Rechercher dans ce blog

Thursday, March 2, 2023

เปิดคุณสมบัติด้านการได้ยินอย่างปลอดภัย บนอุปกรณ์ "แอปเปิล" - มติชน

apple
(AP Photo/Gene J. Puskar)

เปิดคุณสมบัติด้านการได้ยินอย่างปลอดภัย บนอุปกรณ์ “แอปเปิล”

เนื่องในโอกาสที่วันที่ 3 มีนาคม เป็นวันการได้ยินโลก (World Hearing Day หรือ WHD) วันที่เกี่ยวกับการรับรู้ การป้องกัน และการสนับสนุนในเรื่องการได้ยินและการสูญเสียการได้ยิน ซึ่ง Apple มีคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมสำหรับทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น ได้แก่คุณสมบัติการฟังอย่างปลอดภัย การช่วยปรับหูฟัง การจำเสียง และอีกมากมาย

จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO) มีผู้คน 430 ล้านคนทั่วโลก หรือ 5% ของประชากรโลกที่สูญเสียการได้ยิน โดยการศึกษาวิจัยแสดงให้เห็นว่าผู้ที่สูญเสียการได้ยินอาจมีปัญหาในการพูดคุยกับเพื่อนๆ และครอบครัว การตอบสนองต่อการเตือน หรือการได้ยินเสียงกริ่งประตูและสัญญาณเตือน ดังนั้น คุณสมบัติการช่วยการได้ยินของ Apple จึงมุ่งที่จะช่วยเหลือทุกเรื่องเกี่ยวกับความต้องการด้านการได้ยินอันมากมายเหล่านี้

และนี่คือ ข้อมูลเกี่ยวกับคุณสมบัติด้านสุขภาพการได้ยิน ซึ่งเน้นที่การช่วยเหลือผู้ใช้งานในการติดตามและปกป้องสุขภาพการได้ยินของตนเอง รวมถึงคุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงด้านการได้ยิน ที่จะช่วยเหลือผู้ใช้งานซึ่งสูญเสียการได้ยิน

สุขภาพการได้ยิน

1. แอปเสียงรบกวนบน Apple Watch ช่วยปกป้องและติดตามสุขภาพการได้ยิน

จากผลการศึกษาใน การศึกษาวิจัยด้านการได้ยินของ Appleพบว่าผู้เข้าร่วมการศึกษาวิจัย 25% พบกับเสียงต่างๆ จากสภาพแวดล้อมในชีวิตประจำวัน (ซึ่งมีทั้งเสียงการจราจร เครื่องจักร การขนส่งสาธารณะ และอื่นๆ) โดยเฉลี่ยแล้วสูงกว่าขีดจำกัดซึ่งแนะนำโดย WHO แอปเสียงรบกวน บน Apple Watch ใช้ไมโครโฟนในการวัดระดับเดซิเบลในสิ่งแวดล้อมของคุณ และจะส่งการแจ้งเตือนเสียงรบกวน หากระดับเสียงในสภาพแวดล้อมรอบตัวคุณสูงถึงระดับที่อาจส่งผลต่อการได้ยินของคุณ

วิธีเปิดการแจ้งเตือนเสียงรบกวน

  • เปิดแอป Apple Watch บน iPhone ของคุณ
  • แตะแท็บ Apple Watch ของฉัน แล้วแตะ “เสียงรบกวน”
  • แตะ “เกณฑ์เสียงรบกวน” แล้วเลือกระดับเดซิเบล

เคล็ดลับ: คุณยังสามารถปรับการแจ้งเตือนได้โดยตรงจาก Apple Watch ของคุณ โดยไปที่ การตั้งค่า > เสียงรบกวน

เคล็ดลับ: คุณสามารถเปิดแอปเสียงรบกวนบน Apple Watch ของคุณ เพื่อวัดระดับเดซิเบลของสภาพแวดล้อมรอบตัวคุณได้แบบได้เรียลไทม์

2. โหมดฟังเสียงภายนอกที่ปรับตามสภาวะและการตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟบน AirPods ช่วยลดการได้ยินเสียงรบกวนที่ดังอยู่รอบตัว

