รีวิว MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A13V ซุปเปอร์คาร์ในคราบโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง! - NBS

MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A13V เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คสุดหรูสุดแรง พร้อมอุปกรณ์แน่นกล่อง!

MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A13V เป็นการโคจรมาเจอกันระหว่างโลกไอทีและยานยนต์ ซึ่ง Mercedes-AMG GT4 ที่ลงสนามวัดความเร็วในสนามแข่งและ MSI Stealth 16 Studio A13V ในสนามแข่งโน๊ตบุ๊คระดับ Flagship ต่างก็แชร์ “ความหรูหราที่ซ่อนพลังความแรงไว้ในตัวอย่างเต็มเปี่ยม” และ “One Man, One Engine” ซึ่ง MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A13V นี้ นอกจากได้ดีไซน์ต่างๆ สอดคล้องกับ Mercedes-AMG GT4 แล้ว ความแรงและสัมผัสการใช้งานเรียกว่ายอดเยี่ยมไม่แพ้กัน

นอกจากโลโก้ร่วมระหว่างทั้งสองบริษัทตรงฝาหลังกับขอบล่างของหน้าจอ ก็มีหลายชิ้นส่วนสื่อถึง Mercedes-AMG GT4 ซุกซ่อนเอาไว้บน MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A13V เต็มไปหมด ไม่ว่าจะช่องนำความร้อนเหนือคีย์บอร์ดที่เจาะรูไว้ 2 ขนาด เมื่อมองจะเห็นคำว่า “AMG”, ขอบตัวเครื่องแบบสลักโลโก้ AMG กับ MSI, ลายธงหมากรุก AMG Rhombuses บนปุ่ม Spacebar รวมไปถึงปุ่ม Power สกรีนเป็นคำว่า Start Engine สีเงินเหมือนปุ่มสตาร์ทรถยนต์ ซึ่งจุดเด่นทั้งหมดนี้รวมอยู่ในบอดี้อลูมิเนียมขนาด 16 นิ้ว ทำจากแมกนีเซียมอัลลอยด์ นอกจากแข็งแรงยังเบาเพียง 1.88 กก. บางแค่ 19.95 มม. เท่านั้น เรื่องพกพาถือว่าเบาหายห่วงประทับใจอย่างแน่นอน

Advertisement

ใต้ฝากระโปรงของ MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A13V ก็ได้สเปคระดับ Flagship รับจบได้ทุกหน้าที่ไม่ว่าจะทำงานครีเอเตอร์ตัดต่อแต่งภาพและงานเอกสารก็แรงหายห่วงด้วยซีพียู Intel 13th Gen และการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 40 Series สับเกียร์ต่ำสูงได้ด้วย MUX Switch ในเครื่อง แสดงผลผ่าหน้าจอ 16 นิ้ว ความละเอียด 4K UHD+ พาเนล OLED ขอบเขตสี 100% DCI-P3 ได้รับการรับรอง VESA DisplayHDR Truel Black 600 และรักษาความปลอดภัยได้เป็นเลิศด้วยกล้อง IR Camera สแกนหน้าหรือนาบนิ้วกับเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือก็ปลดล็อคเครื่องได้ง่ายๆ เมื่อกลับบ้านมาต่อหน้าจอแยกก็เล่นเกมได้ดีเยี่ยมบนจอความละเอียด QHD~UHD+ ก็ได้สบายๆ

นอกจากสเปคแล้ว ฟีเจอร์กับลูกเล่นต่างๆ ของ MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A13V ก็แพรวพราวทั้งคีย์บอร์ด Per-Key RGB ปรับแต่งไฟคีย์บอร์ดแยกปุ่มด้วยโปรแกรม SteelSeries GG ได้ ติดลำโพง 6 ดอก จาก DYNAUDIO แยกเป็น Speaker*2 กับ Woofer*4 ดอก จูนเสียงด้วย Nahimic by SteelSeries ได้เสียงระดับ Hi-Res พร้อมแบตเตอรี่จุมากถึง 99.9Wh ซึ่งมากเท่าที่สามารถพกพาขึ้นเครื่องบินได้ ทำให้ใช้งานได้หลายชั่วโมง พร้อมฟีเจอร์ Matrix Display ซึ่งต่อได้ 3 หน้าจอพร้อมกันด้วย HDMI 2.1, Thunderbolt 4, USB-C 3.2 DisplayPort เพิ่มพื้นที่ Desktop ให้ใช้อีกมาก ช่วยให้ทำงานสะดวกขึ้นหลายเท่า

NBS Verdicts

องค์ประกอบของซุปเปอร์คาร์สักคันนอกจากปริมาตรกระบอกสูบใหญ่ ใส่เทอร์โบหรือซุปเปอร์ชาร์จมารีดแรงม้า ติดตั้งช่วยล่างพิเศษให้เกาะถนนเป็นเลิศเข้าโค้งได้คมแค่ไหนก็ตาม ก็ปฏิเสธว่ารูปลักษณ์และเส้นสาย Design Language ก็มีผลต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้าอยู่เสมอ เช่นเดียวกับ MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A13V ซึ่งดีไซน์ดูเรียบง่ายไม่หวือหวา ไม่สังเกตก็ดูไม่ออกว่านี่คือเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คเรือธงที่ใช้ทำงานครีเอเตอร์ได้สบายๆ ด้วยจอ 16 นิ้ว ความละเอียด UHD+ (3840*2400) พาเนล OLED ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 การันตีความดำสนิทของสีดำบนหน้าด้วย VESA DisplayHDR True Black 600 พร้อมลำโพง 6 ตัวจาก DYNAUDIO ปรับจูนด้วย Nahimic by SteelSeries งานตัดต่อภาพและวิดีโอ, มิกซ์เพลงนั้นรับมือได้ไม่มีปัญหา รวมถึงงานโปรแกรมมิ่งก็ได้

และชีวิตนอกจากด้านของการทำงานและความจริงจังในออฟฟิศ หลังเลิกงานหรือในวันหยุดก็ต้องเอาไว้หาความสุขใส่ตัว ถ้าเป็นซุปเปอร์คาร์คงไม่พ้นการเอาออกไปขับเที่ยวหรือซิ่งในสนามแข่งแบบ Sunday Racing กับเพื่อนๆ อย่างแน่นอน เช่นเดียวกับ MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A13V ก็ทำหน้าที่เป็นโน๊ตบุ๊คครีเอเตอร์ทำงานในออฟฟิศแล้วแผลงฤทธิ์ตอนต่อหน้าจอเกมมิ่งที่บ้านได้เลย ซึ่งสเปคเดิมๆ จากโรงงานเรียกว่าทรงพลังพอเล่นเกมฟอร์มใหญ่ทุกเกมปรับกราฟิคระดับสูงสุดได้สบายๆ บนหน้าจอ QHD หรือแม้แต่ UHD ก็ได้ อาจจะเปิด NVIDIA DLSS 3 เสริมก็ได้เฟรมเรทดีขึ้นมากแล้ว

ถ้าห่วงเรื่องน้ำหนักและการพกพา MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A13V จัดว่าเบากว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คขนาด 16 นิ้ว แทบทุกรุ่นในท้องตลาด ณ ตอนนี้ เพราะหนักแค่ 1.88 กิโลกรัม หนาเพียง 19.95 มม. จัดว่าพกพาง่ายมากไม่แพ้โน๊ตบุ๊คสายทำงานเครื่องอื่น ไม่เบียดพื้นที่อุปกรณ์ชิ้นอื่นในกระเป๋ามาก แต่ตัวเครื่องจะค่อนข้างกว้างและลึกถ้าใส่กระเป๋าโน๊ตบุ๊ค 15.6 นิ้ว จะพอดีเกินไปและอาจรูดซิปปิดกระเป๋าแล้วติดพอดีเกินไป ถ้าจะพก Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A13V หากระเป๋าเป้แบบมีซับไหล่หนาสำหรับโน๊ตบุ๊ค 17.3 นิ้วไว้เลยจะใส่ได้สะดวกกว่า

