70 ปีในประวัติศาสตร์การพัฒนา รถสปอร์ตรุ่น SL มีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย เพื่อทำให้มันอยู่ในใจของคนที่รักรถเปิดประทุน จากรถแข่งสายเลือดแท้มาเป็นรถสปอร์ตเปิดประทุนสุดหรู โมเดล SL ถูกยกสถานะให้เป็นตำนานมาอย่างยาวนาน ล่าสุด Mercedes-Benz Thailand จัดแถลงข่าวการเตรียมความพร้อมสำหรับขาย Mercedes- AMG SL 43 รุ่นใหม่ล่าสุด นับเป็นความสำเร็จอีกขั้นในประวัติศาสตร์ของรถสปอร์ตเปิดหลังคาสัญลักษณ์ตราดาว เป็นการผสมผสานความสปอร์ตที่แตกต่างของ SL ดั้งเดิม เข้ากับความหรูหราคลาสสิก และความเป็นเลิศทางเทคโนโลยีของรถยนต์ Mercedes-AMG ยุคใหม่ ในฐานะที่เป็นรถสปอร์ตรุ่นเริ่มต้นในซีรีส์ SL 43 และยังเป็นรถยนต์สายการผลิตรุ่นแรกของโลกที่ติดตั้งเทอร์โบชาร์จเจอร์ไอเสียไฟฟ้า เทคโนโลยีนี้นำมาจาก Formula 1™ โดยตรง เพื่อแก้ปัญหาเทอร์โบชาร์จเจอร์ขนาดเล็กที่ตอบสนองเร็ว แต่ให้กำลังสูงสุดที่ค่อนข้างต่ำ กับเทอร์โบชาร์จเจอร์ขนาดใหญ่ที่ให้กำลังมากกว่าแต่ตอบสนองช้า แนวคิดเครื่องยนต์พร้อมระบบอัดอากาศแบบใหม่ที่กลายเป็นนวัตกรรม รถโรดสเตอร์ 2+2 ที่นั่งรุ่นใหม่ มุ่งเป้าไปที่ลูกค้านักขับที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนเป็นพิเศษ การผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์สี่สูบน้ำหนักเบา และระบบขับเคลื่อนล้อหลัง SL 43 แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเครื่องยนต์รุ่นใหม่ที่มีขนาดเล็กลง
ประวัติศาสตร์อันยาวนานของ SL สร้างเหตุการณ์สำคัญทางเทคโนโลยีในโลกยานยนต์ ในขณะที่ 300 SL Gullwing ปี 1954 เป็นรถสปอร์ตรุ่นแรกของโลกที่ใช้ระบบฉีดเชื้อเพลิงตรงไดเรคอินเจคชัน รถรุ่นใหม่อย่าง Mercedes-AMG SL 43 นั้นมีเครื่องยนต์เล็กลง และติดตั้งเทอร์โบชาร์จเจอร์ไฟฟ้า ด้วยเทคโนโลยีนี้ SL 43 ที่ดูเหมือนจะเล็กที่สุดในโมเดลใหม่ สามารถควบรวมประสิทธิภาพการขับของรถ AMG เข้ากับความหรูหราและความสะดวกสบายได้เป็นอย่างดี เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร พลังสูง กลายเป็นนวัตกรรมระบบส่งกำลังแบบใหม่ ด้วย เทอร์โบชาร์จเจอร์ไอเสียไฟฟ้า เป็นตัวอย่างที่น่าสนใจของการถ่ายโอน ระหว่างเทคโนโลยี Formula 1 และการพัฒนารถยนต์ที่ใช้งานจริง