โหมดฟังเสียงภายนอกที่ปรับตามสภาวะบน AirPods Pro (รุ่นที่ 2) ช่วยลดระดับความดังของเสียงรบกวนจากสภาพแวดล้อมที่เป็นอันตรายอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเสียงการก่อสร้างดังๆ หรือเสียงไซเรนจากยานพาหนะที่วิ่งผ่าน โดยตอบสนองอย่างทันทีกับเสียงที่มีระดับเดซิเบลสูงมากๆ แทนคุณ ซึ่งจะช่วยลดระดับการได้ยินเสียงรบกวนที่เป็นอันตรายในกิจวัตรประจำวัน อย่างเช่นการเดินทางในตอนเช้าหรือการเดินไปรับประทานอาหารกลางวัน และยังเป็นประโยชน์เป็นอย่างยิ่งในการไปชมคอนเสิร์ตหรือกิจกรรมบันเทิงแบบแสดงสดด้วยเช่นกัน และหากต้องใช้เวลาอยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เสียงดังมากๆ นานเท่าใด การเปิดการตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟก่อนล่วงหน้า ก็จะยิ่งเป็นประโยชน์มากขึ้นเท่านั้น โดย แอปเสียงรบกวน บน Apple Watch ยังสามารถมอบการรับรู้แบบเรียลไทม์ได้ด้วยว่า เสียงรบกวนจากสภาพแวดล้อมลดลงไปเท่าใดในขณะที่คุณสวมใส่ AirPods Pro โดยใช้โหมดฟังเสียงภายนอกที่ปรับตามสภาวะหรือการตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟ

วิธีการเปิดโหมดฟังเสียงภายนอกที่ปรับตามสภาวะ:

  • ไปที การตั้งค่า > [AirPods ของคุณ] แล้วเปิด “โหมดฟังเสียงภายนอกที่ปรับตามสภาวะ”

วิธีเปิดการตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟ:

  • ไปที การตั้งค่า [AirPods ของคุณ] แล้วเปิด “การตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟ”

ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟ โหมดฟังเสียงภายนอกที่ปรับตามสภาวะ และคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์อื่นๆ ในวิดีโอเปิดตัว AirPods Pro (รุ่นที่ 2)

3. คุณสมบัติระดับเสียงของหูฟัง – การทำความเข้าใจว่าความดังของหูฟังอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพการได้ยินของคุณอย่างไรบ้าง

สำหรับผู้ที่ฟังเสียงดังๆ ด้วยหูฟังเป็นเวลานานพอที่จะสามารถส่งผลกระทบต่อการได้ยิน iPhone และ Apple Watch สามารถส่งการแจ้งเตือนโดยอัตโนมัติ เพื่อแนะนำว่าพวกเขาควรลดระดับความดังลง และหลังจากการแจ้งเตือน ครั้งถัดไปที่คุณเสียบหูฟังหรือเชื่อมต่อโดยใช้ Bluetooth ระดับความดังของเสียงก็จะตั้งไว้ที่ระดับต่ำโดยอัตโนมัติ นอกเหนือจากนั้น คุณยังสามารถใช้การตั้งค่าของแอปเพื่อตั้งระดับเดซิเบลสูงสุด ที่ทำให้เสียงจากหูฟังของคุณอยู่ในระดับที่ฟังได้สบายๆ

วิธีตั้งค่าความปลอดภัยหูฟัง:

ไปที่ การตั้งค่า > เสียงและการสั่น > ความปลอดภัยหูฟัง
เปิดใช้ “ลดเสียงดัง” จากนั้นลากแถบเลื่อนเพื่อไปยังระดับเดซิเบลที่ต้องการ

เคล็ดลับ: หากคุณตั้งค่าเวลาหน้าจอสำหรับสมาชิกครอบครัว คุณสามารถป้องกันไม่ให้พวกเขาเปลี่ยนแปลงระดับลดเสียงดังได้ โดยไปที่ การตั้งค่า > เวลาหน้าจอ > จำกัดเนื้อหาและความเป็นส่วนตัว > ลดเสียงดัง แล้วเลือก “ไม่อนุญาต”

การช่วยการเข้าถึงด้านการได้ยินกับ AirPods

1. การช่วยปรับหูฟังสำหรับ AirPods – การปรับแต่ง AirPods ให้ตรงกับความต้องการของคุณ

ไม่ว่าคุณจะฟังเพลง ดูภาพยนตร์ หรือพูดคุยกับคนที่คุณรัก คุณสมบัติการช่วยปรับหูฟังช่วยให้คุณปรับแต่งเสียงให้เหมาะกับความต้องการด้านการได้ยินของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการขยายเสียงที่เบาๆ ให้ดัง และปรับคลื่นความถี่ให้เข้ากับความต้องการของแต่ละคน ซึ่งหากคุณมีกราฟแสดงผลตรวจการได้ยินอยู่แล้ว ก็สามารถอิมพอร์ตข้อมูลจากกระดาษหรือ PDF ได้เลย แต่ถ้าไม่มี เราจะให้คุณทำชุดทดสอบการฟังทีละขั้นตอน ซึ่งจะช่วยให้คุณตั้งค่าโปรไฟล์ที่ไม่ซ้ำกันได้ถึง 9 รูปแบบตามการตั้งค่าเสียงเฉพาะตัวของคุณ

