แนะนำมือถือเกมมิ่ง Infinix HOT 20S ราคาเริ่มต้น 5,190 บาท หน้าจอใหญ่ขนาด 6.78 นิ้ว รองรับไฮเปอร์วิชั่น 120Hz ความละเอียด Full HD Plus เล่นเกมลื่นไหลกว่าเดิมด้วยชิบเซ็ต Helio G96 มาพร้อม Exclusive Box Set : FREEFIRE Design เช็กรีวิวสเปคหลังใช้งานเครื่องนี้คุ้มหรือไม่?
หลังจากที่เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2565 สำหรับมือถือ Infinix HOT 20S เกมมิ่งโฟนรุ่นท็อปสุดของซีรีส์จนต้องนำมารีวิวหลังใช้งานจริง ที่มาพร้อมกับกล่อง Exclusive Box Set : FREEFIRE เปิดราคาเริ่มต้นที่ 5,190 บาทโดดเด่นด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ 6.78 นิ้ว พร้อมไฮเปอร์วิชั่น 120Hz ความละเอียด Full HD Plus สัมผัสหน้าจอลื่นไหล แถมยังกดเปลี่ยนอัตรารีเฟรชเรทได้อัตโนมัติตามการใช้งาน มีระบบการตอบสนองด้วยมือ Touch Sampling Rate สูงถึง 240Hz ช่วยให้เล่นเกมหรือใช้งานหน้าจอได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้นไปอีก
สำหรับ Infinix HOT 20S ใช้เป็นชิปเซ็ตประมวลผลของ MediaTek Helio G96 และหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) เป็นรุ่น Mali-G57 MC2 มาพร้อมหน่วยความจำภายใน 128GB และหน่วยความจำแรม 8GB รองรับเทคโนโลยีการปรับแต่งความคมชัดของหน้าจอแสดงผล Dark Region Enhancement สำหรับการเล่นในที่แจ้งแดดแรง
นอกจากนี้ในชุด Exclusive Box Set : FREEFIRE ยังมีพัดลมระบายความร้อน Mobile Cooling Turbo มาเสริมความเย็นระหว่างการเล่นเกมหนัก ๆ กันอีกด้วย โดยรวมเรียกได้ว่าเป็นมือถือสายเกมมิ่งในราคาที่เอื้อมถึง และมีประสิทธิภาพการใช้งานรอบด้าน ตัวเครื่องที่วางจำหน่ายในประเทศไทยมีให้เลือก 2 สี คือ SONIC BLACK, LIGHT RIDER WHITE
ภายในเซ็ต Exclusive Box Set : FREEFIRE ประกอบด้วย กล่อง Infinix HOT 20S ลวดลายเกมฟีฟายกับกล่อง Mobile Cooling Turbo พร้อมสายชาร์จ และสายชาร์จมือถือ Type C และสายชาร์จพัดลม
การรีวิวหลังใช้งานมือถือ Infinix HOT 20S จะกล่าวถึงประเด็นหลัก ๆ คือดีไซน์เครื่อง สเปคสำหรับการเล่นเกม กล้องถ่ายรูป และฟีเจอร์การใช้งานอื่น ๆ ทั้งนี้ทีมงานเดอะไทยเกอร์ได้มีการเก็บข้อมูลอุณหภูมิเครื่องในระหว่างการใช้งานปกติ และระหว่างการเล่นเกม และอุณหภูมิเครื่องขณะที่ติดตั้งพัดลมความเย็น ซึ่งมีผลลัพธ์ที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย สามารถเช็กข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่
การเล่นเกมบน Infinix HOT 20S