ขุมกำลังเบนซินแถวเรียงสี่สูบ รหัส M139 ให้ประสบการณ์ในรูปแบบของ Mercedes-AMG High Performance Powertrains เทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนแบบใหม่ยังเพิ่มความคล่องตัว และทำให้การขับรถเปิดหลังคามีความสนุกสนานมากขึ้น วิศวกรของ AMG ปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบขับเคลื่อนขนาดกะทัดรัด เพื่อความรุดหน้า โดยไล่ตามเป้าหมายของการลดมลพิษ พร้อมกับมองไปยังอนาคต ที่จะต้องเปลี่ยนไปเป็นระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า ส่วนประกอบที่เป็นนวัตกรรมใหม่ของเครื่องยนต์สันดาปภายใน เช่น เทอร์โบชาร์จเจอร์ไอเสียแบบไฟฟ้าช่วยให้ SL 43 บรรลุเป้าหมายในการทำความเร็ว Jochen Hermann ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคของ Mercedes‑AMG GmbH กล่าว
Mercedes ได้เพิ่มรุ่นเริ่มต้นของ SL-Class Roadster ที่สง่างามเข้าไว้ด้วยกัน Mercedes-AMG SL 43 มีเครื่องยนต์เพียงครึ่งเดียวของพี่น้อง AMG SL เครื่องยนต์สี่สูบ M139 เทอร์โบชาร์จ 2.0 ลิตร การเพิ่มพลังเกิดจากเทอร์โบชาร์จเจอร์ไอเสียไฟฟ้าเดี่ยว เทคโนโลยีนี้ของรถแข่ง Formula 1 โดยใช้ระบบไฟฟ้า 48 โวลต์ แบบเดียวกับที่จ่ายไฟให้กับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสตาร์ทเตอร์เจเนอเรเตอร์ มอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็กในเทอร์โบจะหมุนแกนเทอร์ไบน์เพื่อนำก๊าซไอเสียเข้าแทนที่ ทำให้เครื่องยนต์มีการตอบสนองของคันเร่งดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตลอดช่วงรอบเครื่องยนต์ทั้งหมด ในขณะที่ยังเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในรอบสูงอีกด้วย
เครื่องยนต์ M139 เบนซินสี่สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบไฟฟ้าของ SL43 ทำกำลังได้ 381 แรงม้า (284 กิโลวัตต์) ที่ 6,750 รอบต่อนาที สำหรับแรงบิดจัดหนักถึง 480 นิวตันเมตร หรือ 354 ปอนด์-ฟุต ที่ 3,250 รอบต่อนาที และคงที่ไปจนถึง 5,000 รอบต่อนาที ระบบสตาร์ทเตอร์เจเนอเรเตอร์ใน Mild Hybrid 48V ยังสามารถเพิ่มกำลังได้อีก 14 แรงม้า (10 กิโลวัตต์) ในช่วงสั้นๆ ในทางเทคนิคแล้วการเพิ่มกำลังจะทำให้ SL 43 เป็นรถสปอร์ตเปิดประทุนไฮบริดที่ดุดัน สำหรับ ระบบส่งกำลังใช้เกียร์ MCT 9 สปีด (AMG SPEEDSHIFT MCT 9G (automatic transmission with wet multi-disc start-off clutch) ส่งกำลังไปที่ล้อหลัง
คลัตช์สตาร์ตแบบเปียกเข้ามาแทนที่ทอร์กคอนเวอร์เตอร์ ลดน้ำหนักลงนิดหน่อยและด้วยแรงเฉื่อยที่ต่ำลง จึงปรับการตอบสนองต่ออินพุตของแป้นคันเร่งอย่างเหมาะสม ซอฟต์แวร์ใหม่ที่ควบคุมการทำงานของระบบส่งกำลัง ทำให้คาบเวลาในการเปลี่ยนเกียร์สั้นลง AMG SPEEDSHIFT MCT 9G สามารถลดตำแหน่งเกียร์ด้วยการกระโดดข้ามอย่างรวดเร็วหากจำเป็น นอกจากนี้ ฟังก์ชันลิ้นเร่งระดับกลางในโหมด "Sport" และ "Sport+" ปรับการทำงานเพื่อเปลี่ยนเกียร์ที่ดึงดูดต่ออารมณ์มากเป็นพิเศษ ฟังก์ชัน RACE START มาพร้อมอัตราเร่งที่ดีที่สุดตั้งแต่ออกตัวจากจุดหยุดนิ่งไปจนถึงรอบเครื่องสูงสุดในเกียร์ 7
