Rechercher dans ce blog

Thursday, June 30, 2022

รีวิว EDIFIER : STAX SPIRIT S3 “หูฟังไร้สายพลานาร์แมกเนติกที่เกิดมาเพื่อขาย (คุณภาพ) เสียง ในราคาจับต้องได้” - AV Tech Guide

ส่วนตัวยอมรับว่าเมื่อก่อนผมเคยรู้สึกเฉย ๆ หรือออกจะมองข้ามผลิตภัณฑ์ในกลุ่มหูฟังของยี่ห้อ EDIFIER อาจเป็นเพราะว่าที่ผ่านมาผมรู้สึกว่าแบรนด์นี้เขาไม่ได้มีสินค้าหูฟังที่โดดเด่นนัก อีกเหตุผลหนึ่งที่พอจะอธิบายได้ก็คือ ผมยังไม่เคยฟังหูฟังของยี่ห้อนี้เลย

ทว่าหลังจากที่ได้รีวิวหูฟังไร้สายรุ่น NeoBuds Pro ของ EDIFIER ไปแล้ว ผมก็รู้สึกสนใจหูฟังของยี่ห้อนี้มากขึ้น ด้วยเหตุผลนี้เมื่อทราบว่า EDIFIER เขามีหูฟังรุ่นใหม่ออกมามีชื่อรุ่นว่า ‘STAX SPIRIT S3’ เป็นหูฟังไร้สายแบบครอบหู แถมยังมีชื่อของผู้ผลิตหูฟังชื่อดังที่ผมรู้จักมาเนิ่นนานอย่างยี่ห้อ STAX ‘สแตกซ์’ และยี่ห้อ Audeze ‘ออเดซซี’ มาเกี่ยวข้องด้วย ผมจึงไม่รอช้าที่จะขอทำความรู้จักมันให้มากขึ้น

หูฟังไร้สาย + ไดรเวอร์พลานาร์แมกเนติก
หนึ่งในจุดขายหลักของ EDIFIER STAX SPIRIT S3 นั่นคือการเลือกใช้งานตัวขับเสียงหรือยูนิตไดรเวอร์แบบแผ่นฟิล์มหรือที่เรียกกันอย่างเป็นทางการว่า ‘พลานาร์แมกเนติก (Planar Magnetic)’

โดยพื้นฐานแล้วไดรเวอร์ชนิดนี้ทำงานโดยอาศัยการเหนี่ยวนำของแม่เหล็กแรงสูงและตัวนำไฟฟ้าที่ฉาบอยู่บนแผ่นฟิล์มบาง ๆ มีจุดเด่นในเรื่องของการตอบสนองต่อสัญญาณเสียงได้อย่างรวดเร็ว สามารถถ่ายทอดรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ออกมาได้ดีเป็นพิเศษเมื่อเทียบกับไดรเวอร์แบบไดนามิกทั่วไป

ซึ่งที่อยู่ในหูฟังรุ่นนี้ทางผู้ผลิตเขาก็คุยว่ามันแอดวานซ์มากขึ้นไปอีก เพราะว่าได้พัฒนาให้เป็นไดรเวอร์พลาร์นาร์แมกเนติกที่มีความเพี้ยนต่ำ (Ultra Low Distortion Planar Magnetic Drivers) แถมยังตอบสนองไดนามิกของเสียงได้ดีด้วยในเวลาเดียวกัน โดยในหูฟังรุ่นนี้เลือกใช้ไดรเวอร์พลานาร์แมกเนติกขนาด 89mm x 70mm มีช่วงตอบสนองความถี่ตั้งแต่ 10Hz~40KHz

Review EDIFIER STAX SPITIR S3 Planar Magnetic wireless headphones

ด้วยวิถีโลกสมัยใหม่ที่มีการร่วมมือกันระหว่างแบรนด์เพื่อพัฒนาสินค้าที่ต้องอาศัยองค์ความรู้ร่วมกัน EDIFIER เองก็ไม่ได้พัฒนาไดรเวอร์พลาร์นาร์แมกเนติกในหูฟังรุ่นนี้โดยลำพังทว่าได้ร่วมมือกับ Audeze ผู้ผลิตหูฟังพลานาร์ฯ ชื่อดังในการพัฒนาตัวไดรเวอร์มาใช้กับหูฟังไร้สายรุ่นนี้

ว่าไปตั้งแต่เรื่องของการออกแบบตัวไดอะแฟรมหรือชิ้นส่วนสำคัญที่มีหน้าผลักอากาศเพื่อให้เกิดเป็นคลื่นเสียงที่มีชื่อเรียกว่า EqualMass™ Diaphragm รวมถึงเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่ได้รับการแบ่งปันมาจาก Audeze ไม่ว่าจะเป็น Uniforce™ Diaphragm ที่ช่วยให้เสียงที่ถ่ายทอดออกมามีความเพี้ยนต่ำ, ระบบแม่เหล็กแบบ Fluxor™ ที่ช่วยให้เสียงที่ได้มีรายละเอียดดีและตอบสนองความถี่ได้กว้าง

หรือแม้แต่เทคโนโลยีที่ทาง Audeze ได้พัฒนาขึ้นมาเพื่อจัดระเบียบคลื่นเสียงด้านหน้าไดอะแฟรมที่เป็นระนาบแผ่นฟิล์มบาง ๆ อย่าง Fazor™ Phase Management ที่ช่วยให้ได้เสียงสะอาดมากขึ้น สามารถถ่ายทอดรายละเอียดและมิติเสียงได้ดีขึ้น เมื่อเทียบกับหูฟังแบบพลานาร์ทั่ว ๆ ไป ก็ยังมารวมอยู่ในไดรเวอร์ของหูฟังรุ่นนี้ด้วยเช่นกัน

Review EDIFIER STAX SPITIR S3 Planar Magnetic wireless headphones

นอกจากตัวไดรเวอร์แล้ว เทคโนโลยีเชื่อมต่อไร้สายในหูฟังรุ่นนี้ยังเป็นเทคโนโลยี Bluetooth 5.2 ซึ่งถือได้ว่าเป็นเวอร์ชันที่ทันสมัยที่สุดในเวลานี้สำหรับสินค้าในกลุ่มคอนซูมเมอร์

นอกจากนั้นมันยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี Qualcomm® Snapdragon Sound™ และ aptX Adaptive Codec ซึ่งเป็นเทคโนโลยีไร้สายแบบ hi-res ด้วย รวมทั้ง Bluetooth Codec อื่น ๆ อย่าง aptX, aptX HD และ SBC

มีข้อสังเกตว่าในรายชื่อ Bluetooth Codec ข้างต้นนั้นไม่มี AAC รวมอยู่ด้วย ดังนั้นคนที่ใช้อุปกรณ์ iOS หรือ iPadOS ซึ่งปัจจุบันยังคงยึดติดอยู่กับ AAC Codec อาจไม่ได้ใช้ประโยชน์สูงสุดจากหูฟังรุ่นนี้เท่าที่ควรนะครับ

เทคโนโลยีไร้สายในหูฟังรุ่นนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อ Multi-Point Connectivity อุปกรณ์ได้ 2 ตัวพร้อมกัน สามารถสลับใช้งานระหว่างสองอุปกรณ์ได้

สำหรับแบตเตอรี่ในตัวหูฟังนั้นสามารถใช้งานได้นานถึง 80 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าแบตอึดมาก ๆ สำหรับหูฟังไร้สาย นอกจากนั้นตัวหูฟังยังรองรับการชาร์จเร็ว ซึ่งใช้เวลาชาร์จเพียง 10 นาทีก็สามารถใช้งานได้นานถึง 11 ชั่วโมง

ปัจจุบัน EDIFIER STAX SPIRIT S3 มีจำหน่ายในประเทศไทยแล้วในราคา 12,900 บาท มีจำหน่ายที่ 425 Degree: https://bit.ly/3QRZjrc

ลองใช้งานเบื้องต้น
อุปกรณ์เสริมมาตรฐานที่ให้มาด้วยกับหูฟัง EDIFIER STAX SPIRIT S3 ประกอบไปด้วยกระเป๋าเก็บหูฟังที่มีรูปทรงและวัสดุแลดูคุ้นตามาก ๆ สำหรับผม เพราะว่ามันดูคล้ายกระเป๋าใส่หูฟัง Audeze LCD-1 จนแทบจะเรียกได้ว่าเป็นฝาแฝดกันเลยทีเดียว

อุปกรณ์มาตรฐานที่ให้มาด้วยยังมีสายชาร์จ USB-C (ขั้วต่อ USB-A to USB-C) สายสัญญาณสำหรับเชื่อมต่อใช้งานเป็นหูฟังแบบเสียบสาย (ขั้วต่อ 3.5mm to 3.5mm ตัวสายห่อหุ้มด้วยเส้นใยถัก) และอะแดปเตอร์แปลงขั้วต่อ 3.5mm เป็น 6.3mm

นอกจากนั้นทาง EDIFIER ยังให้แผ่นรองหูหรือเอียร์แพดเสริมมาอีกคู่หนึ่งสำหรับให้เลือกเปลี่ยนใช้งาน (เอียร์แพดของหูฟังรุ่นนี้สามารถถอดเปลี่ยนได้) ตัวเอียร์แพดเสริมนั้นเป็นเอียร์แพดทที่มีผิวสัมผัสเป็นผ้าเนื้อนุ่มและระบายความร้อนได้ดีกว่าเอียร์แพดหนังแกะมาพร้อมกับตัวหูฟัง

วิธีการเปลี่ยนเอียร์แพดนั้นแค่ใช้ตัวงัด (แงะ) ที่มีหน้าตาคล้ายปิ้กกีตาร์ซึ่งมีให้มาด้วยในกล่องค่อย ๆ แงะและงัดไปที่รอบขอบเอียร์แพดส่วนที่ยึดกับตัวเอียร์คัป (กรอบของหูฟัง) เพื่อทำการปลดล็อคหมุดพลาสติกขนาดเล็กสี่ตัว

เวลาใส่กลับเข้าไปก็แค่กดหมุดให้ลงล็อคทั้งสี่จุด ไม่แนะนำให้ปลดล็อคด้วยการดึงที่ตัวเอียร์แพดโดยตรงเพราะอาจทำให้เอียร์แพดฉีกขาดหรือมีอายุใช้งานสั้นลงได้

Review EDIFIER STAX SPITIR S3 Planar Magnetic wireless headphones
อุปกรณ์มาตรฐานที่มาพร้อมกับหูฟัง (คลิกดูภาพใหญ่รายละเอียดสูง)

ตัวหูฟังมีขนาดปานกลางแต่มีน้ำหนักค่อนข้างมากคือตามสเปคฯ อยู่ที่ 329 กรัม เข้าใจว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะตัวไดรเวอร์แบบพลานาร์แมกเนติก อีกส่วนหนึ่งน่าจะมาจากแบตเตอรี่และวงจรอิเล็กทรอนิกส์ในตัวหูฟังเอง อย่างไรก็ดีมันยังเบากว่าหูฟังพลานาร์หลายรุ่นโดยเฉพาะหูฟังแบบไร้สายอย่าง HiFiMAN Deva ที่หนัก 360 กรัม หรือแม้แต่หูฟังไร้สายไดรเวอร์แบบไดนามิกอย่าง Apple AirPods Max ซึ่งหนักถึง 384.8 กรัม

หรือแม้แต่หูฟังไดนามิกพาสสีฟแบบเสียบสายที่ไม่มีวงจรอิเล็กทรอนิกส์และแบตเตอรี่ในตัวบางรุ่นก็ยังหนักพอ ๆ กันหรือน้ำหนักมากกว่า EDIFIER STAX SPIRIT S3 อย่างเช่น Shure SRH-940 หรือ Rode NTH-100 ที่มีน้ำหนักมากถึง 320 กรัมและ 350 กรัม ตามลำดับ (ไม่รวมสายหูฟัง)

EDIFIER STAX SPIRIT S3 เป็นหูฟังไร้สายระดับพรีเมียมสมัยใหม่ที่ไม่มีระบบตัดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟ ไม่มีเซ็นเซอร์ตรวจจับการสวมใส่ และมีไมโครโฟนมาให้ใช้งานแค่ตัวเดียว โดยมาพร้อมกับเทคโนโลยี Qualcomm® aptX™ Voice ที่อ้างว่าช่วยเพิ่มคุณภาพเสียงในการโทร (ลองฟังทดสอบคุณภาพเสียงได้ในคลิปวิดีโอประกอบบทความนี้)

Review EDIFIER STAX SPITIR S3 Planar Magnetic wireless headphones
ปุ่มควบคุมและขั้วต่อสายหูฟังที่เอียร์คัปด้านขวา (คลิกดูภาพใหญ่รายละเอียดสูง)

สำหรับปุ่มควบคุมที่ตัวหูฟังนั้นก็เรียบง่ายครับ มีแค่ 3 ปุ่ม ปุ่มเพิ่มเสียง ปุ่มลดเสียง และปุ่มมัลติฟังก์ชัน แต่การใช้งานนั้นเข้าใจง่ายและสะดวกเหมือนกันครับ ถ้าเล่นหรือหยุดเพลงให้กดครั้งเดียว สำหรับการข้ามไปคอนเทนต์ถัดไปหรือว่าการย้อนคอนเทนต์กลับหลัง สามารถทำได้โดยการกดปุ่มลดเสียงค้างไว้หรือกดปุ่มเพิ่มเสียงค้างไว้ตามลำดับ