ส่วนข้อสังเกตนอกจากเรื่องราคาค่อนข้างสูงถึง 99,900 บาท ตัวเครื่องจะมีพอร์ต USB-A 3.2 แค่ช่องเดียวเอาไว้ต่อคีย์บอร์ดหรือเมาส์ ถ้าเน้นเล่นเกมบนจอของ Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A13V ก็ใช้ต่อเมาส์เกมมิ่งอย่างเดียวก็พอได้ ถ้าจะใช้แทนพีซีไปเลยควรหา USB Hub 3.0 หรือไม่ก็ USB-C Multiport Adapter มาต่อเพิ่มตอนเซ็ตเป็นเดสก์ท็อป และถ้าพกไปธุระทำงานนอกบ้านควรหาอแดปเตอร์ GaN กำลังชาร์จ 100 วัตต์ขึ้นไปพกติดกระเป๋าไว้ถึงจะมีกำลังพอชาร์จแบตเตอรี่ได้

ข้อดีของ MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A13V

1. บอดี้เป็นอลูมิเนียม แมกนีเซียมอัลลอยด์แข็งแรงทนทาน งานประกอบพรีเมี่ยม ใส่ลวดลายโลโก้ของ Mecedes-AMG ไว้ตามจุดต่างๆ ดูโดดเด่นไม่เหมือนใคร
2. ในกล่องสินค้าแถมอุปกรณ์รุ่นพิเศษสกรีนลาย Mercedes-AMG มาให้เป็นพิเศษ ไม่มีขายแยก
3. กางหน้าจอได้แบนราบ 180 องศา สามารถแชร์หน้าจอให้เพื่อนร่วมงานดูได้ง่ายมาก
4. ติดตั้งซีพียู Intel Core i9-13900H กับการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 4070 แรงทรงพลัง
5. แกะเปิดฝาอัพเกรดได้ไม่ยาก รองรับ M.2 NVMe SSD กับ RAM อย่างละ 2 ช่อง
6. อัพเกรดเพิ่มแรมได้มากสุด 64GB DDR5 มีพื้นที่พอใช้รันโปรแกรมหนักได้สบายๆ
7. ติดเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือและกล้อง IR Camra มาให้ สแกนปลดล็อคเครื่องได้ง่ายและปลอดภัย
8. กล้องหน้าเพิ่มความเป็นส่วนตัวด้วย Webcam Shutter ปิดกล้องทิ้งได้เมื่อไม่ต้องการใช้งาน
9. คีย์บอร์ดเป็น Per-Key RGB ตั้งค่าได้ในโปรแกรม SteelSeries GG และตัวปุ่มแน่นแข็งแรงมาก
10. ลำโพง 6 ตัว จาก DYNAUDIO ปรับจูนด้วย Nahimic แล้วได้เสียงดีมาก เล่นเกมหรือฟังเพลงก็เยี่ยม
11. ระบบระบายความร้อน Cooler Boost 5 ระบายความร้อนดีมากทั้งตอนเล่นเกมและทำงาน
12. มีฟีเจอร์ Matrix Display ต่อหน้าจอแยกได้ 3 จอพร้อมกัน เพิ่มพื้นที่ Desktop ได้เยอะมาก
13. ติดตั้งพอร์ต Thunderbolt 4, USB-C 3.2 DisplayPort มาให้ ต่ออุปกรณ์ต่างๆ ใช้ได้สะดวก
14. พอร์ต Thunderbolt 4 ใช้ต่อหน้าจอแยก DisplayPort และชาร์จแบตเตอรี่ Power Delivery ได้
15. มี MicroSD Card Reader ใช้โอนไฟล์จากการ์ดเข้าคอมพิวเตอร์ใช้ทำงานได้ทันที
16. หน้าจอขอบเขตสี 100% DCI-P3 ใช้ทำงานครีเอเตอร์ตัดต่อแต่งภาพได้เยี่ยม
17. หน้าจอพาเนล OLED ได้รับการรับรองความดำสนิท VESA DisplayHDR True Black 600
18. น้ำหนักเครื่องเพียง 1.88 กิโลกรัม เทียบกับโน๊ตบุ๊ค 16 นิ้ว ถือว่าเบามาก บางแค่ 19.95 มม.
19. MSI Center x Mercedes-AMG Motorsport เป็นเวอร์ชั่นพิเศษเหมือนโหมดการขับขี่ซุปเปอร์คาร์

ข้อสังเกตของ MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A13V

1. มีพอร์ต USB-A 3.2 เพียงช่องเดียว ถ้าอยากได้พอร์ตนี้เพิ่มแนะนำให้หา USB 3.0 Hub มาต่อเพิ่ม
2. ราคาค่อนข้างสูงถึง 99,900 บาท ในฐานะรุ่นพิเศษของ MSI Stealth 16 Studio
3. ควรเปิดฟีเจอร์ถนอมพาเนล OLED เอาไว้และไม่ควรเปิดความสว่าง 100% ค้างไว้นานๆ
4. แบตเตอรี่ใช้งานได้นานสุด 4 ชั่วโมง 30 นาที

รีวิว MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A13V

Specification

MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A13V เป็นลูกครึ่งครีเอเตอร์กับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คเวอร์ชั่นพิเศษของ MSI Stealth 16 Studio A13VF แต่จากการร่วมมือกับทาง Mercedes-AMG Motorsport นอกจากทำเป็นรุ่นดีไซน์พิเศษแล้ว ยังเพิ่มความพรีเมี่ยมเข้าไปทั้งกล่องบรรจุภัณฑ์รวมถึงของแถมในกล่องก็เป็นเวอร์ชั่นพิเศษโดยมีรายละเอียดดังนี้

สเปค	MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A13V (เครื่องรีวิว)
CPU	Intel Core i9-13900H แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็วสูงสุด 5.4GHz
GPU	NVIDIA GeForce RTX 4070 แรม 8GB GDDR6
SSD	M.2 NVMe SSD 2TB อินเตอร์เฟส PCIe 4.0 x4 อัพเกรดได้ 2 ช่อง เป็น PCIe 4.0 x4 ทั้งคู่
RAM	32GB DDR5 บัส 5200 MHz อัพเกรดได้ถึง 64GB DDR5
Software	Windows 11 Home Microsoft Office Home & Student 2021
Display & Weight	16 นิ้ว ความละเอียด 4K (3840*2400) พาเนล OLED 100% DCI-P3 VESA DisplayHDR True Black 600 1.88 กก.
Connectivity	USB-C 3.2 DisplayPort*1 Thunderbolt 4*1 USB-A 3.2*1 Micro SD Card Reader*1 HDMI 2.1*1 รองรับหน้าจอแยก 8K 60Hz หรือ 4K 120Hz LAN*1 Audio Combo*1 Wi-Fi 6E Bluetooth 5.3
Price	99,900 บาท

Hardware & Design

ก่อนจะพูดถึงตัวเครื่อง ต้องเริ่มจากกล่องใส่โน๊ตบุ๊คของ MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A13V ซึ่งพิเศษกว่าทุกเครื่องที่เคยรีวิวมาเป็นอย่างแรก เพราะมีทั้งโลโก้ MSI กับ Mercedes-AMG Motorsport สกรีนเอาไว้โดยรอบ เปิดกล่องมาจะเป็นบานฝาพับสกรีนจดหมายพิเศษเอาไว้พร้อมภาพสเก็ตช์ดีไซน์พร้อมตัวเครื่องในซองกำมะหยี่อย่างดี เมื่อเปิดลึกลงไป จะมีของสมนาคุณเฉพาะของ MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A13V แถมมาให้หลายชิ้น ได้แก่

1. MSI x AMG Pouch มูลค่า 2,000 บาท
2. MSI x AMG Dual Drive 128GB มูลค่า 1,400 บาท (เป็นแฟลชไดรฟ์ USB-C กับ A อย่างละด้าน)
3. MSI x AMG RGB Gaming Mouse M99 Pro มูลค่า 1,590 บาท
4. MSI x AMG Mousepad มูลค่า 990 บาท
5. MSI x AMG Cable Tie มูลค่า 190 บาท
6. MSI x AMG Postcard มูลค่า 100 บาท

ของแถมทั้ง 6 รายการนี้เป็นสินค้าเฉพาะ Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A13V ไม่สามารถหาซื้อแยกภายหลังได้ ถ้าใครเป็นแฟนคลับของ MSI และสำนักแข่ง Mercerdes-AMG Motorsport ไม่ควรพลาดโน๊ตบุ๊ครุ่นพิเศษนี้