เทคโนโลยีระบบอัดอากาศแบบใหม่ เหมือนกับที่ใช้ในรถ Mercedes-AMG F1 โดยเพิ่มมอเตอร์ไฟฟ้าหนา 4 ซม. เข้ากับแกนของเทอร์โบชาร์จเจอร์ มอเตอร์ไฟฟ้าหมุนด้วยรอบสูง เพื่อขับเคลื่อนแกนเทอร์ไบน์โดยตรง ซึ่ง Mercedes-AMG แจ้งว่า "เพื่อปรับปรุงการตอบสนองในทันที จากความเร็วรอบเดินเบาไปจนถึงตลอดช่วงความเร็วรอบเครื่องยนต์ให้ตอบสนองได้เร็วมากกว่าเดิม" เพิ่มประสิทธิภาพการเร่งความเร็ว นอกจากนี้ ยังรักษาแรงดันบูสต์ เมื่อผู้ขับถอนเท้าออกจากคันเร่งอีกด้วย
อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 4.9 วินาที และความเร็วสูงสุด 273 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เกียร์มัลติคลัตช์ AMG Speedshift 9 สปีด มีการปรับอัตราทดใหม่ เพื่อทำให้เกียร์ทดแรงบิดอย่างต่อเนื่องในทุกตำแหน่ง Jochen Hermann หัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านเทคนิคของ Mercedes กล่าวว่า "เทอร์โบชาร์จเจอร์ไอเสียไฟฟ้า เป็นตัวอย่างที่น่าสนใจของการถ่ายโอนอย่างกว้างขวางระหว่างเทคโนโลยี Formula 1 และการพัฒนารถยนต์ที่ใช้งานจริง
เครื่องยนต์ M139 สี่สูบอันทรงพลัง สามารถดึงศักยภาพของรถในรูปแบบ Mercedes-AMG High Performance Powertrains เทคโนโลยีนี้ ช่วยเพิ่มความคล่องตัวและทำให้การขับขี่สนุกขึ้น ในขณะเดียวกันก็ปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบขับเคลื่อนและระบบรองรับอีกด้วย
SL 43 มีการออกแบบภายนอกที่ปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัยได้อย่างลงตัว กันชนด้านหน้าและด้านหลังแบบโค้งมน ล้ออัลลอย AMG ขนาด 19 นิ้วติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน พร้อมออปชั่นเสริมด้วยล้อ AMG ขนาด 20 นิ้ว หรือ 21 นิ้ว หลังคาผ้าน้ำหนักเบา เปิด-ปิดใช้เวลา 15 วินาที และสามารถเปิดออกหรือกางเพื่อปิดเมื่อสภาพอากาศไม่เป็นใจ ที่ความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
เครื่องยนต์ที่มีขนาดเล็กลง หมายถึงมวลที่น้อยลงทางด้านหน้า ทำให้ SL 43 มีลักษณะการควบคุมที่ปราดเปรียว มีการปรับแต่งเพิ่มเติมด้วยเหล็กกันโคลงทอร์ชั่นบาร์ที่เบาขึ้นเพื่อเสริมแรงยึดเกาะ SL 43 มีช่องระบายอากาศที่แผงด้านหน้าส่วนล่าง เช่นเดียวกับแผงด้านหลังที่เรียบลื่น โดยไม่มีช่องระบายอากาศแนวตั้ง AMG SL 43 ใช้ปลายท่อไอเสียแบบเหลี่ยมรูปวงรี คุณสมบัติเจ๋งๆ ของ SL ทั้งหมดที่มีใน SL55 และ SL63 ซึ่งรวมถึงระบบ Rear Wheel Steering