เช่นเดียวกับหูฟังไร้สายรุ่น NeoBuds Pro หูฟังรุ่นนี้ก็สามารถใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชัน Edifier Connect ในสมาร์ทโฟนได้ด้วย โดยเมื่อใช้งานเราสามารถดูระดับของพลังงานแบตเตอรี่ในตัวหูฟังได้ เราสามารถปรับชดเชยเสียงของการเปลี่ยนชนิดของเอียร์แพดได้ เลือกฟังก์ชันสำหรับการกดปุ่มมัลติฟังก์ชันสองครั้งหรือสามครั้ง ตลอดจนการตั้งค่าส่วนอื่น ๆ (ดูรายละเอียดในคลิปวิดีโอในบทความนี้)

อีกส่วนที่สำคัญเนื่องจากเกี่ยวข้องกับคุณภาพเสียงโดยตรงนั่นคือการเลือกตั้งค่า Sound Effect หรือที่จริงแล้วก็มี Preset EQ เพื่อเลือกแนวเสียงให้กับตัวหูฟังนั่นเอง โดยมี 3 ตัวเลือกได้แก่ Classic, Hi-Fi และ STAX ส่วนตัวแล้วผมชอบเสียงที่ตัวเลือก Classic ซึ่งเป็นค่าดีฟอลต์มากที่สุด เพราะว่ามีสมดุลเสียงตลอดย่านความถี่ดี ฟังแล้วไม่รู้สึกขาด ๆ เกิน ๆ

สำหรับตัวเลือก Hi-Fi นั้นเสียงทั้งหมดฟังดูกระชับ มีความกระฉับกระเฉงมากขึ้น แต่ขาดความผ่อนปรนในลักษณะของการตอบสนองต่อไดนามิกคอนทราสต์ไปสักนิด อาจดีกับเพลงบางแนวแต่ไม่ใช่ตัวเลือกที่ผมชอบ

Review EDIFIER STAX SPITIR S3 Planar Magnetic wireless headphones
เมื่อใช้งานกับแอปฯ Edifier Connect (คลิกดูภาพใหญ่รายละเอียดสูง)

ในขณะที่โหมด STAX นั้นเข้าใจว่าทาง EDIFIER ซึ่งปัจจุบันเป็นเจ้าของแบรนด์ STAX ผู้ผลิตหูฟังอิเล็กโตรสแตติกระดับไฮเอนด์ชื่อดัง พยายามจะผสานความเป็น STAX เข้ามาเพื่อเพิ่มมูลค่าของหูฟังไร้สายรุ่นนี้ จึงได้เพิ่ม Preset EQ ที่พยายามเลียนเสียงของหูฟัง STAX เข้ามาด้วย ทว่าจากที่ได้ลองใช้งานผมคิดว่าน้ำเสียงในภาพรวมที่ได้มันบางไปหน่อย ทำให้ฟังเพลงได้ไม่หลากหลาย

ดังนั้นตัวเลือกนี้อาจไม่มีความไม่จำเป็นครับ เว้นเสียแต่ว่าทาง EDIFIER ต้องการหยิบยืมชื่อและบุคลิกความเป็น STAX ในบางด้าน (โปร่ง เบา พลิ้วไหว) มาใช้เป็นกิมมิคเท่านั้นเอง

สำหรับการใช้งานแบบเชื่อมต่อด้วยสายหูฟังซึ่งเปิดโอกาสให้สามารถใช้งานกับอุปกรณ์เสียงที่ไม่มีเอาต์พุตเป็นระบบไร้สายได้ด้วย เช่น พวกอุปกรณ์บันทึกเสียงพกพาหรือพวกอุปกรณ์ซาวด์อินเทอร์เฟซต่าง ๆ ผมพบว่าหูฟังรุ่นนี้ไม่สามารถใช้งานในรูปแบบของหูฟังแบบพาสสีฟได้แม้ว่าจะเสียบสายหูฟังแล้ว

คือมันยังจำเป็นต้องเปิดการทำงานในส่วนของระบบแอคทีฟในตัวหูฟังด้วยครับ เท่ากับว่าในโหมดเสียบสายก็ยังต้องใช้งานในโหมดแอคทีฟ ยังมีการใช้งานภาคขยายเสียงในตัวหูฟัง มองในแง่ลบคือ ถ้าแบตเตอรี่หมดก็ใช้งานไม่ได้แม้เสียบใช้สายหูฟังแล้ว

แต่ในอีกแง่มุมหนึ่งก็พบข้อดีอยู่เหมือนกันนั่นคือ เราก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการมองหาแอมป์มาขับ เพราะหูฟังพลานาร์หลายรุ่นขึ้นชื่อว่าขับค่อนข้างยากจนถึงขับยาก บางทีถ้าเป็นอุปกรณ์พกพาตัวเล็ก ๆ หรือสมาร์ทโฟนอาจมีปัญหาขับไม่ออกได้ แต่ปัญหาเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นกับ EDIFIER STAX SPIRIT S3 อย่างแน่นอน

คุณภาพเสียงและการฟังเพลง
โดยปกติจุดเด่นของตัวขับเสียงแบบพลาร์นาร์แมกเนติกนั้นคือ การตอบสนองทรานเชียนต์ได้ดีเนื่องจากมีไดอะแฟรมหรือส่วนที่ทำหน้าที่ผลักอากาศเพื่อให้เกิดเป็นคลื่นเสียงนั้นเป็นแค่แผ่นฟิล์มบาง ๆ ไม่มีขดลวดวอยซ์คอล์ยซึ่งมีมวลมากกว่าตัวแผ่นฟิล์มเองมาคอยเพิ่มมวลที่ต้องเคลื่อนไหว (moving mass) ทำให้มันสามารถตอบสนองต่อสัญญาณเสียงได้อย่างฉับไว

ไม่ว่าจะเป็นการขยับจากจุดหยุดนิ่ง หรือการยั้งตัวจากการขยับ ทำให้เสียงที่ได้มีจุดเด่นที่ความโปร่งใส ความพลิ้ว ความกระจ่างสดใสโดยเฉพาะในย่านเสียงกลางและกลางสูงขึ้นไป ในขณะที่เสียงโดยรวมมีความกระชับ ความคมชัดเป็นจุดเด่น

Review EDIFIER STAX SPITIR S3 Planar Magnetic wireless headphones
ไดรเวอร์พลานาร์แมกเนติกตัวจริงเสียงจริงใน EDIFIER STAX SPIRIT S3 (คลิกดูภาพใหญ่รายละเอียดสูง)

ซึ่งจากที่ผมได้ลองฟัง EDIFIER STAX SPIRIT S3 หูฟังรุ่นนี้ก็มีลักษณะดังกล่าวอย่างครบถ้วนนะครับ รายละเอียดเสียงดีมาก แบนด์วิดธ์เสียงกว้างขวาง สมดุลเสียงค่อนข้างเป็นกลาง เสียงสะอาด คมชัด มิติเสียงดีเยี่ยม

ขณะที่การตอบสนองความถี่นั้นสามารถถ่ายทอดเสียงทุ้มออกมาได้กระชับแน่น ขณะที่มวลเนื้อเสียงเองก็ไม่ได้บางเบาแต่อย่างใด เรียกว่าสามารถใช้ฟังเพลงป๊อปทั่วไป ป๊อปร็อค เพลงร้อง คลาสสิก แจ๊ซหรือแนวอะคูสติก ได้สบาย ๆ ผมเองใช้งานแล้วไม่รู้สึกว่าต้องปรับตัวหรือต้องยอมรับข้อพร่องอะไรมากมาย

หากว่าเพลงหรือดนตรีนั้นบันทึกเสียงมาได้ดีเป็นทุนเดิมอยู่แล้วด้วย คุณลักษณะต่าง ๆ ในน้ำเสียงนั้นจะพรั่งพรูออกมาโดยไม่มีลักษณะของความรุกเร้าจนเกินควร รายละเอียดเหล่านั้นสามารถได้ยินชัดเจนเป็นพิเศษ ได้ยินโดยไม่ต้องตั้งใจฟัง (ตัวอย่างเพลงที่ผมคัดเลือกเอาไว้ในระว่างการรีวิวหูฟังรุ่นนี้ https://tidal.com/playlist/4a173905-343d-4416-b749-990148e5e573)

Review EDIFIER STAX SPITIR S3 Planar Magnetic wireless headphones

Review EDIFIER STAX SPITIR S3 Planar Magnetic wireless headphones

อย่างเช่น เสียงร้องของ Jane Monheit ในเพลง ‘Let’s Talks A Walk’ จากอัลบั้ม Come What May (TIDAL Lossless) หรือเสียงของ Tony Bennett และ Lady GaGa ในเพลง ‘Love For Sale’ ในอัลบั้มชื่อเดียวกับเพลง (TIDAL Master) รายละเอียดที่ผมได้ยินแทบมองเห็นปากของนักร้องเลยล่ะครับ เสียงเบส เสียงเปียโน เสียงกีตาร์ รวมทั้งเครื่องเป่านั้นออกมาคมชัดสดใสมาก ๆ

และที่น่าสนใจไม่แพ้กันก็คือ มันเป็นหูฟังที่ให้เวทีเสียงกว้างขวางด้วยครับแม้ว่าจะเป็นหูฟังระบบปิดหลังก็ตาม ส่วนตัวผมชอบนะครับที่มันเป็นหูฟังระบบปิดหลัง เพราะนั่นหมายความว่าผมสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องกังวลว่าเสียงจะไปรบกวนคนรอบข้าง ใช้งานแบบเอาต์ดอร์ก็ไม่มีปัญหา

เวลาใช้งานในโหมดเสียบสายก็สามารถใช้งานกับอุปกรณ์ประเภทซาวด์อินเทอร์เฟซได้โดยไม่ต้องกลัวว่าเสียงจากหูฟังจะรั่วไหลออกไปตีกับไมโครโฟน ดังนั้นเพื่อน ๆ พี่ ๆ หรือน้อง ๆ สามารถเอาไปใช้เป็นหูฟังตอนทำไลฟ์ ทำพอดแคสต์ หรือเอาไปใช้ประชุมออนไลน์ได้เลยครับ

สำหรับการเชื่อมต่อบลูทูธแม้ว่าการเชื่อมต่อในโหมด Codec เสียงที่ดีที่สุดอย่าง aptX Adaptive นั้น อาจจำเป็นต้องอาศัยสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์เล่นเพลงที่รองรับเทคโนโลยี Qualcomm® Snapdragon Sound™ ด้วยอย่างเช่น Xiaomi 12 Pro (ดูเพิ่มเติมหรืออัปเดตล่าสุดได้ที่นี่) ทว่าการใช้งานโหมดบลูทูธอื่น ๆ ก็ไม่ได้ส่งผลกับคุณภาพเสียงของหูฟังรุ่นนี้มากมายครับ หมายความว่าเรายังสามารถรับรู้ได้ถึงคุณภาพเสียงที่ดี และประสิทธิภาพของไดรเวอร์แบบพลานาร์อยู่อย่างครบถ้วนครับ

STAX SPIRIT S3 เหมาะกับใคร ?
ผมรู้สึกว่านี่คือหูฟังที่เกิดมาเพื่อขาย (คุณภาพ) เสียงเป็นหลัก ในมุมมองของคนเล่นเครื่องเสียงไฮไฟผมคิดว่ามันเป็นหูฟังไร้สายที่เสียงดีมาก ๆ ครับ โดยมีระบบไร้สายช่วยอำนวยความสะดวกให้เหมาะกับการใช้งานในยุคสมัยนี้มากยิ่งขึ้น

Review EDIFIER STAX SPITIR S3 Planar Magnetic wireless headphones

สำหรับคนที่กำลังมองหาหูฟังไร้สายเสียงดี (มาก) สักตัวหนึ่งไปใช้งานจริงจังหรือเพื่อความบันเทิงส่วนตัว ไม่แคร์ว่าต้องมีระบบตัดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟ ไม่แคร์ว่าจะต้องมีเซ็นเซอร์ตรวจจับการสวมใส่ ไม่แคร์ว่าจะต้องมีโหมดจำลองเสียงโอบล้อมรอบทิศทาง ไม่แคร์ว่าเมื่อใช้งานในโหมดเสียบสายแล้วยังจำเป็นต้องใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ในตัวหูฟัง (ซึ่งความจริงแบตมันอึดมาก) นี่คือหูฟังที่คุ้มค่าการลงทุนทุกบาททุกสตางค์ครับ ผมเองรีวิวแล้วยังอยากมีไว้ใช้งานส่วนตัวเลย ! (จริงจัง)


EDIFIER STAX SPIRIT S3 ราคา 12,900 บาท มีจำหน่ายที่ 425 Degree: https://bit.ly/3QRZjrc

Adblock test (Why?)