เรียกว่าเป็นการรีวิวที่เป็นไฮไลท์สำคัญในครั้งนี้ สำหรับมือถือเกมมิ่งโฟนอย่าง Infinix HOT 20S ในครั้งนี้ทีมงานทดลองเล่นเกม FREEFIRE ระยะเวลา 1 ชั่วโมง ตัวเครื่องมีความไหลลื่นปกติแต่ไม่ได้ลื่นจนรู้สึกว่าพิเศษขนาดนั้น ทั้งนี้ได้วัดอนุณหภูมิเครื่องก่อนเล่นเกมอยู่ที่ประมาณ 33-35 องศาเซียลเซียส
ส่วนอุณหภูมิเครื่องระหว่างการเล่นเกม FREEFIRE อยู่ที่ 35-37 องศาเซลเซียส ไม่ได้สัมผัสถึงความร้อนขนาดนั้น ส่วนตัวเกมยังสามารถเล่นได้ตามปกติ
ทั้งนี้สำหรับเกมกราฟิกโหด เช่น genshin impact ก็สามารถเล่นได้ แต่พอผ่านไปสักระยะตัวเกมเกิดอาการกระตุก ดาวน์โหลดเอ็ฟเฟกต์ช้า ส่งผลให้อุณหภูมิเครื่องสูงขึ้นประมาณ 41-45 องศาเซลเซียส เรียกว่าอุณหภูมิเพิ่มขึ้นไม่มากเมื่อเทียบกับสเปคกราฟิกเกม Genshin Impact อาจเป็นเพราะลองเล่นในห้องปรับอากาศด้วย แต่หากลองเปิดเล่นเกมในอุณหภูมิปกติ ก็อาจทำให้เครื่องร้อนมากได้เหมือนกันครับ
ลองเปิดใช้งานพัดลม Mobile Cooling Turbo
เมื่อลองเปิดการใช้งาน Mobile Cooling Turbo ที่แถมมากับ Exclusive Box Set : FREEFIRE ลองเปิดใช้ระหว่างการเล่นเกม FreeFire ปรากฎว่าอุณหภูมิเครื่อง ลดลงอยู่ที่ 33-35 องศาเซลเซียส เที่ยบเท่าการใช้งานแบบปกติ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสเปกของเกมที่นำมาเล่นและระยะเวลาในการเล่นเกมด้วยเช่นกัน เพราะหากเป็นเกมที่มีกราฟิกสูง ๆ อย่าง Genshin Impact ก็อาจทำให้เครื่องร้อนมากกว่านี้ได้เหมือนกันครับ
สิ่งหนึ่งที่รู้สึกขัดใจเมื่อใช้งาน Mobile Cooling Turbo คือค่อนข้างใหญ่เทอะทะ จับไม่ถนัดมือเพราะติดที่ตัวโมดูกล้องหลัง ทำให้ปรับบได้แค่ตรงกลางและส่วนปลาย ถ้าเป็นคนนิ้วมือใหญ่ก็จะรู้สึกติดขัดลำบากทันที
ดีไซน์ของ Infinix HOT 20S
Infinix HOT 20s มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ 6.78 นิ้ว น้ำหนักเบาเพียง 202 กรัม ดีไซน์จอแสดงผลเป็นแบบ Punch-Hole Fluid Gaming Display ด้วยการเจาะรูบนหน้าจอเพื่อเพิ่มพื้นที่หน้าจอได้อย่างเต็มอรรถรส กล้องหลังเป็นโมดูลยื่นออกมาจากฝาหลังคล้ายกับซัมซุง S22 Ultra แต่นูนเพียงเล็กน้อย นอกจากนี้ฝาเครื่องยังใช้วัสดุแบบเงาดีไซน์ด้วยลวดลาย 3 มิติ ทำให้มีความโฉบเฉี่ยวหรูหราเมื่อกระทบกับแสงต่าง ๆ
ขอบด้านล่างมีช่องเสียบหูฟังแบบแจ็ค ขนาด 3.5 มิลลิเมตร และลำโพงคู่ระบบเสียง DTS ซึ่งเหมาะสำหรับสายเกมเมอร์มาก ช่องเสียบสายชาร์จเป็นแบบ USB-Type C ด้านข้างฝั่งซ้ายเป็นถาดใส่ซิมการ์ด และสามารถเพิ่มความจำได้จาก MicroSD Card สูงสุด 13GB อีกด้วย ส่วนขอบฝั่งขวาเป็นปุ่มกดเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่มปลดล็อกสำหรับการสแกนลายนิ้วมือ ที่หลายครั้งนิ้วมักเผลอกดไปโดนสแกนลายนิ้วมือโดยไม่ได้ตั้งใจ
