Rechercher dans ce blog

Thursday, August 31, 2023

ยางรถยนต์ขอบ 17 ยี่ห้อไหนดี 2023 ที่เป็นยางนุ่มเงียบขับสบาย - kapook.com

ยางรถยนต์ขอบ 17 ยี่ห้อไหนดี 2023 ประเภทนุ่มเงียบ เน้นความสบายในการขับขี่สำหรับรถเก๋ง และรถ SUV พร้อมขนาดและราคายางรถยนต์ มีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง

แนะนำ ยางรถยนต์ขอบ 17 ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ที่เป็นยางประเภทนุ่มเงียบ ซึ่งเหมาะกับผู้ที่ต้องการความสบายในการเดินทาง ให้ความนุ่มนวลสูง เสียงรบกวนต่ำ มากกว่าการขับแบบสปอร์ต ทั้งสำหรับรถยนต์นั่งว่าปัจจุบันมียางนุ่มเงียบขอบ 17 ยี่ห้อไหนน่าสนใจ มีขนาดให้เท่าไหร่บ้าง รวมถึงราคาคร่าว ๆ ก่อนตัดสินใจเปลี่ยนยางเส้นใหม่

ยางรถยนต์ขอบ 17 ยี่ห้อไหนดี 2023

อัปเดตยางนุ่มเงียบขอบ 17 ยี่ห้อที่ได้รับความนิยม ซึ่งยางกลุ่มนี้จะให้ความนุ่มนวลในการขับขี่สูง เสียงรบกวนต่ำ ซึ่งต้องแลกกับความทนทาน รวมถึงการบังคับควบคุมที่ลดลงไปบ้าง แต่ให้ความสบายในการเดินทางสูง ส่วนจะมีรุ่นไหนบ้างไปเช็กกันเลย

ยางรถยนต์ขอบ 17 สำหรับรถเก๋ง

1. Yokohama Advan DB V552

ภาพจาก : yokohamathailand.com

ภาพจาก : yokohamathailand.com

Yokohama Advan DB V552 ยางนำเข้าจากญี่ปุ่น มีดอกยางที่ถูกลบเหลี่ยม ทำให้วิ่งได้นุ่มเงียบยาวนานขึ้น ร่องยางบิดเป็นเกลียว เพิ่มความแข็งแรงให้กับดอกยาง ลดการสึกหรอ

ราคายางรถยนต์ขอบ 17 ของ Yokohama Advan DB V552 (ต่อเส้น)

  • ขนาด 205/45 R17 ราคา 4,900 บาท

  • ขนาด 215/45 R17 ราคา 5,950 บาท

  • ขนาด 215/50 R17 ราคา 5,400 บาท

  • ขนาด 215/55 R17 ราคา 5,400 บาท

  • ขนาด 215/60 R17 ราคา 6,650 บาท

  • ขนาด 225/45 R17 ราคา 7,050 บาท

  • ขนาด 225/50 R17 ราคา 6,200 บาท

  • ขนาด 225/55 R17 ราคา 6,800 บาท

  • ขนาด 225/60 R17 ราคา 6,850 บาท

  • ขนาด 235/55 R17 ราคา 7,400 บาท

  • ขนาด 245/45 R17 ราคา 7,900 บาท

2. Michelin Primacy 4

ภาพจาก : michelin.co.th

ภาพจาก : michelin.co.th

ยาง Michelin Primacy 4 มีลายดอกยางดีไซน์พิเศษด้วยเทคโนโลยี Silent Rib ด้วยแถบเนื้อยางเสริมระหว่างบล็อกดอกยาง ทำหน้าที่เหมือนสะพานเชื่อมระหว่างบล็อกของดอกยาง เพื่อลดการสั่นสะเทือน ลดเสียงรบกวนไม่ให้เข้าไปในห้องโดยสารและดูดซับแรงกระแทกจากพื้นถนน ให้การขับขี่ที่นุ่มและเงียบสบาย