รีวิว EDIFIER : STAX SPIRIT S3 “หูฟังไร้สายพลานาร์แมกเนติกที่เกิดมาเพื่อขาย (คุณภาพ) เสียง ในราคาจับต้องได้” - AV Tech Guide
Read More

'ดูดวง' กรกฎาคม 2565 ตามหลัก 'โหราศาสตร์จีน' กับ 'ซินแสนัตโตะ' - กรุงเทพธุรกิจ

หนีห่าว สวัสดีครับ พบกับดวงจีน12นักษัตรประจำเดือนกรกฎาคม2565โดย ซินแสนัตโตะเพจหมอดูเที่ยงคืนให้โหราศาสตร์จีนเป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ

เดือนแห่งงานบุญ ในเดือนกรกฎาคมนี้จะมีวันสำคัญของพระพุทธศาสนา 2 วัน ดังนี้

1.วันอาสาฬหบูชา ปีนี้ตรงกับวันที่ 13 กรกฎาคม 2565 เป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงประกาศพระศาสนา และเป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงพระธรรมเทศนาเป็นครั้งแรก จึงถือเป็นวันที่มีพระรัตนตรัย ครบองค์ 3 คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

ในวันนี้กิจกรรมของพุทธศาสนิกชน สวดมนต์ ฟังเทศน์ ในช่วงเย็นจะมีการเวียนเทียนกันตามวัดทั่วประเทศ

2.วันเข้าพรรษา ปีนี้ตรงกับวันที่ 14 กรกฎาคม 2565 พระสงฆ์จะพำนักอยู่วัด ในช่วงฤดูฝนตลอด 3 เดือน กิจกรรมของพุทธศาสนิกชน  จะมีการทำบุญถวายเทียนพรรษา  หล่อเทียนพรรษา และถวายผ้าอาบน้ำฝน

มาถึงช่วงที่ทุกคนรอคอยกันแล้วนะครับ ดวงชะตาของคุณในเดือนนี้ จะเป็นอย่างไร ในเรื่องการเงิน การงาน และการลงทุน พบกับภาพรวม ดวงจีนของทั้ง 12 นักษัตร ประจำเดือนกรกฎาคม2565 เดือนมะแม พลังงานธาตุดินกันได้เลยครับ

ดวงจีน 12 นักษัตร เดือนกรกฎาคม 2565

  • ปีชวด

“การลงทุนเน้นปรึกษา การทำงานต้องอดทน ส่วนการเงินเน้นอดออม”

การเงิน ยังมีเกณฑ์ใช้เงินเยอะ จุกจิกไปหมด คุณต้องคำนวณบัญชีรายรับรายจ่ายให้ดี เพื่อไม่ให้การเงินของคุณมีการใช้เงินเกินตัว คุณจะได้ไม่ต้องมานั่งเครียดทีหลัง   

การงาน เดือนนี้ยังคงต้องรับผิดชอบ ดูแลงานที่หนัก งานเยอะไปหมด ทั้งการที่คุณจะต้องคอยช่วยดูงานของคนอื่น ดังนั้นเดือนนี้จึงต้องอดทนให้มาก ตรวจทานงานให้มีความรอบคอบ ก่อนที่คุณจะส่งออกไป จะช่วยทำให้คุณทำงานได้ง่ายขึ้น

การลงทุน ต้องมีกลยุทธ์ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในเรื่องที่คุณจะนำเงินไปลงทุน เป็นสิ่งสำคัญ การเรียนรู้ที่เว็บไซต์ของตลาดหลักทรัพย์ และเพจที่ให้ความรู้ต่างๆที่เพิ่มขึ้นจะช่วยคุณได้ ยังเหมาะกับการลงทุนในหุ้น Market Cap ใหญ่

ระวัง ความรู้สึก เหนื่อย ท้อ เสียใจ ทำดีแล้วไม่ได้ดี ต้องแบกรับสิ่งต่างๆที่เยอะ ให้คุณคิดบวกให้มากไว้

เคล็ดลับเสริมดวง ให้ไปไหว้เทพเจ้าโชคลาภ(ไฉ่สิ่งเอี๊ย) โดยถวายส้ม 8 ผล น้ำชา 3 ขวด และการทำบุญบริจาคเกี่ยวกับโรงพยาบาลจะช่วยเสริมดวงชะตาให้กับคุณได้

  • ปีฉลู

“การลงทุนเน้นปันผล การทำงานหมั่นตรวจทาน เรื่องการเงินอุดรอยรั่ว”

การเงิน พยายามลดรายจ่าย หาวิธีเพิ่มรายได้ จะช่วยคุณได้ เพราะมีเกณฑ์เสียเงินจุกจิกไปหมด อยู่ๆก็ต้องมีเรื่องให้ใช้เงินมากกว่าปกติ ค่อยๆอุดรอยรั่ว จะได้ไม่มีปัญหาเรื่องเงินไม่พอใช้มากวนใจคุณในเดือนนี้

การงาน งดโต้เถียง จะทำให้การทำงานในเดือนนี้ของคุณราบรื่น ส่วนตรงไหนที่ไม่เข้าใจ ต้องสอบถาม หัวหน้างาน หรือลูกค้า ต้องมีความเข้าใจที่ตรงกัน เพื่อให้ผลงานที่ทำออกมาครบถ้วน จะได้ไม่เกิดปัญหา แล้วคุณต้องอย่าลืมตรวจทานงานก่อนนำส่ง

การลงทุน เดือนนี้ต้องเน้นปลอดภัยไว้ก่อน ไม่เสี่ยงสูง แนะนำการลงทุนที่มีปันผลดี จำพวก Dividend Stock  , REIT , กองทุนปันผลเด่น ,ประกัน ให้เงินทำงานแทนคุณ

ระวัง เรื่องอุบัติเหตุ พักผ่อนไม่เพียงพอ การโยกย้ายงาน อยู่ๆมีเรื่องเสียเงิน ซ่อมแซมบ้าน ย้ายที่อยู่ เจ็บป่วยเรื่องสุขภาพ ปัญหามรดกคดีความ และความรัก

เคล็ดลับเสริมดวง ให้ไปไหว้เทพเจ้าผู้คุ้มครองดวงชะตา ไท่ส่วยเอี๊ย ตามวัดจีน ศาลเจ้าได้ทั่วประเทศ และการทำบุญสังฆทาน ผ้าไตรจีวร ยารักษาโรค ทำบุญปล่อยชีวิตสัตว์ และการสวดมนต์นั่งสมาธิเป็นประจำจะช่วยเสริมดวงชะตาให้กับคุณได้

  • ปีขาล

“การลงทุนดวงพร้อมรวย การทำงานดวงเปิดแล้ว ส่วนการเงินต้องควบคุม”

การเงิน มีเกณฑ์มีรายจ่ายเกี่ยวกับภายในบ้าน หรือผู้ใหญ่เข้ามาที่เยอะขึ้น พยายามหมั่นดูแล แก้ไขตั้งแต่ต้น จะทำให้คุณไม่มีค่าใช้จ่ายที่บานปลาย เพราะเดือนนี้มีเกณฑ์อยู่ติดบ้านเป็นพิเศษ

การงาน เดือนนี้มีเกณฑ์ที่ดีในเรื่องความก้าวหน้า การได้รับตำแหน่ง หรือหน้าที่ความรับผิดชอบสูงขึ้น คุณต้องเร่งในการพัฒนาตัวเองให้มากขึ้น เพื่อรองรับกับความท้าทายในการทำงานที่เพิ่มขึ้น จะทำให้งานของคุณนั้นง่ายขึ้น

การลงทุน สามารถลงทุนเสี่ยงๆได้  จำพวก หุ้นเก็งกำไร , Warrant , DW , Cryptocurrency แต่คุณต้องจัดการอารม์ลบๆให้ได้ก่อน เพื่อให้มีสมาธิในการรับมือกับการลงทุน และอย่าลืมจุด Stop Loss ด้วยล่ะ

ระวัง ความเครียด คิดมาก เรื่องน้อยใจ ทำให้รู้สึกเบื่อ พยายามยิ้มแย้มให้มากขึ้น

เคล็ดลับเสริมดวง ให้ไปไหว้พระวัดริมน้ำ และการทำบุญปล่อยปลาจำนวน 9 ตัว อีกทั้งการทำทานให้อาหารปลา จะช่วยเสริมดวงชะตาให้กับคุณได้

  • ปีเถาะ

“ดวงการเงินเปิดรับทรัพย์ เรื่องการงานเด่นมากมาย เรื่องลงทุนเทรดดิ้งดี”

การเงิน เป็นเดือนที่ดี ได้โชค รับทรัพย์ เงินมาแล้ว และคุณยังสามารถเก็บออมได้ดีอีกด้วย จะทำให้คุณสามารถวางแผนที่จะทำสิ่งต่างๆได้มากขึ้น

การงาน สามารถลุยงานได้อย่างเต็มที่ ได้ดูแลรับผิดชอบงานที่มีความสำคัญ และได้รับความไว้วางใจมากขึ้นจากคนรอบข้าง เดือนนี้จึงเป็นเดือนที่เริ่มต้นในการทำอะไรใหม่ๆ รวมถึงการทำงานเสริม หารายได้เสริมเข้ามาได้อีก ส่วนคนที่กำลังมองหางานใหม่ ลุยได้เลย

การลงทุน กลยุทธ์การลงทุน ข้อมูลข่าวสาร รวมถึง Research คุณต้องอ่าน ศึกษา และเรียนรู้ให้มากขึ้น จะทำให้การลงทุนของคุณง่ายขึ้นเยอะ มีเกณฑ์การลงทุนระยะสั้น หรือเทรดดิ้งได้ดี จะทำให้คุณได้ผลตอบแทนที่มากขึ้น

ระวัง จิตตก ซึมเศร้า และการอยู่ในห้องมืดๆ อากาศไม่ถายเท พยายามเปิดหน้าต่าง เปิดไฟในห้อง

เคล็ดลับเสริมดวง ให้ไปไหว้ปู่โสมเฝ้าทรัพย์ มูลนิธิร่วมกตัญญู วัดหัวลำโพง โดยถวายส้ม 4 ผล น้ำชา 3 ขวด และการทำบุญโลงศพ จะช่วยเสริมดวงชะตาให้กับคุณได้

  • ปีมะโรง

“การทำงานเริ่มเด่นชัด การลงทุนมีเกณฑ์ดี เรื่องการเงินยังต้องเซฟ”

การเงิน ยังมีความอึดอัดในเรื่องการเงินของคุณอยู่ ควรเลือกออกงานพบปะเพื่อน หรือต้องใช้จ่ายในเรื่องต่างๆให้คิดก่อน ดูว่าสิ่งไหนมีความจำเป็น จะช่วยคุณได้ในเดือนนี้

การงาน เตรียมตัวรับงานใหญ่ คุณต้องเตรียมตัวในการทำงานเพิ่มขึ้น ทั้งในเรื่องงานที่คุณรับผิดชอบ ข้อมูลข่าวสารต่างๆ เพื่อให้คุณมีความชำนาญในงานที่คุณทำ หรือที่คุณได้รับมอบหมาย จะทำให้มีความสำเร็จที่ง่ายขึ้น

การลงทุน เดือนนี้การลงทุนที่คุณได้เคยลงทุนไว้ หรือการลงทุนร่วมกับผู้อื่น มีผลตอบแทนที่ดีกลับมาให้ หรือคนที่ยืมเงินคุณ มีเกณฑ์นำเงินมาคืน ลองตรวจเช็คบัญชีของคุณที่ได้ลงทุนสิ่งต่างๆไว้ดู ส่วนการลงทุนในกองทุนรวม ให้ดูการจัดอันดับกองทุน แล้วเลือกลงทุนจะดีเป็นพิเศษในเดือนนี้

ระวัง เรื่องคำพูด การแสดงความคิดเห็นที่ตรงเกินไป จะทำให้คุณมีปัญหากับคนรอบข้างได้ เบาได้เบา

เคล็ดลับเสริมดวง ให้คุณไปไหว้เทพเจ้า 108 พี่น้อง ศาลเจ้าบางรัก(เจียวเอ็งเบี้ยว) โดยถวายส้ม 16 ผล น้ำชา 16 ขวด และการร่วมทำบุญถวายเทียนใหญ่ จะช่วยเสริมดวงชะตาให้กับคุณได้

  • ปีมะเส็ง

“เรื่องลงทุนลุยได้เลย การทำงานต้องแบกรับ ส่วนการเงินควรประหยัด”

การเงิน เดือนนี้ยังไปได้เรื่อยๆ ออกแนวไซด์เวย์ แต่คุณยังมีพวกรายจ่ายเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการเดินทางที่เยอะขึ้น ลองวางแผนบริหารจัดการดู จะช่วยคุณประหยัดได้

การงาน ยังต้องทำงานหนัก มีการทำงานที่หลากหลายหน้าที่ และยังมีเกณฑ์ที่ต้องไปดูงานต่างจังหวัด ต่างประเทศ หรือการติดต่องานทางไกลในเดือนนี้ คุณต้องมีวินัย มีความรับผิดชอบที่มากขึ้น เพื่อแบกรับภาระหน้าที่ที่คุณได้รับมอบหมายให้ได้

การลงทุน สามารถลงทุนได้ทุกผลิตภัณฑ์ทางการเงิน การกระจายการลงทุน (Asset Allocation) จะช่วยคุณได้ดีในเดือนนี้ เพื่อบริหารเงินลงทุนของคุณ จะเป็นประโยชน์ให้กับคุณอย่างมาก