โหมดการขับที่หลากหลาย แพ็กเกจ AMG Dynamic Plus และการตกแต่งภายในที่หรูหราเหนือระดับ ด้วยหน้าจอดิจิทัล และระบบ MBUX ล่าสุด 6 โหมดขับเคลื่อน ใน AMG DYNAMIC SELECT driving modes เริ่มจาก "Slippery", "Comfort", "Sport", "Sport +" และ "Individual" กับโหมดสูงสุด "RACE" โหมดขับขี่ AMG DYNAMIC SELECT ทำให้ AMG SL 43 มีคุณสมบัติของ AMG DYNAMICS ครบถ้วน การควบคุมไดนามิกของรถแบบบูรณาการ ขยายฟังก์ชันการทรงตัวของระบบรักษาเสถียรภาพ ESP® ด้วยการแทรกแซงเท่าที่จำเป็น ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในลักษณะของการบังคับเลี้ยว เป็นฟังก์ชันเพิ่มเติมของ ESP® เมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง ตัวอย่าง เช่น การแทรกแซงด้วยการสั่งเบรกแบบอัตโนมัติในช่วงสั้นๆ ที่ล้อหลังด้านในขณะเลี้ยว เพื่อให้เลี้ยวเข้าโค้งได้อย่างแม่นยำและตอบสนองต่อการควบคุมทิศทางได้ง่ายกว่าเดิม
Mercedes-AMG SL 43 มาพร้อมกับระบบกันสะเทือน AMG RIDE CONTROL ที่พัฒนาขึ้นใหม่ พร้อมโช้คอัพอะลูมิเนียมที่ทรงพลังเป็นพิเศษกับคอยล์สปริงน้ำหนักเบา SL ใหม่ เป็นรถยนต์ในสายการผลิตคันแรกของ Mercedes-AMG ที่มีเพลาหน้าแบบมัลติลิงก์ พร้อมลิงก์ห้าจุดที่จัดเรียงไว้ภายในขอบล้อทั้งหมด ช่วยปรับปรุงจลนศาสตร์ของการยึดเกาะได้อย่างมาก ช่วงล่างหลังแบบ 5 Link ควบคุมมุมของล้อได้อย่างตรงไปตรงมา
เพื่อลดมวลใต้สปริง ข้อต่อช่วงล่าง แกนบังคับเลี้ยว ตัวยึดล้อบนเพลาหน้าและหลังของ SL ใหม่ทั้งหมดทำจากอะลูมิเนียมหลอม แนวคิดช่วงล่างหน้าหลังมัลติลิงก์ ควบคุมล้อแต่ละล้อด้วยการเคลื่อนไหวที่ยืดหยุ่นน้อยที่สุด มุมแคมเบอร์สูงและเสถียรภาพของแทร็กไม่เพียงแต่ช่วยให้เข้าโค้งได้เร็ว แต่ยังช่วยให้ผู้ขับสัมผัสถนนได้อย่างเหมาะสมเมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง สะท้อนให้เห็นถึงไดนามิกด้านข้างที่ยอดเยี่ยมและเสถียรภาพในการขับขี่ที่ความเร็วสูง ปฏิกิริยาที่ดีต่ออิทธิพลภายนอกที่ส่งผลต่อรถในขณะขับเคลื่อน เช่น ลมที่พัดขวาง ผิวถนนที่ไม่เรียบ ฯ
คอยล์สปริงน้ำหนักเบา ช่วยให้น้ำหนักลดลงโดยไม่ลดประสิทธิภาพของการยึดเกาะและความสบาย การเชื่อมต่อที่แน่นหนาด้านบนที่อยู่ใกล้กับซุ้มล้อบังโคลน ป้องกันการสึกหรอที่เกิดจากสิ่งสกปรก เช่น ทรายหรือดินโคลนตลอดอายุการใช้งาน สปริงจะไม่มีการสึกกร่อนตลอดอายุการใช้งาน ดังนั้นน้ำหนักของส่วนประกอบจึงเพิ่มขึ้นได้สูงสุดด้วยน้ำหนักที่น้อยลง ช่วยลดน้ำหนักได้ 0.2 กิโลกรัมต่อสปริงหนึ่งข้าง โครงสร้างน้ำหนักเบาของเหล็กกันโคลงทอร์ชั่นบาร์ที่ด้านหน้าและหลัง