Rechercher dans ce blog

Sunday, September 11, 2022

ชี้ 5 เทรนด์ปลุกตลาดทีวี LG ปักฐานพรีเมียม - ผู้จัดการออนไลน์



การตลาด - ลุ้นตลาดทีวีกลับมาโต 5% นับเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี สู่ 24,300 ล้านบาท หลังพ้นสภาวะโควิดคลี่คลาย “แอลจี” จับ 5เทรนด์ตลาดทีวี บุกหนักตอกย้ำผู้นำทีวีพรีเมี่ยม ส่ง OLED รุ่นใหม่ล่าสุด พร้อมเพิ่มไลน์อัพ QNED ตอบโจทย์ลูกค้า 4 กลุ่ม มั่นใจยอดขายโต 10% แตะ 5,350 ล้านบาท พร้อมแชร์รวมที่ 21% ท้าอีก 3ปี ปักธงผู้นำตลาด

นายอำนาจ สิงหจันทร์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากสถานการณ์โควิดในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา พบว่าตลาดทีวีติดลบต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2562-2564 ส่วนในปี2565นี้คาดการณ์ว่าจะเป็นปีแรกที่จะกลับมาเติบโตได้ 5 % หรือมีมูลค่า ที่ 24,300 ล้านบาท
 
สำหรับปัจจัยบวกที่ช่วยกระตุ้นยอดขายทีวีในปี2565 นี้ มาจาก 5 ส่วนหลัก คือ 1.จากการปรับตัวช่วงวิกฤตโควิด19 เศรษฐกิจเริ่มกลับมาคึกคักขึ้น 2.ถึงรอบการเปลี่ยน หรืออัปเกรดรุ่นใหม่ 3.ผู้บริโภคมองหาการใช้งานทีวีที่หลากหลายและเหนือกว่าแค่รับชมปกติ 4.เทรนด์การตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอลกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง และ5.การแข่งขันของฟุตบอลระดับโลก (World cup)ใน ช่วงปลายปี


ในส่วนของแอลจี ยังพบด้วยว่า หลังจากโควิดคลี่คลาย พบ 5 เทรนด์เกี่ยวกับตลาดทีวีที่เปลี่ยนแปลงไป คือ 1.สมาร์ทีวีกลายมาเป็นรุ่นปกติ, 2.ความคมชัดระดับ 4K เป็นความคมชัดระดับพื้นฐานที่ต้องมี, 3.บิ๊กสกรีนจากเดิมเริ่มที่ 50 นิ้ว ปัจจุบันขยับไปเริ่มกันที่รุ่น 70 นิ้ว, 4.เทคโนโลยีที่ดีที่สุดกลายเป็นเรื่องจำเป็น และ5.Game & VDO on Demand กลายเป็นฟังก์ชั่นที่ต้องมีให้ครบ

ส่งผลให้ในปีนี้แอลจีได้วางกลยุทธ์หลักของสินค้า 2 ข้อหลัก คือ 1.การตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาด OLED TV ยอดขายอันดับ 1 ทั่วโลก 9 ปีซ้อน และ2. การเพิ่มไลน์อัพสินค้ากลุ่มพรีเมี่ยมวี QNED TV (3 รุ่น เป็น 9 รุ่น) เริ่มจากการเปิดตัวนวัตกรรมทีวีใหม่ล่าสุด กับ LG OLED นำโดยทีวี LG SIGNATURE OLED 8K ซีรีส์ Z2 ขนาด 88 นิ้ว ขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผลอัจฉริยะที่อัปเกรดล่าสุด α (อัลฟ่า) 9 Gen5 AI Processor 8K เสริมระบบการทำงานของทีวีให้รวดเร็วและเสถียรยิ่งขึ้น แสดงภาพและคอนทราสต์คมชัดสูงสุด เอาใจผู้ที่ต้องการรับชมภาพเนื้อหาคมชัดสูงด้วยการเพิ่มตัวเลือกด้วยขนาด 77 นิ้ว


พร้อมเติมเต็มไลน์อัพด้วย LG OLED evo 4K ซีรีส์ G2, C2 และ LG OLED 4K ซีรีส์ B2 และ A2 รวมทั้งหมด 5 ซีรีส์ มีขนาดหลากหลายยิ่งขึ้น ตั้งแต่ 42 - 83 นิ้ว โดยขนาดใหม่ที่เปิดตัวในปีนี้ ได้แก่ 42 นิ้ว และ 83 นิ้ว ราคา OLED TV เริ่มต้นที่ 42,990 บาท นอกจากนี้ยังได้เปิดตัวไลน์อัพทีวี LG QNED ทั้งหมด 4 ซีรีส์ ได้แก่ QNED MiniLED ซีรีส์ QNED99 8K, ซีรีส์ QNED91 4K โดยมีสองซีรีส์ใหม่ล่าสุดในปีนี้ ได้แก่ QNED MiniLED ซีรีส์ QNED86 4K และ QNED ซีรีส์ QNED80 4K ขนาดตั้งแต่ 55 - 86 นิ้ว จากเดิมที่มีขนาดให้เลือกสูงสุดที่ 75 นิ้ว

ทั้งนี้ LG QNED MiniLED ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษ มอบสีสันเจิดจรัสกว่าที่เคยด้วยการผสานเทคโนโลยี Quantum Dot และ NanoCell ไว้ด้วยกัน ทำงานร่วมกับหลอดไฟ Mini LED ขนาดจิ๋ว ทำการหรี่แสงอย่างแม่นยำมากถึง 2,400 จุด จึงให้สีสันสมจริงยิ่งกว่าทีวี LCD รุ่นอื่นๆ นับเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมทีวีที่พัฒนาขึ้นเพื่อนำเสนอให้ตรงตามความต้องการของลูกค้าอย่างครอบคลุมที่สุด