ระวัง สุขภาพ เจ็บป่วย ควรหาอาหารเสริมมาบำรุงบ้างอะไรบ้าง

เคล็ดลับเสริมดวง ให้คุณไปไหว้อุ้ยท้อผ่อสัก(พระเวทย์โพธิสัตว์) โดยถวายส้ม 5 ผล น้ำชา 5 ขวด ตามวัดจีนได้ทั่วประเทศ เพื่อเสริมพลังงาน 5 ธาตุ และลงชื่อทำบุญเข้าวัด จะช่วยเสริมดวงชะตาให้กับคุณได้

  • ปีมะเมีย

“เรื่องการเงินโอกาสมา การลงทุนกำลังดี ส่วนเรื่องงานยังกดดัน”

การเงิน มีเงินเข้ามาจากหลายช่องทาง เดือนนี้มีเกณฑ์รับทรัพย์ที่มากขึ้น ทั้งจากรางวัล เสี่ยงโชค หรือผู้ใหญ่ให้ การได้ของขวัญ ของกำนัล ยังไงลองมองหาโอกาสรอบๆตัวดู

การงาน ผู้ใหญ่ หัวหน้า ยังคงให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน แต่คุณจะรู้สึกกดดัน เพราะคุณถูกคาดหวังในผลงาน กังวลจะทำได้ไม่ดี ให้คุณมั่นใจในตัวเองให้มาก คุณเป็นคนที่มุ่งมั่น ทำงานเร็ว ไม่อยู่นิ่งอยู่แล้ว พยายามให้มากแล้วจะดีเอง

การลงทุน เดือนนี้การเก็งกำไรดี แต่ควรมี จุด Stop Loss และการดูเส้นค่าเฉลี่ย RSI ตีเส้นเทรนไลน์ให้ได้ เพื่อช่วยในการลงทุน หรืออาจดู Research ทางเทคนิคของโบรกต่างๆ เพื่อปรับกลงยุทธ์การลงทุนให้ทันท่วงที จะทำให้คุณได้ผลตอบแทนที่เกินคาด

ระวัง ความใจร้อน ไม่รอบคอบจะทำให้คุณเสียงานใหญ่หรือเรื่องใหญ่ๆได้ ควรนิ่งให้มากขึ้น

เคล็ดลับเสริมดวง ให้คุณไปไหว้เทพเจ้าโชคลาภทั้ง 5 (อู่ลู่เสิน) โดยถวายส้ม 9 ผล น้ำชา 5 ขวด ที่ศาลเจ้าหลีตี๊เมี้ยว แถวเยาวราช และทำบุญบริจาคยารักษาโรค จะช่วยเสริมดวงชะตาให้กับคุณได้

  • ปีมะแม

“การทำงานต้องใส่ใจ การลงทุนควรรอบคอบ เรื่องการเงินเน้นจัดการ”

การเงิน เดือนนี้ค่อนข้างตึงๆกับค่าใช้จ่ายที่เข้ามาเยอะ หรือหนี้บัตรเครดิต การผ่อนชำระต่างๆ อดทน ค่อยๆจัดการ และหมุนเคลียร์ไปทีละอย่าง จะค่อยๆเบาลง

การงาน การยอมรับฟังความคิดเห็น ความเชื่อใจ จะทำให้ผู้อื่นยอมรับ คุณต้องมีความจริงใจ อีกทั้งความใส่ใจในการดูรายละเอียดในการทำงานให้มากขึ้น จะช่วยคุณลดความอึดอัดในการทำงานลงได้ และคนรอบข้างจะช่วยเหลือคุณอย่างเต็มที่

การลงทุน การปรึกษาผู้แนะนำการลงทุน หรือที่ปรึกษาการลงทุนของคุณ เพื่อตกผลึกทางความคิด จะทำให้คุณมีความรอบคอบในการลงทุนที่มากขึ้น และช่วยลดความเสี่ยงได้อีก เดือนนี้เด่นในการลงทุนหุ้น SET100 , SET50

ระวัง การเข้าไปพัวพันเรื่องของคนอื่น ปัญหาในเรื่องความรัก และรักสามเศร้า

เคล็ดลับเสริมดวง ให้ไปไหว้พระเมตไตรยโพธิสัตว์(หมี่เล็กผ่อสัก) เมื่อเจอพระยิ้มใจของท่านจะเป็นสุข โดยถวายพวงมาลัย 1 พวง ที่วัดจีนได้ทั่วประเทศ และการเติมน้ำมันตะเกียง จะช่วยเสริมดวงชะตาให้กับคุณได้

  • ปีวอก

“เรื่องการเงินโชคมาแล้ว การทำงานต้องเพิ่มเรียน ส่วนลงทุนใช้กลยุทธ์”

การเงิน เดือนนี้มีโชคใหญ่ๆเข้ามา ได้เงินพิเศษ หรือการเก็บหนี้คืนได้ แต่ต้องดูการใช้จ่ายซื้อของฟุ่มเฟือย ของที่ชอบ ที่มากเกินไป ควบคุมให้ดี เตือนแล้วนะ

การงาน มีคนเมตตา ช่วยเหลือคุณอยู่ พยายามอ่าน ฟัง เขียนให้มากขึ้น เหมาะกับการเรียนรู้เพิ่มขึ้น ทั้งคอร์สออนไลน์ พัฒนาตัวคุณเองให้มากจะทำให้คุณโดดเด่นขึ้นมาทันที ความก้าวหน้ารอคุณอยู่

การลงทุน สามารถลงทุนเสี่ยงๆได้ เน้นใช้กลยุทธ์การลงทุนผสมผสาน ทั้งการวิเคราะห์ทางปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis) และการวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) ดังนั้น งบการเงิน สัดส่วนการเงินต่างๆ ทั้งกราฟเทคนิคต้องรู้

ระวัง อารมณ์ปรวนแปรขึ้นลง เปลี่ยนไปมาบ่อย ควรตั้งสติให้ดีในการทำทุกๆเรื่อง

เคล็ดลับเสริมดวง ให้ไหว้เทพเจ้ากวนอู โดยถวายแอปเปิ้ลแดง 4 ผล น้ำชา 3 ขวด และการร่วมทำบุญถวายที่ดิน จะช่วยเสริมดวงชะตาให้กับคุณได้

  • ปีระกา

“การทำงานได้โอกาส ส่วนลงทุนดูภาพรวม เรื่องการเงินยังไปเรื่อย”

การเงิน ยังคล่องตัว มีใช้ไม่อด แต่ให้พยายามลดการชอปปิงของแบรนด์เนม หรือเที่ยวพักผ่อนตามสถานที่หรูหรา ต้องดูตามความจำเป็น เพื่อควบคุมรายจ่ายในเดือนนี้ คุณจะได้ไม่ต้องนำเงินเก็บมาใช้

การงาน มีเกณฑ์ได้งานใหญ่ หรือโปรเจคใหม่ รวมถึงงานเสริมต่างๆ อีกทั้งเดือนนี้คุณยังได้รับการสนับสนุนจากผู้ใหญ่ หรือคนมีอำนาจที่มีตำแหน่งในที่ทำงานของคุณ ทำให้การทำงานมีความก้าวหน้ามากขึ้น เดือนนี้จึงเป็นเดือนที่ดีมากในการทำงานของคุณ

การลงทุน ต้องดูในเรื่องจังหวะที่เข้าลงทุนให้ดี เพราะมีเกณฑ์ติดดอย คุณจึงต้องมองภาพรวมให้ชัดเจนก่อน แล้วจึงค่อยลงทุน การใช้กราฟเทคนิคช่วย และควรตามข่าวให้ทันท่วงที เป็นสิ่งสำคัญมากในการลงทุนของคุณ เดือนนี้เด่นในหุ้น SET HD หรือ หุ้นที่มี Dividend Yield สูง

ระวัง การไปในสถานที่อโคจร สถานที่เปลี่ยวๆ จะได้รับพลังงานไม่ดีง่าย หรือเจอผีหลอก ให้พกท้าวเวสสุวรรณติดตัว

เคล็ดลับเสริมดวง ให้ไปไหว้ท้าวจตุโลกบาลทั้ง4 ตามวัดจีน โดยถวายส้ม 4 ผล น้ำชา 3 ขวด และการไปร่วมทำบุญเปิดโรงทาน แจกข้าวสาร อาหารแห้ง จะช่วยเสริมดวงชะตาให้กับคุณได้

  • ปีจอ

“การลงทุนเน้นระบบ เรื่องการเงินยังต้องหมุน ส่วนทำงานต้องเข้าใจ”

การเงิน มีความอึดอัดในเรื่องการเงินของคุณอยู่ ต้องลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นลง และลองหาเพิ่มรายได้เสริมทางออนไลน์ พยายามให้หมุนไปให้ได้ก่อน แล้วเรื่องการเงินของคุณจะดีขึ้นตามลำดับ

การงาน การประสานงาน การทำงาน สำคัญเรื่องการพูดจา ต้องให้มีความเข้าใจที่ตรงกัน จะทำให้การทำงานของคุณจะได้ราบรื่นในเดือนนี้ และไม่เกิดปัญหาหนักใจมาทำให้คุณเครียด คิดมาก

การลงทุน เป็นเดือนที่มีความท้าทาย การใช้ระบบเทรด รวมถึงโปรแกรม เครื่องมือต่างๆ ตัวช่วยต่างๆมาบริหารจัดการ ทั้ง Robot การตั้งจุด Stop loss เพื่อความแม่นยำในการลงทุนและมีวินัยของคุณ จะทำให้คุณได้รับผลตอบแทนที่มากในเดือนนี้

ระวัง เรื่องความทะเลาะเบาะแว้งกับคนรอบข้าง ขี้หงุดหงิด และอารมณ์เสียบ่อยๆ ควรงดโต้เถียง

เคล็ดลับเสริมดวง ให้ไปไหว้พระโพธิ์สัตว์กวนอิม โดยถวายดอกบัวขาว 2 กำ จัดเรียงใส่พานให้สวยงาม และการทำบุญบริจาคน้ำดื่ม จะช่วยเสริมดวงชะตาให้กับคุณได้

  • ปีกุน

“การทำงานต้องชัดเจน การลงทุนเน้นปลอดภัย เรื่องการเงินหาทางออม”

การเงิน เรื่องใช้จ่ายยังเยอะรอบตัวไปหมด แบบได้มาก็ต้องใช้ไป ให้ลองพยายามหาวิธีการเก็บออมให้มากขึ้น เพื่อคุณจะได้นำไปต่อยอดในการลงทุนได้

การงาน ความกดดันอึดอัดในหน้าที่ความรับผิดชอบที่คุณได้รับเยอะ จึงทำให้คุณรู้สึกเหนื่อย ดังนั้นคุณต้องมีความชัดเจนในการทำงาน และวางแผนอย่างมีระบบ เพื่อให้คุณบริหารจัดการได้อย่างง่ายขึ้น และลดขั้นตอนการทำงานที่ซ้ำซ้อนลง จะช่วยให้งานเบาลงได้

การลงทุน การลงทุนในเดือนนี้ ยังคงต้องเน้นการลงทุนที่มีความปลอดภัย มีปันผลให้อย่างสม่ำเสมอ จำพวก หุ้นกู้ หุ้นปันผลสูง เงินฝากดิจิตอล ตราสารหนี้

ระวัง ปวดหัว ไมเกรน ปวดกล้ามเนื้อ และระบบย่อยต่างๆ ควรพักบ้าง

เคล็ดลับเสริมดวง ให้ไปไหว้โจวซือกง(พระหมอ) ที่ศาลเจ้าโจวซือกง โดยถวายส้ม 5 ผล น้ำขา 3 ขวด และทำบุญโรงพยาบาลสงฆ์ หรือบ้านพักคนชรา จะช่วยเสริมดวงชะตาให้กับคุณได้

เป็นอย่างไรกันบ้าง กับดวงชะตาของคุณในเดือนนี้

ในช่วงวันอาสาฬบูชาและวันเข้าพรรษา ซินแสมีเคล็ดลับดีๆมาฝากทุกท่าน

4 เคล็ดลับพิเศษเสริมความเฮงในการทำบุญ มีดังนี้

1.สวดมนต์นั่งสมาธิสม่ำเสมอ เพื่อให้มีสติรับมือกับทุกๆเรื่อง

2.ใส่บาตร ทำบุญถวายสังฆทาน ไตรจีวร ผ้าอาบน้ำฝน เทียนพรรษา หลอดไฟฟ้า ฯลฯ

3.กินมังสวิรัติหรือกินเจในวันพระ

4.กรวดน้ำในทุกโอกาส หลังจากที่ได้มีการทำบุญ โดยใช้น้ำขวดลิตร

ส่วนเคล็ดลับสำคัญเวลาไปวัดทำบุญถวายสิ่งของต่างๆให้แก่พระสงฆ์ คือ ให้ตั้งจิตในขณะถวาย ว่าคุณได้ถวายต่อหมู่พระสงฆ์จำนวนมากมายนับไม่ถ้วน ซึ่งเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า เพียงเท่านี้ดวงชะตาของคุณจะเฮงแน่นอน

อีกหนึ่งสิ่งที่จะเสริมดวงชะตาในช่วงครึ่งปีหลัง2565 ของทั้ง 12 นักษัตร ซินแสแนะนำ ให้คุณพกท้าวเวสสุวรรณ ถ้าทางจีนจะเรียกกว่าตอบุ่งเทียงอ๊วง พกติดตัวไว้ตลอด มีโอกาสให้คุณไปไหว้ขอพร ท่านเป็นเทพแห่งทรัพย์สมบัติ และปกป้องคุ้มครองจากอันตรายทั้งปวง

ฝากกดติดตาม กดไลค์ กดแชร์ทุกช่องทาง เป็นประจำได้ทุกเดือน ดวงชะตาของคุณ จะต้องเฮงก่อนใคร ที่นี่…กรุงเทพธุรกิจ

By  หมอดูเที่ยงคืน@ซินแสนัตโตะ

FB , IG , TikTok , Youtube, Line : Mormidnight

Adblock test (Why?)


