัน
ตรวจจับความเครียดพร้อมคล้ายเครียดได้ด้วยการกำหนดการหายใจ
ใครที่รู้สึกว่าไม่ค่อยสดชื่นก็สามารถใช้งานเพื่อตรวจจับระดับความเครียดได้ด้วยฟีเจอร์ HUAWEI TruRelax ซึ่งเราต้องกดเริ่มใช้งานผ่านแอปสุขภาพครับ โดยความเครียดแบ่งได้ 4 ช่วง ดังนี้
- 1-29 : ต่ำ
- 30-59 : ปกติ
- 60-79 : ปานกลาง
- 82-99 : สูง
และหากเราวัดได้สูงเกินไปก็สามารถใช้ฟีเจอร์การฝึกการหายใจเพื่อให้ได้ผ่อนคลายมากขึ้น ซึ่งการหายใจจะเลือกได้ว่าจะเพชเร็ว, ปานกลาง หรือช้าครับ รวมถึงกำหนดเวลาได้ว่า 1, 2 หรือ 3 นาที
รองรับการออกกำลังกายมากถึง 70 โหมด
ใครที่ใช้เพื่อการออกกำลังกายก็สามารถทำได้สบายๆ เลยเพราะมีโหมดกีฬาถึง 70 โหมดให้ใช้งานกันเลย โดยเฉพาะกีฬายอดนิยมทั้ง วิ่ง, เดิน, ปั่นจักรยาน, กระโดดเชือก, เครื่องเดินวงรี, เครื่องกรรเชียงบก หรืออื่นๆ ก็มีให้ทั้งหมดเลย
การใช้งานทั่วไปก็ทำงานได้สะดวก
ในการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันอย่างการแจ้งเตือนเมื่อมีการแจ้งเตือนแอป สายโทรเข้า การหาโทรศัพท์ หรือการเป็นชัตเตอร์ต่างๆ ก็ทำได้ครบถ้วนเหมือนเดิมครับ
แบตเตอรี่ใช้งานได้นานสุด 7 วัน
HUAWEI WATCH D เป็นสมาร์ทวอทช์ที่ให้แบตเตอรี่มาที่ 451mAh ที่ถือว่าให้มาเยอะเลยทีเดียวครับ ใครที่ใช้งานทั่วไปจะอยู่ได้นานสุดถึง 7 วันต่อการชาร์จเพียง 1 ครั้งเท่านั้นครับ ส่วนใครเน้นการออกกำลังกายเป็นหลักก็อาจอยู่ได้ราวๆ 3 วันครับ แต่ก็ถือว่าอึดมากๆ อยู่ดี
สรุปการใช้งาน
HUAWEI WATCHD จัดว่าเป็นสมาร์ทวอทช์ที่บอกเลยว่าชูโรงไปในเรื่องการตรวจวัดสุขภาพที่ขั้นสูงพอสมควรเลยทีเดียวครับ โดยเฉพาะในเรื่องการวัดความดันโลหิตที่เป็นการพลิกโฉมวงการสมาร์ทวอทช์ ทั้งยังมีเทคโนโลยีอื่นๆ ทั้ง ECG, วัดอุณภูมิ และการวัด SpO2 ก็ยังมีมาให้ใช้กันตลอดวัน และตรวจจับได้ค่อนข้างแม่นยำเลยทีเดียวครับ ทั้งนี้ ดีไซน์ก็มีความแข็งแรง สวยงาม มีความคลาสสิกด้วยสีดำด้านอีกด้วย และโดยรวมแล้ว HUAWEI WATCH D นั้นเป็นสมาร์ทวอทช์ที่ตอบโจทย์คนรักสุขภาพแน่นอน
ราคาอย่างเป็นทางการ
HUAWEI WATCH D พร้อมวางจำหน่ายในราคา 14,990 บาท มีให้เลือกเพียงสีดำสีเดียวครับ โดยผู้ที่ซื้อในช่วงพรีออเดอร์ระหว่างวันที่ 24 มิถุนายน – 7 กรกฎาคม 2565 รับฟรีทันที ! HUAWEI Scale 3 มูลค่า 799 บาท ใครที่สนใจสามารถหาซื้อได้ที่ HUAWEI Experience Store และร้านค้าที่ร่วมรายการ รวมถึงช่องทางออนไลน์อย่าง HUAWEI Store และร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบน Shopee, Lazada และแอปพลิเคชัน My HUAWEI
รีวิว HUAWEI WATCH D สมาร์ทวอทช์สุดฉลาด ตรวจวัดความดันโลหิต, ECG และฟีเจอร์เพื่อสุขภาพที่ครบครัน - iphone-droid.net
Read More
No comments:
Post a Comment