รูปลักษณ์ภายนอกของ MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A13V คือการเอา Stealth 16 Studio มาอัพเกรดเพิ่มรายละเอียดของ Mercedes-AMG GT4 ตัวแข่งลงไปในส่วนต่างๆ ทั้งกรอบของกล้องเว็บแคมและปุ่ม Spacebar เป็นแพทเทิร์น AMG Rhombuses เอกลักษณ์ของทางสำนัก เจาะช่องระบายความร้อนเหนือคีย์บอร์ดเป็นโลโก้ AMG เหมือนเพลตที่ฝากระโปรงท้ายหรือข้างตัวรถ สกรีนโลโก้บริษัทผู้ร่วมพัฒนา ได้แก่ SteelSeries ที่ช่วยปรับแต่งคีย์บอร์ด, DYNAUDIO ผู้พัฒนาและนำลำโพงทั้ง 6 ดอกมาติดตั้งไว้ในเครื่อง ส่วนปุ่ม Power ตรงมุมบนขวาเหนือ Numpad จะเปลี่ยนเป็นคำว่า “Start Engine” เหมือนปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ของรถซุปเปอร์คาร์แทน

ส่วนตรงแท่นวางข้อมือขวาจะมีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือติดแยกมาให้โดยเฉพาะคู่กับกล้อง IR Camera ตรงเว็บแคม ใช้ยืนยันตัวแบบชีวมาตร (Biometric) เพื่อปลดล็อคเครื่อง เพียงแค่สแกนหน้าหรือนิ้วเอาไว้ก็พร้อมใช้งานได้เลย ถ้านั่งทำงานในออฟฟิศหรือบ้านก็สแกนหน้า หากไปธุระข้างนอกอยากใส่หน้ากากอนามัยเอาไว้ก็สแกนนิ้วปลดล็อคได้เลย

ขอบหน้าเครื่องมีโลโก้ AMG กับ MSI ติดอยู่สองฝั่งซ้ายขวาและทำบอดี้ลายฉลุเป็นจุดเอาไว้เพื่อความสวยงามแบบ Aerodynamic บนตัวรถ เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A16V โดยเฉพาะ เป็นรายละเอียดเล็กน้อยแต่เสริมความสวยได้มาก

ฐานขาตั้งหน้าจอของ Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport จะทำเป็นสันขอบยกสูงตลอดแนวและขาฐานหน้าจอเป็นแบบก้านติดริมสันขอบเพื่อให้กางหน้าจอได้แบนราบ 180 องศา เอาไว้แชร์หน้าจอให้เพื่อนร่วมงานดูเนื้อหาคอนเทนต์บนหน้าจอได้สะดวกหรือวางบนโต๊ะบนแท่นวางโน๊ตบุ๊คก็ปรับองศาหน้าจอให้เข้ากับมุมสายตาได้ง่าย

นอกจากกางได้กว้าง บานพับหน้าจอยังแข็งแรงพิมพ์งานอยู่ไม่กระพือสะบัดเลย แถมขอบเหนือกล้องเว็บแคมยังมีปลายยื่นออกมาเล็กน้อยทำให้กางจอใช้งานง่ายมากด้วยมือเพียงข้างเดียว

ฝาหลังเครื่องจะเป็นโลโก้พิเศษเฉพาะของ MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A13V เป็นโลโก้จากความร่วมมือของ MSI และ AMG Motorsport โดยเฉพาะบนพื้นตัวเครื่องสีเทาผสมกรมท่า มีโลโก้มังกร MSI Gaming Shield ติดไว้มุมขวาล่างอีกจุดหนึ่งเท่านั้น ไม่มีลวดลายอะไรเป็นพิเศษ ทำให้โน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ดูสวยงามหรูหราไปในตัว เสริมบุคลิคเจ้าของให้ดูดียิ่งขึ้นไม่ว่าจะหยิบไปนั่งทำงานหรือไปประชุมงานกับลูกค้าก็ได้

ถึงจะดูเรียบร้อยแต่ก็ยังซ่อนดีไซน์เกมมิ่งไว้ สังเกตว่าขอบด้านล่างเหนือช่องระบายความร้อนจะเป็นแถบไฟสีแดงพร้อมไฟลอดโลโก้ Stealth ออกมา จึงดูสวยมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร

ด้านใต้ตัวเครื่องจะมีช่องนำลมเข้าขนาดค่อนข้างใหญ่เจาะรูขนาดเล็กลายเฉียงสไตล์ AMG Motorsport เอาไว้ กินพื้นที่ประมาณ 40% ของฝาด้านใต้เครื่อง ติดแถบยางกันลื่นและยกตัวเครื่องเอาไว้ 4 อัน เป็นแถบเล็ก 3 เส้นตรงขอบบนหนึ่งคู่และตรงกลางเครื่อง ส่วนขอบล่างเป็นแถบยาว ขันน็อตหัว Philips Head ล็อคฝาใต้ตัวเครื่องไว้ 7 ดอก

จุดพิเศษคือน็อตตรงกลางซ้ายมีรู EC (Embedded Controller) ให้ผู้ใช้เอาเข็มแทง SIM กดรีเซ็ตเมื่อโน๊ตบุ๊คมีปัญหาได้ และมีน็อตอีกตัวซ่อนอยู่ใต้สติกเกอร์รับประกันตรงกลางเครื่งพอดี ถ้าใครต้องการอัพเกรดเครื่องจะทำตัวเองก็ได้แต่แนะนำให้ติดต่อผู้เชี่ยวชาญของ MSI ให้ช่วยดูแลจะดีว่า นอกจากนี้โลโก้ Mercedes-AMG Motorsport ยังสกรีนติดเอาไว้ตรงขอบล่างขวาใกล้ลำโพงเพื่อบอกความพิเศษของ MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A13V ด้วย

Screen & Speaker

หน้าจอขนาด 16 นิ้ว ความละเอียด UHD+ (3840*2400) เป็นพาเนล OLED จะดีไซน์ขอบข้างบาง และรีดขอบบนล่างให้บางที่สุดเพื่อเพิ่มพื้นที่แสดงผลหน้าจอและเพิ่มความสวยงาม สังเกตว่าชุดกล้องเว็บแคมจะมีลิ้นยื่นออกมาให้กางหน้าจอเปิดได้ง่ายขึ้นสกรีนลาย AMG Rhombuses ไว้ ติดบานชัตเตอร์สไลด์ปิดกล้องติดมาให้เวลาไม่ต้องการประชุมงานหรือบันทึกวิดีโอก็สไลด์ปิดได้และมีไมค์ติดตั้งมาให้ใช้ประชุมออนไลน์ได้ นอกจาก AMG Rhombuses ตรงกล้องเว็บแคมยังมีโลโก้พิเศษ MSI x Mercedes-AMG Motorsport ติดไว้ตรงขอบล่างหน้าจอ

นอกจากจะใช้ทำงานอาร์ตได้ดี แสดงผลขอบเขตสีได้กว้าง 100% DCI-P3 และได้รับการรับรองความดำสนิทของพาเนล OLED อย่าง VESA DisplayHDR True Black 600 แล้ว Stealth 16 เองก็ถือเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นหนึ่งของทาง MSI เช่นกัน จึงกดคีย์ลัดเปิดเป้าเล็งปืน (Crosshair) ขึ้นมาใช้เล็งเป้าคู่ต่อสู้ได้เช่นกัน

ข้อดีของพาเนล OLED และ IPS ยกให้องศาการแสดงผลภาพบนหน้าจอซึ่งกว้าง 178 องศาเหมือนกัน จะดูจากมุมไหนก็มองเห็นได้ง่าย แต่จอ OLED จะปิดหน้าจอด้วยกระจกทำให้มีแสงสะท้อนคีย์บอร์ด Per-Key RGB ขึ้นมาบนหน้าจอ ผิดกับ IPS ซึ่งจอนั้นจะเป็นฟิล์มด้าน