'ดูดวง' กรกฎาคม 2565 ตามหลัก 'โหราศาสตร์จีน' กับ 'ซินแสนัตโตะ' - กรุงเทพธุรกิจ
Read More

เผยคุณสมบัติใหม่ๆ ใน SAP BUSINESS BYDESIGN รุ่น 2202 - อาร์วายที9

เผยคุณสมบัติใหม่ๆ ใน SAP BUSINESS BYDESIGN รุ่น 2202 ที่มีประโยชน์ต่อธุรกิจ

เมื่อไม่นานมานี้ เอสเอพี (SAP) ได้ออกมาเปิดเผยถึงคุณสมับติใหม่ ๆ ของ SAP Business ByDesign รุ่น 2202 ซึ่งมีการโครงการแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ โดย ในการปรับปรุงเพิ่มเติมนี้เป็นการการอัปเดตคุณลักษณะใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์สำหรับการทำงานของฝ่ายขาย และฝ่ายการตลาด ขององค์กรธุรกิจ โดยเฉพาะการบริหารจัดการโครงการ การส่งมอบบริการ และบัญชีเจ้าหนี้ โดย SAP Business ByDesign รุ่น 2202 มีคุณสมบัติใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อองค์กร ดังต่อไปนี้

ฝ่ายขาย และการตลาด

สำหรับฝ่ายขาย และการตลาด หรือผู้ใช้ใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) ได้มีการปรับปรุงคุณลักษณะใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็น ระบบการแจ้งเตือนสำหรับผู้ใช้งาน ที่ช่วยแจ้งให้ทราบเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงในบัญชีซัพพลายเออร์ หรือลูกค้า ทำให้ได้รับข้อมูลที่อัปเดตใหม่ ๆ อยู่เสมอ แม้ในเวลาที่ทำงานอยู่นอกสำนักงาน สามารถที่จะระบุฟิลด์ที่ต้องการให้มีการแจ้งเตือนเมื่อมีการเปลี่ยนแปลง เช่น ที่อยู่, รายละเอียดการติดต่อ หรือบัญชีธนาคาร ก็สามารถส่งการแจ้งเตือนผ่าน Microsoft Outlook ได้ถ้าหากมีการเชื่อมต่อเข้ากับโซลูชัน ByDesign แล้ว

นอกาจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ใหม่ที่สามารถสแกนนามบัตรลงใน SAP Business ByDesign ได้โดยตรง ทำให้สามารถสร้างฐานข้อมูลของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ลูกค้าปัจจุบัน หรือผู้ติดต่อรายใหม่ ฟีเจอร์ใหม่นี้จะช่วยให้พนักงานขายสามารถบันทึกรายละเอียดได้โดยตรงจากนามบัตรโดยใช้แอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ โดยไม่จำเป็นต้องป้อนข้อมูลด้วยตนเองให้ลำบากเมื่อกลับมาที่โต๊ะทำงานให้เสียเวลา ดูวีดีโอการทำงาน ที่นี่

ทั้งนี้ SAP Business ByDesign รุ่น 2202 ยังได้มีการปรับปรุงเพิ่มความสามารถในส่วนการบริหารโครงการ และการส่งมอบบริการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และจัดเตรียมเครื่องมือให้ผู้จัดการสามารถบริหารจัดการการจัดสรรทรัพยากรได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถมองเห็นภาพการมอบหมายงานให้บุคลากรได้คลอบคลุมทั้งหมด เนื่องจากมีปฏิทินการมอบหมายงานให้แก่ บุคลากร ได้รับการอัปเดต เพื่อแสดงโครงการเฉพาะหรือใบสั่งบริการที่กำหนดให้กับบุคลากร ทำให้ผู้บริหารจัดการมีภาพรวมที่ชัดเจนของปริมาณงานของบุคลากรทั้งหมด

และในส่วนของ Service order WorkCentre ก็มีคุณลักษณะใหม่ที่เรียกว่า Dispatching Board ซึ่งเป็นหน้าจอที่จะแสดงให้ผู้บริหารจัดการเห็นทั้งบุคลากรทั้งหมดที่มีอยู่ ทำให้สามารถมอบหมายงาน และจัดการงานที่ยังไม่ได้มีการมอบหมายให้ใคร ซึ่งคุณสมบัตินี้ช่วยให้สามารถจัดสรรบุคลากรได้อย่างเหมาะสมกับคำสั่งงานที่ค้างอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย SAP กำลังพัฒนาคุณลักษณะใหม่เพิ่มเติม เพื่อทำให้สามารถมอบหมายงานได้โดยอัตโนมัติให้แก่บุคลากรได้อย่างเหมาะสมตามคำสั่งบริการ (โดยคุณลักษณะนี้จะพร้อมใช้งานในรุ่นถัดไป)

เพิ่มขีดความสามารถในการบัญชีเจ้าหนี้

เพื่อปรับปรุงกระบวนการการทำงานของผู้ดูแลบัญชีเจ้าหนี้ในการรวบรวม และประมวลผลใบแจ้งหนี้ของซัพพลายเออร์ SAP ได้ปรับปรุงกระบวนการสแกนใบแจ้งหนี้ ใน SAP Business ByDesign ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเพิ่มความสามารถในส่วนการตรวจทานเอกสารใบแจ้งหนี้ของซัพพลายเออร์ ซึ่งสามารถระบุข้อมูลที่ได้รับผ่านการสแกนเข้ามาได้อย่างชัดเจน โดย Header information จะถูกเน้นด้วยกล่องสีน้ำเงิน และ Item Data จะถูกเน้นด้วยสีส้ม ทำให้ผู้ดูแลบัญชีเจ้าหนี้สามารถระบุข้อมูลที่สแกนเข้ามาได้อย่างรวดเร็ว ทำให้สามารถยืนยันว่ามีการเพิ่มเติมข้อมูลใดบ้าง โดยผู้ดูแลสามารถคลิกที่ฟิลด์ในเอกสารใบแจ้งหนี้ และรายการข้อมูลที่ถูกสแกนเข้ามาซึ่งเกี่ยวข้องจะถูกเน้นที่ด้านขวาของหน้าจอ การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ทำให้ผู้ดูแลบัญชีเจ้าหนี้สามารถตรวจสอบข้อมูลใบแจ้งหนี้ที่สแกนเข้ามาได้อย่างรวดเร็วเพื่อความถูกต้องมากที่สุด

ซึ่งในกรณีที่ข้อมูลถูกสแกนอย่างไม่ถูกต้องหรือจับคู่กับฟิลด์ที่ไม่ถูกต้อง สามารถทำการแก้ไขได้อย่างง่ายดายโดยคลิกซ้ายที่ฟิลด์ที่เกี่ยวข้องในเอกสาร ใส่คำอธิบายประกอบค่าของรายการ และจับคู่กับฟิลด์ที่ถูกต้องในเอกสารที่สแกน โดยคุณลักษณะที่ถูกปรับปรุงนี้จะช่วยเร่งกระบวนการตรวจสอบใบแจ้งหนี้ของซัพพลายเออร์ให้เร็วขึ้น และช่วยให้สามารถแก้ไขปัญหาใด ๆ เกี่ยวข้องกับข้อมูลที่ถูกสแกนเข้ามาได้แบบเรียลไทม์ เพิ่มประสิทธิภาพ และความถูกต้องของข้อมูล โดย SAP ได้ดำเนินโครงการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องด้วยรีลีสล่าสุดนี้ ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถแข่งขัน และอยู่ในการควบคุมดูแลได้

NTT DATA Business Solutions (Thailand) หรือ NDBS Thailand ภายใต้ กลุ่มบริษัท NTT DATA ในฐานะผู้เชียวชาญในการให้บริการทางด้านโซลูชั่นระดับโลก พร้อมช่วยสนับสนุนธุรกิจองค์กรที่สนใจในโซลูชั่นทั้งหมดให้สามารถ SAP Business ByDesign ไปใช้งานได้ง่ายดาย ด้วยทีมงานที่มีทั้งประสบการณ์ทางธุรกิจ และความรู้เชิงเทคนิคในการให้คำปรึกษา และการให้บริการครบวงจรตั้งแต่การเริ่มต้นขึ้นระบบไปจนถึงการดูแลรักษาต่อเนื่องในระยะยาว

สำหรับผู้ที่สนใจศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SAP Business ByDesign หรือ Solutions อื่นๆของ SAP สามารถติดตามเว็บไซต์และรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Website : https://ift.tt/Wj2ilgm Email: Marketing-solutions-th@nttdata.com Tel: 02 237 0553 #NDBS #NDBSThailand #NTTDATABusinesssolutions #SAPBusinessByDesign #CloudERP

ขอบคุณเนื้อบางส่วนจาก : https://ift.tt/UeAMQu3

Adblock test (Why?)


เผยคุณสมบัติใหม่ๆ ใน SAP BUSINESS BYDESIGN รุ่น 2202 - อาร์วายที9
Read More

Tuesday, June 28, 2022

จุดยืน EA Games ในสมรภูมิอุตสาหกรรมเกม จะเป็นอย่างไร ? - SpringNews

ในที่สุด EA Games จะถูกซื้อหรือไม่ ?

แต่ EA Games ได้เข้าซื้อกิจการในสิทธิของตนเองและอาจกำลังมองหาข้อตกลงเพิ่มเติม โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อตกลงที่สามารถสนับสนุนแผนกเกมบนมือถือได้ EA Games เข้าซื้อกิจการดังกล่าวสองครั้งในปี 2021 ครั้งแรก Glu มูลค่า 2.4 พันล้านดอลลาร์ (8.45 หมื่นล้านบาท) และ Playdemic (ก่อนหน้านี้เป็นเจ้าของโดย AT&T ในราคา 1.4 พันล้านดอลลาร์ (4.92 หมื่นล้านบาท)

นักวิเคราะห์ที่ Goldman Sachs ประมาณการว่า มีความเป็นไปได้ประมาณ 15% ที่ EA สามารถซื้อได้ "จากกิจกรรม M&A ที่เพิ่มขึ้นภายในพื้นที่วิดีโอเกม" ตามรายงานล่าสุดเกี่ยวกับภาคเทคโนโลยีที่กว้างขึ้น เป็นโอกาสเล็กน้อยที่จะแน่ใจ แต่ก็มากกว่าศูนย์

นักวิเคราะห์ประเมินมูลค่าการเข้าซื้อกิจการที่อาจเกิดขึ้นที่ 190 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่ง "สอดคล้องกับธุรกรรมวิดีโอเกมล่าสุด" ซึ่งสูงกว่าราคาหุ้นปัจจุบันของ EA Games เกือบ 50%

ถึงกระนั้น EA Games ก็มีเนื้อหาที่มีคุณภาพเพียงพอที่จะพิสูจน์ได้ว่าไปคนเดียวในอนาคตอันใกล้

ไบรอัน ฟิตเจอรัลด์ (Brian Fitzgerald) นักวิเคราะห์ของ Wells Fargo ระบุในรายงานหลังจากรายได้ล่าสุดของ EA Games ออกมาในเดือนพฤษภาคม ว่า "ไปป์ไลน์ที่มั่นคง" (เกมเพิ่มเติมจาก EA Sports รวมถึงการอัปเดตสำหรับแฟรนไชส์ The Sims , Lord of the Rings และ Bioware) รวมถึง "การเร่งความเร็วของมือถือ" การเติบโต" เป็นผลบวกต่อหุ้น

ดังนั้น EA Games อาจไม่จำเป็นต้องขายตัวเองให้กับบริษัทขนาดใหญ่เพื่อให้สามารถแข่งขันในโลกของวิดีโอเกมได้

Adblock test (Why?)