ดูวิธีการใช้คุณสมบัตินี้บนแต่ละอุปกรณ์ของเราได้ที่ด้านล่าง

2. คุณสมบัติเพิ่มเสียงสนทนาบน AirPods เพื่อให้ได้ยินเสียงผู้อื่นชัดเจนขึ้นในที่ที่มีเสียงดัง

เวลาที่คุณพูดคุยกับใครบางคนในที่ที่มีเสียงดัง คุณสมบัติเพิ่มเสียงสนทนาบน AirPods Pro หรือ AirPods Pro Max สามารถช่วยให้คุณได้ยินเสียงของอีกฝ่ายชัดเจนขึ้น ด้วยการโฟกัสไปที่เสียงพูดของผู้ที่อยู่ตรงหน้าคุณ คุณสมบัติเพิ่มเสียงสนทนาใช้การเรียนรู้ของระบบในตัวอุปกรณ์เพื่อตรวจจับและขยายเสียงบางอย่างให้ดังขึ้น อย่างเช่นเสียงของผู้ที่กำลังคุยอยู่กับคุณจากอีกฟากหนึ่งของห้องที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย

วิธีเปิดการเพิ่มเสียงสนทนา บน AirPods Pro และ AirPods Pro Max:

ใส่ AirPods ของคุณ และ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเชื่อมต่อกับ อุปกรณ์ของคุณแล้ว
บน iPhone, iPad ไปที่ การตั้งค่า > การช่วยการเข้าถึง > เสียง/ภาพ > การช่วยปรับหูฟัง และตรวจสอบให้มั่นใจว่าคุณสมบัติการช่วยปรับหูฟังเปิดแล้ว

แตะโหมดฟังเสียงภายนอก เปิดการปรับโหมดฟังเสียงภายนอก แล้วเปิดการเพิ่มเสียงสนทนา

ดูวิดีโอบริการช่วยเหลือของ Apple นี้เพื่อเรียนรู้วิธีตั้งค่าการเพิ่มเสียงสนทนา

ดูวิดีโอนี้ที่เป็นการประกาศคุณสมบัติการเพิ่มเสียงสนทนาที่งาน Worldwide Developer Conference ของ Apple เมื่อปี 2021

หมายเหตุ: คุณสมบัติเพิ่มเสียงสนทนามีใน AirPods Pro (รุ่นที่ 1 และ 2)

3. คุณสมบัติฟังสด – การใช้ iPhone หรือ iPad เป็นไมโครโฟนสำหรับ AirPods ของคุณ

ด้วยคุณสมบัติฟังสด iPhone หรือ iPad ของคุณ สามารถทำหน้าที่เหมือนเป็นไมโครโฟนที่ส่งเสียงไปยัง AirPods ของคุณ ตัวอย่างเช่นเพื่อช่วยให้คุณได้ยินเสียงของใครบางคนชัดเจนขึ้น อย่างสมาชิกครอบครัวที่อยู่ห่างออกไปอีกฟากหนึ่งของห้องรับแขก คุณสมบัติฟังสดยังใช้งานได้บนหูฟัง Beats และอุปกรณ์ช่วยฟัง Made for iPhone อีกด้วย

วิธีการตั้งค่าและใช้คุณสมบัติฟังสดสำหรับ AirPods, Beats หรืออุปกรณ์ช่วยฟัง MFi:

เพิ่มฟังสดไปที่ศูนย์ควบคุม

  • ไปที่ การตั้งค่า > ศูนย์ควบคุม
  • เลื่อนลงแล้วแตะปุ่ม “เพิ่ม” pastedGraphic.png ถัดจากปุ่ม “การฟัง” pastedGraphic_1.png.
  • แตะ “การตั้งค่า” เพื่อบันทึกการเปลี่ยนแปลง

การใช้คุณสมบัติฟังสด

  • เปิดศูนย์ควบคุมบน iPhone หรือ iPad.
  • แตะปุ่ม “ได้ยิน” pastedGraphic_2.png.
  • แตะ “ฟังสด”
  • วาง iPhone, iPad ของคุณไว้ตรงหน้าคนที่คุณต้องการได้ยินเสียง หากคุณยังได้ยินเสียงไม่ชัด ให้ปรับระดับเสียงบนอุปกรณ์ของคุณ

ดูวิดีโอบริการช่วยเหลือของ Apple นี้เพื่อเรียนรู้วิธีใช้คุณสมบัติ “ฟังสด”

คุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงด้านการได้ยินอื่นทั้งบน iPhone และ iPad