ราคายางรถยนต์ขอบ 17 ของ Michelin Primacy 4 (ต่อเส้น)

  • ขนาด 205/50 R17 ราคา 6,150 บาท

  • ขนาด 205/55 R17 ราคา 6,190 บาท

  • ขนาด 215/45 R17 ราคา 6,290 บาท

  • ขนาด 215/50 R17 ราคา 5,890 บาท

  • ขนาด 215/55 R17 ราคา 6,290 บาท

  • ขนาด 215/60 R17 ราคา 7,150 บาท

  • ขนาด 225/45 R17 ราคา 7,250 บาท

  • ขนาด 225/50 R17 ราคา 6,290 บาท

  • ขนาด 225/55 R17 ราคา 7,490 บาท

  • ขนาด 225/60 R17 ราคา 7,290 บาท

  • ขนาด 235/55 R17 ราคา 8,190 บาท

  • ขนาด 245/45 R17 ราคา 8,390 บาท

3. Bridgestone Turanza T005A

ภาพจาก : bridgestone.co.th

ภาพจาก : bridgestone.co.th

ยาง Bridgestone Turanza T005A ใช้ด้วยเทคโนโลยีลดเสียงรบกวน บล็อกดอกยางที่มีลักษณะและขนาดที่ต่างกัน รวมถึงร่องดอกยางมีการปรับให้อยู่ในองศาที่เหมาะสม เพื่อลดแรงกระแทกและเสียงรบกวนขณะขับ

ราคายางรถยนต์ขอบ 17 Bridgestone Turanza T005A (ต่อเส้น)

  • ขนาด 215/45 R17 ราคา 6,150 บาท

  • ขนาด 215/50 R17 ราคา 5,000 บาท

  • ขนาด 215/55 R17 ราคา 4,650 บาท 

  • ขนาด 215/60 R17 ราคา 6,500 บาท

  • ขนาด 225/45 R17 ราคา 6,700 บาท

  • ขนาด 225/50 R17 ราคา 5,600 บาท

  • ขนาด 225/55 R17 ราคา 6,800 บาท

  • ขนาด 235/45 R17 ราคา 8,100 บาท

  • ขนาด 235/55 R17 ราคา 8,200 บาท

  • ขนาด 245/45 R17 ราคา 8,200 บาท

4. Dunlop SP SPORT LM705

ภาพจาก : dunloptire.co.th

ภาพจาก : dunloptire.co.th

ยาง Dunlop SP SPORT LM705 ใช้แก้มยางที่ออกแบบมาให้ช่วยดูดซับแรงกระแทกกับพิ้นผิวถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ หน้ายางและดอกยางยังช่วยลดแรงกระแทก รวมถึงอาการสั่นสะเทือนจากพื้นผิวถนน ส่งผลให้การขับมีความนุ่มนวล เสียงรบกวนต่ำ

ราคายางรถยนต์ขอบ 17 Dunlop SP SPORT LM705 (ต่อเส้น)

  • ขนาด 205/45 R17 ราคา 3,600 บาท

  • ขนาด 215/45 R17 ราคา 3,900 บาท

  • ขนาด 215/50 R17 ราคา 4,200 บาท

  • ขนาด 215/55 R17 ราคา 4,400 บาท

  • ขนาด 215/60 R17 ราคา 5,400 บาท

  • ขนาด 225/45 R17 ราคา 5,300 บาท

  • ขนาด 225/50 R17 ราคา 4,800 บาท

  • ขนาด 225/55 R17 ราคา 5,500 บาท

  • ขนาด 235/45 R17 ราคา 6,000 บาท

  • ขนาด 245/45 R17 ราคา 6,300 บาท

5. Goodyear Assurance Tripplemax2

ภาพจาก : goodyear.co.th

ภาพจาก : goodyear.co.th

ยาง Goodyear Assurance Tripplemax2 ใช้เทคโนโลยีไฮโดรเทรด (HydroTred Technology) ที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนและเบรกบนถนนเปียกได้ดีขึ้น ลายดอกยางเป็นแบบอสมมาตร เพิ่มสมรรถนะในการควบคุมทิศทาง รวมถึงการตอบสนองของพวงมาลัยและการเข้าโค้ง นอกจากนี้ยังลดขนาดของร่องดอกยางบริเวณไหล่ยาง เพิ่มจำนวนความถี่ของดอกยางให้มากขึ้น ช่วยลดเสียงจากหน้าสัมผัส เพื่อการขับที่นุ่มนวล