จุดยืน EA Games ในสมรภูมิอุตสาหกรรมเกม จะเป็นอย่างไร ? - SpringNews
Read More

ตั้งตารอ! ผลิตภัณฑ์ “แอปเปิล” ที่คุณจะได้เห็นภายใน 1 ปีข้างหน้า - PPTVHD36

งาน Worldwide Developers Conference 2022 (WWDC22) ของ “แอปเปิล (Apple)” เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 2022 ที่ผ่านมา เต็มไปด้วยการประกาศต่าง ๆ มากมาย ทั้งฟีเจอร์ฟังก์ชันไปจนถึงผลิตภัณฑ์ชวนตื่นตาตื่นใจใหม่ ๆ

ตัวอย่าง “ของใหม่” ของแอปเปิล ได้แก่ MacBook Air ที่ออกแบบขึ้นใหม่หมด และ MacBook Pro 13 นิ้ว รุ่นอัปเดต ซึ่งทั้งคู่ต่างใช้ชิป M2 ยกระดับความสามารถในการทำงาน ยังมีคุณสมบัติใหม่ใน iOS 16 เช่น หน้าจอล็อกของ iPhone รูปแบบใหม่ ปรับแต่งได้ตามใจมากขึ้น รวมถึงระบบ CarPlay เวอร์ชันใหม่

MacBook Air ใหม่ กับชิป M2 น่าซื้อแค่ไหน เหมาะกับใคร

“แอปเปิล”เปิดตัวฟีเจอร์ Apple Pay Later ให้ผู้ใช้งานซื้อก่อนผ่อนทีหลัง

แอปเปิลยกเครื่อง CarPlay เตรียมออกเวอร์ชั่นใหม่ปลายปีหน้า

ตั้งตารอ! ผลิตภัณฑ์ “แอปเปิล” ที่คุณจะได้เห็นภายใน 1 ปีข้างหน้า

แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่าคือ มีข้อมูลออกมาว่า “การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของผลิตภัณฑ์อุปกรณ์รุ่นต่อไปของแอปเปิล” เท่านั้น หรือเรียกง่าย ๆ ว่าผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวมาใหม่เหล่านี้ เป็นเพียงอาหารเรียกน้ำย่อยของแอปเปิลเท่านั้น ชวนให้สงสัยเลยว่า แล้วอาหารจานหลักที่แอปเปิลยังอุบไว้จะมีอะไรบ้าง?

นักวิเคราะห์ประเมินว่า ระหว่างฤดูใบไม้ร่วงปี 2022 หรือประมาณเดือน ก.ย. ถึงครึ่งแรกของปี 2023 รวมราว ๆ 1 ปีจากนี้ แอปเปิลจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์น่าสนใจใหม่ ๆ ออกมาจำนวนมากจนสาวกแอปเปิลอาจจะตามกันแทบไม่หวาดไม่ไหว

ผลิตภัณฑ์ใหม่จะประกอบด้วย iPhone 14 ที่จะออกมา 4 รุ่น, Apple Watch  3 รุ่น, Mac ที่ใช้ชิป M2 และ M3 หลายรุ่น, ชุดหูฟังแบบ Mixed Reality ตัวแรกของบริษัท, iPad ทั้งระดับเข้าถึงง่ายและระดับไฮเอนด์ รวมถึง Apple TV และ Homepod

iPhone 14 ฟังก์ชันและสเปกใหม่

หนึ่งในโมเดลของ iPhone ที่มีข้อมูลออกมาคือ iPhone 14 Pro ซึ่งจะมีฟังก์ชันพิเศษคือ “จอแสดงผลตลอดเวลา” โดยจะสามารถแสดงวิดเจ็ตที่ให้ข้อมูลสภาพอากาศ ปฏิทิน หุ้น กิจกรรม และข้อมูลอื่น ๆ ในขณะที่หน้าจอยังคงมีความสว่างและเฟรมเรตต่ำ และจะมีการตั้งค่าที่ป้องกันไม่ให้ข้อมูลสำคัญปรากฏบนหน้าจอล็อกสกรีนให้คนอื่นเห็น

คุณสมบัติใหม่อื่น ๆ ของ iPhone 14 Pro ได้แก่ กล้องหน้าที่จะได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นมาก ส่วนระบบกล้องหลังแบบใหม่จะมีเซ็นเซอร์ 48 ล้านพิกเซล กรอบที่บางลง ชิป A16 ที่เร็วขึ้น และรอยบากที่ออกแบบใหม่พร้อมช่องเจาะสำหรับเลนส์สแกนใบหน้า และอีกรูเจาะสำหรับใส่กล้องหน้า

ในขณะที่ iPhone 14 รุ่นปกติที่ไม่ใช่ Pro นั้น จะมีคุณสมบัติรองลงมา โดยจะใช้ชิป A15 แบบเดียวกับ iPhone 13

iPhone ใหม่ทั้งหมดที่จะออกมาในช่วง 1 ปีนี้ คาดว่าจะยังคงใช้สายชาร์จไลต์นิง (Lightning) โดยอาจเปลี่ยนไปใช้สายชาร์จแบบ USB-C ในปี 2023

iPad ที่รองรับชิป M2

ในส่วนของ iPad คาดว่า ในฤดูใบไม้ร่วงนี้ จะมีการเปิดตัว iPad รุ่นย่อมเยารุ่นใหม่ ซึ่งจะใช้ชิป A14 และรองรับสัญญาณอินเทอร์เน็ต 5G

และที่หลายคนน่าจะรอคอย คือในปลายปีนี้ แอปเปิลจะเปิดตัว iPad รุ่นใหม่ขนาด 11 นิ้วและ 12.9 นิ้วที่ใช้ชิป M2 ซึ่งจะใช้งานได้กับฟังก์ชัน “Stage Manager” ใน iPadOS 16 เป็นฟีเจอร์ที่ให้ผู้ใช้ iPad สามารถวางหน้าต่างแอปพลิเคชันซ้อนทับกันได้หลายแอปฯ เพื่อให้ผู้ที่ใช้งาน iPad สามารถทำอะไรได้หลายอย่างพร้อมกันโดยไม่ต้องคอยสับเปลี่ยนจอให้วุ่นวาย

ตั้งตารอ! ผลิตภัณฑ์ “แอปเปิล” ที่คุณจะได้เห็นภายใน 1 ปีข้างหน้า

ตระกูล Mac กับชิป M2 และ M3

ขณะที่ทางด้านของอุปกรณ์ตระกูล Mac นั้น มีรายงานว่า ผลิตภัณฑ์หลังจากนี้ จะใช้ชิป M2 เป็นแกนกลางในการพัฒนาเป็นส่วนใหญ่ เพื่อยกระดับความสามารถของ Mac รุ่นต่าง ๆ โดยประเดิมนำมาใช้ใน MacBook Air (รุ่นออกแบบใหม่) และ MacBook Pro 13 นิ้ว (รุ่นออกแบบใหม่) ที่ประกาศในงาน WWDC22 ก่อน

นอกจาก Mac 2 รุ่นดังกล่าวแล้ว มีรายงานว่า Mac ที่จะได้ใช้ชิป M2 ประกอบด้วย

  • M2 Mac mini
  • M2 Pro Mac mini
  • MacBook Pro รุ่น M2 Pro และ M2 Max ขนาด 14 นิ้ว และ 16 นิ้ว
  • M2 Ultra และ M2 Extreme Mac Pro

ยังมีข่าวว่า ชิป M2 จะไม่ได้มีอยู่แค่ใน Mac เท่านั้น แต่จะถูกนำมาใช้กับชุดหูฟัง Mixed-Reality ด้วย

สื่อต่างประเทศได้รับแจ้งว่า ภายในของชุดหูฟังดังกล่าว จะใช้ชิป M2 เป็นแกน พร้อมกับ RAM ขนาด 16 กิกะไบต์

นอกจากชิป M2 แล้ว แอปเปิลยังกำลังพัฒนาชิป M3 ด้วย ซึ่งแน่นอนว่าสเปกและศักยภาพในการทำงานน่าจะต้องเหนือกว่าชิปรุ่นก่อนหน้าอย่างแน่นอน

โดยแอปเปิลวางแผนที่จะใช้ชิปดังกล่าวในต้นปีหน้า โดยจะใช้ใน MacBook Air 13 รุ่นอัปเดตใหม่, MacBook Air 15 นิ้ว, iMac รุ่นใหม่ และอาจถูกนำไปใช้ในแล็ปท็อปขนาด 12 นิ้วที่ยังอยู่ในระหว่างการพัฒนาด้วย

Apple Watch Series 8 ลือยังใช้ชิปเดิม

อีกหนึ่งอุปกรณ์ที่หลายคนติดตามความคืบหน้า อาจจะเป็น Apple Watch Series 8 ซึ่งคาดว่าน่าจะเปิดตัวในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ อย่างแน่นอน โดยคาดว่าจะเปิดตัวใน 3 รุ่น คือ Series 8 มาตรฐาน, Series 8 SE ที่ราคาย่อมเยาลงมา และ Series 8 รุ่นทนทานสำหรับกีฬาเอ็กซ์ตรีม

สำหรับผู้ที่หวังว่าจะได้ชิปที่เร็วขึ้นใน Apple Watch รุ่นใหม่ อาจจะต้องผิดหวัง เพราะมีข่าวลือว่า Series 8 (และอาจรวมถึง Series 8 SE) จะใช้ชิป S8 สเปกเดียวกับ Series 7 และ Series 6 อย่างไรก็ตาม มีข่าวว่า Apple Watch รุ่นที่จะออกปี 2023 หน้าจะได้รับชิปประมวลผลตัวใหม่ทั้งหมด

ในส่วนของระบบปฏิบัติการ Apple Watch นั้น จะมีการเปลี่ยนแปลงระบบติดตามการออกกำลังกาย เป็นการปรับปรุงครั้งใหญ่ที่สุดใน watchOS โดยจะสามารถติดตามการออกกำลังกายแบบมัลติสปอร์ตได้

ดังนั้น Apple Watch จึงน่าจะสามารถติดตามการว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน และวิ่ง รวมถึงติดตามระดับความสูงได้ด้วย คุณสมบัติทั้งหมดเหล่านี้ดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับการเป็นนาฬิกาสำหรับกีฬาเอ็กซ์ตรีมโดยเฉพาะ

Apple TV และ HomePod อัปเกรดด้วย

นอกจากผลิตภัณฑ์หลัก ๆ อย่าง iPhone, iPad, Mac หรือ Apple Watch แล้ว Apple TV และ HomePod เอง ก็จะได้รับการอัปเกรดเช่นกัน

โดย Apple TV รุ่นใหม่กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา มีข่าวว่าจะขับเคลื่อนด้วยชิป A14 จากรุ่นเดิมที่ใช้ชิป A12 และเพิ่ม RAM อีกกิกะไบต์ ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้น่าจะสอดคล้องกับความสามารถในการเล่นเกมของระบบปฏิบัติการ tvOS 16 ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่

ส่วน HomePod รุ่นใหม่ คาดว่าจะมาในปีหน้า จะใช้ชิป S8 ตัวเดียวกับที่ใช้ใน Apple Watch และจะใกล้เคียงกับ HomePod ดั้งเดิมมากขึ้นในแง่ของขนาดและประสิทธิภาพเสียง และจะมีหน้าจออัปเดตอยู่ด้านบน และยังมีข่าวลือเกี่ยวกับฟังก์ชันมัลติทัชอีกด้วย

เรียบเรียงจาก Bloomberg

ภาพจาก AFP / Shutterstock

รีวิว ORA Good Cat GT สปอร์ตอีวี เอาใจสายซิ่ง แรงขึ้นแต่งครบ

วอลโว่ ปรับไลน์อัพโมเดล รถตระกูล 60-90 กลุ่มปลั๊ก-อินไฮบริด

MUT2022 - bottom (1) MUT2022 - bottom (1)

อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร Add friend ได้ที่ @PPTVOnline

Adblock test (Why?)


ตั้งตารอ! ผลิตภัณฑ์ “แอปเปิล” ที่คุณจะได้เห็นภายใน 1 ปีข้างหน้า - PPTVHD36
Read More

Sunday, June 26, 2022

Assassin's Creed ภาคแรก อาจรีเมกหรือรีมาสเตอร์ ฉลองครบรอบ 15 ปี - Sanook

Assassin’s Creed เกมที่ให้ผู้เล่นสวมบทบาทเป็นนักฆ่าระดับตำนาน เรื่องราวดำเนินอยู่ในอิตาลี ศูนย์กลางแห่งอำนาจ ความโลภ และการคอรัปชัน นี่อาจจะเป็นครั้งแรกของภาคแรกที่จะได้กลับมาอีกครั้งในวาระครบรอบ 15 ปี

AccessTheAnimus ยูทูบเบอร์ผู้เผยแพร่ข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับ Assassin’s Creed เขาได้โพสต์ภาพปริศนาบางอย่างที่อ้างว่าเป็นส่วนหนึ่งของวีดีโอจาก Assassin’s Creed โดยเขาไม่แน่ใจว่าตัวเกมจะมาในรูปแบบไหน “รีเมกหรือรีมาสเตอร์” และเกมนี้จะเป็นเกมสุดท้ายในการเฉลิมฉลองในแผนงานครบรอบ 15 ปี ที่จะมีการจัดอีเวนต์พิเศษช่วงท้ายปี พร้อมกับเผยโลโก้

ถ้าเกิด Ubisoft จะนำ Assassin’s Creed ภาคแรกกลับมาอีกครั้งหรือดูสมเหตุสมผล เพราะหลังจากวางจำหน่ายไปเมื่อ 13 พฤศจิกายน ปี ค.ศ. 2007 ก็ไม่ได้กลับมาวางจำหน่ายใหม่เลย ไม่เหมือนภาคอื่น ๆ ที่ยังถูกมัดรวมมาวางจำหน่ายให้แพลตฟอร์มรุ่นใหม่บ้าง

ทั้งหมดยังคงเป็นเพียงแค่ข่าวลือเท่านั้น ยังไม่มีการประกาศใด ๆ อย่างเป็นทางการออกมา

Adblock test (Why?)