ขอบเขตสีหน้าจอทางบริษัทเคลมเอาไว้ว่า MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A13V แสดงผลสีได้กว้าง 100% DCI-P3 เมื่อทดสอบด้วยโปรแกรม DisplayCal 3 ร่วมกับเครื่อง Colorchecker จาก Calibrite พบว่าหน้าจอนี้เมื่อปรับความสว่าง 100% ได้ความสว่าง 359.57 cd/m² ด้านค่า Gamut coverage ซึ่งเป็นค่าขอบเขตสีจริงของหน้าจอที่ 99.8% sRGB, 86.9% Adobe RGB, 98.8% DCI-P3 ส่วนของ Gamut volume หรือขอบเขตสีองค์รวมได้ 148.2% sRGB, 102.1% Adobe RGB, 105% DCI-P3 ค่าความเที่ยงตรงสี Delta-E เฉลี่ย 0.08~1.28 กล่าวได้ว่าพาเนล OLED นี้นอกจากขอบเขตสีกว้างตามเคลมแล้วยังเที่ยงตรงด้วยค่า Delta-E ต่ำกว่า 2 จึงใช้ทำงานครีเอเตอร์ได้เป็นอย่างดี พรู้ฟสีงานอาร์ตได้แน่นอน

จากการทดลองใช้งาน พาเนล OLED ของ MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A13V สว่างมากจนใช้งานได้ในทุกสถานการณ์ ถ้านั่งทำงานในออฟฟิศหรือห้องส่วนตัวก็ปรับความสว่างไว้ราว 60% ก็สว่างพอใช้งานได้สบายๆ แล้ว ถ้าไปนั่งทำงานตามร้านกาแฟหรือนั่งในห้องส่วนตัวแล้วแดดส่องสะท้อนหน้าจอก็ปรับความสว่างไป 80% ก็เหลือเฟือไม่แพ้หน้าจอ IPS ปรับความสว่าง 100% เลย และส่วนตัวก็ไม่แนะนำให้ปรับความสว่างจอ OLED 100% ด้วยเพราะถ้าใช้งานไปนานๆ จออาจเบิร์นได้ ให้ดีแนะนำเปิดฟีเจอร์รีเฟรชพาเนลเอาไว้ด้วยจะดีสุด

นอกจากขอบเขตสีหน้าจอของ Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A13V จะดีมากแล้ว ยังปรับโหมดการแสดงผลได้ 7 แบบในโปรแกรม MSI True Color ให้เข้ากับงานหรือคอนเทนต์ ณ ตอนนั้นด้วย

ลำโพง DYNAUDIO ของ MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A13V ติดตั้งมา 6 ดอก แยกฝั่งละ 3 ดอก แบ่งเป็น Woofer ดอกใหญ่แถบยาวแนวตั้งประกบหน้าหลังโดยเสียงจะยิงลงพื้นโต๊ะและขึ้นทางช่องลำโพงบนแถบที่วางข้อมือ ส่วนลำโพงดอกเล็กถัดลงมาเป็น Speaker อีกตัว ปรับจูนเสียงโดย Nahimic by SteelSeries และมีซอฟท์แวร์ปรับโหมดเสียงได้ตามชอบ หลังจากลองใช้งานแล้วคิดว่าเปิดโหมด Smart เอาไว้ให้ระบบจัดการปรับจูนเสียงโดยอัตโนมัติจะสะดวกสุด

เนื้อเสียงตอนทดลองฟังถือว่าน่าประทับใจมาก เนื้อเสียงเป็นโทนเสียงใสโปร่ง เน้น Vocal กับ Treble ได้สเตจเสียงกว้างระดับกลางกำลังดี เนื้อเสียงจะเน้นนักร้องนำและได้เสียงเครื่องดนตรีเสริมฟังสนุกหูมาก มีเสียงเบสเสริมเข้ามาเป็นแบ็คกราวน์ ได้เสียงทุ้มต่ำพอสมควรและมีแรงปะทะจากเบสด้วย ซึ่งลำโพง DYNAUDIO นี้จะเด่นมากเวลาฟังเพลงแนวแจ๊ส, ป็อป, Lo-Fi, ร็อค และฟังเมทัลได้ระดับหนึ่งโดยเสียงเครื่องดนตรีกับนักร้องจะเด่นนำ เบสมีระดับเสริมเนื้อเสียงได้สนุกพอควร

เสียงลำโพงตอนเปิดความดัง 100% แล้ววัดด้วยเครื่องวัดเสียง จะดังราว 83~85dB กระหึ่มพอฟังเพลงในห้องส่วนตัวได้สบายๆ แต่ขอแนะนำให้เปิดราว 70% จะดีสุดจะลงมาเหลือราว 60dB จะดีต่อสุขภาพหูของผู้ใช้มากกว่า

Keyboard & Touchpad

คีย์บอร์ดของ MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A13V ขนาดเป็นแบบ Full Size เลย์เอ้าท์ยกมาจากรุ่นเรือธงอย่าง MSI Titan GT77 HX 13V โดยตรงแต่ปรับแต่งรายละเอียดตรงปุ่ม Power ให้เป็น Start Engine เหมือนรถซุปเปอร์คาร์, ปุ่ม Spacebar สกรีนลาย AMG Rhombuses เอาไว้, ย่อปุ่ม Grave Accent ให้กว้างเพียงครึ่งเดียวแล้วขยายปุ่ม Ctrl ซ้ายให้ยาวเท่าปุ่ม Shift ให้กดคุมตัวละครตอนเล่นเกมได้ถนัดขึ้น แล้วย้ายปุ่ม Fn ไปอยู่ฝั่งขวาระหว่างปุ่ม Ctrl และลูกศรซ้าย แม้จะจำกัดความตัวเองเป็นโน๊ตบุ๊คครีเอเตอร์ก็ตามแต่การวางคีย์เช่นนี้ ทำให้ Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport เล่นเกมได้ยอดเยี่ยมไม่แพ้รุ่นเรือธงของทางบริษัทเลย

สัมผัสตอนพิมพ์ของ Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport ถึงจะไม่ใช่ Mechanical Switch แต่ปุ่มถูกเสริมฐานเข้าไปทำให้สัมผัสตอนกดแน่นระยะกดตื้นจนแทบจะพิมพ์สัมผัสได้ไม่รู้สึกถึงอาการกลวง (Hollow) แบบคีย์บอร์ดเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นเลย ออกจะละม้ายคล้ายกับ Mechanical Keyboard แบบ Low Profile ด้วยซ้ำ นับว่า MSI ใส่ใจรายละเอียดด้านสัมผัสการใช้งานของอุปกรณ์ใช้งานบ่อยชิ้นนี้ได้ดี

ไฟ LED Backlit ของคีย์บอร์ดจะปรับเปลี่ยนเอฟเฟคแสงได้โดย Fn+F8 เปลี่ยนไปได้เรื่อยๆ หรืออยากเปลี่ยนไฟคีย์บอร์ดก็ตั้งค่าในโปรแกรม SteelSeries GG แยกปุ่มได้ตามชอบแบบ Per-Key RGB แถมเซ็ตคีย์ลัดอื่นๆ เพิ่มได้ เป็นอีกฟีเจอร์จากเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่ยกมาใส่ครีเอเตอร์โน๊ตบุ๊คซ่อนลายเกมมิ่งตัวนี้ได้อย่างเหมาะสมลงตัว

คีย์ลัดของ MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A13V ก็ถูกเซ็ตรวมเอาไว้กับปุ่ม F1~F12 เช่นเดียวกัน ถ้าจะใช้ Function Hotkey ต้องกด Fn ค้างเอาไว้ก่อน หรือสลับเลเยอร์ให้กด Fn+ESC เพื่อสลับก็ได้ โดยคีย์ลัดจะยกมาจากรุ่นใหญ่อย่าง MSI Titan GT77 HX 13V โดยตรงโดยมีคีย์ลัดดังนี้

• F1~F3 – ปิด, ลดหรือเพิ่มเสียงลำโพง
• F4 – ปิดหรือเปิดทัชแพด
• F5 – ปิดหรือเปิดไมโครโฟน
• F6 – ปิดหรือเปิดกล้องเว็บแคม
• F7 – User Scenario เปลี่ยนโหมดตัวเครื่องได้
• F8 – ปรับความสว่างไฟ LED Backlit ของคีย์บอร์ด
• F9~F10 – ลดหรือเพิ่มความสว่างหน้าจอ
• F11 – ปุ่ม Project ตั้งค่าหน้าจอหลักและจอเสริม

สังเกตว่า F12 ไม่ได้เซ็ตปุ่ม Function Hotkey มาให้ ในเมื่อ Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport ก็สามารถกางหน้าจอได้แบนราบ 180 องศาแล้ว ก็อยากเสนอให้ใส่ปุ่มพลิกหน้าจอแบบ Modern Series เข้ามาอีกปุ่มจะได้พลิกจอให้คู่สนทนาดูจอได้ง่ายยิ่งขึ้น อาจเสริมคำสั่ง Snipping Tool รวมกับคำสั่ง Print Screen จะยอดเยี่ยมมาก