ราคายางขอบ 17 Goodyear Assurance Tripplemax2 (ต่อเส้น)

  • ขนาด 205/45 R17 ราคา 2,850 บาท

  • ขนาด 205/50 R17 ราคา 3,450 บาท

  • ขนาด 215/45 R17 ราคา 3,000 บาท

  • ขนาด 225/45 R17 ราคา 3,500 บาท

  • ขนาด 225/50 R17 ราคา 3,520 บาท

  • ขนาด 225/55 R17 ราคา 3,660 บาท

ความรู้เกี่ยวกับยางรถยนต์

วิธีเลือกซื้อยางรถยนต์

          แม้หน้าที่หลักของยางรถยนต์จะซับแรงสะเทือน รับน้ำหนัก และช่วยให้รถยึดเกาะถนน แต่ยางรถยนต์ที่จำหน่ายนั้นถูกแยกย่อยเอาไว้หลายแบบสำหรับการใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนั้น ก่อนที่เราจะเลือกเปลี่ยนยางรถยนต์ เราควรต้องทราบว่าลักษณะการใช้งานหรือพฤติกรรมการขับขี่เป็นยางไรเสียก่อน เพื่อจะได้เลือกยางรถยนต์ให้เหมาะสมถูกต้อง เช่น ใช้น้อย ระยะทางสั้น ๆ ขับไม่เร็ว อาจไม่จำเป็นต้องใช้ยางรุ่นท็อป ราคาสูงสุดเสมอไป สามารถเลือกยางประหยัดน้ำมัน หรือยางแบรนด์ที่ราคาไม่แพงมากได้ เพราะใช้คุณสมบัติได้ไม่คุ้มค่า

          แต่ถ้าชอบใช้ความเร็วสูง เน้นการยึดเกาะ ยางแบบสปอร์ตจะมีความเหมาะสมมากกว่า หรือกรณีชอบความนุ่ม เงียบ นั่งสบาย ควรต้องเลือกยางกลุ่มนุ่มเงียบ ซึ่งแต่ละยี่ห้อจะแบ่งประเภทยางใกล้เคียงกัน นอกจากนี้ควรเลือกยางรถยนต์ตามลักษณะรถ เช่น รถเก๋ง รถ Crossover SUV รถยนต์ไฟฟ้า รถกระบะ หรือยางออฟโรดโดยเฉพาะ เป็นต้น

          นอกจากการเลือกประเภทยางให้เหมาะสมกับความต้องการแล้ว การซื้อยางรถควรพิจารณาถึงปีที่ผลิต ซึ่งจะระบุไว้ที่แก้มยาง และไม่ควรเลือกยางที่ผลิตนานมากเกินไป เพราะถึงยางจะไม่ถูกใช้งาน แต่เนื้อยางจะเสื่อมสภาพตามเวลา หากได้ยางปีเก่ามาใช้จะทำให้อายุยางเสื่อมเร็วกว่ายางปีใหม่ ทำให้ต้องเปลี่ยนยางเร็วขึ้น หรือประสิทธิภาพต่ำลงเร็ว เมื่อเทียบกับยางปีใหม่กว่า เป็นต้น