1. การจำเสียง – การส่งสัญญาณเตือนแบบไร้เสียง

การจำเสียงบน iPhone และ iPad จะฟังเสียงบางอย่างที่เร่งด่วน อย่างเช่นเสียงอุปกรณ์ตรวจจับควันและเสียงกริ่งประตู โดยใช้ระบบอัจฉริยะบนอุปกรณ์ และแจ้งเตือนคุณเมื่อมีการตรวจจับได้ คุณยังสามารถฝึกอุปกรณ์ของคุณให้ฟังเสียงจากอุปกรณ์ไฟฟ้าบางประเภทที่อยู่ในสภาพแวดล้อมของคุณโดยเฉพาะ อย่างเช่นเสียงเตือนของเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวของคุณ

วิธีใช้การจำเสียง:

ไปที่ การตั้งค่า > การช่วยการเข้าถึง > การจำเสียง แล้วเปิดใช้ “การจำเสียง”
แตะ “เสียง” แล้วเปิดใช้เสียงที่คุณต้องการให้ iPhone จำ

ดูวิดีโอบริการช่วยเหลือของ Apple นี้เพื่อเรียนรู้วิธีตั้งค่าการจำเสียง

ดูวิดีโอบริการช่วยเหลือของ Apple นี้เพื่อเรียนรู้วิธีเพิ่มเสียงของลูกค้าไปที่การจำเสียง

เคล็ดลับ: วิธีเปิดหรือปิดการจำเสียงอย่างรวดเร็ว ใช้ศูนย์ควบคุม.

2. อุปกรณ์ช่วยฟัง Made for iPhone – สตรีมเสียงโดยตรงจาก iPhone หรือ iPad ไปยังอุปกรณ์ช่วยฟังของคุณ

อุปกรณ์ช่วยฟัง Made for iPhone (MFi) เป็นแพลตฟอร์มอุปกรณ์ช่วยฟังสำหรับสมาร์ทโฟนที่ล้ำหน้าที่สุดในโลก ซึ่งมีให้เลือกใช้เกือบ 200 รุ่นจากผู้ผลิตมากกว่า 40 ราย ผู้สวมใส่อุปกรณ์ช่วยฟังสามารถสตรีมเสียงอย่างเช่นการโทรศัพท์หรือการโทร FaceTime, เสียงเพลง, Siri และคอนเทนต์อื่นๆ ได้โดยตรงจาก iPhone และ iPad ไปยังอุปกรณ์ช่วยฟังของตนเอง นอกจากนี้อุปกรณ์ช่วยฟัง MFi แบบสองทิศทางยังมีไมโครโฟนเพื่อช่วยให้คุณสนทนาทางโทรศัพท์และ FaceTime ได้แบบแฮนด์ฟรีบน iPhone และ iPad

เลือกอุปกรณ์ช่วยฟัง MFi ที่ใช้งานได้รวมถึงตัวเลือกแบบสองทิศทางได้

ตั้งค่าและใช้อุปกรณ์ช่วยฟัง MFi:

  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่า Bluetooth เปิดอยู่ ไปที่ “การตั้งค่า” แล้วเลือก Bluetooth
    เปิดฝาครอบแบตเตอรี่ของอุปกรณ์ช่วยฟังของคุณ
  • บนอุปกรณ์ Apple ของคุณ ไปที่ การตั้งค่า > การช่วยการเข้าถึง > อุปกรณ์ช่วยฟัง แล้วเลือก “อุปกรณ์ช่วยฟัง”
  • ปิดฝาครอบแบตเตอรี่ของอุปกรณ์ช่วยฟังของคุณ อุปกรณ์ Apple จะค้นหาอุปกรณ์ช่วยฟังของคุณ
    แตะที่ชื่ออุปกรณ์ช่วยฟังของคุณใต้อุปกรณ์ช่วยฟัง MFi
  • แตะ “จับคู่” เมื่อคุณเห็นคำขอจับคู่บนหน้าจอ หากคุณมีอุปกรณ์ช่วยฟังสองเครื่อง คุณจะได้รับคำขอจับคู่สองรายการ การจับคู่อาจใช้เวลาถึงหนึ่งนาที
  • คุณจะสามารถเริ่มต้นใช้อุปกรณ์ช่วยฟังของคุณได้ เมื่อคุณเห็นชื่อของอุปกรณ์ขึ้นอยู่ใต้อุปกรณ์ช่วยฟัง MFi พร้อมด้วยเครื่องหมายถูก

Adblock test (Why?)


เปิดคุณสมบัติด้านการได้ยินอย่างปลอดภัย บนอุปกรณ์ "แอปเปิล" - มติชน
Read More

No comments:

Post a Comment

รีวิว Death Stranding Director's Cut เล่นบน iPad Pro M2 - iPhoneMod

ในที่สุดสาวก Apple อย่างเราก็ได้เล่นเกม Death Stranding เวอร์ชัน Director’s Cut บนอุปกรณ์ Apple กันแล้ว ใครอยากลองเล่นเข้าไปซื้อเกมใน App S...