ทัชแพดของ MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A13V มีขนาดใหญ่ เซ็ตแป้นเอาไว้ตรงกลางเครื่องพอดี ใช้งานได้สะดวกตอบสนองรวดเร็วและใช้ Gesture Control ของ Windows ได้ด้วย พอวางมือซ้ายเล่นเกมแล้วสันมือซ้ายจะไม่ทาบบนแป้นทัชแพดเลย แต่มือขวาตอนวางมือพิมพ์ตามปกติสันมือขวาจะทาบบนแป้นทัชแพดเต็มสันมืออย่างเลี่ยงไม่ได้ ถ้าไม่ยกสันมือพิมพ์ก็ควรล็อคทัชแพดแล้วใช้เมาส์แยกจะดีกว่า

Connector / Thin & Weight

พอร์ตเชื่อมต่อของ MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A13V จะติดตั้งเอาไว้สองฝั่งเครื่องเหมือนโน๊ตบุ๊คสายทำงานทั่วไป เว้นด้านหลังเอาไว้เป็นช่องระบายความร้อนเท่านั้น โดยมีพอร์ตและการเชื่อมต่อดังนี้

• ฝั่งซ้ายจากซ้ายมือ – LAN, HDMI 2.1, MicroSD Card Reader, USB-C 3.2 DisplayPort
• ฝั่งขวาจากซ้ายมือ – Audio combo, Thunderbolt 4, USB-A 3.2, ช่องต่ออแดปเตอร์
• การเชื่อมต่อไร้สาย – Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.3

ข้อดีของ Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport มีฟีเจอร์ Matrix Display ต่อหน้าจอแยก 3 จอได้พร้อมกันผ่านทาง HDMI 2.1 ซึ่งรองรับหน้าจอ 8K 60Hz / 4K 120Hz, USB-C 3.2 DisplayPort และ Thunderbolt 4 ที่รองรับทั้ง Power Delivery และ DisplayPort ช่วยเพิ่มพื้นที่ Desktop ให้กว้างยิ่งขึ้น ด้วยพลังการประมวลผลของการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 4070 แล้ว สามารถต่อหน้าจอ 4K 60Hz ได้แน่นอน

ส่วนการชาร์จแบตเตอรี่แบบ Power Delivery จะรองรับอแดปเตอร์ GaN กำลังชาร์จ 100 วัตต์ขึ้นไป ต่ออแดปเตอร์ 65 วัตต์จะชาร์จไม่ติด ดังนั้นถ้าใครอยากหาอแดปเตอร์น้ำหนักเบาไว้ใช้กับ Stealth 16 ตัวนี้ ต้องหาตัวกำลังชาร์จ 100 วัตต์พร้อมสายมาใช้กับมันโดยเฉพาะเท่านั้น

น้ำหนักตัวเครื่องไม่ว่าจะบนหน้าสเปคเคลมจากโรงงานหรือชั่งจริงบนตาชั่งดิจิทัลก็หนัก 1.88 กิโลกรัมเท่ากันทั้งคู่ ถ้ารวมอแดปเตอร์ 240 วัตต์ของ Delta น้ำหนัก 731 กรัมเข้าไป มีหนักรวม 2.61 กิโลกรัม ถ้าเทียบกับน้ำหนักของเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค 16 นิ้วหลายๆ รุ่นในปัจจุบันซึ่งยืนพื้นช่วง 2.2~2.6 กิโลกรัม นับว่า MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A13V เบากว่าคู่แข่งมาก ต่อให้พกอแดปเตอร์เข้าไปก็หนักเท่าน้ำหนักเฉพาะตัวเครื่องเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คบางรุ่นด้วยซ้ำ เรื่องพกพาถือว่าหายห่วง

คำแนะนำเรื่องการพกพา MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A13V ติดตัว ถึงเครื่องจะบางแค่ 19.95 มม. ก็จริง แต่มิติด้านกว้างและลึกขนาด 355.8 x 259.7 มม. ถึงใส่กระเป๋าโน๊ตบุ๊ค 15.6 นิ้วได้ แต่ขอบตัวเครื่องจะใกล้เกือบติดซิปจนรูดปิดได้ลำบาก ให้ดีควรใช้กระเป๋าโน๊ตบุ๊คขนาด 17.3 นิ้ว จะใส่เครื่องได้พอดีสุด

Inside&Upgrade

ปกติครีเอเตอร์โน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นจะแกะเปิดฝาได้ลำบากหรือเปิดไม่ได้ แต่ MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A13V พอขันน็อต Philips Head ทั้ง 7 ดอกออกแล้วเอาการ์ดแข็งเปิดกรอบเครื่องไล่จากฝั่งซ้ายขึ้นไปและปลดขอบบนล่างออกจนหมดแล้ว ให้วางเครื่องนอนลงแล้วสไลด์ฝาหลังเล็กน้อยให้ขอบพลาสติกพ้นก้านแจ็ค Audio combo ก็อัพเกรดเครื่องได้ทันที

บนเมนบอร์ดกลางเครื่องจะรวมอินเตอร์เฟสทั้งหมดเอาไว้ ได้แก่ RAM 32GB DDR5 บัส 5200MHz ในกรอบอลูมิเนียม เป็น SO-DIMM คู่ เพิ่มความจุได้มากสุด 64GB DDR5 ถ้าใช้ Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport เล่นเกมอย่างเดียวยังไม่ต้องเพิ่มแรมก็ได้ แต่ถ้าทำงานกราฟิค, เขียนโปรแกรมหรือแอพฯ เมื่อไหร่ จะใส่เพิ่มก็ดี

ฝั่ง M.2 NVMe SSD ทั้งสองช่องเป็นอินเตอร์เฟส PCIe 4.0 x4 ทั้งคู่ ได้ SSD 2TB ติดเครื่องมาจากโรงงาน ถ้าอยากเพิ่มความจุก็หาขนาด M.2 2280 SSD มาเพิ่มอีกช่องได้อย่างน้อย 1TB เผื่อเซฟงานหรือติดตั้งเกมก็ยังได้ ไม่ต้องกังวลว่า RAM หรือ ROM จะเต็มง่ายๆ

Performance & Software

ซีพียูใน MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A13V เป็นรุ่นประสิทธิภาพสูงอย่าง Intel Core i9-13900H แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็วสูงสุด 5.4GHz สถาปัตยกรรม Intel Raptor Lake ขนาด 10 นาโนเมตร มีค่า TDP 45 วัตต์ มีกำลังพอใช้ประมวลผลทั้งทำงานและเล่นเกมอย่างแน่นอน

RAM จากโรงงานตามสเปคของ Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport จะมีความจุ 32GB DDR5 บัส 5600MHz ติดตั้งมาแบบ Dual Channel อัพเกรดเพิ่มความจุได้มากสุด 64GB DDR5 โดยแรม OEM ชุดนี้ใช้เม็ดแรมจาก Samsung ค่า CL42-42-42-82-124 ถ้าปกติใช้ทำงานกราฟิคตัดต่อแต่งภาพหรือวิดีโอ 4K เท่านี้ก็ถือว่ามีความจุมากพอใช้ทำงานได้ครอบคลุมรอบด้านแล้ว

จีพียูในเครื่องนอกจาก Intel Iris Xe Graphics ของซีพียูแล้ว จะติดตั้ง NVIDIA GeForce RTX 4070 แรม 8GB GDDR6 มาให้ เป็นรุ่นค่า TGP 105 วัตต์ มีฟังก์ชั่น Dynamic Boost เอาไว้ถ่ายเทค่าวัตต์ข้ามไปมาระหว่างซีพียูและจีพียูเพื่อเร่งประสิทธิภาพในระยะเวลาสั้นๆ ได้ มี CUDA Core จำนวน 4,608 Unified เอาไว้ใช้เรนเดอร์กราฟิคและทำงาน 3D ได้ดียิ่งขึ้น รองรับชุดคำสั่ง DirectX 12, OpenCL, OpenGL 4.6, CUDA, DirectCompute, DirectML, Vulkan, Ray Tracing, PhysX ครบถ้วน