หน้าจอ Infinix HOT 20s
หน้าจอคืออีกหนึ่งจุดเด่นชูโรงของมือถือ Infinix HOT 20s เพราะมีขนาดใหญ่ถึง 6.78 นิ้วแนวยาวประมาณ 1080 x 2460 พิกเซล ทำให้ถือจับถนัดมือเวลาเล่นเกมโดยที่ไม่บดบังหน้าจอแสดงผล อีกทั้งหน้าจอยังเป็นแบบ AMOLED
รองรับไฮเปอร์วิชั่นเกมมิ่ง 120Hz ความละเอียด Full HD Plus สามารถเลือกอัตราเฟรมเรทอัตโนมัติระหว่าง 90Hz และ 120Hz เพื่อการใช้งานที่เหมาะสม
แต่ที่ชอบสุดคือ Touch Sampling Rate สูงถึง 240Hz ช่วยให้การถือจับเล่นเกมรวดเร็วทันใจ แม้จะไม่ได้เร็วมากแต่ก็นับว่าทำได้ในระดับดีทีเดียว
สำหรับ Infinix HOT 20S มีอีกหนึ่งเรื่องน่าสังเกตุคือ ดีไซน์ไอคอนแอปพลิเคชั่นที่ออกแบบให้เป็นสไตล์เกม FREe Fire ให้มีความโฉบเฉี่ยวแตกต่าง แต่ทั้งนี้ด้วยความที่แอดไม่ได้เป็นสายเกมเมอร์จ๋าขนาดนั้น ทำให้มองว่าดูค่อนข้างลำบาก และยากในการค้นหาแอปพลิเคชั่น
ชิปเซ็ตประมวลผล Helio G96
สำหรับมือถือ Infinix HOT 20s ใช้ชิปเซ็ตของ MediaTek – Helio G96 ภายในประกอบด้วย โปรเซ็สเซอร์ 64 บิต Octa-core Arm Cortex – A76 ถึง 2 ตัว มีความถี่สูง 2.05GHz อีกทั้งการใช้ Arm Cortex – A55 ทั้งหมด 6 คอร์ ยังช่วยให้การทำงานของมือถือเร็วยิ่งขึ้น
แบตเตอรี่ของ Infinix HOT 20s มีความจุมาให้ 5000 mAh รองรับชาร์จไว 18 วัตต์ ในความเห็นส่วนตัวของทีมงานมองว่าให้ความจุแบตเตอรี่มาน้อยไปสำหรับมือถือเกมมิ่งที่เป็นรุ่นเรือธงในซีรีย์ตอนนี้ นอกจากนี้ยังมีระบบผสานหน่วยความจำช่วยให้จัดการความจำเครื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในส่วนของคะแนนประสิทธิภาพการทำงานของ Infinix HOT 20S จากแอปพลิเคชั่น Benchmark การทำงานของซีพียูแบบ Single-Core Score ได้คะแนนที่ 498 คะแนน ส่วนแบบ Multi-Core Score ได้คะแนนที่ 1697 คะแนน
เมื่อเทียบกับแบรนด์อื่น ๆ อย่าง Samsung Galazy S21 Ultra 5G ที่ได้คะแนนมากถึง 924 คะแนน สำหรับ Single-Core และ Multi-Core ได้คะแนนที่ 3085 คะแนน เรียกว่าดีมากแล้วสำหรับมือถือเกมมิ่งงบเริ่มต้น 5 พันบาทครับ
กล้องถ่ายรูปและวิดีโอ
Infinix HOT 20s ประกอบด้วยกล้องหลัง 3 ตัว คือ กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมกล้อง Depth Sensor ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และกล้องถ่ายระยะมาโครความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ร่วมกับโหมดถ่ายภาพกลางคืน Super Night Mode ส่วนกล้องหน้า 1 ตัว ความละเอียดสูงสุด 8 ล้านพิกเซล