มีน้ำหนักลดลง SL 43 มีตัวหน่วงแบบปรับได้ของ AMG รุ่นล่าสุด ชุดควบคุมระบบกันสะเทือน ใช้การวิเคราะห์ข้อมูล รวมถึงเซนเซอร์เร่งความเร็ว และการเคลื่อนที่ของล้อ เพื่อปรับแรงหน่วงสำหรับแต่ละล้อ ในเวลาไม่กี่มิลลิวินาที เพื่อให้เหมาะกับสถานการณ์ ผู้ขับสามารถเลือกการตั้งค่าล่วงหน้าได้ผ่านโหมดการขับขี่ AMG DYNAMIC SELECT เพียงกดปุ่ม ลักษณะการบังคับรถจะเปลี่ยนไป เช่น จากไดนามิกเต็มรูปแบบในโหมด "Sport+" ไปจนถึงการขับเคลื่อนอย่างนุ่มนวลในโหมด "Comfort" นอกจากนี้ยังสามารถปรับจูนได้สามระดับ โดยไม่ขึ้นกับโหมดการขับขี่ด้วยปุ่มพิเศษ
การตกแต่งภายในของ Mercedes-AMG SL 43 ใช้รูปทรงแอนาล็อกผสมผสานกับโลกดิจิทัลยุคใหม่ ซึ่งเรียกว่า "ไฮเปอร์แอนาลอก" แผงหน้าปัดแบบดิจิทัลเต็มรูปแบบ รวมเข้ากับดีไซน์แบบสามมิติ ระบบอินโฟเทนเมนต์ MBUX นำเสนอรูปแบบการแสดงผลเฉพาะทาง ปรับแต่งและเลือกดูข้อมูลต่างๆ ได้นับร้อยๆ รายการ แผงหน้าปัดแบบสมมาตร ออกแบบให้เป็นปีกที่ทรงพลัง จุดเด่นคือ หัวฉีดเทอร์ไบน์ พื้นผิวของมันผสานเข้ากับแผงหน้าปัดในรูปแบบของพาวเวอร์โดมอันทรงพลัง ส่วนล่างของแผงหน้าปัด พัฒนาอย่างลื่นไหลจากคอนโซลกลาง เชื่อมต่อองค์ประกอบทั้งสองฝั่งได้อย่างลงตัว
หน้าจอ LCD ความละเอียดสูงขนาด 12.3 นิ้ว ของแผงหน้าปัด ไม่ได้ออกแบบมาให้ตั้งได้อิสระ แต่รวมอยู่ในมาตรวัดไฮเทคที่ป้องกันการสะท้อนซึ่งเกิดจากแสงแดด เพื่อหลีกเลี่ยงการสะท้อนแสงรบกวนที่เกิดจากตำแหน่งดวงอาทิตย์ที่แตกต่างกันเมื่อเปิดหลังคาอ่อน หน้าจอสัมผัสบนคอนโซลกลางสามารถปรับเอียงได้ตั้งแต่ 12 องศาถึง 32 องศา
ระบบปฏิบัติการ MBUX (Mercedes-Benz User Experience) เวอร์ชันล่าสุด ออกแบบให้ใช้งานง่ายและสามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว นำเสนอเนื้อหาการทำงานและโครงสร้างการทำงานของระบบ MBUX เจเนอเรชันที่สอง ซึ่งเปิดตัวใน Mercedes-Benz S-Class ใหม่ (V223) ใน SL 43 มีการเพิ่มเนื้อหาเฉพาะของฟังก์ชัน AMG ในรูปแบบการแสดงผลมากถึงห้าแบบ เมนูพิเศษ "AMG Performance" หรือ "AMG TRACK PACE" ยังเน้นกราฟิกที่สวยงามในองค์ประกอบแบบสปอร์ต
เบาะนั่งปรับได้ด้วยไฟฟ้า ผสมผสานระหว่างหนังและผ้า ARTICO เบาะนั่งทำจากหนัง NAPPA และหนัง NAPPA AMG ที่สามารถเลือกได้ เช่นเดียวกับเบาะนั่งแบบสปอร์ต AMG และเบาะนั่ง AMG Performance ที่มีการออกแบบคล้ายเบาะของซุปเปอร์คาร์หรือรถแข่ง เบาะนั่ง AMG Performance ราคากว่า 4-5 แสนบาท หุ้มด้วยหนัง nappa หรือหนังราคาแพงอย่าง DINAMICA พร้อมเย็บตกแต่งด้านบนด้วยสีเหลืองหรือแดง แผงตกแต่งและคอนโซลกลางให้สัมผัสของพื้นผิวแบบอะลูมิเนียม หรือคาร์บอนสีดำโครเมียม MANUFAKTUR พวงมาลัย AMG Performance หนัง MICROCUT.