ยางรถยนต์มีกี่แบบ

          หากจะแบ่งประเภทของยางรถยนต์ตามสไตล์การขับขี่ หรือการใช้งาน จะแบ่งออกเป็น 6 ประเภทหลัก ได้แก่ ยางนุ่มเงียบ, ยางประหยัดน้ำมัน, ยางสปอร์ตสมรรถนะสูง, ยางออฟโรด, ยาง RunFlat และยางรถยนต์ไฟฟ้า โดยมีรายละเอียดที่น่าสนใจ ดังนี้ 

ยางนุ่มเงียบ

          ยางรถยนต์ที่มีความโดดเด่นในเรื่องรองรับการกระแทกได้ดี ให้ความนุ่ม ลดเสียงรบกวน เนื้อยางออกแบบให้ลดการสั่นสะเทือน ร่องดอกยางละเอียด ตัวยางมีผิวสัมผัสที่กระจายแรงกดแบบสม่ำเสมอ

ยางประหยัดน้ำมัน

          ยางรถยนต์ที่มีส่วนผสมของ Silica Filter ให้คุณสมบัติในการทนความร้อนได้ดีกว่าเมื่อเกิดแรงเสียดทานในขณะขับ เนื้อยางไม่เหนียวเกาะถนนมากเกินไป ลดแรงต้านการหมุนของล้อ ทำให้เครื่องยนต์ไม่สูญเสียกำลังขับเคลื่อนของเครื่องยนต์ ช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้มากขึ้นกว่าเดิม แต่ประสิทธิภาพการเกาะถนนจะไม่สูงเท่ายางกลุ่มอื่นนัก

ยางสปอร์ต

          ยางรถยนต์ที่มีคุณสมบัติการยึดเกาะ ให้ความมั่นคงดีกว่ายางชนิดอื่น ๆ ให้การควบคุมและการตอบสนองกับพวงมาลัยที่แม่นยำ เหมาะสำหรับการขับด้วยความเร็วและพื้นถนนที่เรียบ อาจจะรองรับแรงกระแทกได้ไม่มากเท่าไหร่เมื่อขับบนสภาพถนนที่มีพื้นผิวขรุขระ

ยางออฟโรด

          ยางที่มีความสมบุกสมบัน มีความแข็งแกร่ง เหมาะกับการขับในทุกสภาพพื้นผิว ไม่ว่าจะเป็นดินโคลน พื้นทราย ลุยน้ำ ฝนตก แดดออก ทางลาดชัน พื้นผิวขรุขระ มีแรงเกาะถนนเป็นเยี่ยม ตอบสนองกับพวงมาลัยได้ดี  

ยาง RunFlat

          อีกหนึ่งเทคโนโลยียางรถยนต์ที่แม้ตัวยางจะเกิดอุบัติเหตุ หรือเกิดปัญหา แต่รถจะยังสามารถขับได้อยู่ เช่น รั่ว หรือซึม ส่วนมากใช้ในรถยุโรป และราคายางค่อนข้างสูง

ยางรถยนต์ไฟฟ้า

          เป็นยางที่ออกแบบมาเพื่อใช้กับรถยนต์ไฟฟ้าที่มักจะมีน้ำหนักมากกว่ารถปกติในขนาดที่เท่ากัน เนื่องจากต้องแบกแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ จึงจำเป็นต้องใช้ยางที่สามารถรองรับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น โดยมีผลกระทบกับการดูดซับแรงสะเทือน เกาะถนนน้อยที่สุด รวมถึงการลดเสียงรบกวนขณะแล่น

วิธียืดอายุการใช้งานยางรถยนต์

          แม้ยางรถยนต์จะเป็นอุปกรณ์ของรถยนต์ที่มีอายุ หรือมีวันที่จะเสื่อมสภาพไปตามการใช้งาน แต่ผู้ขับขี่รถยนต์ทุกคน สามารถที่จะยืดอายุการใช้งานยางรถยนต์ให้ยาวนานขึ้นได้ โดยขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาของเรา

เช็กลมยาง และเติมลมยางให้พอดี

          เราควรหมั่นตรวจเช็กลมยางรถยนต์สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ควรเติมลมยางให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม เพราะการเติมลมยางที่อ่อนหรือแข็งจนเกินไปจะส่งผลให้การสึกของดอกยางไม่เท่ากัน รวมถึงสมรรถนะขณะขับขี่ที่อาจด้อยประสิทธิภาพลง

สลับยาง ถ่วงล้อ และตั้งศูนย์

          แม้ยางรถยนต์จะสัมผัสกับพื้นพร้อมกันทั้ง 4 ล้อ แต่การสึกของดอกยางจะไม่เท่ากัน โดยเฉพาะยางคู่หน้า ในรถยนต์ทั่วไปจะเป็นระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ทำให้ยางหน้าจะต้องรับแรงกระชากเมื่อรถออกตัว รวมถึงต้องแบกน้ำหนักของเครื่องยนต์ จึงจำเป็นต้องมีการสลับยาง เพื่อให้ดอกยางทั้ง 4 ล้อสึกเท่ากัน ร่วมถึงการตั้งศูนย์และถ่วงล้อ เพราะเมื่อใช้งานไปสักระยะ การกระจายน้ำหนักและศูนย์ของล้ออาจมีองศาที่เอียง ส่งผลให้การขับขี่ ควบคุมรถ ทำได้ไม่ดี

ลักษณะการขับรถ

          ยางรถยนต์ถึงแม้จะมีคุณสมบัติการรับน้ำหนัก รองรับการกระแทกได้ดีแค่ไหนก็ตาม แต่ถ้าขับรถด้วยความไม่ระมัดระวัง เช่น ขับลงหลุม ขับเบียดทางเท้า ไม่หลบสิ่งกีดขวา หักเลี้ยว หรือเบรกอย่างรุนแรง ก็จะทำให้อายุของยางนั้นสั้นลงกว่าค่าเฉลี่ยได้ หรือหากร้ายแรงจนถึงขั้นชำรุดก็เสี่ยงต่อการเกิดยางระเบิด แตก ขณะขับได้เช่นกัน

เมื่อไหร่ควรเปลี่ยนยางรถยนต์ ?

          ค่าเฉลี่ยในการเปลี่ยนยางรถยนต์ในแต่ละครั้ง ส่วนใหญ่ผู้ผลิตมักกำหนดไว้ที่ 3 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานและลักษณะของการขับขี่ด้วยว่าเป็นอย่างไร แต่นอกจากตัวเลขค่าเฉลี่ยแล้ว คนขับก็สามารถสังเกตลักษณะของยางรถยนต์ตัวเองได้เช่นกันว่าถึงเวลาเปลี่ยนแล้วหรือไม่ โดยดูได้จาก

สะพานยาง

         ให้สังเกตส่วนที่เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างดอกยาง หรือสะพานยาง ถ้าดอกยางสึกจนอยู่ในระดับเดียวกับสะพานยาง หรือใช้มือสัมผัสแล้วรู้สึกว่าสะพานยางอยู่ตื้นมาก นั่นเป็นสัญญาณเตือนว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนยางรถยนต์ใหม่แล้ว

ดอกยาง

          โดยปกติดอกยางใหม่จะลึกประมาณ 8-9 มิลลิเมตร แต่ถ้าดอกยางเหลือไม่ถึง 3 มิลลิเมตรแล้ว ควรรีบเปลี่ยนยางรถยนต์ทันที หากไม่มีอุปกรณ์วัดสามารถตรวจสอบได้โดยการสังเกต หรือใช้ไม้ขีดไฟจิ้มลงไป หากมองเห็นหัวไม้ขีดไฟ ถือว่าดอกยางบางและเหลือน้อย ถึงเวลาเปลี่ยนยางรถยนต์ใหม่