จุดพิเศษอีกอย่างของ Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport จะใช้ไดรเวอร์แบบ NVIDIA Studio ซึ่งต่างจาก GRD (Game Ready Driver) ตามปกติ ซึ่ง Studio Driver เป็นเวอร์ชั่นปรับจูนเน้นความเสถียรสูงสุด ใช้ฟีเจอร์ด้านการทำงานและประสานงานกับเพื่อนร่วมงานได้ด้วย แลกกับไดรเวอร์จะนี้จะเล่นเกมได้เหมือนไดรเวอร์ GRD แต่ได้เฟรมเรทน้อยกว่าเล็กน้อย

ชิ้นส่วนภายในเครื่องเมื่อเช็คผ่าน Device Manager นอกจากชิป TPM 2.0 ซึ่งใช้รักษาความปลอดภัยร่วมกับระบบ Windows Hello แล้ว จะเห็นว่ามีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือและกล้อง IR Camera ไว้สแกนใบหน้าปลดล็อคเครื่องได้ติดตั้งมาให้ ติดตั้งชิป M.2 Wi-Fi เป็น Intel AX1675i เชื่อมต่อ Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax ได้ ค่าแบนด์วิธกว้าง 160MHz ใช้เปิดอินเตอร์เน็ตรับส่งข้อมูลได้เร็วและเสถียรมาก ด้านชิป LAN ก็ไม่น้อยหน้าด้วยชิป Intel Killer E3100 เป็น LAN 2.5GbE เหมาะทั้งใช้ทำงานและเล่นเกมเป็นที่สุด

M.2 NVMe SSD จากโรงงานเป็นรุ่น Micron 3400 ความจุ 2TB เป็นไดรฟ์เดี่ยวและมีช่องว่างเอาไว้ใส่ SSD ได้อีกอัน โดยสเปคของ SSD ตัวนี้เป็น M.2 NVMe PCIe 4.0 x4 ชิป TCL NAND แบบ 176-layer มีความหนาแน่นและความจุสูงและรับส่งข้อมูลได้เร็ว รองรับการเขียนอ่านไฟล์ได้ 1,200 TBW ก่อนเริ่มเสื่อมสภาพ สำหรับประสิทธิภาพการเคลมจากโรงงานและจากโปรแกรมทดสอบ CrystalDiskMark 8 จะได้ผลดังนี้

ประสิทธิภาพ	Read (MB/s)	Write (MB/s)
หน้าสเปค	6,600	5,000
CrystalDiskMark 8 (Sequential)	6,396.60	5,137.41
CrystalDiskMark 8 (Random 4K)	681.75	623.41

ในแง่ประสิทธิภาพถือว่า Micron 3400 เป็น SSD ประสิทธิภาพดีพอสมควร สามารถใช้อ่านเขียนไฟล์ได้เร็วและมีความจุเหลือเฟือพอใช้ทำงานและเล่นเกมแล้ว จึงไม่แนะนำให้เปลี่ยนไดรฟ์เพิ่มความเร็ว แต่น่าซื้อ SSD ความจุและความทนทานสูงอย่าง Transcend MTE220S ความจุ 1~2TB มาใส่เสริมเอาไว้เซฟงานหรือ Footage ใช้บ่อยจะมีประโยชน์และสะดวกกว่า External SSD อย่างแน่นอน

ด้านการเล่นเกมเมื่อรันโปรแกรม 3DMark Time Spy แล้ว MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A13V ทำคะแนนทดสอบเฉลี่ยได้ 11,411 คะแนน แยกเป็นคะแนน CPU score 11,352 คะแนน และ Graphics score 11,422 คะแนน

กล่าวคือซีพียู Intel Core i9-13900H กับการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 4070 กับ RAM 32GB DDR5 ในเครื่องสามารถเล่นเกมฟอร์มใหญ่ในปัจจุบันได้ทุกเกมบนจอความละเอียด 1440p ปรับกราฟิคระดับสูงสุดก็เล่นได้โดยไม่ต้องเปิด NVIDIA DLSS มาช่วยเพิ่มเฟรมเรท แต่ถ้าความละเอียดหน้าจอ 2160p (4K) ควรเปิด DLSS เสริมด้วย

ด้านการเล่นเกมจะแบ่งเป็น 2 รอบ โดยรอบแรกเป็นความละเอียดหน้าจอตามปกติของเครื่อง (Native resolution) หรือ UHD+ (3840*2400) และปรับกราฟิคของทุกเกมไปอยู่ระดับสูงสุดแต่ปิด NVIDIA DLSS เพื่อเช็คพลังการประมวลผลของ NVIDIA GeForce RTX 4070 สามารถเล่นเกมบนความละเอียด 2400p (2160p อัตราส่วน 16:10) ได้ดีหรือไม่

ถ้าสังเกตเฟรมเรทเฉลี่ยของทุกเกมจะเห็นว่า Call of Duty: Modern Warfare II และ Apex Legends ทั้งสองเกมสามารถเล่นได้เกิน 60 Fps แต่ Horizon Zero Dawn, Forza Horizon 5 จะได้เฟรมเรทแค่เกิน 30 Fps ซึ่งอยู่ในระดับเล่นได้ ภาพไม่กระตุกแน่นอนแต่ไม่ถึงกับลื่นไหลมาก ด้าน Cyberpunk 2077 ที่ขึ้นชื่อเรื่องใช้พลังของโน๊ตบุ๊คทั้งเครื่องเยอะเป็นพิเศษอยู่ ก็ได้เฟรมเรทแค่ 26 Fps เท่านั้น แต่ปัญหาทั้งหมดเมื่อเปิด NVIDIA DLSS ระดับ Balanced หรือ Performance เมื่อไหร่ จะได้เฟรมเรทประมาณ 50~60 Fps อย่างแน่นอน

ถ้าขยับลงมาบนความละเอียดจอ 1440p จะเป็นระดับที่ NVIDIA GeForce RTX 4070 สามารถดึงเฟรมเรทออกมาได้เยอะ เฉลี่ยเกิน 60 Fps อย่างแน่นอน ยกเว้นเฉพาะ Cyberpunk 2077 จะทำได้ 53 Fps แต่ก็เล่นได้ไหลลื่นดีไม่มีปัญหา ซึ่งถ้าทำงานจะต่อหน้าจอ 4K ไปเลยก็ได้ แต่ถ้าต้องการภาพลื่นไหล แนะนำปรับ Resolution ลงมา 1440p จะได้เฟรมเรทดีและภาพคมสวยน่าประทับใจสุด

ด้านการทำงานเมื่อรัน PCMark 10 แล้ว MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A13V ทำคะแนนเฉลี่ยได้สูงถึง 7,382 คะแนน ได้คะแนนสูงเป็นอันดับต้นๆ ณ ตอนนี้ โดยคะแนนแต่ละหมวดจะได้ดังนี้

• Essential – ทดสอบการใช้งานทั่วไป ได้แก่ เปิดโปรแกรม, ประชุมออนไลน์, เปิดเบราเซอร์ ทำได้ 9,922 คะแนน อยู่ในระดับดี ไม่มีปัญหาหรืออาการหน่วงช้าแน่นอน
• Productivity – ทดสอบเมื่อทำงานกับโปรแกรมงานเอกสารและชีต ได้ 10,233 คะแนน จะใช้เปิดไฟล์เอกสารขนาดใหญ่หรือ Excel ข้อมูลเยอะก็ไม่มีปัญหา
• Digital Content Creation – ทดสอบงานกราฟิค 3D ต่างๆ ได้คะแนนรวม 10,756 คะแนน เด่นเรื่องการตัดต่อแต่งภาพและเรนเดอร์ 3D ได้ดี พอตัดต่อคลิปได้ดี

ด้านการเรนเดอร์งานกราฟิคโมเดล 3D ต่างๆ เมื่อรันด้วยโปรแกรมตระกูล CINEBENCH แล้ว จะได้คะแนนแต่ละเวอร์ชั่นดังนี้

• R23 – ใช้ทดสอบพลังประมวลผลของซีพียูเป็นหลัก มีความละเอียดและแม่นยำสูง ได้คะแนน Multi Core 16,583 pts และ Single Core อีก 1,934 pts
• R20 – ใช้ทดสอบกำลังประมวลผลของซีพียูเป็นหลัก ได้คะแนน CPU 7,697 pts
• R15 – ใช้ทดสอบการเรนเดอร์งานและโมเดล 3D ว่าซีพียูและกราฟิคการ์ดทำได้ลื่นไหลหรือไม่ คะแนน OpenGL 219.11 fps และ CPU 2,995 cb