รองรับโหมดการถ่ายภาพนิ่งโหมด AI Cam, การถ่ายภาพบุคคล, การถ่ายภาพตอนกลางคืน, โหมดบิ้วตี้, โหมด HDR ส่วนการถ่ายวิดีโอมีให้เลือกระดับความชัดตั้งแต่ 720p 1080p และ 2K และโหมดการถ่ายวิดีโอขนาดสั้นคล้ายกับการถ่ายคลิปลงบนอินสตาแกรม
เรียกว่าเป็นความชัดระดับมาตรฐานสำหรับมือถือ Infinix HOT 20s ที่ออกแบบเพื่อเน้นการเล่นเกมเป็นหลัก
สรุปการรีวิว Infinix HOT 20s
แม้ว่ามือถือ Infinix HOT 20s จะถูกยกให้เป็นรุ่นเรือธงมือถือสายเกมมิ่งในซีรีย์นี้ แต่ก็ไม่ได้มีความโดดเด่นอะไรมากมาย เพราะขนาดแรมที่ให้มา 8GB แบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh และอัตราเฟรมเรทหน้าจอ 120Hz เป็นสเปคมาตรฐานของสมาร์ทโฟนเล่นเกมในงบเริ่มต้นที่ 5,000 บาท
แต่ด้วยดีไซน์ตัวเครื่อง Infinix HOT 20s ทีออกแบบมาอย่งหรูหรามีระดับ ช่วยทำให้ตัวเครื่องดูแพงเกิน 5 พันบาทไปมาก ส่วนพัดลมที่ให้มาในชุด Exclusive Box Set ยังไม่ค่อยตอบโจทย์การเล่นเกมเท่าที่ควร เพราะด้วยขนาดที่ใหญ่เทอะทะ ลำบางเวลาถือจับ ทำให้เมื่อเล่นเกมไปสักระยะก็จะทำให้รู้สึกรำคาญได้เหมือนกัน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหามือถือเล่นเกมกลาง ๆ ในงบเริ่มต้นที่ 5,000 บาท แถมได้กล้องหลังสวยชัด ตัวเครื่องดีไซน์หรูหรามีระดับ ก็แนะนำว่าให้จัด Infinix HOT 20s กันได้เลย
ทางด้านการใช้งานกล้องถ่ายรูปและวิดีโอเหมาะสำหรับใช้งานทั่วไป สามารถถ่าย Vlog เป็นคลิปสั้น ๆ ได้ ส่วนการถ่ายภาพนิ่งก็ทำได้ด้วยดี การถ่ายกลางคืนไม่ได้ชัดมาแต่ก็ทำให้เห็นถึงความแตกต่างได้เหมือนกันครับ
สำหรับการวางจำหน่าย Infinix HOT 20s ขนาด 128GB+8GB จะมีราคาพิเศษอยู่ที่ 5,190 บาท และราคาปกติ 5,899 บาทครับ สามารถสั่งซื้อได้ผ่าน Shopee , Lazada และตัวแทนจำหน่าย Infinix ที่ร่วมรายการทุกสาขา.
ข้อมูลสเปกเบื้องต้น
- จอ IPS HyperVision ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รีเฟรชเรท 120Hz
- CPU : Helio G96
- RAM : 8GB โหมด Extended RAM เพิ่มแรมได้สูงสุดเป็น 13GB
ความจุ : 128GB - กล้องหลัง 3 ตัว
- กล้องหลัก 50MP
- กล้อง Depth 2MP
- กล้อง Macro 2MP
- กล้องหน้า : 8MP
- การเชื่อมต่อ : 3G/2G/4G , Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac 2.05GHz&2.0GHz, BT
- ระบบเสียง : ลำโพงคู่, DTS, มีรูหูฟัง 3.5 มม.
- แบตเตอรี่ 5,000 mAh รองรับการชาร์จไว 18w
- ระบบปฎิบัติการ Android 12
- ขนาด / น้ำหนัก : 168.65 x 76.75 x 8.47 มม. / 202 กรัม
ตัวอย่างภาพจากกล้อง Infinix HOT 20S
ข้อมูล : 1
รีวิว Infinix HOT 20S มือถือเกมมิ่ง หน้าจอรีเฟรช 120Hz ราคาเริ่มต้น 5,190 บาท - Thaiger ข่าวประเทศไทย
Read More
No comments:
Post a Comment