Assassin's Creed ภาคแรก อาจรีเมกหรือรีมาสเตอร์ ฉลองครบรอบ 15 ปี - Sanook
Read More

อีก 4 วันคอหวยปังๆ รวยๆ 'เจ๊ฟองเบียร์' ปล่อยเลขเด็ด 2 ตัว 3 ตัว รีบดูเลย! - เอ็มเอสเอ็น

© สนับสนุนโดย เดลินิวส์

เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ใกล้โค้งสุดท้ายก่อนวันออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล หลังจากที่หลายคนได้อุดหนุนซื้อลอตเตอรี่ใบละ 80 บาท งวดประจำวันที่ 1 ก.ค.65 กันคนละหลายใบเก็บไว้เสี่ยงโชคสมใจแล้ว คอหวยยังไม่หยุดส่องหาเลขเด็ดไว้ลุ้นโชคต่อ ล่าสุด "เจ๊ฟองเบียร์" หนึ่งในเจ้าแม่ใบ้หวย ได้ออกมาให้แนวทางรัฐบาลไทยแล้วดังนี้

ฟัน 8

สองตัว 81 – 86 – 88

เม็ดเดียว 87 - 587

Adblock test (Why?)


อีก 4 วันคอหวยปังๆ รวยๆ 'เจ๊ฟองเบียร์' ปล่อยเลขเด็ด 2 ตัว 3 ตัว รีบดูเลย! - เอ็มเอสเอ็น
Read More

รีวิว ASUS Zenbook 14X OLED Space Edition ดีไซน์พิเศษแรงบันดาลใจจากสถานีอวกาศ พร้อมสเปคเหนือระดับ Intel Core i7-12700H จอ 4K OLED และน้ำหนักเบาแค่ 1.4 กก. - iphone-droid.net

รีวิว ASUS Zenbook 14X OLED Space Edition โน้ตบุ๊ครุ่นใหม่จาก ASUS ที่เป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปีที่ ASUS ได้ส่งโน้ตบุ๊กตัวแรก P6300 ขึ้นอวกาศสำหรับภารกิจที่สถานีอวกาศเมียร์ MIR  ด้วยลวดลายสุดพิเศษสมกับความเป็น Space Edition อีกทั้งยังมีสเปคที่น่าสนใจตั้งแต่ หน้าจอ 14″ 4K OLED, ชิปเซ็ต Intel Core i7-12700H, PCIe 4.0 Performance SSD ตัวเครื่องบางเพียง 15.9 มม.เบาแค่ 1.4 กก.

ตัวจริงจะสวยแค่ไหน มีลูกเล่นอะไรที่พิเศษกว่ารุ่นปกติบ้าง วันนี้เรารีวิว ASUS Zenbook 14X OLED Space Edition ให้ชมกันชัด ๆ ที่นี่ ติดตามครับ!

สรุปสเปค ASUS Zenbook 14X OLED Space Edition (UX5401ZAS)

  • ขนาดตัวเครื่อง: 31.12 x 22.11 x 1.59 ซม.
  • น้ำหนัก: 1.4 กก.
  • หน้าจอ: 4K OLED 14″ ความละเอียด 3840 x 2400 พิกเซล DCI-P3 100% อัตราส่วน 16:10
  • รองรับการแสดงผล 1.07 พันล้านสี VESA CERTIFIED Display HDR True Black 500, PANTONE Validated 
  • หน่วยประมวลผล: Intel Core i7-12700H 2.3 GHz (สูงสุด Intel Core i9-12900H 2.5GHz)
  • กราฟิก: Intel Iris Xe
  • RAM: 16GB (LPDDR5)
  • SSD: 1TB M.2 NVMe PCIe 4.0 Performance SSD
  • แบตเตอรี่: 63Wh
  • กล้อง: Webcam 720P HD พร้อม Privacy shutter
  • ระบบเสียง : Harman/Kardon
  • พอร์ตการเชื่อมต่อ
    • USB-A 3.2 Gen2 x 1
    • Thunderbolt 4 x 2 (รองรับการเชื่อมต่อข้อมูล, ชาร์จไฟ และ DisplayPort)
    • HDMI 2.0b x 1 
    • พอร์ตหูฟังและไมโครโฟนขนาด 3.5 มม. แจ็ค 2-in-1 x 1
    • micro-SD Card Reader x 1
  • เซ็นเซอร์: เซ็นเซอร์วัดแสง, เซ็นเซอร์ลายนิ้วมือ
  • การเชื่อมต่อ: Wi-Fi 6E(802.11ax) (Dual band) 2*2 + Bluetooth 5.2
  • ระบบปฏิบัติการ: Windows 11 Home
  • Microsoft Office : รวม Office Home และ Student 2021
  • สี: Zero-G Titanium

แกะกล่อง ASUS Zenbook 14X OLED Space Edition

ก่อนจะไปดูความงามของตัวเครื่อง ASUS Zenbook 14X OLED Space Edition เราขอมาแกะกล่องเช็กของกันก่อนบอกเลยว่ารุ่นนี้ไม่ได้พิเศษแค่ตัวเครื่องเพราะจัดเต็มมาด้วยแพ็กเกจสุดอลังการเลยทีเดียวครับ ตัวกล่องนอกก็ดูเหมือนเป็นกล่องโน้ตบุ๊คทั่วไปที่เป็นสีดำมาตรฐาน แต่เราจะเห็นลวดลายพิเศษที่ด้านหน้าที่เป็นสถานีอวกาศ MIR พร้อมคำว่า Space Edition อยู่ด้วยนะ

ตัวหูหิ้วก็จะเป็นผ้าที่มีพิมพ์คำว่า Space Edtion ไว้ด้วยเช่นกัน อะ…เริ่มเห็นถึงความพิเศษแล้วล่ะสิ

เปิดกล่องออกมาเราจะเจอกับกล่องแพ็กเกจอีก 2 ชิ้นที่ดูพิเศษและแปลกตาไปจากกล่องโน้ตบุ๊คทั่วไปพอสมควรเลย กล่องแรกคือกล่องที่ใส่ตัวเครื่อง ASUS Zenbook 14X OLED Space Edition อยู่มาในทรง 8 เหลี่ยมพร้อมระบุชื่อรุ่นชัดเจนที่ด้านหน้านะ แง้มกล่องออกมาเราก็จะเจอกับตัวเครื่องนะ แต่เดี๋ยวไว้ดูอีกที

เมื่อเรายกตัวเครื่องออกมาจากกล่องแล้ว ภายในก็จะมีซองเล็ก ๆ ที่ใส่การ์ดต้อนรับและแผ่นสติกเกอร์ของ ASUS Zenbook 14X OLED Space Edition ไว้ด้วย

อีกกล่องข้าง ๆ จะเป็นกล่องของอุปกรณ์เสริมอย่างอะแดปเตอร์ชาร์จและสายแปลง USB-C to LAN ซึ่งตัวกล่องก็ไม่ธรรมดาออกแบบมาในสีรุ้ง ๆ เหมือนกล่องตัวเครื่องมีโลโก้ Space Edition อยู่ที่ด้านหน้าเหมือนเดิม

และความพิเศษของตัวกล่องก็ไม่ใช่แค่มีสีและลวดลายพิเศษเท่านั้น เพราะกล่องนี้ยังสามารถนำมาใช้ประโยชน์เป็นแท่นวางตัวเครื่อง ASUS Zenbook 14X OLED Space Edition ได้ด้วย เพียงแค่พับกลับด้านไป อ๊ะ…คิดมาแล้ว ไม่ธรรมดาจริง ๆ นะ

แค่นี้ก็เหมือนจะพิเศษมาก ๆ แล้วใช่ไหมล่ะ แต่เท่านี้ยังไม่พอเพราะเมื่อเรายกตัวกล่องสีดำขึ้นมาเราจะเจอกับซองใส่ ASUS Zenbook 14X OLED Space Edition ที่ออกแบบมาพิเศษด้วยสีเงินตัดกับสีส้มที่ให้อารมณ์เหมือนชุดนักบินอวกาศที่พร้อมจะขับยาน (ZenBook 14X OLED Space Edition) นี้ไปอย่างเต็มที่แล้ว

นอกจากนี้ภายในชั้นล่างสุดนี้ยังมีที่เก็บกล่องปากกา ASUS Pen 2.0 ไว้ด้วย เรียกว่าให้มาพร้อมใช้งานจริง ๆ แม้ตัวกล่อง Stylus นี้จะเป็นเวอร์ชั่นปกติแต่ก็ดูลงตัวกับอุปกรณ์อื่นได้ดีไม่น้อยเหมือนกันครับ

เบ็ดเสร็จแล้วอุปกรณ์ในกล่องของ ASUS Zenbook 14X OLED Space Edition ก็เรียกว่าให้มาพิเศษมาก ๆ เพราะทั้งอุปกรณ์เสริม ซอง หรือของแถมที่ให้มาจัดว่าสมกับความเป็นชุดพิเศษที่เป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปีที่ ASUS ได้ส่งโน้ตบุ๊กตัวแรก P6300 ขึ้นอวกาศสำหรับภารกิจที่สถานีอวกาศเมียร์ MIR จริง ๆ ครับ

ดีไซน์ชั้นยอด พิถีพิถันขั้นสุด

ได้เวลานำตัวเครื่องออกจากกล่องจริง ๆ สักที มาดูดีไซน์กันแบบชัด ๆ ASUS Zenbook 14X OLED Space Edition มาพร้อมดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจจากสถานีอวกาศ ตัวเครื่องทำจากอลูมิเนียมอัลลอย และเคลือบด้วยสี Zero-G Titanium เป็นสีทองที่สะท้อนให้เห็นว่าไททาเนียมมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในการก่อสร้างยานอวกาศ เฉดสีที่สร้างแรงบันดาลใจนี้แสดงถึงคำมั่นสัญญาที่น่าตื่นเต้นของการค้นพบการเดินทางในอวกาศ และเป็นสีที่สมบูรณ์แบบสำหรับโน้ตบุ๊คที่ไม่เหมือนใครเครื่องนี้อีกด้วย

ที่ฝาเครื่องยังมีลวดลายพร้อมด้วยดีไซน์รหัสมอร์ส โดยลายเส้นบนฝาเครื่องเป็นสัญลักษณ์ของแคปซูลอวกาศ รวมถึงลายรหัสมอร์สในภาษาละติน ‘Per aspera ad astra’ มีความหมายว่า ‘ผ่านความยากลำบากสู่ดวงดาว’ อีกด้วย

ASUS Zenbook 14X OLED Space Edition ยังมีหน้าจอเสริมที่ฝาเครื่อง ตรงนี้ ASUS เรียกว่า ZenVision คือจอแสดงผลขาวดำ OLED ขนาด 3.5 นิ้ว มีโหมด Space Theme จะแสดงธีมเคลื่อนไหว ในขณะที่ Smart Notifications สามารถแสดงเวลา วันที่ หรือสถานะแบตเตอรี่ได้ด้วย เพิ่มความเป็นยานอวกาศเข้ามาอีกหน่อยไม่ใช่แค่ฝาเครื่องเรียบ ๆ นะนั่น

หน้าจอ 4K OLED ที่สุดของสีสัน

เปิดฝามาดูที่หน้าจอกันบ้าง ASUS Zenbook 14X OLED Space Edition มาพร้อมจอ 4K OLED (3840 x 2400 พิกเซล) แบบ Touchscreen ขนาด 14″ อัตราส่วน 16:10 จะเห็นว่าการแสดงผลนั้นเต็มตาเอามาก ๆ เราแทบไม่เห็นขอบหน้าจอหนา ๆ มากวนใจเลย

ในส่วนของการแสดงผลหน้าจอ 4K OLED ของ ASUS Zenbook 14X OLED Space Edition ยังมอบขอบเขตสี DCI-P3 100% ระดับโรงภาพยนตร์และความแม่นยำของสี PANTONE Validated ที่สดใสและแม่นยำเป็นพิเศษ และการรับรอง DisplayHDR True Black 500 ช่วยให้สีดำนั้นดำสนิท นอกจากนี้ยังได้รับการรับรองจาก TÜV สำหรับการปล่อยแสงสีฟ้าต่ำ เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นมิตรกับสายตาเวลาใช้งานนาน ๆ อีกด้วย

ลวดลายพิเศษที่แฝงอยู่ด้านในและการทำลวดลายพิเศษบนปุ่มเฉพาะ

มองลงมาที่แป้นคีย์บอร์ดเราจะเห็นดีไซน์ที่คงความเป็นอวกาศไว้ได้มาก ไม่ต่างจากฝาเครื่อง สีสันจะเป็น Zero-G Titanium เหมือนกัน ที่ปุ่มคีย์บอร์ดก็จะใช้สีเนียนไปกับบอดี้เกือบทั้งหมด จะมีปุ่ม Space Bar และปุ่ม Power ที่มีการเพิ่มสีทองแดงเข้าไปเพื่อให้โดดเด่นขึ้น และยังมีไอคอนรูปดวงดาวแทรกอยู่ด้วยครับ