อิงผลคะแนนจากโปรแกรม Benchmark ทั้ง 4 ตัว ถือว่า MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A13V เป็นโน๊ตบุ๊คของคอนเทนต์ครีเอเตอร์และคนทำงานกับโปรแกรมใหญ่ได้ดีมากๆ และพอเอากลับบ้านมาเล่นเกมก็ทำเฟรมเรทได้ดีอีก เรียกว่าลงทุนครั้งเดียวได้คืน 2 ต่อ คุ้มค่าต่อการลงทุน แถมยังได้ของแถม Limited Edition หาซื้อที่ไหนไม่ได้อีกด้วย

ในเมื่อเป็นรุ่นเฉพาะแล้ว โปรแกรม MSI Center สำหรับตั้งค่า MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A13V ก็ถูกปรับแต่งหน้าตาลวดลายใช้สีสันโทนดำผสมแดงเหมือนยกมาจากหน้าปัด MBUX (Mercedes Benz User eXperience) ของซุปเปอร์คาร์คันนี้จริงๆ แถมเปลี่ยนชื่อโหมดต่างๆ ให้สอดคล้องกันกับโหมดของ Mecedes-AMG GT4 อีกด้วย คือ

• Super Batter เปลี่ยนเป็น Eco
• Silent ยังคงใช้คำเดิม
• Balance เปลี่ยนเป็น Comfort
• Extreme Performance เปลี่ยนเป็น Sport
• Smart Auto ยังคงใช้คำเดิม

ดังนั้นถ้าใครชอบรถยนต์อยู่แล้วเมื่อดูก็จะเข้าใจได้ทันที ส่วนผู้ที่คุ้นเคยกับโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง MSI มาก่อนอาจจะดูโลโก้ก็เข้าใจได้ ทว่าในฐานะที่ผู้เขียนก็ชื่นชอบรถยนต์เป็นทุนเดิมก็อยากเสนอให้เปลี่ยนชื่อเป็นดังนี้

• Silent เปลี่ยนเป็น Comfort
• Comfort เปลี่ยนเป็น Sport
• Sport เปลี่ยนเป็น Sport+

เท่านี้ก็จะสอดคล้องกับโหมดการขับขี่ใน MBUX ยิ่งขึ้นและสมความเป็น Mecedes Benz ด้วย

Battery & Heat & Noise

แบตเตอรี่ใน MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A13V ติดตั้งมา 99.9Wh แยกเป็น Typical Capacity 6,578mAh และ Rated Capacity 6,250mAh (95Wh) เป็นความจุสูงสุดเท่าที่สามารถพกขึ้นเครื่องบินได้ตามกฏของ IATA สามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานพอสมควร

จากการทดสอบตามมาตรฐาน โดยลดความสว่างหน้าจอเหลือ 50% ลดเสียงลำโพงเหลือ 10% ปิดไฟ RGB ทุกจุดบนตัวเครื่องแล้วเปลี่ยนเป็นโหมด Eco (Super Battery) แล้วดูคลิปใน YouTube ผ่านทาง Microsoft Edge จะใช้งานได้นาน 4 ชั่วโมง 33 นาที พอใช้ได้จนจบการประชุมใหญ่ระดับ Town hall ได้จบพอดี หรือไม่ก็ขอแนะนำให้หาอแดปเตอร์ GaN กำลังชาร์จ 100 วัตต์ ติดตัวไว้ชาร์จแบตเตอรี่ให้ MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A13V ได้โดยไม่อึดอัด ไม่ก็ลงทุนกับพาวเวอร์แบงค์กำลังชาร์จสูงเอาไว้สักตัวก็ช่วยได้

ณ จุดนี้หลายคนอาจจะคิดว่า Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport แบตเตอรี่ไม่ทนเท่าไหร่เลย ซึ่งต้องยอมรับว่ามันติดตั้งซีพียู Intel H-Series ประสิทธิภาพสูงมาให้ก็ใช้พลังงานระดับหนึ่งแล้ว ประกอบกับหน้าจอ OLED ขอบเขตสีกว้างระดับใช้ทำงานครีเอเตอร์ได้เข้าไปอีกยิ่งใช้พลังงานมากขึ้น ดังนั้นระยะเวลาใช้งาน 4 ชั่วโมงครึ่งนี้ก็ถือว่าสุดเท่าที่แบตเตอรี่ 99.9Wh ทำได้แล้ว ทั้งที่ตอนแรกคาดเอาไว้ว่าแบตเตอรี่คงไม่เกิน 3 ชั่วโมงด้วยซ้ำไป

ชุดระบายความร้อน Cooler Boost 5 ของ MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A13V เป็นเวอร์ชั่นปรับแต่งมาใหม่ทั้งรีดฮีตไปป์ทองแดงและจัดทิศทางนำความร้อนไปยังฮีตซิ้งค์หน้าพัดลมโบลวเวอร์คู่ให้ระบายลมร้อนออกทางช่องระบายความร้อน 4 ช่อง 2 คู่ ด้านหลังเครื่องแล้ว ต้องถือว่าฮีตไปป์ทั้ง 5 เส้นสามารถจัดการอุณหภูมิได้ดีมาก

เสียงพัดลมตอนเปิดโหมด Performance และเร่งรอบพัดลมให้ทำงานเต็มที่ก็จริงแต่เครื่องวัดเสียงโชว์ว่าเสียงดังเฉลี่ยเพียง 61~64dB เท่านั้น จัดว่าดังพอได้ยิน แต่ไม่ถึงกับรบกวนการใช้งานนัก และถ้าไม่กดเร่งรอบพัดลมหรือเปิดโปรแกรม, เกมขึ้นมาก็ไม่ต้องห่วงเสียงนี้ก็ได้

ความร้อนใน MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A13V เมื่อวัดด้วย CPUID HWMonitor จะเห็นว่าชุดระบายความร้อน Cooler Boost 5 ทำงานได้ดีมาก ถึงรันโปรแกรมทดสอบเครื่องหรือเล่นเกมนานๆ ก็ไม่มีปัญหา ความร้อนไม่แผ่ขึ้นมือเลย อย่างมากแค่รู้สึกว่าบอดี้อลูมิเนียม แมกนีเซียมอัลลอยด์เปลี่ยนจากเย็นเป็นอุณหภูมิห้องเท่านั้น โดยอุณหภูมิส่วนต่างๆ เป็นดังนี้

ชิ้นส่วน / อุณหภูมิ	อุณหภูมิ (เซลเซียส)
ซีพียู	51~79
จีพียู	42~47
เมนบอร์ด	53~68
SSD	50~52

อุณหภูมิทั้งหมดในตารางและภาพผลการทดสอบนี้เซฟภาพหลังจากรันโปรแกรม Benchmark และเกมแล้ว จะเห็นว่าอุณหภูมิทั่วตัวเครื่องโดยเฉพาะซีพียูนั้นไม่ร้อนเลยแม้จะเป็นชิปตัวแรงอย่าง i9-13900H ก็ตาม ชุดระบายความร้อน Cooler Boost 5 ก็สามารถระบายความร้อนได้ดีมาก ขอแค่ใช้งานในห้องแอร์ก็ช่วยให้ MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A13V ทำงานได้เต็มที่แล้ว ส่วนอุณหภูมิห้องเครื่องอาจจะอุ่นขึ้นเล็กน้อย แต่ไม่กระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานแน่นอน

User Experience

MSI วางตำแหน่งทางการตลาดให้ MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A13V ทาง MSI เป็นพรีเมี่ยมครีเอเตอร์โน๊ตบุ๊คผสมเกมมิ่ง หยิบไปทำงานได้ยอดเยี่ยมและพอเสร็จงานกลับบ้านก็เปิดเล่นเกมเล่นได้ดีไม่แพ้พีซี และต้องพกพาง่ายไม่หนักมากแถมรูปลักษณ์สวยงามดูดีมีระดับ ยิ่งพอจับมือดีไซน์ร่วมกับสำนักรถแข่งระดับโลกอย่าง Mecedes-AMG ก็ทำให้ Stealth 16 Studio ที่ดูเรียบง่ายดูแตกต่างจากเดิมพอควรแถมอัพเกรดพาเนลจาก IPS เป็น OLED ซึ่งให้สีสันสวยงามกว่าเดิมมาก เวลามองคอนเทนต์ต่างๆ บนหน้าจอแล้วได้สีสันสวยสดกว่าเดิมเยอะ