โดยในส่วนของแผนการตลาดนั้น จะเน้นใน 4 ส่วนหลัก คือ 1.สร้างแบรนด์ L G TV ให้เข้มแข็งและเป็นที่รู้จักในวงกว้างผ่านการใช้สื่อ ATL เช่น TVC และ OOH, 2.ให้ความสำคัญกับ Customer Experience (CX) ด้วยการพัฒนาช่องทางให้ลูกค้าเข้าถึงข้อมูลสินค้าได้สะดวกมากขึ้น, 3.เน้นสื่อ Digital ในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย จัดทำวีดีโอรีวิวสินค้าเชิงไลฟ์สไตล์มากขึ้น และ4.สร้าง Experience zone ที่หน้าร้านด้า พร้อมมีผู้เชี่ยวชาญแนะนำสินค้าให้ลูกค้าได้ทดลองใช้งานจริง

จากแผนการดำเนินงานที่ ตั้งเป้าหมายในปี2565 นี้ไว้ 4 ข้อหลัก คือ 1.จะมี Display สินด้าระดับพรีเมี่ยมเพิ่มมากขึ้น และครอบคลุมทั่วประเทศ ประกอบด้วย OLED 1,000 เครื่อง, QNED 1,200 เครื่อง และทีวีขนาด 70นิ้ว ขึ้นไป 1,000 เครื่อง, 2.ตั้งเป้ายอดขาย OLED TV ในปีนี้จำนวน 19,000 เครื่อง หรือ 800 ล้านบาท หรือมีส่วนแบ่งของตลาดที่ 80% ครองอันดับที่ 1 ในประเทศไทย 10 ปี ติดต่อกัน, 3.มีส่วนแบ่งของตลาดทีวีขนาด 70 นิ้วขึ้นไป ครองส่วนแบ่งที่ 35 % และ4.มีส่วนแบ่งตลาดทีวีภาพรวมทั้งหมด 23% และยอดขายโตขึ้น 10%


“บริษัทตั้งเป้ายอดขายทีวีรวมในปีนี้ที่ 5,350 ล้านบาท โตขึ้น 10% หรือทำรายได้ให้แอลจี 40% เทียบจากรายได้รวมทั้งหมด พร้อมส่งผลให้มีส่วนแบ่งในตลาดรวมทีวีอยู่ที่ 21% ห่างจากเบอร์1 ที่มีแชร์อยู่ 27% โดยมั่นใจว่าจากแผนการรุกตลาดพรีเมี่ยมไซซ์ใหญ่อย่างต่อเนื่อง ภายใน 3 ปีจากนี้ มั่นใจว่า แอลจีจะก้าวขึ้นเป็นเบอร์1 ในตลาดรวมทีวีได้” นายอำนาจ กล่าว

อย่างไรก็ตาม สำหรับภาพรวมตลาดทีวีตั้งแต่ปี 2562-2564 พบว่าติดลบต่อเนื่อง เริ่มจากปี 2562 มีมูลค่า 27,900 ล้านบาท ติดลบ 7.9% ปี2563 มีมูลค่า 26,700 ล้านบาท ติดลบ 4.1% ปี2564 มีมูลค่า 23,100 ล้านบาท ติดลบ 13.7% อันเนื่องจากโควิด-19 เป็นสาเหตุหลัก ขณะที่ในปี2565นี้ ครึ่งปีแรก พบว่า มีมูลค่า 13,500 ล้านบาท เติบโต 0.5% คาดการณ์ว่าตลอดทั้งปีนี้ตลาดทีวีรวมจะกลับมาเติบโตได้ 5% หรือมีมูลค่าได้กว่า 24,300 ล้านบาท

ทั้งนี้เมื่อแยกเฉพาะเซกเม้นท์ OLED TV พบว่า 1.ปี2562 มีมูลค่า 556 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 1.9% ของตลาดรวมทีวี หรือมีจำนวนกว่า 12,000 เครื่อง จากทั้งหมด 2.7 ล้านเครื่อง, 2.ปี2563 มีมูลค่า 510 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 1.9% ของตลาดรวมทีวี หรือมีจำนวนกว่า 14,000 เครื่อง จากทั้งหมด 2.9 ล้านเครื่อง, 3.ปี2564 มีมูลค่า 647 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 2.8% ของตลาดรวมทีวี หรือมีจำนวน 15,500 เครื่อง จากทั้งหมด 2.1 ล้านเครื่อง , 4.ปี2565 คาดการณ์ว่า จะมีมูลค่า 1,000 ล้านบาท คิดเป็น 4.1% ของตลาดรวม หรือมีจำนวนที่ 24,000 เครื่อง จากทั้งหมด 2,200,000 เครื่องในตลาด.


Adblock test (Why?)


ชี้ 5 เทรนด์ปลุกตลาดทีวี LG ปักฐานพรีเมียม - ผู้จัดการออนไลน์
Read More

No comments:

Post a Comment

รีวิว Death Stranding Director's Cut เล่นบน iPad Pro M2 - iPhoneMod

ในที่สุดสาวก Apple อย่างเราก็ได้เล่นเกม Death Stranding เวอร์ชัน Director’s Cut บนอุปกรณ์ Apple กันแล้ว ใครอยากลองเล่นเข้าไปซื้อเกมใน App S...