บริเวณที่พักมือข้าง Touch Pad เราจะเห็นว่ามีลวดลายและรหัสมอร์สที่สำคัญของตัวเครื่อง เรียงจากซ้ายมาขวาประกอบด้วย MIR Station, 1998 MIR P6300, Cockpit และ 2011 ASUS Zenbook

TouchPad ขนาดใหญ่ พร้อมลูกเล่น NumberPad 2.0

ส่วน TouchPad ของ ASUS Zenbook 14X OLED Space Edition ก็มีขนาดใหญ่ดีมากเหมือนเดิม มีพื้นที่ให้เราปาดนิ้วเพียงพอ รองรับฟีเจอร์ Gesture ต่าง ๆ ได้อย่างครบถ้วน พร้อมกับมีฟีเจอร์ NumberPad 2.0 ที่เพิ่มปุ่มตัวเลขเข้ามาตรงกลาง Touch Pad ได้อีกด้วย

กลไก ErgoLift ยกตัวเครื่องยังมีเหมือนเดิม

กลไกการยกเครื่องหรือ ErgoLift เมื่อกางหน้าจอขึ้นมาก็ยังมีให้เห็นบน ASUS Zenbook 14X OLED Space Edition เหมือนเดิม ทำให้เวลาเราพิมพ์งานนั้นสะดวกขึ้น เพราะองศาจะตั้งขึ้นราว ๆ 3º ช่วยให้วางมือได้อย่างถนัดขึ้นอีกหน่อยครับ

พอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน

ต่อมาเรามาดูพอร์ตการเชื่อมต่อกันบ้าง ASUS Zenbook 14X OLED Space Edition ให้พอร์ตมาครบครันพร้อมใช้งานมาก ที่ฝั่งซ้ายจะมีพอร์ต HDMI 2.0 ที่ให้เราต่อออกจอหรือโปรเจคเตอร์ได้อย่างสะดวก, พอร์ต Thunderbolt 4 USB-C อีก 2 พอร์ต

ส่วนฝั่งขวาจะมีพอร์ต USB 3.2 Gen 2 แบบ USB-A มาให้หนึ่งพอร์ตเผื่อต้องเชื่อมต่อกับแฟลชไดรฟ์หรือเม้าส์ ถัดไปจะมีช่องหูฟังและไมโครโฟนแบบ 3.5 มม. และถัดไปสุดหลังตัวช่องระบายอากาศก็จะเป็นช่อง micro-SD Card Reader สะดวกใช้ได้เลยแบบนี้

ที่ด้านล่างของตัวเครื่องก็ยังมีช่องระบายความร้อนเหมือนเดิม แต่ความพิเศษก็ยังมีให้สมกับเป็นรุ่นพิเศษ มีพิมพ์คำว่า Space Edition อยู่ที่ด้านล่างนี้พร้อม ตราของสถานีอวกาศ MIR และปีของทั้งสถานีอวกาศและ Zenbook รุ่นแรกถือกำเนิดอีกด้วยครับ

ขนาดน้ำหนักที่กะทัดรัด

อ๊ะ…เกือบลืมบอกเรื่องขนาดและน้ำหนักของ ASUS Zenbook 14X OLED Space Edition ก็ยังทำได้ยอดเยี่ยมสมกับเป็นซีรีส์ Zenbook เพราะมาพร้อมความบางเพียง 15.9 มม. และน้ำหนักที่เบาแค่ 1.4 กก.เท่านั้น เหมาะกับการพกพาและใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างมากเลยทีเดียวครับ

ทนทานระดับอวกาศ

ASUS Zenbook 14X OLED Space Edition ได้รับการออกแบบมาให้ทนทานต่อความต้องการในการเดินทางในอวกาศ เป็นไปตามโปรโตคอลการทดสอบ SMC-S-016A ของ US Space Systems Command Standard ที่ทนทานเป็นพิเศษ ปกป้องการกระเทือนตั้งแต่ระดับ 20 ถึง 2,000 Hz และอุณหภูมิตั้งแต่ –24 ถึง 61 เซลเซียส ทำให้เรามั่นใจทุกการใช้งานมากขึ้นไปอีก

โดยรวมในเรื่องดีไซน์ก็ต้องยอมรับว่า ASUS Zenbook 14X OLED Space Edition ออกแบบมาได้พิเศษสมชื่อจริง ๆ ทั้งรายละเอียดเล็ก ๆ อย่างลวดลายบนตัวเครื่อง หรือการเพิ่มหน้าจอที่ 2 มาที่ฝาเครื่องก็เพิ่มมิติของความแปลกใหม่เข้ามาอีก อีกทั้งหน้าจอที่เป็น 4K OLED ก็ยกระดับความเป็นโน้ตบุ๊คไฮเอนด์ให้สมกับเป็นรุ่น Space Edition อีกต่างหาก แค่เห็นดีไซน์ก็คงหลงรักแล้วจริง ๆ ครับรุ่นนี้

ประสิทธิภาพสูงด้วยชิป Intel Core 12th Gen

มาเข้าเรื่องสเปคและประสิทธิภาพกันบ้าง ASUS Zenbook 14X OLED Space Edition รุ่นที่วางจำหน่ายในไทยมีให้เลือก 2 โมเดลคือ ชิป Intel Core i7 และ Intel Core i9 ซึ่งรุ่นที่เราได้มารีวิวนั้นคือ Intel Core i7-12700H หรือตัวแรงของเจน 12 นั่นเอง ทำงานร่วมกับกราฟิก Intel Iris Xᵉ, RAM 12GB (LPDDR5), หน่วยเก็บข้อมูลสูงสุด 1TB M.2 NVMe PCIe 4.0 Performance SSD

เรียกว่าสเปคระดับนี้คือแรงสะใจอยู่แล้วครับ พร้อมทำงานหนัก ๆ ได้อย่างเต็มที่ทั้งงานกราฟิก งานตัดต่อ หรืองานทั่วไปที่ต้องการพลังงานหนักได้อย่างไม่ติดขัด

ได้ Windows 11 Home ติดมาตั้งแต่แกะกล่อง

ถ้าพูดถึงเรื่องซอฟต์แวร์ ASUS Zenbook 14X OLED Space Edition จะได้ระบบปฏิบัติการ Windows 11 Home มาให้เลยตั้งแต่แกะกล่อง ทั้งในเรื่องความลื่นไหลและการใช้งานเรียกว่าตอบโจทย์กับสเปคที่ให้มาของรุ่นนี้อย่างมาก

มี Microsoft Office Home & Student แถมมาให้เลยด้วย

สำหรับสายงานที่ต้องใช้ Microsoft Office ก็ไม่ต้องกังวลเลย ASUS Zenbook 14X OLED Space Edition มี Microsoft Office Home & Student 2021 ติดมาให้ในเครื่องเช่นเดียวกัน ทำให้เราสามารถใช้งานได้แบบถาวรไม่ต้องซื้อหรือสมัครสมาชิกเพิ่มเติมใด ๆ ทั้งสิ้น

MyASUS ผู้ช่วยสำหรับการทำงานที่ไร้รอยต่อมากขึ้น

ASUS Zenbook 14X OLED Space Edition มาพร้อมโปรแกรมพิเศษ MyASUS ที่ช่วยจัดการระบบของตัวเครื่อง รวมถึงการปรับแต่งต่าง ๆ เพิ่มเติมได้มากมาย หรือจะเป็นการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนทั้ง Android และ iOS เข้ากับโน้ตบุ๊คได้อย่างไร้รอยต่ออีกด้วย เรียกว่าเป็นตัวช่วยให้เราใช้งานอุปกรณ์หลาย ๆ ชิ้นได้คล่องตัวขึ้นไปอีกจริง ๆ ครับ

รวมถึงการปรับแต่งหน้าจอ ZenVision หรือหน้าจอที่ 2 ที่ฝาเครื่อง เพราะอย่างที่บอกไปว่าหน้าจอตรงนี้จะสามารถแสดงผลข้อมูลหรือกราฟิกเท่ ๆ ขึ้นมาได้ขณะที่เราใช้งาน ในค่าเริ่มต้นจะมีตัวเลือกอนิเมชั่นมาให้ 2 แบบ แต่เราก็สามารถเลือกสร้างขึ้นมาได้อีก จะเป็นตัว Text แสดงข้อความต่าง ๆ ก็เลือกปรับแต่งได้ตามในแอป MyASUS เลยครับ

เทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนด้วย AI

ขอพูดถึงเรื่องระบบเสียงกันบ้าง ASUS Zenbook 14X OLED Space Edition มาพร้อมไมโครโฟนคุณภาพสูงและ AI Noise-Canceling ที่ช่วยจัดการเสียงรบกวนรอบข้างได้เป็นอย่างดี ในยุคที่หลายคนอาจต้องประชุมออนไลน์ เรียนออนไลน์แล้วไม่ต้องการเสียงรบกวน บนรุ่นนี้มีฟีเจอร์ ClearVoice Mic ที่ช่วยให้เสียงพูดของเราชัดใส ตอบโจทย์การทำงานในยุคนี้อย่างมากเลยครับ

ส่วนเรื่องเสียงจากลำโพง ASUS Zenbook 14X OLED Space Edition ก็ยังให้เสียงที่ยอดเยี่ยมมีลำโพงแบบ Stereo พร้อมจูนเสียงด้วย Harman/Kardon อีกต่างหาก มั่นใจได้เลยว่าเวลาเราดูหนัง หรือฟังเพลงเสียงที่ได้จะกระหึ่มถูกใจแน่นอนครับ

แบตเตอรี่ใช้งานได้ยอดเยี่ยมพร้อมรองรับชาร์จไว 100W

ปิดท้ายด้วยเรื่องแบตเตอรี่ ASUS Zenbook 14X OLED Space Edition ให้แบตเตอรี่มา 63Wh รองรับการใช้งานได้เป็นอย่างดี เวลาพกไปใช้แบบไม่พกที่ชาร์จก็ยังสบายใจว่าสามารถใช้งานได้จนจบงานครับ ส่วนระบบชาร์จรุ่นนี้รองรับมากถึง 100W และด้วยความเป็นพอร์ต USB-C แบบนี้ ถ้ามีที่ชาร์จ PD ที่ความเร็วสูงก็สามารถใช้งานได้ด้วย ทำให้คล่องตัวมากขึ้นไปอีกครับ

ราคาเริ่มต้น 53,900 บาท มีให้เลือก 2 รุ่น

ASUS Zenbook 14X OLED Space Edition มีให้เลือก 2 รุ่นคือ รุ่น Core i7 คู่กับ RAM 16GB และ Core i9 คู่กับ RAM 32GB มีราคาต่างกันดังนี้ครับ

  • รุ่น Core i7-12700H | RAM 16GB | SSD 1TB | ราคา 53,990 บาท
  • รุ่น Core i9-12900H | RAM 32GB | SSD 1TB | ราคา 63,990 บาท

ทั้ง 2 รุ่นเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการเรียบร้อย ที่ร้านค้าที่ร่วมรายการหรือช่องทางออนไลน์ของ ASUS รายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ครับ

สรุปแล้ว “นี่คือโน้ตบุ๊ครุ่นพิเศษที่จัดเต็มทั้งดีไซน์สุดพิถีพิถันและสเปคเหนือระดับ”

สรุปแล้ว ASUS Zenbook 14X OLED Space Edition ก็ถือว่าเป็นรุ่นพิเศษที่ออกมาตอบโจทย์ใครที่ชอบความพิเศษอย่างแท้จริง เพราะนอกจากดีไซน์ที่แตกต่าง แรงบันดาลใจจากสถานีอวกาศโทน Zero-G Titanium สุดเท่ที่เรียกว่าเห็นแล้วต้องยอมในความแปลกใหม่นี้ อีกทั้งแพ็กเกจที่ให้มาในกล่องก็ยังส่งเสริมความเป็น Space Edition ที่เป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปีที่ ASUS ได้ส่งโน้ตบุ๊กตัวแรก P6300 ขึ้นอวกาศสำหรับภารกิจที่สถานีอวกาศเมียร์ MIR อย่างครบเครื่อง รวมไปถึงสเปคภายในที่จัดเต็มมาอย่างเหนือระดับทั้ง หน้าจอ 4K OLED ชิปเซ็ต Intel Core 12th Gen รหัส H มี RAM เริ่มต้น 16GB พร้อม SSD 1TB อีก เรียกว่าโดดเด่นทั้งภายนอกและภายในจริง ๆ ใครที่กำลังมองหาความแตกต่างแบบที่ใช้งานได้จริง เราว่า ASUS Zenbook 14X OLED Space Edition รุ่นนี้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจที่สุด ณ ตอนนี้เลยก็ว่าได้ครับ

Adblock test (Why?)


รีวิว ASUS Zenbook 14X OLED Space Edition ดีไซน์พิเศษแรงบันดาลใจจากสถานีอวกาศ พร้อมสเปคเหนือระดับ Intel Core i7-12700H จอ 4K OLED และน้ำหนักเบาแค่ 1.4 กก. - iphone-droid.net
Read More

รีวิว Death Stranding Director's Cut เล่นบน iPad Pro M2 - iPhoneMod

ในที่สุดสาวก Apple อย่างเราก็ได้เล่นเกม Death Stranding เวอร์ชัน Director’s Cut บนอุปกรณ์ Apple กันแล้ว ใครอยากลองเล่นเข้าไปซื้อเกมใน App S...