พูดถึงในฐานะโน๊ตบุ๊คครีเอเตอร์แล้วไม่ว่าจะรุ่นมาตรฐานหรือ MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A13V ก็ได้ซีพียู Intel Core i9-13900H, NVIDIA GeForce RTX 4070 กับ RAM 32GB DDR5 ทั้งคู่ ดังนั้นมันจึงรันโปรแกรมเล็กใหญ่ ตั้งแต่ Microsoft Office, เปิดเบราเซอร์ดูคอนเทนต์ต่างๆ ไปจนถึงตัดต่อวิดีโอความละเอียดสูงระดับ 4K 60Hz หรือปั้นโมเดล 3D ก็ทำได้ดีมากๆ ประกอบกับตัวเครื่องได้ไดรเวอร์ของ NVIDIA Studio จึงทำงานได้เสถียรและรวดเร็วขึ้นไม่ต้องกังวลว่าทำงานแล้วจะเกิดปัญหาอะไรตามมาเลย แถมขอบเขตสีหน้าจอยังกว้างถึง 100% DCI-P3 จึงเหมาะกับงานอาร์ตทุกแบบโดยไม่ต้องสงสัย

ด้านการเล่นเกม MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A13V เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คตัวแรงรับจบทุกเกม นับเป็น Desktop Replacement ก็ว่าได้แถมต่อหน้าจอแยกพร้อมกัน 3 จอด้วยฟีเจอร์ Matrix Display ได้อีก ถ้ากลางวันเป็นพนักงานออฟฟิศ กลางคืนก็กลับมาเป็นสตรีมเมอร์เปิดไลฟ์นั่งเล่นเกมแล้วพูดคุยกับช่องแชตพร้อมมอนิเตอร์โปรแกรมเบื้องหลังไปพร้อมๆ กันได้เลย หรือจะไลฟ์สตรีมไปแล้วตัดไฮไลต์เด่นๆ มาขึ้นช่อง YouTube ของตัวเองก็ทำได้สบายมากหรือแม้แต่เล่นเกมเพื่อผ่อนคลายสบายๆ ก็ไม่มีปัญหา

ตอนทดสอบเล่นเกมแล้ว ถึง MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A13V จะเล่นเกมบนจอ UHD 2160p ได้ก็จริงแต่ความละเอียด QHD 1440p จะดีสุดเพราะปรับกราฟิคระดับสูงสุดแล้วได้เฟรมเรทเกิน 60 Fps อย่างแน่นอน ดังนั้นตอนโหลดเกมใหม่มาเล่นก็ตั้ง Resolution ให้อยู่ระดับ 2560*1440 หรือ 2560*1600 พิกเซล จะดีสุดแถมภาพไม่แตกด้วย ถ้าต่อหน้าจอแยกแนะนำให้ต่อจอเกมมิ่งเข้าพอร์ต HDMI 2.1 จะรองรับหน้าจอ 4K 120Hz ได้ ส่วนพอร์ต USB-C กับ Thunderbolt 4 ไว้ต่อจอทำงานดีกว่า และถ้าอยากตั้งฟังก์ชั่นให้กับคีย์บอร์ดของ Stealth 16 ก็เปิด SteelSeries Engine ขึ้นมาเซ็ตอัพเพิ่มได้ และถ้าจะซื้อเกมมิ่งเกียร์มาใช้กับโน๊ตบุ๊คนี้ ไม่เป็น MSI ก็ไปทาง SteelSeries จะดีกว่า ไม่ต้องโหลดโปรแกรมเพิ่มให้วุ่นวายด้วย

จุดสังเกตและข้อแนะนำการใช้งาน อุปกรณ์เสริมขอแนะนำให้ซื้อ USB Hub หรือ Multiport Adapter มาต่อ MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A13V จะเป็น Desktop Hub หรือแบบพกพาก็ได้ ช่วยเพิ่มจำนวนพอร์ตใช้งานให้มากขึ้นและต่อหน้าจอแยกเก่าทั้งเก่าและใหม่ได้สะดวกและถ้าจะต่อเกมมิ่งเกียร์เพิ่มก็ไม่ต้องพึ่งแค่ USB-A 3.2 อย่างเดียวแล้ว และถ้าพกเครื่องไปไหนมาไหนบ่อย ลงทุนซื้ออแดปเตอร์ GaN กับ Powerbank กำลังชาร์จ 100 วัตต์ขึ้นไปใส่กระเป๋าไว้ รับรองว่าอุ่นใจได้ใช้ในยามจำเป็นแน่นอน

ข้อควรระวังเล็กน้อย คือ พาเนลหน้าจอ OLED จะไม่ถูกกับการเปิดความสว่างหน้าจอ 100% ต่อเนื่องนานๆ ไม่อย่างนั้นอาการหน้าจอเบิร์น (Burn-in) อาจตามมาได้ ดังนั้นนอกจากเปิดฟีเจอร์ Pixel Refresh ในโปรแกรม MSI Center ก็ปรับความสว่างหน้าจอเอาไว้ประมาณ 80% จะดีสุดและก็สว่างพอใช้งานได้ดีแล้ว

Conclusion & Award

ถ้าให้ Mercedes-AMG GT4 เป็นโน๊ตบุ๊คสักเครื่อง อย่างไรก็ต้อง MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A13V ไม่ได้มาจากการร่วมมือของทั้งสองบริษัทอย่างเดียว เพราะของทั้งสองชิ้นต่างมีความเหมือนกันอยู่หลายอย่าง ทั้งซ่อนความแรงทรงพลังเอาไว้ตามจุดต่างๆ แถม Stealth 16 ยังปรับแต่งเพิ่ม SSD กับ RAM ได้เช่นเดียวกับที่ Mercedes-AMG เปิดให้ลูกค้าสั่งปรับแต่งสเปครถยนต์ได้ตามชอบ แต่ยังคงรูปลักษณ์ภายนอกเรียบง่ายหรูหราดูดีเช่นเดิม

สำหรับราคา 99,900 บาท แม้จะดูสูงอยู่บ้างในสายตาใครหลายคน แต่ในฐานะเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นพิเศษ มีจำนวนจำกัดแถมยังได้ของสมนาคุณแบบหาซื้อแยกไม่ได้แถมมาในกล่องด้วย ถ้าใครเป็นแฟนคลับของ Mercedes Benz และชอบโน๊ตบุ๊ค MSI นี่คือ “แรร์ไอเทม” ที่ควรค่าลงทุนเก็บเอาไว้ในคอลเล็คชั่นมาก

Award

Best for Creator

หน้าจอความละเอียด 16 นิ้ว ความละเอียด UHD+ พาเนล OLED การันตีขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 พร้อมช่อง MicroSD Card Reader เป็นส่วนผสมลงตัวเพื่อครีเอเตอร์อย่างแน่นอน

Best Upgradable

ถึงจะเป็นโน๊ตบุ๊คระดับเรือธง แต่ MSI ยังคงจุดเด่นดีๆ อย่างการอัพเกรดเพิ่ม SSD, RAM ได้แถมเปิดฝาด้วยตัวเองได้อย่างสะดวก จึงจัดว่าน่าประทับใจมาก

Best Mobility

ปกติแล้วเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คขนาด 16 นิ้ว มักมีน้ำหนักยืนพื้น 2.5 กก. ขึ้นไป แต่ MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A13V กลับเบาเพียง 1.88 กก. เท่านั้น จัดว่าพกพาสะดวกสบายมาก

Best Design

การดีไซน์ส่วนต่างๆ ของ Stealth 16 Studio ให้สอดคล้องกับรูปลักษณ์ของ Mercedes-AMG ทำได้ลงตัวสวยงามไม่มีอะไรขาดเกิน เป็นตัวแทนของกันและกันได้ยอดเยี่ยมมาก

---

บทความที่เกี่ยวข้อง

Adblock test (Why?)

รีวิว MSI Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A13V ซุปเปอร์คาร์ในคราบโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง! - NBS
Read More