Technical data
Engine
Number of cylinders/arrangement 4/in-line
Displacement 1,991 cc
Rated output 280 kW/ 381 hp at engine speed 6,750 rpm
Additional output (Boost) 10 kW/14 hp
Rated torque 480 Nm at engine speed 3,250-5,000 rpm
Compression ratio 10.0
Mixture formation
combined direct petrol injection and intake manifold injection, turbocharging by means of electrically assisted exhaust gas turbocharger
Power transmission
Drive system layout Rear-wheel drive
Transmission AMG SPEEDSHIFT MCT 9G (automatic transmission with wet multi-disc start-off clutch)
Gear ratios 1st 5.35 /2nd 3.24 /3rd 2.25 /4th 1.64 /5th 1.21 /6th 1.00 /7th 0.87 /8th 0.72 /9th gear 0.60
Reverse 4.80
Front axle
AMG RIDE CONTROL suspension with aluminium double wishbones, anti-squat and anti-dive geometry, lightweight coil springs and stabiliser bar
AMG RIDE CONTROL suspension with aluminium double wishbones, anti-squat and anti-dive geometry, lightweight coil springs and stabiliser bar
Brake system
Hydraulic dual-circuit brake system; 390 mm composite brake discs at front, vented and perforated, 6-piston aluminium fixed calliper; 360 mm composite brake discs at rear, vented and perforated, 1-piston aluminium floating calliper; electric parking brake, ABS, Brake Assist, 3-stage ESP®
Electromechanical speed-sensitive power steering with rack and pinion, variable steering ratio (12.8:1 at dead centre) and variable power assistance
front: 9.5 J x 19; rear: 11 J x 19
Tyres front: 255/45 ZR 19; rear: 285/40 ZR 19
Dimensions and weights
Wheelbase 2700 mm
Front/rear track 1,665 /1,629 mm
Length 4,705 mm /height 1,359 mm /width 1,915 mm
Turning circle 12.84 m
Boot capacity 213-240L
Kerb weight acc. to EC 1810 kg
Payload 335 kg
Tank capacity/of which reserve 70/10 L
Performance, consumption, emissions
Acceleration 0-100 km/h 4.9 sec
Top speed 275 km/h (electronically limited)
Combined fuel consumption, WLTP l/100 km 9.4-8.9
ประกอบนอกราคาน่ารัก! มาแล้ว Mercedes-AMG SL43 - ไทยรัฐ
Read More
No comments:
Post a Comment