ยางบวม

          ยางบวมมักจะเกิดขึ้นบริเวณในส่วนของแก้มยาง ส่วนใหญ่มักมีสาเหตุมาจากการขับรถเสียดสีอย่างรุนแรง อาจเป็นการชนขอบทางเท้า ขับรถตกหลุม รวมถึงยางที่ใช้ไม่มีประสิทธิภาพ หากฝืนใช้งานต่อไปอาจเสี่ยงต่อการเกิดยางระเบิดหรือแตกกลางทางได้

เช็กความแข็งกระด้าง-รอยแตกลายงา

          ผิวยางรถยนต์ใหม่ ๆ จะมีความเงา เนื้อยางนิ่มระดับหนึ่ง แต่เมื่อผ่านการใช้งานไปสักระยะผิวยางจะเริ่มแข็งกระด้าง ไปจนถึงปรากฏรอยแตกลายงา ซึ่งจะส่งผลต่อความทนทานของแก้มยาง การเกาะถนนและเบรกเป็นอย่างมาก แม้จะยังไม่ถึงขั้นต้องเปลี่ยนในทันที แต่อายุของการใช้งานนั้นก็เหลือไม่มากเช่นกัน ควรหมั่นตรวจสอบเป็นประจำก่อนการขับขี่

ดูตัวเลขที่บริเวณแก้มยาง

          ยางรถยนต์บางทีเมื่อสังเกตจากสภาพภายนอกอาจดูใหม่ ไร้ริ้วรอย แต่จริง ๆ อาจผลิตออกมาหลายปีแล้ว แม้จะยังใช้งานได้ แต่เนื้อยางนั้นจะเสื่อมสภาพลงเรื่อย ๆ วิธีการดูปีที่ผลิตของยางรถยนต์นั้นดูได้จากตัวเลขบริเวณแก้มยาง 

          รหัส 4 ตัวบนแก้มยาง โดยจะระบุเป็น WW/YY หมายถึงสัปดาห์และปีที่ผลิต เช่น 0722 หมายถึงยางที่ผลิตในสัปดาห์ที่ 7 ปี 2022 หรือผลิตในช่วงสัปดาห์ที่ 1-2 ของเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2022 นั่นเอง (1 ปี จะมี 52 สัปดาห์)

          อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงยางรถยนต์บางส่วนที่เราหยิบยกมาให้ดูกัน ส่วนยี่ห้อไหน รุ่นไหน จะมีขนาดใดบ้าง และราคาเท่าไร ควรสอบถามทางร้านหรือตัวแทนจำหน่ายก่อนทำการเปลี่ยนให้ละเอียดอีกครั้ง สำหรับใครที่งบน้อย การเปลี่ยนยางรถยนต์ใหม่ หรือปีการผลิตใหม่ ๆ อาจมีราคาสูง การหันไปเลือกยางค้างปีหรือยางเปอร์เซ็นต์สามารถทำได้ แต่ประสิทธิภาพย่อมด้อยกว่า และต้องตรวจสอบปีที่ผลิต รวมถึงศึกษาวิธีดูยางรถยนต์หมดอายุก่อน แต่ที่สำคัญไม่ว่ายางรถยนต์จะมีประสิทธิภาพสูงแค่ไหน ถ้าเราขับรถด้วยความประมาทก็อาจเกิดอุบัติเหตุได้เช่นเดียวกัน

บทความที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์รถยนต์

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : yokohamathailand.com, michelin.co.th, bridgestone.co.th, dunloptire.co.th และ goodyear.co.th

Adblock test (Why?)


ยางรถยนต์ขอบ 17 ยี่ห้อไหนดี 2023 ที่เป็นยางนุ่มเงียบขับสบาย - kapook.com
Read More

No comments:

Post a Comment

รีวิว Death Stranding Director's Cut เล่นบน iPad Pro M2 - iPhoneMod

ในที่สุดสาวก Apple อย่างเราก็ได้เล่นเกม Death Stranding เวอร์ชัน Director’s Cut บนอุปกรณ์ Apple กันแล้ว ใครอยากลองเล่นเข้าไปซื้อเกมใน App S...